ทำไมคนที่ประสบอุบัติเหตุ ต้องมีสติ ห้ามหลับ (อยากรู้ความเห็นทางการแพทย์)

ทำไมคนที่ประสบอุบัติเหตุ ต้องมีสติ ห้ามหลับครับ เห็นบ่อยๆ ตามหนัง

เช่น รถชนหรือโดนยิงหลับแล้วจะตายเลย คือจะถือว่าเป็นการพักผ่อนจากบาดแผลไม่ได้หรอ ถ้าหลับเนี่ย

คือถ้าหลับระบบภายในร่างกายจะไม่ทำงานหรอ หรือว่ายังไง
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
ยิ่งหลับลึก(โคม่า) แสดงว่าสมองอยู่ในสภาพแย่มาก(บาดเจ็บ, ขาดเลือดไปเลี้ยง)

แพทย์ประเมินการอาการโคม่า โดยใช้ การเรียกให้ตื่น ลืมตามาพูดคุยกัน ให้ขยับแขนขาตามคำบอก นี้แหละครับ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 8
เพิ่มเติมจากความเห็นที่ 1 ครับ การปลุกให้ตื่นนั้นจริงๆแล้วเป็นการประเมินระดับความรู้สึกตัว โดยดูการตอบสนองของผู้ป่วย เช่น จากการเรียกชื่อ การพูด คุย การสัมผัส เป็นต้น
ระดับการรู้สึกตัว แบ่งเป็นระดับต่างๆตามความรุนแรงจากน้อยไปหามากได้ดังนี้
ตื่นรู้ตัวปกติ (Alert)
ง่วงซึมเล็กน้อย (Drowsiness)
ซึมลึกต้องปลุกแรงๆ (Stuporous) และ
ไม่รู้ตัว (Coma)
          ความบกพร่องหรือการเปลี่ยนแปลงของระดับความรู้สึกตัว เป็นอาการที่บ่งบอกถึงความผิดปกติของระบบประสาทในผู้ป่วยบาดเจ็บที่ศีรษะ ซึ่งอาจจะเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ หากไม่สามารถตรวจพบและให้การช่วยเหลือได้ทัน ดังนั้น การสังเกตและบันทึกระดับความรู้สึกตัวเพื่อตรวจค้นความผิดปกติ และให้การรักษาพยาบาลที่ถูกต้องรวดเร็วจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ ปัจจุบันแบบวัดระดับความรู้สึกตัวใช้ คือ กลาสโกว์ โคม่า สเกล (Glasgow Coma scale)
กลาสโกว์ โคม่า สเกล (Glasgow Coma scale) การบันทึกแบ่งออกเป็น 3 ข้อ ย่อยคือ
การลืมตา (eye opening)
การสื่อภาษาที่ดีที่สุด (best verbal response)
การเคลื่อนไหวที่ดีที่สุด (best motor response)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ซึ่งสามารถจำแนกระดับความรุนแรงของการบาดเจ็บ (severity of head injury) ออกเป็น 3 ระดับ คือ
-  การบาดเจ็บที่ศีรษะระดับเล็กน้อย (Mild or minor head injury) มีค่าคะแนนตั้งแต่ 13-15 คะแนน
- การบาดเจ็บที่ศีรษะระดับปานกลาง (Moderate head injury) มีค่าคะแนนตั้งแต่ 9-12คะแนน
- การบาดเจ็บที่ศีรษะระดับรุนแรง (Severe head injury) มีค่าคะแนนตั้งแต่ 8 คะแนน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่