หายจากการเขียนรีวิวเที่ยวไปประมาณ 4 ช่วงตึกใหญ่ๆ ก็กลับมารีวิวอีกครั้งนะครับ ความจริงมีอีก 2-3 ทริปที่อยากจะรีวิว แต่ยังไม่มีอารมณ์ร่วมในการเขียนเลย กลัวออกมาไม่ดี  ตอนนี้อารมณ์ท่องเที่ยว ชีพจรลงเท้ากลับมาอีกครั้ง เลยคิดว่าเอาวะ กลับมาเขียนต่อ เพราะครั้งนี้ต่างจากครั้งก่อนๆที่เที่ยวคนเดียว มีเหตุปัจจัยหลายๆอย่างที่ทำให้เรามารวมกลุ่มกันได้ ฝ่าฟันอะไรกันมาก่อนที่จะตัดสินใจเที่ยวด้วยกัน



คำเตือน
   *** ปล.1 ทริปนี้มีการใช้คำหยาบ ไม่เหมาะสมกับเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปี หรือถ้าเด็กอยากอ่านก็อย่าเอาไปใช้นะลูก ไว้โตกว่านี้ค่อยใช้ ***
   *** ปล.2 ทริปนี้ไม่เน้นวิว ( เพราะลืมถ่าย ) เน้นเพื่อนกับความสุขที่เกิดในระหว่างที่ได้เที่ยวกับเพื่อน ***
   *** ปล.3 กล้องไม่มีนะครับ ใช้ iPhone 5s เหมือนเดิม (ใครอยากได้รูปสวยซื้อกล้องให้ผมสิ 5555) + App (Store) Snapseed , Camera 360 อีกนิดหน่อย ***
   *** ปล.3.5 รูปที่ลงพันทิปห้ามเกิน 700 KB ภาพอาจจะแตกเล็กน้อยถึงปานกลางระดับ 2 ขออภัยล่วงหน้านะครับ ***

เริ่มจากการที่พวกเราได้ทำงานด้วยกัน เป็นการเปิดแผนกใหม่ในที่แห่งหนึ่ง ผมยังเรียนไม่จบก็ได้ไปสมัครเป็นพนักงาน part-time ส่วนเพื่อนอีก 3 คนเรียนจบแล้วมาสมัครเป็นพนักงานประจำ และน้องอีกคน ที่กำลังเรียนอยู่ก็ทำงาน part-time เช่นเดียวกับผม
   ความเข้มข้น ที่ทำให้เรารู้จักกันเร็วขึ้น มันอยู่ในการทำงานครั้งนี้แหละครับ อยากจะบอกว่า " อื้อหืออออออออออ *^*%&*!@%^*)_$& " เจอเรื่องราวด้วยกันมาตั้งแต่เริ่มงาน เห็นนิสัยกันเร็วยิ่งกว่าการโคจรรอบตัวเองของโลกเสียอีก แน่นอนครับ สงครามมักจะมี 2 ฝ่ายเสมอ พวกผมดันเป็นพันธมิตรกัน กัดฟัน อดทนต่อสู้กันมา ช่วยเหลือกัน ให้กำลังใจกัน จนกระทั่งคิดว่า ถึงเวลาแล้วแหละ ถึงเวลาวางมือ ทุกสิ่งอย่างควรจะพอได้แล้ว เราพยายามกันมากแล้ว
พอหลายๆสิ่งหลายๆอย่างมันใช้เวลากลั่นตัว และเห็นถึงนิสัย เห็นถึงความจริงใจที่แท้จริง ผมเลยรู้สึกว่า เพื่อนกลุ่มนี้ อดทนว่ะ ผู้หญิงหมดเลยนะ แต่ถึกกว่ากรรมกรอีก เลยคิดว่าถ้าชวนเพื่อนกลุ่มนี้ไปเที่ยวแบบถึกๆแบบที่ผมไป เค้ากลุ่มนี้คงจะรับได้ คงจะทนได้ เพราะผ่านกระบวนการเคี่ยวจากการทำงานจนตกเป็นผลึกได้ขนาดนี้ เลยลองชวนดูว่าจะไปไหม ปรากฏว่าไปว่ะ โอเค ไปก็ไป ลุยดิงานนี้ ยิ่งเก็บกดไม่ได้เที่ยวมานานแล้วด้วย ก็บอกกล่าววันเวลา คือหลังจากจบสงคราม ( หลายคนอาจจะงง หลังจากจบสงครามอะไรวะ (ปล. จบสงคราม = ลาออกจากงาน 555555 ))
วันที่ 24 กรกฏาที่ผ่านมานี้เอง จากปกติต้องตื่นไปทำงานกันตั้งแต่ ตี 4-5 ทุกวัน เที่ยววันนี้ก็ไม่เว้น เรื่องพักผ่อนเอาไว้ก่อน เที่ยวต้องมาก่อน นอนกันได้คนล่ะไม่กี่ชั่วโมงก็เป็นอันสะดุ้งตื่นจากเสียงโทรเข้าจากเพื่อนคนนึงที่โทรมาปลุกว่า

