เสียดายเพชรพระอุมาฉบับดั้งเดิมที่ถูกแก้ไข

กระทู้สนทนา
ราวๆซัก10ขวบผมได้อ่านเพชรพระอุมาครั้งแรกตอนที่ยังลงในนิตยสารจักรวาลปืน แต่อ่านได้นิดหน่อยไม่จบ
ซากศพพันปีเดินได้เหมือนวิญญาณหลอน ค้างคาวยักษ์คอยสูบเลือด เสียงกองกอยและสารพัดสิ่งลึกลับ
ภาพฉากการยิงช้างไดโนเทเรี่ยม แรงปะทะขนาด5000ฟุตปอนด์ทำช้างตัวเท่าบ้านเอาเซปัดเป๋ไป ยังฝังอยู่ในความทรงจำ

พอโตมาซักสิบหกสิบเจ็ดได้อ่านฉบับพิมพ์ครั้งแรกของ ณ.บ้านวรรณกรรม ตอนอ่านครั้งนี้ผมอ่านในป่า
ก็ไม่ใช่ป่าลึกอะไรอาศัยอยู่กับพวกป่าไม้เอา
ได้บรรยากาศสุดๆ เด็กหนุ่มอายุ16-17ไม่เคยเข้าป่า อ่านเพชรพระอุมาในป่า กลางคืนจุดเทียนไม่ก็ตะเกียงอ่านด้วยครับ
เสียงนํ้าค้างพรั่งพรูเกรียวกราวตกใส่ใบไม้ที่สุมหนาหลายนิ้วราวกับเสียงเยียบยํ่าของคนเดินวนรอบบ้าน
ความเงียบชนิดที่ว่าได้ยินเสียงหายใจตัวเอง เสียงฟืดฟาดหายใจแรงๆของเม่นที่ได้ยินครั้งแรกกลางดึกทำเอาตกใจนึกว่าหมี
ช่วงอ่านถึงหมู่บ้านที่เกิดโรคระบาด ได้ยินเสียงประหลาดในป่า ร้องเป๊กตรงนี้ แล้วก็ไปร้องเป๊กตรงโน้น โอ๊ยตายๆผีมันหาแล้วแน่ๆ
หายตัวไปร้องตรงโน้นทีตรงนั้นที
บรรดาสรรพความหลอนที่รุมประดังเข้ามาชนิดเหงื่อเย็นเยียบไหลซึมจากกลางหลังเป็นยังไงก็รู้เอาตอนนี้ล่ะครับ
คลุมโปงเหงื่อท่วมตัว พยายามใช้สติวิเคราะห์สุดๆ มันคือตัวอะไร
ทำไมมันไวขนาดมาร้องใกล้ๆแล้วก็ไปร้องไกลๆได้ในระยะเวลาเเค่ไม่กี่วินาที
ตอนแรกตกใจคิดว่าผีแน่ๆ พอตั้งสติได้เลยสรุปเอาเองว่ามันคือนกชนิดหนึ่ง พอเช้าไปเล่าให้ป่าไม้ฟังเขาขำกันใหญ่...
โอ๊ยยยยย นั่นมันคือเสียงเก้งร้อง ผมนี่สตั๊นไปเลย แล้วก็ขำกันทั้งหมด คือเก้งมันมีหลายตัว มันยืนห่างกันร้องเรียกกันไปมา
ส่วนเราคนได้ยินหลอนไปเองนึกว่าผีลอยไปมาร้องตรงนั้นทีตรงนี้ที 5555+ นี่ล่ะครับเข้าป่าครั้งแรก+อ่านเพชรพระอุมา

หนังสือที่อ่านจบครั้งแรกเก็บเงิน+หุ้นกันกับรุ่นพี่ซื้อมาอ่านจนจบทั้ง2ภาค สมัย20ปีที่แล้วเงินหมื่นกว่าบาทถือว่าเยอะพอสมควร
แล้วก็เอาหนังสือไปฝากไว้กับรุ่นพี่คนนั้น แล้วผมก็ออกเที่ยวป่าอีกครั้ง พอกลับมาปรากฏว่าหนังสือหายไปหมดแล้ว เขาบอกคนยืมไปหลายเจ้าไม่รู้ใครเป็นใคร สรุปเลยได้ทิ้งไปเลย

