กลายเป็นข่าวที่ใครได้ฟังก็ต้องสลดใจ เมื่อมีการเปิดเผยเรื่องราวการจับกุมตัว นายปิยะ หรือ ยะ โพธิ์สังข์ อายุ 21 ปี ชาว จ.สกลนคร ในข้อหาข่มขืนกระทำชำเราและทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส และ นางนิด อายุ 21 ปี สัญชาติกัมพูชา ในข้อหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้รับอันตรายสาหัส หลังจากที่โรงพยาบาลได้รับตัว ดญ. เอ (นามสมมุติ) วัย 1 ปี 5 เดือน ไปรักษาตัวในสภาพ มีบาดแผลที่อวัยวะเพศ แขนและขาหัก ผิวหนังบวมพอง และที่บริเวณปาก ถูกน้ำร้อนลวก อาการสาหัสมาก จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบ

ตำรวจจึงได้นำตัวนางนิด ซึ่งเป็นแม่ของเด็ก และ นายปิยะ ซึ่งเป็นพ่อเลี้ยงที่ทำงานในแคมป์คนงานก่อสร้าง ที่จังหวัดชลบุรี มาสอบสวนอย่างหนักจนทั้งคู่สารภาพถึงเรื่องราวสุดช็อคนี้ว่า "วันที่ 21 ก.ค. ที่ผ่านมา ขณะนางนิด กลับจากไปซื้ออาหารกลางวัน พอกลับมาที่แคมป์ ก็พบว่านายปิยะนอนอยู่ในห้อง และพบว่าลูกสาวมีเลือดออกที่อวัยวะเพศ ต่อมาวันที่ 24 ก.ค. นายปิยะได้ทำร้ายเด็กหญิงเอ นางนิดจึงเข้าห้าม จนนายปิยะกระชากแขนเด็กอย่างแรง แต่นางนิดพยายามต่อสู้ จนคว้าลูกกลับมาได้ โดยไม่รู้ว่าลูกแขนขาหัก ต่อมาวันที่ 26 ก.ค. ขณะเด็กหญิงเอ ร้องไห้ นางนิดได้ต้มน้ำร้อนแล้วกรอกปากให้กิน โดยอ้างว่าไม่รู้ว่าน้ำร้อน จนเด็กหญิงเอแน่นิ่งไป จึงนำส่งโรงพยาบาล"

      นางนิดได้เล่าอีกว่า "ตนเองไม่ได้ตั้งใจ เพราะไม่รู้ว่าน้ำร้อน ส่วนที่ลูกแขนขาหัก เพราะถูกนายปิยะทำร้าย ตนเองพยายามช่วยแล้ว ทั้งนี้รู้สึกเสียใจ รู้สึกผิด และจะไม่ทำอีก ขณะที่ นายปิยะ พ่อเลี้ยงหื่น กล่าวว่า ตนเองทำไปด้วยอารมณ์ชั่ววูบ โดยขณะเกิดเหตุตนเองไม่ได้เมา ไม่ได้เสพยา แต่ทำไปด้วยอารมณ์ชั่ววูบ"


ที่มา : http://m.johjae.com/article-details.php?item=125






สามารถหาข่าวอ่านเพิ่มเติมได้ตามเว็บไซต์ด้านล่างนี้ค่ะ

เรื่องเล่าเช้านี้ : http://morning-news.bectero.com/social-crime/28-Jul-2016/84106

ข่าวสด : http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1469685019


สามารถดูคลิปข่าวได้ที่นี่ค่ะ






--------------------------------------------


เห็นข่าวแล้วถึงกับทนไม่ไหวต้องมาตั้งกระทู้ มันเกิดอะไรกับสังคมของเรา ทำไมมันชักจะเสื่อมถอยลงทุกวัน
นี่แม้กระทั้งเด็กเล็กที่ยังไม่ประสีประสา ไม่รู้เรื่องรู้ราว บอบบาง ทำไมต้องมาโดนคนจิตโสมมทำร้ายแบบนี้ด้วย

