จัง หวะ จะ เดิน ขอเชิญเที่ยวน่านนคร ตอน เมืองน่านหน้าฝน
หากย้อนไปเมื่อสัก10ปีที่แล้ว เมืองน่าน แทบจะไม่มีใครอยากไปเที่ยวเลย เพราะการเดินทางยากลำบาก ที่เที่ยวก็ไม่น่าสนใจ น่านก็เลยเป็นแค่จังหวัดหนึ่งที่เก็บซ่อนตัวเองอย่างเงียบๆในหุบเขา เพราะการเดินทางเข้าสู่จังหวัดน่านนั้น ไปได้เพียงทางรถยนต์ หรือรถโดยสารประจำทางเท่านั้น เครื่องบินก้ไม่มี รถไฟก็ไม่ผ่าน
แต่ปัจจุบันนี้ เมืองน่าน เรียกได้ว่าเป็นจังหวัดท่องเที่ยวอันดับต้นๆของไทยเลยก็ว่าได้ ยิ่งเป็นช่วงหน้าฝนแล้ว ยิ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางมาที่น่านเพิ่มขึ้นไปอีก นอกจากจะเที่ยวธรรมชาติแล้ว สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือ ศิลปะวัฒนธรรม ที่เป็นเอกลักษณ์ และยังคงสืบทอดมาจนถึงปัจจุบันใหเเราได้เรียนรู้และชื่นชมไปพร้อมๆกัน
ไปเริ่มต้นออกเดินทางกันเลยครับ
ครั้งนี้ เราเลือกบินกับเจ้าหางแดงครับเพราะใช้เครื่อง A320 เครื่องใหญ่กว่า นั่งสบายใจกว่า ที่สำคัญบินตรงเวลา ไม่ทำให้หงุดหงิดผิดหวังเหมือนน้องเบิร์ดครับ(ประสบการณ์ส่วนตัว) ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงจากสนามบินดอนเมือง ก็ถึงสนามบินน่านนคร
เวลาประมาณ 9 โมงเช้า ลงเครื่องเสร็จเดินเข้ามาในสนามบินแล้ว กลางสนามบินจะมีเรือพายที่หัวเรือเป็นเอกลักษณ์ตามแบบฉบับเมืองน่านแท้ๆ
เราเช่ารถที่สนามบินน่านเลยครับ มีหลายราคา หลายรุ่น หลายบริษัท แต่เราเลือกเช่ากับกานต์แอร์ครับ เพราะไม่ต้องใช้บัตรเครดิตไม่ต้องวางเงินมัดจำ แค่มีใบขับขี่ก็เช่าได้เลย
ในวันแรกนี้ตอนมาถึง ยังไม่หาที่พัก เพราะยังไม่ได้วางแผนว่าจะออกไปนอนนอกเมือง หรือมานอนในเมือง แต่ขอออกนอกเมืองก่อนครับ เส้นทางวันนี้จะเป็นโซนอำเภอปัว
ที่แรกเลย วัดภูเก็ต อ่าวงง นี่เมืองน่านนะ จะมาภูเก็ตได้ยังไง
วัดภูเก็ต ตั้งอยู่ที่บ้านเก็ต หมู่ 2 ต.วรนคร อำเภอปัว จังหวัดน่าน ตั้งอยู่เยื้องโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชปัว ห่างจากตัวอำเภอ 3 กิโลเมตร ห่างจากจังหวัดน่าน 63 กิโลเมตร เดินทางจากถนนสายกรุงเทพฯ-น่าน-ทุ่งช้าง ถึงอำเภอปัว แล้วกลับรถหน้าโลตัสเลี้ยวซ้ายไปตามถนนโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชปัว
ไฮไลท์อย่างหนึ่งของวัดนอกเหนือจากการมาทำบุญไหว้พระแล้วก็คือวิวทิวทัศน์ที่สวยงามด้านตะวันออก ระเบียงหน้าโบสถ์ที่หันเข้าหาเทือกเขาสูงของดอยภูคา วิวที่นี่สวยมาก ยิ่งเป็นตอนเช้า สามารถรอชมพระอาทิตย์ขึ้นที่นี่ได้