" ๆตื่นกันยัง กูอยู่พาต้าแล้วนะ "
" เออๆ กูตื่นกันแล้ว "

ตัดไปที่ภาพด้านหลังของประโยคที่บอกว่า " ตื่นกันแล้ว "
นก : ผู้หญิงที่มีความมั่นใจสูง สะดุ้งขึ้นมาด้วยผมที่ฟู ไม่ต่างจากไม้กวาดดอกหญ้า
ยิ้ม : ผู้หญิงที่รับโทรศัพท์ด้วยสภาพที่ไม่ต่างจากนก
บอส : ยังคงนั่งอึนๆ มึนๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น

หลังจากนั้นทุกคนก็รู้ตัวว่าวันนี้วันเที่ยว วันนี้ไม่ต้องทำงานแล้ว ลุยโลดดดดดด
จัดการอาบน้ำแต่งตัว เตรียมออกรบอีกครั้ง ในระหว่างที่จัดการกับตัวเองกันอยู่ ส้มโอ ผู้หญิงที่โทรมาปลุก ก็ยังคงโทรมาจิกประหนึ่งว่าแม่เป็นไก่ ว่าอยู่ไหนกันแล้ว กูถึงหน้า ม ล่ะนะ
พวกผม : เออๆๆๆๆ ก็รีบอยู่ รอก่อนสิ = = ( 1 ห้องน้ำ 3 คนรอใช้ จะให้รีบไปไหน !@&^%*@!##$ )

และแล้ว การเดินทางอีกครั้งก็เริ่มขึ้น เราทั้ง 3 คนใช้เวลาเดินจากหอพักไปหน้ามหาลัยประมาณ 20 นาที ( ไกลไม่ไกลถามใจตัวเองดู T_T )
และก็เจอกับส้มโอที่ป้ายรถเมล์ ทุกคนมองหัวจรดเท้าส้มโอ คือ แบบ เอิ่มมมมมมม
บอส ยิ้ม นก : (คิดในใจ) ไปเที่ยวนะ ไม่ได้ไปเดิน final walk ที่เวที The face รองเท้าอ่ะ ผ้าไบก็ได้ไหม = = (เดี๋ยวจะมีรูปให้ดูกันตอนหลังนะครับ)
เราทั้ง 4 ก็รอรถ ก็ขึ้นสาย 90 ไปลงสะพานควาย เพื่อต่อรถไปหัวลำโพง เพราะนัดกับน้องน้ำหวาน ไว้ที่หัวลำโพง ( ไม่ใช่แค่ส้มโอที่รีบเกิ้นนนน น้องน้ำหวานก็ใช่ย่อย น้องไปถึงหัวลำโพงตั้งแต่ 7 โมงกว่าจ้าาาา คือนัด 08.30 น. ผมเลยคิดว่าน้องน่าจะกลัวตกรถไฟ มั้งง  -..- )
โอเคเที่ยวทั้งที รูปต้องมาสิ หลังจากนี้จะมีรูปประกอบด้วย เตรียมรับมือให้ดีๆ


