รบกวนสอบถามครับ
ผมเปิดบริษัทได้ประมาณ 5 ปีครับ
ยอดขายปีแรกๆก็หลักแสนต่อเดือน เพิ่งจะมาแตะหลักล้านต่อเดือนก็ในช่วงปีนี้
(แต่ยอดขายแกว่งอยู่ครับ ยังไม่นิ่งเท่าไหร่ เกิดจากรอบการผลิตและส่งงานด้วยทำให้เดือนที่ส่งงานได้น้อยยอดจะน้อยครับ)
ทั้งบริษัทมีกรรมการทำงานกัน 3 คน (ทำจริงๆ 2 คนครับ) ไม่มีพนักงานครับ
ดำเนินกิจการเกี่ยวกับการออกแบบและผลิตสินค้าชนิดหนึ่ง
การผลิตทั้งหมดใช้การจ้าง supplier ทำ 100% ครับ
ยกเว้นในส่วนงานออกแบบที่จะทำเองภายในบริษัท

ลูกค้าผมเป็นบริษัทในไทยและต่างชาติที่เป็นที่รู้จักทั่วไป และหน่วยงานราชการบางแห่ง (เป็นบริษัทใหญ่ครับ แต่ละแห่งยอดขายหลักร้อยล้านขึ้นไป บางรายก็เป็นพันล้าน)

ธุรกิจที่ทำอยู่มีคู่แข่งเยอะครับ ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ผลิตโดยตรง ไม่ได้จ้าง supplier ผลิตให้แบบที่ผมทำ
แต่บริษัทก็มีจุดแข็งที่ทำให้แข่งขันในตลาดได้ครับ
(จุดนี้ผมไม่ห่วงเรื่องการแข่งขันเพราะผมได้ลูกค้าใหม่เพิ่มตลอด ลูกค้าเก่าก็ออเดอร์ไม่ลดครับบางเจ้าทำกันเป็นสิบปีก่อนผมจะตั้งบริษัท)


ปัญหาที่เจอคือ supplier รับงานได้จำกัดครับ เนื่องจากทาง supplier เองก็มีงานของตัวเองและรับงานคนอื่นด้วย
(ใช้ supplier อยู่ 3 เจ้าครับ ที่รู้จักเป็นเพื่อนกันมานาน)
และการวางแผนการผลิตทำได้ยากครับเพราะเป็นการจ้างผลิตทำให้บางครั้งงานล่าช้า

ตอนนี้ก็มีความคิดที่จะลงทุนเครื่องจักรสร้างโรงงานเพื่อจะผลิตสินค้าด้วยตัวเอง
ลองศึกษาข้อมูลมาพักใหญ่ก็ติดขัดตรงหลักทรัพย์ค้ำประกัน (ตอนนี้หลักทรัพย์ต่างๆ ก็ผ่อนอยู่ทุกอย่างครับ อีกนานกว่าจะหมด)
ดังนั้นเรื่องกู้เงินเลยตัดอออกไปได้ ก็เลยมองทางเลือกเป็นพวกกองทุนที่ร่วมลงทุนในกิจการ SME ครับ
หรือพวก VC ต่างๆ ไม่ทราบว่าพอจะมีรายละเอียดมั้ยครับว่า sme ที่เข้าข่ายต้องมีคุณสมบัติยังไง มียอดขายยังไง
ตอนนี้ศึกษามานิดหน่อยก็ยังไม่มั่นใจตัวเองเท่าไหร่ครับ แต่เรื่องการทำบัญชี หลักฐานรายได้มีครบถ้วนถูกต้องตั้งแต่เปิดบริษัทครับ

แต่บริษัทผมนี่ มีแค่กรรมการทำงาน ส่วนฝ่ายผลิตก็จ้างเค้า บัญชีก็จ้างสำนักงานบัญชี
ไม่มีพนักงาน ไม่มีฝ่ายผลิต ไม่มีอะไรเลย แต่ขายของได้ แถมคู่ค้าก็บริษัทระดับประเทศทั้งนั้น
จะมีกองทุนหรือนักลงทุนที่ไหนสนใจบริษัทแบบนี้มั้ยครับ เท่าที่ผ่านตามาก็จะเป็นแบบ sme ที่มีการผลิตเองอยู่แล้ว
ได้รับทุนเพิ่มเพื่อขยายการผลิตอะไรแบบนี้น่ะครับ

อย่างของธนาคารออมสินก็มีกองทุนร่วมลงทุนในกิจการ SMEs เพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม
ผมอ่านเงื่อนไขดูเค้าจะลงทุนแค่ไม่เกิน 49% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว ซึ่งก็ไม่เยอะเลยครับ
จริงๆ แล้วตัวสินค้าก็ไม่ได้มีนวัตกรรมอะไรเลยครับ เป็นสินค้าธรรมดา (แต่เครื่องจักรที่ใช้ผลิตราคาสูงมาก ของใหม่ว่ากันที่หลายสิบล้านครับ ตรงนี้ก็ทำให้ไม่ค่อยมีคู่แข่งขันใหม่ๆ เข้ามา ส่วนคู่แข่งเดิมที่ปรับตัวไม่ได้ปิดไปก็เยอะครับ แต่มันก็ทำให้คู่แข่งที่เป็นเจ้าใหญ่และทุนเยอะแข็งแกร่งขึ้นด้วย)
แต่ของผมมีข้อได้เปรียบเรื่องคุณภาพกับความรวดเร็ว และก็ connection กับบริษัทใหญ่ๆ ที่มีมานานเท่านั้นเอง ซึ่งมันก็อาจจะไม่ดึงดูดนักลงทุนเท่าไหร่ครับ

ใจจริงก็อยากใช้ทุนตัวเองทั้งหมดครับแต่ในปัจจุบันมันคงเป็นไปได้ยากจริงๆ บางทีมองเห็นออเดอร์เยอะมากมายอยู่ตรงหน้า
แต่รับงานไม่ได้ก็บ่อยครับ (ตอนนี้รับได้ไม่ถึง 10% ของออเดอร์ที่ลูกค้าจะให้เลยครับ) ถ้ารับมาแล้วทำไม่ทันก็จะไม่รับเลยดีกว่าให้ลูกค้ามาด่าเอาทีหลัง
ทุกวันนี้ธุรกิจก็ไปได้เรื่อยๆ ครับ แต่ผมอยากเห็นอัตราการเติบโตมันมากกว่านี้ก็เลยอยากขยับขยายครับ