เวลาก่อนแปดโมงเช้า และประมาณบ่ายสี่โมงเย็น ของทุกวัน ถ้ายืนมองจากตรงนี้ จะเห็นเณรเดินข้ามทุ่งนาเป็นแถว เพื่อมาเรียนและเดินกลับวัดในตอนเย็น
เชื่อมั้ยว่าคนไทยหลายคนไม่เคยได้ยินชื่อวัดภูเก็ต และไม่รู้ว่า วัดภูเก็ตมีอะไรดี แต่รู้มั้ยว่า ชาวต่างชาติรู้จักวัดแห่งนี้ มาชมวิวที่วัดนี้ มาปฏิบัติธรรมที่นี่กันมากมาย
จุดเด่นอย่างหนึ่งของวัดที่ทำให้ผู้คนจำนวนมากหลั่งไหลมาเที่ยวชมก็คือระเบียงที่อยู่ด้านหน้าโบสถ์เป็นลานกว้างขวางมาก มีม้านั่งเรียงไว้ให้ถ่ายรูปสวยๆ กับวิวที่อยู่ด้านหน้า เทือกเขาสลับซับซ้อนเป็นเขตอุทยานแห่งชาติภูคา พื้นที่กว้างใหญ่ที่เป็นที่ราบอยู่ระหว่างเขาเล็กๆ ที่ตั้งของวัดภูเก็ต กับเทือกเขาใหญ่ด้านหน้า เป็นพื้นที่สำหรับทำการเกษตร ปลูกข้าว และพืชอื่นๆ ตามฤดู
เนื่องจากวัดภูเก็ต ที่อยู่สูงบนเขา มองลงมาจากวัดก็เห็นเทือกเขา จึงได้นามว่า อาคารกัมมัฏฐานลอยฟ้า สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺญมหาเถร ป.ธ.๙)
เข้ามากราบพระในอุโบสถ ก็จะได้พบกับหมีพูห์
และตัวการ์ตูนมากมายที่เด็กๆชื่นชอบ แทรกอยู่ในภาพเขียนชาดก ฝาผนังภายในพระอุโบสถ
***ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจากtouronthai.com***
ที่ต่อไปไม่ไกลจากวัดภูเก็ต ไปกินกาแฟแลวิว 360องศา อุทยานแห่งชาติภูคา
สถานีที่สองที่เราไปคือ ลำดวลผ้าทอและร้านกาแฟบ้านไทลื้อตั้งอยู่ที่ ตำบลศิลาแลง อำเภอปัว จังหวัดน่าน เป็นร้านกาแฟของร้านลำดวนผ้าทอ ร้านขายของที่ระลึกและผ้าทอไทลื้อ ผ้าทอน้ำไหล ลายโบราณมากมาย เลือกซื้อผ้าแล้ว ก็ลงมาจิบกาแฟกัน มีให้เลือกทั้ง มอคค่า เอเพรสโซ่ ลาเต้ ชานม ชาดำเย็น ชามะนาว ฯลฯ แต่ที่นี่ไม่มีแบบปั่นนะ
เชื่อมั้ยกาแฟที่นี่ แก้วละ 30 บาท ...
เห้ยย จริง ทีแรกคิดว่าจะ 50-60บาท เพราะร้านดี วิวสวย แถมรสชาติดีไม่แพ้แบรนด์ดังๆเลย สั่งกาแฟแล้วต้องรอรับด้วยนะ ไม่มีพนักงานเสิรฟนะครับ
เมื่อได้กาแฟแล้ว สามารถเลือกนั่งพักผ่อนตามใจชอบ อยากนั่งตรงไหน นอนตรงไหน มีหลายหลัง หลายแบบให้เลือก ไปนั่งได้ฟรี ไม่มีเซอร์วิสชาร์จ
นอกจากจะได้ดื่มด่ำกับกาแฟที่รสชาติเข้มลงตัวแล้ว อากาสที่นี่ยังดีมากๆอีกด้วย
ที่นี่มีข้าวของเครื่องใช้โบราณ เช่น ครก กระบุง กระจาด ตะเกียง โบราณ คันไถ จอบ เสียม มาประดับตกแต่งให้นึกถึงบรรยากาศเก่าๆ
ผ้าทอน้ำไหลลายโบราณ ที่เป็นเอกลักษณ์ของเมืองน่าน อำเภอปัวถือว่าเป็นอำเภอที่มีชาวไทลื้ออยู่มากที่สุดชาวไทลื้อมีประเพณีและวัฒนธรรมเป็นของตนเอง สืบทอดมายาวนาน และน่าสนใจอย่างยิ่ง
นั่งพักนอนพักจนอิ่มหนำสำราญเบิกบานอรทัยกันแล้ว ก็ได้เวลาไปต่อ
เสร็จจากร้านกาแฟลำดวลผ้าทอแล้ว บ่ายแก่ๆ ไปเล่นน้ำตกกัน
