'ทรู' เร่งเกมชิงแชร์มือถือ ดัน EPL ดึงคอบอลย้ายค่าย
ประชาชาติธุรกิจ ฉบับวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2559
ยอมรับเต็มปากเต็มคำว่า "แพงมาก" สำหรับลิขสิทธิ์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ (EPL) ฤดูกาลล่าสุดที่กลุ่มทรูซื้อมาจาก "บีอิน สปอร์ตส์" 3 ปี ฤดูกาล 2016/2017/2018/2019 ทั้ง 380 แมตช์ แต่ตั้งใจซื้อมาเพื่อให้ลูกค้าทั้ง 29 ล้านคนที่ใช้บริการของกลุ่มทรู รวมถึงคอฟุตบอลทั้งหลายได้มีโอกาสรับชมฟุตบอลพรีเมียร์ลีกในประเทศไทย ในราคา "ไม่แพง" ย้ำว่า "ไม่แพง" โดยจัดแพ็กเกจ "ทรู ซูเปอร์ ซอคเกอร์" ให้ดูทางมือถือผ่านแอปพลิเคชั่น True ID จ่ายแค่ 29 บาท/เดือน หรือถ้าอยู่บ้านอยากดูเต็มตาผ่านจอทีวีก็ได้ผ่านกล่องทรูวิชั่นส์ จ่ายเพิ่ม 199 บาท/เดือน (ถ้ายังไม่มีกล่องเปิดเบอร์พร้อมซื้อแพ็กเกจ 390 บาท ได้กล่องทรูดิจิทัลเอชดี ไปดูฟรี)
งานนี้จัดเต็มเพื่อปั๊มฐานลูกค้า "ทรูมูฟ เอช" โดยเฉพาะ เพื่อเร่งขยับฐานลูกค้าไล่บี้มือวางอันดับสอง "ดีแทค" เต็มพิกัด ไม่ว่าจะดูผ่านมือถือหรือหน้าจอทีวี ถ้าอยากได้กล่องดิจิทัลเอชดีฟรีต้องเปิดเบอร์ใหม่ ทรูมูฟ เอช รอรับยอดเพิ่มได้เลย แต่สำหรับลูกค้าทรูวิชั่นส์คงไม่ปลื้ม เพราะต้องจ่ายเพิ่มอีกเดือนละ 299 บาท มีแค่กลุ่มแพลทินัมเท่านั้นที่ได้ดูฟรีแต่ถึงแค่ 30 มิ.ย. 2560
นอกจากพรีเมียร์ลีก 380 แมตช์ แล้ว แพ็กเกจนี้ยังรวมถึงลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดกีฬาฟุตบอล 6 ลีก และ 5 ถ้วย กว่า 1,500 แมตช์ ทั้งลา ลีกา สเปน, กัลโช่ เซเรีย อา, ลีกเอิง, เมเจอร์ลีกซอคเกอร์ และลีกไทยอย่างโตโยต้าไทยลีก รวมถึงยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นต้น
"สุภกิจ วรรธนะดิษฐ์" รองหัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่ม ด้านการพาณิชย์ บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น ย้ำว่า มากกว่าการสรรหา คอนเทนต์ที่เป็นที่ชื่นชอบของคนไทยโดยเฉพาะกีฬาฟุตบอลที่ได้รับความนิยมมาให้บริการในราคาที่เข้าถึงง่ายในทุกแพลตฟอร์มทั้งมือถือ, เพย์ทีวี และอินเทอร์เน็ตแล้วยังเป็นการตอกย้ำความสามารถของโครงข่ายทั้งในแง่ความเร็วและความครอบคลุมโดยเฉพาะ 4G ของทรูมูฟ เอช หากเครือข่ายไม่ดีจริงจะมีผลกับการรับชม
"พรีเมียร์ลีกในอดีตมีแค่คนบางกลุ่มที่ได้ดู เรื่องโครงข่ายก็มีส่วน แนวความคิดของเราคือต้องการทำราคาให้เข้าถึงง่ายให้ทุกคนดูได้ เป็นไลฟ์สไตล์คอนเวอร์เจนซ์ อย่างแท้จริง จะอยู่บ้านหรือออกนอกบ้านดู ได้หมด เป้ายอดขายไม่ได้ตั้งไว้ชัดเจน เป็นการฉลองโครงข่าย 4G พลัสที่ครอบคลุมทั่วประเทศ ส่วนทรูวิชั่นส์ก็เป็นการเติมเต็ม ในสิ่งที่คนต้องการ ฟุตบอลเป็นกีฬาที่คนไทย 30% ของประชากรในประเทศชื่นชอบ ใน 30% มีโอกาสเป็นลูกค้าเราได้"