เริ่มถ่ายกันตั้งแต่หน้าป้ายรถเมล์กันเลยทีเดียว เริ่มสังเกตชุดส้มโอนะครับ


ดูที่รองเท้าส้มโอ คือแบบ เดี๋ยวววววววววว ไปเที่ยวววว ไม่ได้ไปเดินห้างง


ฟ้าจะผ่าก็วันนี้แหละ

และเราก็มาถึงสถานีรถไฟหัวลำโพง จัดไปสัก 1 รูป


โดยก่อนถึงสถานี ผมได้วานให้น้องน้ำวานไปซื้อตั๋วก่อนแล้ว แน่นนอครับ ไปกันแบบนี้ ไม่มีตังหรอกอาศัยรถไฟฟรีเอา
น้องผมเป็นคนน่ารักครับ ให้จองตั๋วก็จอง ถ่ายรูปให้ดูอีก รูปก็ชัดจนเห็นเยื่อกระดาษชั้นในเลยแหละครับ



น้ำหวาน ตกลงพี่ให้น้องจองตั๋วไปกลับจังหวัดอะไรอ่ะครับ ไม่ผิดจังหวัดนะ โอเค หวังว่าจะเป็นเพชรบุรี
-..-

ดูเวลาแล้วยังเหลือเวลาอยู่เพราะเราถึงกันตอน 08.40 น. ก็แวะไปกินข้าวกันในสถานีครับ
รูปก็เริ่มเยอะขึ้นๆ

หน้าส้มโอก็ 1 ใน 4 ของเฟรมแล้ว

กินไปกินมา อ้าวใกล้แล้วนี่หว่า ทำไงล่ะ วิ่งดิวิ่ง วิ่งไปที่ชานชลา 7 รอรถไฟขบวนที่ 261 ไปเพชรบุรี
แล้วก็สำหรับคนที่ต้องการใช้รถไฟไทยนะครับ จะมีบางขบวนที่ไปฟรี โดยยื่นบัตรประชาชนให้เจ้าหน้าที่ดูนะครับ ก็จะได้ตั๋วมาเลย

ปู้นนนน ปู้นนนน รถมาแล้ว ถ้าเป็นรถฟรีก็ต้องรีบขึ้นนะครับ เพราะจะไม่กำหนดที่นั่ง จะนั่งตรงไหนก็ได้ พวกผมก็รีบขึ้นไปเลย ให้ 4 สาวเกิลรี่เบอร์ลี่นั่งด้วยกัน ผมนั่งอีกที่ข้างๆกัน



ในหัวตอนนั้น คิดไว้ว่า ขึ้นมานั่ง ใช้เวลา 3 ชั่วโมงในการเดินทาง เดี๋ยวระหว่างเดินทางจะนั่งเม้ามอยด์ เรื่องที่ผ่านมา เรื่องที่เจอด้วยกันไรงี้
ปรากฏว่าพอขึ้นรถได้ไม่นาน ก็หันไป เจอเพื่อนๆในสภาพนี้





เอิ่มมมม ๆ ง่วงกันขนาดนี้ เอาหมอนกับเสื่อไหม
ในเมื่อเพื่อนหลับผมก็เลยใส่หูฟัง ( สำหรับคนเดินทางไกล หูฟังกับอุปกรณ์ฟังเพลง เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยนะ ฟังเพลงเบาๆ มันฟินมาก โดยครั้งนี้ผมเปิดเพลง Sextet เป็นเพลงบรรเลง จากหนังเรื่อง Cloud Atlas คือปกติจะใช้ฟังเวลากลับมาถึงห้องแล้วเหนื่อยๆ มันช่วยผ่อนคลายได้เยอะเลยนะ ลองฟังดูได้ๆ )

ก็นั่งฟังเพลินๆ จนรู้ตัวอีกที เห็นป้ายมาแต่ไกล

" เพชรบุรี "