น้ำตกตาดหลวง ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติดอยภูคา บริเวณหมู่บ้านทุ่งเฮ้า ตำบลอวน อำเภอปัว เดินทางไปตามทางหลวงหมายเลข 1081 เลี้ยวซ้ายตรงแยกโรงเรียนบ้านทุ่งเฮ้า และเลี้ยวซ้ายไปตามถนนลูกรังประมาณ 1.1 กิโลเมตรกฌจะถึงลานจอดรถ เดินไปอีกประมาณ 100 เมตร จะเป็นน้ำตกชั้นแรก
แต่เนื่องจากช่วงหน้าฝน น้ำเยอะและไหลแรงมาก เพราะความปลอดภัย เจ้าหน้าที่จึงไม่อนุญาตให้ขึ้นไปชั้นสองของน้ำตก รู้สึกหงอยๆนิดนึง แต่ก็ไม่เป็นไร ความปลอดภัยต้องมาก่อน
น้ำตกตาดหลวง น้ำตกงามที่นักล่าอยากให้ฉายาว่า น้ำตกสองฤดู หรือ น้ำตกสองเทศกาล เพราะอะไรต้องมาดูเอง
นอกจากนี้น้ำตกตาดหลวงยังเป็นแหล่งอนุรักษ์ปลาพลวงอีกด้วย
ธรรมชาติที่แสนบริสุทธิ์ เพชรแห่งเมืองปัว ที่นี่ถ้าไม่ใช่ช่วงเทศกาลก็จะไม่มีคนมาเที่ยวมากนัก ดังนั้นความสงบนี่แหละคือเสน่ห์ที่ทำให้เราต้องมา
นั่งเล่นเอาขาจุ่มน้ำกับบรรยากาศเงียบๆสักพักนึง ดูเวลาอีกทีก็ไกล้ค่ำแล้ว ได้เวลาไปหาที่นอนกันละ เราขับรถกลับเข้าเมืองคับ เพราะพรุ่งนี้จะเที่ยวในเมืองกัน
มาถึงตรงนี้ หลายท่านอาจจะสงสัยว่า ทำไมไม่ไปดอยภูคา หรือ ดอยเสมอดาว หรือขุนสถานกัน
ไปตอนนี้ไม่หนาวคับ เก็บไว้ไปตอนปลายปี เพราะอยากเก็บไว้เป็นทริป "หนาวนานๆที่น่านนคร" มีรีวิวแน่นอน
ที่พักในเมืองน่านก็มีหลายแบบครับ ทั้งโรงแรม เกสต์เฮ้า โฮมเตย์ก็มี แต่เราเลือกพักที่ ริมสวนเพลส ตั้งอยู่ในซอยสวนหอม ห่างจากถนนใหญ่เลยได้ความเงียบสงบเหมาะแก่การพักผ่อนมากๆ บ้านพักเป็นแบบบ้านไม้ชั้นเดียว ราคาคืนละ 600บาท พักได้ 3คน ตกคนละ 200 เอง
ตกแต่งแบบบ้านสมัยเก่า แต่เครื่องอำนวยความสะดวกครบครัน แอร์ ทีวี ตู้เย็น น้ำอุ่น Wifi พร้อมสรรพ
1 เตียงใหญ่ และ 1 เตียงเล็ก เหมาะสำหรับมาเป็นครอบครัว
อ่อนล้าจากการเดินทาง ตะลุยเที่ยวทั้งวันแล้ว ก็ได้เวลาพักผ่อนเอาแรง เพราะภารกิจพรุ่งนี้ บอกเลย ว่าแน่นเอี๊ยด
สำหรับโปรแกรมวันที่สอง : เที่ยวชิลๆในเมืองน่าน
08.00 ตื่นนอน อาบน้ำแต่งตัว เก็บของขึ้นรถ เช็คเอาท์ออกจากที่พัก
จุดหมายแรกของวันนี้ คือ วัดพระธาตุแช่แห้ง
ตามความเชื่อเรื่องการไหว้พระธาตุพระจำปีเกิดของชาวล้านนา เชื่อว่าคนเกิดปีเถาะมีพระธาตุประจำปีเกิด คือ “พระธาตุแช่แห้ง” แห่งนี้แหละครับ
วัดพระธาตุแช่แห้ง หมู่ 3 บ้านหนองเต่า ตำบลม่วงตี๊ด อำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน ขับรถออกมาขากเมืองน่าน ใช้เส้นทางสายน่าน-แม่จริมเดิม ห่างจากเมืองน่าน ประมาณ 3 กิโลเมตร สามารถปั่นจักรยานมาได้
