เรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นเรื่องจริง แต่ไม่ได้เกิดกับตัว จขกท.
แต่เกิดกับ ญาติคนสนิทของ จขกท.มีความสัมพันธุ์เป็น คุณอา(ผู้หญิง)

คุณอาเล่าให้ฟังคร่าวๆว่า ..........
คุณอาของ จขกท. นั่งรถทัวร์จาก อำเภอแม่สอด จะไปชลบุรี(สัตหีบ)
คุณอา นั่งมาคนเดียวตั้งแต่ แม่สอด หมายถึงที่นั่งข้างๆเป็นเบาะคู่ยังว่างอยู่
พอมาถึงอำเภอเมืองชลบุรี เวลาก็ประมานเช้ามืด

รถทัวร์ก็จอดรับผู้โดยสารเพิ่ม 1 - 2 คน ตรงอำเภอเมืองชลบุรี
ซึ่ง มี 1 คนมานั่งตรงที่ว่าง ข้างๆคุณอา

คุณอาเล่าต่ออีกว่า ได้ชวนคุยกับ คนที่นั่งข้างจับใจความได้ว่า
เขาจะไปลง พัทยา หลังจากนั้นก็ต่างคนต่างนอน เพราะยังเช้ามืดอยู่

แต่ พอสักพักหนึ่ง คนที่นั่งข้างๆคุณอาเหมือนกำลังจะปรับเบาะเพื่อให้นอนถนัด
แต่ทำทีทำท่าว่าเหมือนปรับไม่เป็น แล้วถามคุณอาว่าปรับเป็นไหม
คุณอาก็เอื้อมตัวไปปรับเบาะให้ด้วยความมีน้ำใจ แล้วก็กลับมานั่งตรงเบาะของตัวเอง

หลังจากนั้น คุณอาเล่าว่าจำเรื่องราวอะไรไม่ได้อีกเลย พอตื่นมาอีกที
ก็กำลังจะลงรถถึงที่หมาย (สัตหีบ) ก็ปรากฏว่า สร้อยทองที่อยู่คอ 2 สลึงหายไป
และกระเป๋าตังค์ที่มีเงินสดอยู่ประมาน 9000 บาทก็หายไป
แต่ทราบหลังจากนั้นว่ากระเป๋าตังเปล่าถูกทิ้งไว้ด้านหลังรถทัวร์ บริเวณพื้นเหมือนทำตกไว้

โดยคุณอาของ จขกท.สันนิษฐานว่า ขณะที่เอื้อมมือไปปรับเบาะให้กับคนข้างๆ
จังหวะนั้นน่าจะมีอะไรเกิดขึ้น (คิดว่าโดนป้ายยานอนหลับ)
****ตอนนี้ได้แจ้งความกับ จนท.ตำรวจแล้ว กำลังประสานไปยังรถทัวร์เพื่อดูกล้องวงจรปิด

ฝากเป็นอุทาหรณ์ให้ผู้โดยสารรถทัวร์ ระวังตัวกับพวกมิจฉาชีพมักง่าย พวกนี้ด้วยนะครับ
อย่าไปไว้ใจ ใครทั้งนั้น คนแปลกหน้า ของมีค่าสร้อยทองเก็บไว้ให้มิดชิดครับ
อย่าใส่เลยตอนอยู่บนรถ

และผมเชื่อว่าเรื่องราวนี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับคุณอาของผมเป็นแรกแน่ๆ เดี๋ยวนี้มิจฉาชีพมันมาทุกรูปแบบจริงๆ

ปล. เรื่องราวอาจจะไม่ละเอียดนัก เพราะ จขกท.ฟังคุณอาเล่ามา แต่ประเด็นหลักๆตามนี้แน่นอนครับ