ผมรีบหันหลังไปปลุกเพื่อน ตื่นๆ ถึงแล้วๆ เพื่อนมึนๆ อึนๆ แล้วรีบวิ่งลงรถไฟกัน เย้ !
ผมรีบเดินไปดูรถเที่ยวกลับ ก็เห็นแล้วแหละรถไฟฟรีเที่ยวสุดท้าย 15.09 น.
ก็ถามนายสถานีว่าไปแก่งกระจานใช้เวลาเดินทางเท่าไร เค้าบอกชั่วโมงนิดๆ ดูเวลาตอนนั้นบ่ายโมง ไปถึงก็บ่าย 2 กว่าล่ะ กลับมาไม่ทันแน่ๆ เพื่อนก็ตามๆผม ก็เออๆออๆตามๆกันมา เลยตัดสินใจว่าเอางี้ ถ้าต้องค้าง โอเคไหม ไม่มีชุดเปลี่ยนนะ ใส่ชุดนี้นอน เพื่อนก็ติด mini stun เล็กน้อย แต่ก็อื้อออ กูได้หมด งั้นจัดไป เดินหารถไปกัน ระหว่างเดินจะมีรถกระป๋อง รับจ้าง เค้าบอกคันล่ะ 700-800 บาท ผมก็คิดว่าไม่น่าคุ้มเพราะมากัน 5 คน เลยตัดสินใจเดินไปหารถตู้ไปส่ง เดินไปได้ประมาณ 20 เมตร ส้มโอเพื่อนรัก ตะโกนบอกว่า ข้าวแกงบุพเฟ่ๆ ทุกคนหันควับ เรื่องกินไม่เข้าใครออกใคร ส้มโอวิ่งข้ามถนนนำไปเลยจ้า เพื่อนๆก็อย่ารอช้า ตามกันไปติดๆ
ร้านนี้ติดถนนเป็นเพิงเล็ก ราคาเพียง 35 บาท แต่ข้อแม้คือต้องทานให้หมด หึหึ รู้จักแก๊งเขมือบน้อยไปซะแล้ว นำทีมโดยน้องน้ำหวานและส้มโอ ไม่ใช่คนล่ะ 2 จาน แต่ตักกับกินต่างหากอีก ซัดกันจนพอดีๆท้องก็ออกเดินทางกันต่อ ป้าที่ร้านบอกว่าช่วยประชาสัมพันธ์ด้วยนะลูก จัดไปครับป้า



แล้วก็ถามทางป้าเค้าต่อ ปรากฏป้าบอกว่าเดี๋ยวให้แฟนเค้าไปส่งที่ท่ารถตู้ก็ได้มีรถตู้ไปส่งที่แก่งกระจาน ขอบคุณป้าและลุงอย่างสูงมากนะครับ

ณ คิวรถตู้ ยืนอ่านป้าย ค่ารถคนล่ะ 120 บาท คำนวณแล้ว โอเค ยืมตังเพือนนกเอา เพื่อนเรามีการบอกว่า เดี๋ยวเจ๊เลี้ยงเอง ก็จัดไปดิ 555555
รอได้สักพัก 13.30 น. รถตู้ก็ได้มาจอด เราก็ขึ้นรถกัน ทั้งคันมีแค่ผมกับเพื่อนๆ 5 คน ที่ไหนได้ เค้าจอดรับตามจุดไปเรื่อยๆจ้า ไอเราก็ไม่ได้สนใจอะไร ก็มองริมทางเพลินๆ หันไปอีกที เดี๋ยวนะ หลับกันอีกแล้วเหรอ บนรถไฟพวกก็เพิ่งหลับกันไปนะ = =





