ปทุมธานี - สาว17 ขับรถกลับบ้าน หลังจากช่วยแม่ขายพวงมาลัย ประสบอุบัติเหตุถูกพ่วง ทับดับสยอง
เมื่อวันที่ 29 ก.ค. 59 เวลา 18.50น. ร.ต.อ.ประธาน วักชัยภูมิ รองสารวัตรสอบสวน สภ.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี รับแจ้งมีเหตุรถพ่วงทับรถจยย. ส่งผลทำให้มีผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดบริเวณ ถ.พหลโยธินขาเข้า หน้ากรมทหารต่อสู้อากาศยาน รักษาพระองค์ หมู่ 8 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี หลังรับแจ้งจึงรีบรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย แพทย์เวร รพ.ภูมิพลอดุลยเดช และ อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ พบ รถบรรทุกพ่วง 22 ล้อ ยี่ห้อฮีโน่ หมายเลขทะเบียน 62-0370 กทม.ตัวพ่วง 62-0369กทม. ซึ่งบรรทุกทรายมาเต็มคัน ได้ทับรถ จยย.ยี่ห้อ ยามาฮ่า รุ่นมีโม สีม่วงดำ หมายเลขทะเบียน อทว-384กทม. ใกล้กันพบผู้เสียชีวิตเป็นหญิง ยังอยู่ในชุดนักเรียน สภาพศพถูกทับศรีษะแตก มันสมองกระจายเต็มพื้นถนนทราบชื่อต่อมาว่า น.ส.วัชรีพร คงสมเพชร อายุ 18 ปี โรงเรียนมัธยมสังคีตวิทยา กทม.ชั้น ม.6 ใกล้กันพบผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยทราบชื่อ น.ส.ชนิดา คุ้มปริยัติ อายุ 17 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนผู้ตายที่ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์
สอบสวน น.ส.ชนิดา คุ้มปริยัติ อายุ 17 ปี ให้การว่า ตนเองและผู้ตายได้ออกมาจากตลาดหน้าห้างเชียร์รังสิต เนื่องจากหลังเลิกเรียนผู้ตายจะขี่จักรยานยนต์มาช่วยแม่ผู้ตายขายพวงมาลัย จนเวลา18.00น.ก่อนที่จะไปส่งตนย่านคลองสี่แล้วกลับบ้าน ซึ่งวันนี้ก็เช่นกัน หลังจากที่เลิกขายของแล้วผู้ตายไปขับรถจักรยานยนต์ พาตนซ้อนท้ายไปส่งบ้าน เมื่อขับมาถึงที่เกิดเหตุ อยู่ดีดีรถก็เสียหลักและล้มลง โดยตนล้มเข้ามาทางด้านใน แต่ผู้ตายล้มออกไปด้านนอก เป็นจังหวะเดียวกับที่รถพ่วงขับประกบข้างมาพอดีจึงทำให้ถูกรถพ่วงทับจนเสียชีวิตดังกล่าว
ด้านนายนาท ทองอยู่ อายุ 38 ปี ชาวจังหวัดพิษณุโลก ผู้ขับขี่รถพ่วงให้การว่า ขับรถบรรทุกทราย มาจาก จ.อยุธยา เพื่อที่จะไปส่งย่านร่มเกล้า กทม. เมื่อขับมาถึงที่เกิดเหตุตนเองรู้สึกเหมือนรถทับอะไรบางอย่างจึงจอดรถลงดู ก็ต้องพบว่าทับรถจยย. และมีผู้เสียชีวิต จึงได้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ให้เข้ามาตรวจสอบ และยืนรอเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อให้ปากคำดังกล่าว
ด้านร.ต.อ.ประธาน วักชัยภูมิ รองสารวัตรสอบสวน สภ.คูคต กล่าวว่าจากการสอบสวน ยังไม่ได้ระบุว่าใครเป็นผู้ผิด และจะต้องรอสอบพยานที่เห็นเหตุการณ์เพิ่มเติม เพื่อจะได้ให้ความเป็นธรรมแก่ทั้งสองฝ่าย อย่างไรก็ตามได้มอบศพให้ทางมูลนิธิ นำส่งชันสูตรยัง รพ.ภูมิพลอดุลยเดช เพื่อหาสาเหตุการตายที่แท้จริงต่อไป
http://www.posttoday.com/local/central/445662