เราเองในฐานะผู้หญิงคนนึง บอกตรงๆ ว่าทุกวันนี้จะประสาทเพราะความหวาดระแวงแล้วค่ะ
จะไปไหนมาไหน กลัวไปหมด รู้สึกว่าเพศหญิงถูกใช้เป็นเครื่องมือระบายความใคร่ มากกว่าที่จะถูกมองเป็นมนุษย์คนหนึ่ง
เราเบื่อกับการที่ต้องเห็นคดีข่มขืน ซ้ำแล้วซ้ำอีก และมันก็เลวร้ายขึ้นทุกที
ข่มขืนได้แม้กระทั่งเด็กทารกไปยันคนแก่หรือพิการ ไม่มีเลือกวันเวลาและสถานที่

หลายครั้งที่คนคนเดิม ทำเรื่องต่ำช้าซ้ำๆ เดิมๆ เพียงเพราะได้รับการให้โอกาสที่มันไม่สมควรจะได้รับ
กลายเป็นว่าสังคมของเราต้องสูญเสียคนดีๆ ที่เป็นกำลังของชาติไปในทุกวัน เพื่อสังเวยความใคร่กับคนบ้ากาม
เราเบื่อ แต่ก็ดูเหมือนว่าสังคมมันจะดีขึ้นไปกว่านี้ไม่ได้แล้วจริงๆ ใช่ไหม ?

ทุกวันนี้เราเดินปะปนกับคนบนท้องถนนโดยที่ไม่มีโอกาสได้รู้เลยว่า คนที่เราเดินผ่านเดินสวนไป เขาก่อคดีข่มขืนมาแล้วกี่ครั้ง
เราใช้ชีวิตแบบที่ไม่มีความปลอดภัยเลย แม้กระทั่งในตอนที่เรานอนอยู่ที่บ้าน

มันน่าหดหู่ค่ะ ไม่รู้ว่าต้องทนเห็นข่าวแย่ๆ แบบนี้ไปอีกกี่ครั้ง ไม่รู้ว่าจะมีคนดีๆ ต้องตาย ต้องโดนทำร้ายแบบนี้ไปอีกกี่คน
คนเลวๆ แบบนี้ที่สมควรจะหายไป ทุกวันนี้กลับเดินเพ่นพ่าน ลอยหน้าลอยตา ก่อคดีซ้ำๆ มันเหมือนกับว่าสังคมของเรา
เลี้ยงคนพวกนี้เอาไว้ฆ่าคนดีๆ ให้ตายไปยังไงก็ไม่รู้ค่ะ

เราเข้าใจนะคะ เหตุผลที่หลายๆ คนบอกว่า ข่มขืน ไม่ควรเท่ากับประหารเพราะจะทำให้โจรฆ่าเหยื่อตาย
แต่เราก็อยากจะถามกลับว่า ถ้าเราไม่ประหาร แล้วให้โอกาสเขาแบบนี้ โจรหนึ่งคนจะสามารถเดินเข้าออกคุก
และข่มขืนผู้หญิงซ้ำๆ ไปได้อีกกี่คน คดีที่เพิ่งเกิดไปเมื่อไม่นานมานี้ ที่ข่มขืนครูสาว ผู้ร้ายก็เคยก่อคดีมาก่อนแล้วติดคุกไปแล้ว
พอถูกปล่อยตัวก็มาทำซ้ำ คดีข่มขืนนักศึกษาในห้องน้ำบางที ผู้ร้ายก็เคยมีคดีทำนองนี้ไปก่อนแล้ว สุดท้ายก็มาทำซ้ำ

จะต้องมีคนดีๆ ในสังคมมาโดนแบบนี้อีกกี่คนกัน สังคมจะดีไปกว่านี้ไม่ได้แล้วใช่ไหมคะ ?
เราจะต้องทนต่อไป จะต้องตื่นมาและคอยลุ้นว่าวันไหนเราจะรอด วันไหนเราอาจจะถูกลากไปข่มขืนแล้วฆ่าแบบนี้น่ะเหรอ ?


สำหรับน้องที่เป็นข่าวอยู่ เราก็ได้แต่หวังว่าน้องจะได้ไปอยู่กับพ่อแม่ดีๆ ผู้อุปการะดีๆ หรือไม่ก็สถานเลี้ยงเด็กดีๆ ที่ให้ความอบอุ่น
และดูแลน้องได้ดีกว่าพ่อแม่เลวๆ ในข่าวค่ะ ... อย่าให้น้องต้องโตขึ้นมารับรู้สิ่งที่เคยเกิดขึ้นกับตัวเองเลย มันน่าเศร้าใจมากจริงๆ