เป็นวัดราษฎร์ ปัจจุบันเป็นพระอารามหลวง ประดิษฐานอยู่ ณ อำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน องค์พระธาตุตั้งอยู่บนเนินเขาลูกเตี้ย ๆ เป็นสีทองสุกปลั่ง สามารถมองเห็นได้แต่ไกล เนื่องจากสูงถึง 2 เส้น เป็นอนุสรณ์ของความรักและความสัมพันธ์ ระหว่างเมืองน่านกับเมืองสุโขทัยในอดีต
บันไดนาค 2 ตัว คู่กันซึ่งตั้งอยู่ด้านหน้าทางเข้าพระบรมธาตุซึ่งสามารถเห็นวิวทิวทัศน์ของเมืองน่านได้ในบริเวณกว้าง
วิวเมืองน่านมองลงไปจากวัด
สายแล้วพักแวะทานข้าวกัน ขับรถกลับเข้ามาในเมืองอีกรอบ แวะร้านนี้เลยครับ Thingling มีหลายสิ่งให้เลือกทาน ข้าวปลา อาหาร ชา กาแฟ ครบครัน ร้านสวย บรรยากาศดี บริการเป็นกันเองมากๆ ร้านอยู่ในซอยใจผาสุข อยู่ใต้โรงแรมใจผาสุข ตรงข้าม รพ.น่าน
อาหารที่นี่ มาแบบบ้านๆ แบบชาวน่านแต้ๆขนมจีนน้ำเงี้ยว ผัดไท
ร้านสวยน่านั่ง
เจ้าของร้านใจดี
พักทานข้าวเช้าตอนสิบโมงกว่า เดี๋ยวไปเที่ยวกันต่อครับ
[CR] เมืองน่านน่าไป เที่ยวในหน้าฝน ทริปเต็มอิ่ม 3 วัน 2 คืน
หากย้อนไปเมื่อสัก10ปีที่แล้ว เมืองน่าน แทบจะไม่มีใครอยากไปเที่ยวเลย เพราะการเดินทางยากลำบาก ที่เที่ยวก็ไม่น่าสนใจ น่านก็เลยเป็นแค่จังหวัดหนึ่งที่เก็บซ่อนตัวเองอย่างเงียบๆในหุบเขา เพราะการเดินทางเข้าสู่จังหวัดน่านนั้น ไปได้เพียงทางรถยนต์ หรือรถโดยสารประจำทางเท่านั้น เครื่องบินก้ไม่มี รถไฟก็ไม่ผ่าน
แต่ปัจจุบันนี้ เมืองน่าน เรียกได้ว่าเป็นจังหวัดท่องเที่ยวอันดับต้นๆของไทยเลยก็ว่าได้ ยิ่งเป็นช่วงหน้าฝนแล้ว ยิ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางมาที่น่านเพิ่มขึ้นไปอีก นอกจากจะเที่ยวธรรมชาติแล้ว สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือ ศิลปะวัฒนธรรม ที่เป็นเอกลักษณ์ และยังคงสืบทอดมาจนถึงปัจจุบันใหเเราได้เรียนรู้และชื่นชมไปพร้อมๆกัน
ไปเริ่มต้นออกเดินทางกันเลยครับ
ครั้งนี้ เราเลือกบินกับเจ้าหางแดงครับเพราะใช้เครื่อง A320 เครื่องใหญ่กว่า นั่งสบายใจกว่า ที่สำคัญบินตรงเวลา ไม่ทำให้หงุดหงิดผิดหวังเหมือนน้องเบิร์ดครับ(ประสบการณ์ส่วนตัว) ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงจากสนามบินดอนเมือง ก็ถึงสนามบินน่านนคร
เวลาประมาณ 9 โมงเช้า ลงเครื่องเสร็จเดินเข้ามาในสนามบินแล้ว กลางสนามบินจะมีเรือพายที่หัวเรือเป็นเอกลักษณ์ตามแบบฉบับเมืองน่านแท้ๆ
เราเช่ารถที่สนามบินน่านเลยครับ มีหลายราคา หลายรุ่น หลายบริษัท แต่เราเลือกเช่ากับกานต์แอร์ครับ เพราะไม่ต้องใช้บัตรเครดิตไม่ต้องวางเงินมัดจำ แค่มีใบขับขี่ก็เช่าได้เลย