ร่ายยาวมาตั้งนานยังไม่ได้พูดถึงเรื่องกระทู้เลยว่าเสียดายอะไรตรงไหน จากการอ่านครั้งแรกตอนเด็กไม่จบและได้อ่านจบครั้งที่สอง
แล้วมาอ่านครั้งที่สามฉบับพิมพ์ใหม่ครั้งที่สี่ที่ห้าตามมา ปรากฏว่ามีการแก้ไขหลายจุดมาก
ตามความเห็นของผมคิดว่าบางจุดแก้แล้วดี แต่บางจุดแก้แล้วเสียอรรถรสความคลาสสิคไป เช่น ระยะวัด
ฉบับเดิมที่ผมได้อ่านตอนอยู่ในป่า มีระยะวัดเป็น หลา เส้น ฉบับแก้ใหม่กลายเป็นเมตร ความคลาสสิคหายไปจุดหนึ่งแล้ว
ผมอ่านตอนแรกก็ไม่รู้ว่า1หลา1เส้นเท่ากับเท่าไร จิตนาการล้วนๆเลยว่าเป็นระยะเท่าไร พอได้ไปถามคนเฒ่าคนแก่ถึงรู้ว่า 1หลา1เส้นเป็นระยะเท่าไร
สมัยนั้นอินเตอร์เน็ทไม่มี หนังสือเอาไว้อ่านหาความรู้อยู่ห้องสมุดประชาชนหรือตามสถานศึกษา 1หลา1เส้นจิตนาการล้วนๆเลยครับว่าระยะเท่าไร
หลา เส้น หรือช่วงไก่ขัน เป็นระยะวัดของคนสมัยนั้น อ่านแล้วทำให้รู้สึกเหมือนเดินย้อนเวลาไปยังจุดนั้นจริงๆ อันนี้คือ1จุดที่ผมเสียดายตามหัวกระทู้

อีกหนึ่งจุด ขอออกตัวก่อนว่าผมไม่ใช่คนชอบความรุนแรงป่าเถื่อนซาดิส์อะไรเลย แต่ฉากที่ไชยันต์ข่มขืนมาเรีย มันขาดหายไปในฉบับปรับปรุงครับ
แม้จะผ่านไปนานไม่ได้อ่านถึงเกือบ20ปี และถึงแม้ผมจะจำทุกตัวอักษรไม่ได้แต่ผมยังจำฉากนั้นได้

กำปั้นผู้ชายตัวโตๆอัดเข้าไปที่ท้องน้อย สันมือแข็งๆสับไปที่ต้นขา มือแข็งราวคีมเหล็กขยุ้มจิกต้นแขน
ฝ่ามือผู้ชายตบเข้าไปจนหน้าหัน ร่างกายมาเรียแทบจะปริแตกเป็นชิ้นๆ

ในฉบับปรับปรุงฉากนี้หายไปแล้ว โผล่มาอีกที รพินทร์กับแงซายเข้ามาห้ามแล้ว ผมเลยคิดเอ้าหายไปไหน สำนักพิมพ์พิมพ์ตกหรือหน้าขาดไปแล้วแน่ๆ
พอมาหาข้อมูลในเน็ทถึงรู้ว่ามีการแก้ ตอนไชยันต์ฟิวส์ขาดเลยหายไปฉากหนึ่งละ ซึ่งจริงๆแล้วฉากนี้บรรยายด้านมืดของคนได้ดีมากครับ
คนถ้าหน้ามืดแล้วเป็นอะไรก็ได้ที่คนทั่วๆไปแทบจะจินตนาการไม่ออกว่าป่าเถื่อนแค่ไหน นี่คืออีก1จุดที่ผมเสียดาย

ยังมีอีกหลายจุดที่ผมเสียดายครับ แต่บางจุดแก้แล้วดีก็มีครับตามที่ได้กล่าวไว้แล้ว
และถ้ามีโอกาสผมจะพยายามหาฉบับที่ยังไม่แก้มาอ่านอีก
คืออยากอ่านทั้ง2ฉบับพร้อมกัน แล้วปล่อยให้สมองเรียบเรียงออกมาเป็นจินตนาการเอาเอง

นี่คือความในใจที่ผมเสียดายมาหลายปีแต่เพิ่งมานึกได้ตะกี้เลยมาตั้งกระทู้

ด้วยจิตคารวะผู้แต่งครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่