ปทุมธานี - สาว17 ขับรถกลับบ้าน หลังจากช่วยแม่ขายพวงมาลัย ประสบอุบัติเหตุถูกรถพ่วงทับ ดับสยอง
เมื่อวันที่ 29 ก.ค. 59 เวลา 18.50น. ร.ต.อ.ประธาน วักชัยภูมิ รองสารวัตรสอบสวน สภ.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี รับแจ้งมีเหตุรถพ่วงทับรถจยย. ส่งผลทำให้มีผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดบริเวณ ถ.พหลโยธินขาเข้า หน้ากรมทหารต่อสู้อากาศยาน รักษาพระองค์ หมู่ 8 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี หลังรับแจ้งจึงรีบรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย แพทย์เวร รพ.ภูมิพลอดุลยเดช และ อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ พบ รถบรรทุกพ่วง 22 ล้อ ยี่ห้อฮีโน่ หมายเลขทะเบียน 62-0370 กทม.ตัวพ่วง 62-0369กทม. ซึ่งบรรทุกทรายมาเต็มคัน ได้ทับรถ จยย.ยี่ห้อ ยามาฮ่า รุ่นมีโม สีม่วงดำ หมายเลขทะเบียน อทว-384กทม. ใกล้กันพบผู้เสียชีวิตเป็นหญิง ยังอยู่ในชุดนักเรียน สภาพศพถูกทับศรีษะแตก มันสมองกระจายเต็มพื้นถนนทราบชื่อต่อมาว่า น.ส.วัชรีพร คงสมเพชร อายุ 18 ปี โรงเรียนมัธยมสังคีตวิทยา กทม.ชั้น ม.6 ใกล้กันพบผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยทราบชื่อ น.ส.ชนิดา คุ้มปริยัติ อายุ 17 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนผู้ตายที่ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์
สอบสวน น.ส.ชนิดา คุ้มปริยัติ อายุ 17 ปี ให้การว่า ตนเองและผู้ตายได้ออกมาจากตลาดหน้าห้างเชียร์รังสิต เนื่องจากหลังเลิกเรียนผู้ตายจะขี่จักรยานยนต์มาช่วยแม่ผู้ตายขายพวงมาลัย จนเวลา18.00น.ก่อนที่จะไปส่งตนย่านคลองสี่แล้วกลับบ้าน ซึ่งวันนี้ก็เช่นกัน หลังจากที่เลิกขายของแล้วผู้ตายไปขับรถจักรยานยนต์ พาตนซ้อนท้ายไปส่งบ้าน เมื่อขับมาถึงที่เกิดเหตุ อยู่ดีดีรถก็เสียหลักและล้มลง โดยตนล้มเข้ามาทางด้านใน แต่ผู้ตายล้มออกไปด้านนอก เป็นจังหวะเดียวกับที่รถพ่วงขับประกบข้างมาพอดีจึงทำให้ถูกรถพ่วงทับจนเสียชีวิตดังกล่าว
ด้านนายนาท ทองอยู่ อายุ 38 ปี ชาวจังหวัดพิษณุโลก ผู้ขับขี่รถพ่วงให้การว่า ขับรถบรรทุกทราย มาจาก จ.อยุธยา เพื่อที่จะไปส่งย่านร่มเกล้า กทม. เมื่อขับมาถึงที่เกิดเหตุตนเองรู้สึกเหมือนรถทับอะไรบางอย่างจึงจอดรถลงดู ก็ต้องพบว่าทับรถจยย. และมีผู้เสียชีวิต จึงได้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ให้เข้ามาตรวจสอบ และยืนรอเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อให้ปากคำดังกล่าว
ด้านร.ต.อ.ประธาน วักชัยภูมิ รองสารวัตรสอบสวน สภ.คูคต กล่าวว่าจากการสอบสวน ยังไม่ได้ระบุว่าใครเป็นผู้ผิด และจะต้องรอสอบพยานที่เห็นเหตุการณ์เพิ่มเติม เพื่อจะได้ให้ความเป็นธรรมแก่ทั้งสองฝ่าย อย่างไรก็ตามได้มอบศพให้ทางมูลนิธิ นำส่งชันสูตรยัง รพ.ภูมิพลอดุลยเดช เพื่อหาสาเหตุการตายที่แท้จริงต่อไป
http://www.posttoday.com/local/central/445662