ในวันแรกนี้ตอนมาถึง ยังไม่หาที่พัก เพราะยังไม่ได้วางแผนว่าจะออกไปนอนนอกเมือง หรือมานอนในเมือง แต่ขอออกนอกเมืองก่อนครับ เส้นทางวันนี้จะเป็นโซนอำเภอปัว
ที่แรกเลย วัดภูเก็ต อ่าวงง นี่เมืองน่านนะ จะมาภูเก็ตได้ยังไง
วัดภูเก็ต ตั้งอยู่ที่บ้านเก็ต หมู่ 2 ต.วรนคร อำเภอปัว จังหวัดน่าน ตั้งอยู่เยื้องโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชปัว ห่างจากตัวอำเภอ 3 กิโลเมตร ห่างจากจังหวัดน่าน 63 กิโลเมตร เดินทางจากถนนสายกรุงเทพฯ-น่าน-ทุ่งช้าง ถึงอำเภอปัว แล้วกลับรถหน้าโลตัสเลี้ยวซ้ายไปตามถนนโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชปัว
ไฮไลท์อย่างหนึ่งของวัดนอกเหนือจากการมาทำบุญไหว้พระแล้วก็คือวิวทิวทัศน์ที่สวยงามด้านตะวันออก ระเบียงหน้าโบสถ์ที่หันเข้าหาเทือกเขาสูงของดอยภูคา วิวที่นี่สวยมาก ยิ่งเป็นตอนเช้า สามารถรอชมพระอาทิตย์ขึ้นที่นี่ได้
เวลาก่อนแปดโมงเช้า และประมาณบ่ายสี่โมงเย็น ของทุกวัน ถ้ายืนมองจากตรงนี้ จะเห็นเณรเดินข้ามทุ่งนาเป็นแถว เพื่อมาเรียนและเดินกลับวัดในตอนเย็น
เชื่อมั้ยว่าคนไทยหลายคนไม่เคยได้ยินชื่อวัดภูเก็ต และไม่รู้ว่า วัดภูเก็ตมีอะไรดี แต่รู้มั้ยว่า ชาวต่างชาติรู้จักวัดแห่งนี้ มาชมวิวที่วัดนี้ มาปฏิบัติธรรมที่นี่กันมากมาย
จุดเด่นอย่างหนึ่งของวัดที่ทำให้ผู้คนจำนวนมากหลั่งไหลมาเที่ยวชมก็คือระเบียงที่อยู่ด้านหน้าโบสถ์เป็นลานกว้างขวางมาก มีม้านั่งเรียงไว้ให้ถ่ายรูปสวยๆ กับวิวที่อยู่ด้านหน้า เทือกเขาสลับซับซ้อนเป็นเขตอุทยานแห่งชาติภูคา พื้นที่กว้างใหญ่ที่เป็นที่ราบอยู่ระหว่างเขาเล็กๆ ที่ตั้งของวัดภูเก็ต กับเทือกเขาใหญ่ด้านหน้า เป็นพื้นที่สำหรับทำการเกษตร ปลูกข้าว และพืชอื่นๆ ตามฤดู
เนื่องจากวัดภูเก็ต ที่อยู่สูงบนเขา มองลงมาจากวัดก็เห็นเทือกเขา จึงได้นามว่า อาคารกัมมัฏฐานลอยฟ้า สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺญมหาเถร ป.ธ.๙)
เข้ามากราบพระในอุโบสถ ก็จะได้พบกับหมีพูห์
และตัวการ์ตูนมากมายที่เด็กๆชื่นชอบ แทรกอยู่ในภาพเขียนชาดก ฝาผนังภายในพระอุโบสถ
***ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจากtouronthai.com***
ที่ต่อไปไม่ไกลจากวัดภูเก็ต ไปกินกาแฟแลวิว 360องศา อุทยานแห่งชาติภูคา
สถานีที่สองที่เราไปคือ ลำดวลผ้าทอและร้านกาแฟบ้านไทลื้อตั้งอยู่ที่ ตำบลศิลาแลง อำเภอปัว จังหวัดน่าน เป็นร้านกาแฟของร้านลำดวนผ้าทอ ร้านขายของที่ระลึกและผ้าทอไทลื้อ ผ้าทอน้ำไหล ลายโบราณมากมาย เลือกซื้อผ้าแล้ว ก็ลงมาจิบกาแฟกัน มีให้เลือกทั้ง มอคค่า เอเพรสโซ่ ลาเต้ ชานม ชาดำเย็น ชามะนาว ฯลฯ แต่ที่นี่ไม่มีแบบปั่นนะ
เชื่อมั้ยกาแฟที่นี่ แก้วละ 30 บาท ...