"พีรธน เกษมศรี ณ อยุธยา" หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านคอนเทนต์และมีเดีย บริษัทเดียวกันเสริมว่า การจัดแพ็กเกจที่ราคาไม่แพงก็เพื่อให้ลูกค้าทรูทั้ง 29 ล้านราย (รวมทุกบริการ) มีโอกาสเข้าถึงคอนเทนต์กีฬาระดับโลกได้ง่ายขึ้นในทุกแพลตฟอร์ม ซึ่งมีแต่กลุ่มทรูที่ทำได้ จากการมีบริการครอบคลุมทุกช่องทาง ทำให้ลูกค้าสะดวก ต่อเนื่อง และประหยัดกว่า
"เวลาคนพูดถึงลิขสิทธิ์พรีเมียร์ลีกอังกฤษ ทุกคนจะรู้ว่ามีแต่จะแพงขึ้น ค่าลิขสิทธิ์ไม่เคยลงมีแต่เพิ่ม รอบที่แล้วก็ดับเบิลกว่าครั้งก่อนหน้า หนนี้ก็เช่นกันแต่บวกลีกอื่น ๆ ด้วย ถือเป็นการซื้อลีกกีฬาที่มากที่สุดในประวัติศาสตร์ของเรา ด้วยราคาที่เข้าถึงง่ายเชื่อว่าแฟนบอลในไทยจะย้ายมาใช้ทรูมูฟ เอช"
เป็นการตอกย้ำจุดขายจุดแข็งเรื่อง คอนเวอร์เจนซ์อีกครั้งของกลุ่มทรูที่ต้องบอกว่า ใจถึงจริง โดยเฉพาะกับลูกค้าทรูมูฟ เอช
แหล่งข่าว
หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ ฉบับวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2559 (หน้า 28)
'ทรู' เร่งเกมชิงแชร์มือถือ ดัน EPL ดึงคอบอลย้ายค่าย
'ทรู' เร่งเกมชิงแชร์มือถือ ดัน EPL ดึงคอบอลย้ายค่าย
ประชาชาติธุรกิจ ฉบับวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2559
ยอมรับเต็มปากเต็มคำว่า "แพงมาก" สำหรับลิขสิทธิ์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ (EPL) ฤดูกาลล่าสุดที่กลุ่มทรูซื้อมาจาก "บีอิน สปอร์ตส์" 3 ปี ฤดูกาล 2016/2017/2018/2019 ทั้ง 380 แมตช์ แต่ตั้งใจซื้อมาเพื่อให้ลูกค้าทั้ง 29 ล้านคนที่ใช้บริการของกลุ่มทรู รวมถึงคอฟุตบอลทั้งหลายได้มีโอกาสรับชมฟุตบอลพรีเมียร์ลีกในประเทศไทย ในราคา "ไม่แพง" ย้ำว่า "ไม่แพง" โดยจัดแพ็กเกจ "ทรู ซูเปอร์ ซอคเกอร์" ให้ดูทางมือถือผ่านแอปพลิเคชั่น True ID จ่ายแค่ 29 บาท/เดือน หรือถ้าอยู่บ้านอยากดูเต็มตาผ่านจอทีวีก็ได้ผ่านกล่องทรูวิชั่นส์ จ่ายเพิ่ม 199 บาท/เดือน (ถ้ายังไม่มีกล่องเปิดเบอร์พร้อมซื้อแพ็กเกจ 390 บาท ได้กล่องทรูดิจิทัลเอชดี ไปดูฟรี)
งานนี้จัดเต็มเพื่อปั๊มฐานลูกค้า "ทรูมูฟ เอช" โดยเฉพาะ เพื่อเร่งขยับฐานลูกค้าไล่บี้มือวางอันดับสอง "ดีแทค" เต็มพิกัด ไม่ว่าจะดูผ่านมือถือหรือหน้าจอทีวี ถ้าอยากได้กล่องดิจิทัลเอชดีฟรีต้องเปิดเบอร์ใหม่ ทรูมูฟ เอช รอรับยอดเพิ่มได้เลย แต่สำหรับลูกค้าทรูวิชั่นส์คงไม่ปลื้ม เพราะต้องจ่ายเพิ่มอีกเดือนละ 299 บาท มีแค่กลุ่มแพลทินัมเท่านั้นที่ได้ดูฟรีแต่ถึงแค่ 30 มิ.ย. 2560