พอกันทั้งพี่ทั้งน้อง ในเมื่อให้ผมเป็นคนถ่ายรูป ได้เล้ยยยย จัดไป 5555 ถ่ายทุกมุม

ในเมื่อเพื่อนนั่งหลับ ผมก็ดันเผลอหลับไปตอนไหนไม่รู้ รู้ตัวตอนใกล้จะถึงอุทยานล่ะ
พอถึงอุทยาน มันรู้สึกดีมากเลยนะ แต่อยู่ๆความเครียดก็ตามมา จะกินอะไร จะนอนไหนล่ะ ก็เข้าไปสอบถามพี่ๆในอุทยาน
สรุปแล้ว เช่าเต็น + ค่าเข้าอุทยาน + เครื่องนอน
เต็น 3 คน = 250 บาท/คืน
เต็น 2 คน = 120 บาท/คืน
ค่าเข้าอุทยาน = 130 บาท/คน ( เลยเอาบัตรนักศึกษาให้พี่ เค้าก็เลยคิดรวมกัน ให้คนล่ะ 70 บาท เพราะเพื่อนผมจบแล้ว แต่ผมกับน้องยังไม่จบ )
เครื่องนอน ( แผ่นรองนอน , หมอน , ผ้าห่ม ) = 20 หรือ 30 บาทไม่รู้สิ

โดยพี่ๆเค้าบอกว่าข้างล่างไม่มีอะไรน่าดูหรอก ให้ขึ้นไปข้างบน จะมีรถเช่า คันล่ะ 1,600 บาท เค้าพูดไม่ทันจบ ผมหันหน้ามามองเพื่อน
เอ้ อยู่ๆก็อยากดูวิวข้างล่างเนอะ ข้างบนคงไม่สวยเท่าไร 55555 เปล่าหรอก เงิน 5 คนรวมกันยังเหมารถไม่ได้เลยพี่ ชีวิต !
แล้วเราทั้ง 5 ก็ไปกางเต็นกัน พี่ๆเจ้าหน้าที่บอกว่าให้กางได้ตรงลาน A เราก็ตรงไปเลยจ้า พอไปถึง คือแบบไม่มีที่จะกางอ่ะ คนแน่นมาก
เครียดอ่ะตอนนั้น



5555555 โล่งกว่ากรุงเทพตอนเทศกาลอีก ทั้งลานกว้างมี เรา 2 เต็น 555555 ครองยุทธจักรเลยงานนี้
แต่ล่ะคนความสามารถก็ช่างสูงส่ง ส้มโอบอก เรียนลูกเสือมา แล้วกางเต็มเป็นไหม 555 คำตอบคือ ไม่ !! โอ๊ยยย กูเพลียยย





พยายามกันเข้าเพื่อนๆ เดี๋ยวนั่งรอ 55555
ไม่นานพวกเราก็กางเต็นกันเสร็จ พอดูเวลา มัน 4 โมงกว่าแล้วนี่หว่า ผมได้ดูเวลาพระอาทิตย์ตกวันนี้เวลา 17.41 น. พวกเราก็แวะซื้อน้ำคนล่ะกระป๋อง และแล้วความโชคร้ายก็ตามมาติดๆ เงินติดตัวแต่ล่ะคน รวมกันได้ ไม่ถึงพัน ข้าวเย็นล่ะ ทำไงดี 55555 งานแคะกระปุกก็มา งานเหรียญก็มา เอาเหรียญมากองรวมกันเลยจ้า ตอนนี้ไม่มีเงินส่วนตัว มีแต่เงินกองกลาง 55555 คำนวณคราวๆ พอทนได้อยู่ ปะ ไปถ่ายรูปกันก่อน เราก็เดินไปที่สะพาน ซึ่งผมคาดว่าน่าจะเป็นแลนด์มาร์คที่นี่นะ

ขอจบแค่นี้ก่อนเด้อ เนื้อที่เต็มล่ะ โพสต่อไป เน้นรูป(เพื่อน)ล้วนๆนะครับ รอสักครู่เด้อ บอกแล้วทริปนี้ไม่เน้นวิว เน้นเพื่อน

-----------------------------------------------------

ใครที่อยากเห็นรูปเพิ่มเติมเข้าไปส่องที่ IG ผมได้นะครับ

IG : https://www.instagram.com/than.im/

-----------------------------------------------------