เห้ยย จริง ทีแรกคิดว่าจะ 50-60บาท เพราะร้านดี วิวสวย แถมรสชาติดีไม่แพ้แบรนด์ดังๆเลย สั่งกาแฟแล้วต้องรอรับด้วยนะ ไม่มีพนักงานเสิรฟนะครับ
เมื่อได้กาแฟแล้ว สามารถเลือกนั่งพักผ่อนตามใจชอบ อยากนั่งตรงไหน นอนตรงไหน มีหลายหลัง หลายแบบให้เลือก ไปนั่งได้ฟรี ไม่มีเซอร์วิสชาร์จ
นอกจากจะได้ดื่มด่ำกับกาแฟที่รสชาติเข้มลงตัวแล้ว อากาสที่นี่ยังดีมากๆอีกด้วย
ที่นี่มีข้าวของเครื่องใช้โบราณ เช่น ครก กระบุง กระจาด ตะเกียง โบราณ คันไถ จอบ เสียม มาประดับตกแต่งให้นึกถึงบรรยากาศเก่าๆ
ผ้าทอน้ำไหลลายโบราณ ที่เป็นเอกลักษณ์ของเมืองน่าน อำเภอปัวถือว่าเป็นอำเภอที่มีชาวไทลื้ออยู่มากที่สุดชาวไทลื้อมีประเพณีและวัฒนธรรมเป็นของตนเอง สืบทอดมายาวนาน และน่าสนใจอย่างยิ่ง
นั่งพักนอนพักจนอิ่มหนำสำราญเบิกบานอรทัยกันแล้ว ก็ได้เวลาไปต่อ
เสร็จจากร้านกาแฟลำดวลผ้าทอแล้ว บ่ายแก่ๆ ไปเล่นน้ำตกกัน
น้ำตกตาดหลวง ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติดอยภูคา บริเวณหมู่บ้านทุ่งเฮ้า ตำบลอวน อำเภอปัว เดินทางไปตามทางหลวงหมายเลข 1081 เลี้ยวซ้ายตรงแยกโรงเรียนบ้านทุ่งเฮ้า และเลี้ยวซ้ายไปตามถนนลูกรังประมาณ 1.1 กิโลเมตรกฌจะถึงลานจอดรถ เดินไปอีกประมาณ 100 เมตร จะเป็นน้ำตกชั้นแรก
แต่เนื่องจากช่วงหน้าฝน น้ำเยอะและไหลแรงมาก เพราะความปลอดภัย เจ้าหน้าที่จึงไม่อนุญาตให้ขึ้นไปชั้นสองของน้ำตก รู้สึกหงอยๆนิดนึง แต่ก็ไม่เป็นไร ความปลอดภัยต้องมาก่อน
น้ำตกตาดหลวง น้ำตกงามที่นักล่าอยากให้ฉายาว่า น้ำตกสองฤดู หรือ น้ำตกสองเทศกาล เพราะอะไรต้องมาดูเอง
นอกจากนี้น้ำตกตาดหลวงยังเป็นแหล่งอนุรักษ์ปลาพลวงอีกด้วย
ธรรมชาติที่แสนบริสุทธิ์ เพชรแห่งเมืองปัว ที่นี่ถ้าไม่ใช่ช่วงเทศกาลก็จะไม่มีคนมาเที่ยวมากนัก ดังนั้นความสงบนี่แหละคือเสน่ห์ที่ทำให้เราต้องมา
นั่งเล่นเอาขาจุ่มน้ำกับบรรยากาศเงียบๆสักพักนึง ดูเวลาอีกทีก็ไกล้ค่ำแล้ว ได้เวลาไปหาที่นอนกันละ เราขับรถกลับเข้าเมืองคับ เพราะพรุ่งนี้จะเที่ยวในเมืองกัน
มาถึงตรงนี้ หลายท่านอาจจะสงสัยว่า ทำไมไม่ไปดอยภูคา หรือ ดอยเสมอดาว หรือขุนสถานกัน
ไปตอนนี้ไม่หนาวคับ เก็บไว้ไปตอนปลายปี เพราะอยากเก็บไว้เป็นทริป "หนาวนานๆที่น่านนคร" มีรีวิวแน่นอน