นอกจากพรีเมียร์ลีก 380 แมตช์ แล้ว แพ็กเกจนี้ยังรวมถึงลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดกีฬาฟุตบอล 6 ลีก และ 5 ถ้วย กว่า 1,500 แมตช์ ทั้งลา ลีกา สเปน, กัลโช่ เซเรีย อา, ลีกเอิง, เมเจอร์ลีกซอคเกอร์ และลีกไทยอย่างโตโยต้าไทยลีก รวมถึงยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นต้น
"สุภกิจ วรรธนะดิษฐ์" รองหัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่ม ด้านการพาณิชย์ บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น ย้ำว่า มากกว่าการสรรหา คอนเทนต์ที่เป็นที่ชื่นชอบของคนไทยโดยเฉพาะกีฬาฟุตบอลที่ได้รับความนิยมมาให้บริการในราคาที่เข้าถึงง่ายในทุกแพลตฟอร์มทั้งมือถือ, เพย์ทีวี และอินเทอร์เน็ตแล้วยังเป็นการตอกย้ำความสามารถของโครงข่ายทั้งในแง่ความเร็วและความครอบคลุมโดยเฉพาะ 4G ของทรูมูฟ เอช หากเครือข่ายไม่ดีจริงจะมีผลกับการรับชม
"พรีเมียร์ลีกในอดีตมีแค่คนบางกลุ่มที่ได้ดู เรื่องโครงข่ายก็มีส่วน แนวความคิดของเราคือต้องการทำราคาให้เข้าถึงง่ายให้ทุกคนดูได้ เป็นไลฟ์สไตล์คอนเวอร์เจนซ์ อย่างแท้จริง จะอยู่บ้านหรือออกนอกบ้านดู ได้หมด เป้ายอดขายไม่ได้ตั้งไว้ชัดเจน เป็นการฉลองโครงข่าย 4G พลัสที่ครอบคลุมทั่วประเทศ ส่วนทรูวิชั่นส์ก็เป็นการเติมเต็ม ในสิ่งที่คนต้องการ ฟุตบอลเป็นกีฬาที่คนไทย 30% ของประชากรในประเทศชื่นชอบ ใน 30% มีโอกาสเป็นลูกค้าเราได้"
"พีรธน เกษมศรี ณ อยุธยา" หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านคอนเทนต์และมีเดีย บริษัทเดียวกันเสริมว่า การจัดแพ็กเกจที่ราคาไม่แพงก็เพื่อให้ลูกค้าทรูทั้ง 29 ล้านราย (รวมทุกบริการ) มีโอกาสเข้าถึงคอนเทนต์กีฬาระดับโลกได้ง่ายขึ้นในทุกแพลตฟอร์ม ซึ่งมีแต่กลุ่มทรูที่ทำได้ จากการมีบริการครอบคลุมทุกช่องทาง ทำให้ลูกค้าสะดวก ต่อเนื่อง และประหยัดกว่า
"เวลาคนพูดถึงลิขสิทธิ์พรีเมียร์ลีกอังกฤษ ทุกคนจะรู้ว่ามีแต่จะแพงขึ้น ค่าลิขสิทธิ์ไม่เคยลงมีแต่เพิ่ม รอบที่แล้วก็ดับเบิลกว่าครั้งก่อนหน้า หนนี้ก็เช่นกันแต่บวกลีกอื่น ๆ ด้วย ถือเป็นการซื้อลีกกีฬาที่มากที่สุดในประวัติศาสตร์ของเรา ด้วยราคาที่เข้าถึงง่ายเชื่อว่าแฟนบอลในไทยจะย้ายมาใช้ทรูมูฟ เอช"
เป็นการตอกย้ำจุดขายจุดแข็งเรื่อง คอนเวอร์เจนซ์อีกครั้งของกลุ่มทรูที่ต้องบอกว่า ใจถึงจริง โดยเฉพาะกับลูกค้าทรูมูฟ เอช
แหล่งข่าว
หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ ฉบับวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2559 (หน้า 28)