ที่พักในเมืองน่านก็มีหลายแบบครับ ทั้งโรงแรม เกสต์เฮ้า โฮมเตย์ก็มี แต่เราเลือกพักที่ ริมสวนเพลส ตั้งอยู่ในซอยสวนหอม ห่างจากถนนใหญ่เลยได้ความเงียบสงบเหมาะแก่การพักผ่อนมากๆ บ้านพักเป็นแบบบ้านไม้ชั้นเดียว ราคาคืนละ 600บาท พักได้ 3คน ตกคนละ 200 เอง
ตกแต่งแบบบ้านสมัยเก่า แต่เครื่องอำนวยความสะดวกครบครัน แอร์ ทีวี ตู้เย็น น้ำอุ่น Wifi พร้อมสรรพ
1 เตียงใหญ่ และ 1 เตียงเล็ก เหมาะสำหรับมาเป็นครอบครัว
อ่อนล้าจากการเดินทาง ตะลุยเที่ยวทั้งวันแล้ว ก็ได้เวลาพักผ่อนเอาแรง เพราะภารกิจพรุ่งนี้ บอกเลย ว่าแน่นเอี๊ยด
สำหรับโปรแกรมวันที่สอง : เที่ยวชิลๆในเมืองน่าน
08.00 ตื่นนอน อาบน้ำแต่งตัว เก็บของขึ้นรถ เช็คเอาท์ออกจากที่พัก
จุดหมายแรกของวันนี้ คือ วัดพระธาตุแช่แห้ง
ตามความเชื่อเรื่องการไหว้พระธาตุพระจำปีเกิดของชาวล้านนา เชื่อว่าคนเกิดปีเถาะมีพระธาตุประจำปีเกิด คือ “พระธาตุแช่แห้ง” แห่งนี้แหละครับ
วัดพระธาตุแช่แห้ง หมู่ 3 บ้านหนองเต่า ตำบลม่วงตี๊ด อำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน ขับรถออกมาขากเมืองน่าน ใช้เส้นทางสายน่าน-แม่จริมเดิม ห่างจากเมืองน่าน ประมาณ 3 กิโลเมตร สามารถปั่นจักรยานมาได้
เป็นวัดราษฎร์ ปัจจุบันเป็นพระอารามหลวง ประดิษฐานอยู่ ณ อำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน องค์พระธาตุตั้งอยู่บนเนินเขาลูกเตี้ย ๆ เป็นสีทองสุกปลั่ง สามารถมองเห็นได้แต่ไกล เนื่องจากสูงถึง 2 เส้น เป็นอนุสรณ์ของความรักและความสัมพันธ์ ระหว่างเมืองน่านกับเมืองสุโขทัยในอดีต
บันไดนาค 2 ตัว คู่กันซึ่งตั้งอยู่ด้านหน้าทางเข้าพระบรมธาตุซึ่งสามารถเห็นวิวทิวทัศน์ของเมืองน่านได้ในบริเวณกว้าง
วิวเมืองน่านมองลงไปจากวัด
สายแล้วพักแวะทานข้าวกัน ขับรถกลับเข้ามาในเมืองอีกรอบ แวะร้านนี้เลยครับ Thingling มีหลายสิ่งให้เลือกทาน ข้าวปลา อาหาร ชา กาแฟ ครบครัน ร้านสวย บรรยากาศดี บริการเป็นกันเองมากๆ ร้านอยู่ในซอยใจผาสุข อยู่ใต้โรงแรมใจผาสุข ตรงข้าม รพ.น่าน
อาหารที่นี่ มาแบบบ้านๆ แบบชาวน่านแต้ๆขนมจีนน้ำเงี้ยว ผัดไท
ร้านสวยน่านั่ง
เจ้าของร้านใจดี
พักทานข้าวเช้าตอนสิบโมงกว่า เดี๋ยวไปเที่ยวกันต่อครับ