เที่ยวหลวงพระบาง ก่อนเข้าพรรษา 2559

ความไฝ่ฝันอย่างหนึ่งคืออยากไปเที่ยวเมืองมรดกโลกอย่างหลวงพระบางสักครั้งในชีวิต อยากไปดูตึกเก่า ดูวัดโบราณ ดูวิถีชีวิต ทำบุญไหว้พระบางซึ่งเป็นพระคู่บ้านคู่เมืองหลวงพระบาง  
         เดือนนี้เวลาลงตัวเลยจัดซะ..เริ่มต้นคิดจะนั่งรถไปซึ่งใช้เวลา 8-12 ชม.จากเมืองเลยหรือจากเวียงจันทร์  แต่..ไม่ไหวแน่แก่แล้ว ไปถึงก็คงป่วยพอดี ไปเครื่องบินดีกว่า
         ตัดสินใจจองตั๋วเครื่องบิน ลาวแอร์ไลน์ โดยดูข้อมูลที่ www.laos-airlines.net/ โดยจะออกเดินทางจากสนามบินวัดไตที่เวียงจันทร์ เที่ยว 11.40 น.ของวันที่ 15 และกลับวันที่ 18 เที่ยวเช้า 07.40 น.โดยการเดินทางใช้เวลา 40 นาที
         ถึงวันเดินทาง ไปถึงด่าน ตม.สพานมิตรภาพไทย-ลาวหนองคาย แปดโมงเช้า ข้ามไปถึงฝั่งลาวประมาณ 8.30 น. แวะซื้อซิมการ์ดลาว เป็นซิมเนต ราคา 100 บาทที่ร้านลาวเทเลคอมตรงทางออกอาคาร ตม.ลาวโดยให้พนักงานเขาเปลี่ยนใส่ให้เลยจากนั้นติดต่อรถตุ๊กๆไปสนามบิน 300 บาท  จาก ตม.ลาวไปสนามบินใช้เวลาประมาณ 30-40 นาที ไปถึงสนามบินวัดไตประมาณ 9 โมงกว่ารอเช็คอิน และขึ้นเครื่อง 11.40 น.ใช้เวลาเดินทาง 40 นาทีก็ถึงสนามบินหลวงพระบาง



          ถึงหลวงพระบางแวะเลิกเงินกีบไว้ใช้ ที่จริงใช้เงินไทยได้ แต่การใช้เงินกีบจะสะดวกกว่า ธนบัตรลาวจะมี 6 อย่างดังรูป



          ออกจากสนามบินซื้อตั๋วเข้าเมืองในราคา 50000 กีบ(แบบเหมาคันประมาณ 200 บาท) เดินทาง 20 นาทีก็ถึงโรงแรม จองโรงแรมกับ Booking.com ที่ mekong moon inn hotel เพราะเห็นว่าอยู่ในทำเลใกล้ที่กินที่ท่องเที่ยวดี เข้าเช็คอินน้องที่โรงแรมเสริฟผลไม้ กับน้ำแตงโมปั่น พร้อมกับให้แผนที่หลวงพระบางมาและอธิบายตำแหน่งที่อยู่ (จุดแดงคืดโรงแรมที่พัก) และสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ



            หลังอาบน้ำเสร็จ บ่ายสาม ถึงเวลาลุยหลวงพระบาง เป้าหมายคือคือพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ หอพระบาง และขึ้นพระธาตุภูสี เดินจากโรงแรมไป 200 เมตรก็ถึง

        



        การเข้าชมพิพิธภัณฑ์ต้องซื้อตั๋วเข้าชม ข้างในเป็นอาคารไม้ คล้ายๆท้องพระโรง แสดงเครื่องใช้ของเจ้ามหาชีวิตองค์สุดท้ายของลาว สวยงามมาก ไม่อนุญาติให้ถ่ายรูปต้องฝากกล้องไว้ล็อกเอกรืก่อนเข้า บริเวณเดียวกันมีหอพระบางซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระบาง พระคู่บ้านคู่เมืองหลวงพระบาง และโรงละครซึ่งเปิดการแสดงเป็นรอบๆ  
       ด้านตรงข้ามพิพิธภัณฑ์เป็นทางขึ้นพระธาตุภูสี ซึ่งเป็นจุดชมวิวหลวงพระบาง 360 องศา



     กลับลงมา ถนนหน้าพิพิธภัณฑ์กำลังตั้งแผงค้าขาย ในช่วงเวลาหัวค่ำไปถึงประมาณ 6 ทุ่ม ที่นี่จะกลายเป็นถนนคนเดิน หรือ ตลาดมืด หรือ Night market นั่งดูเขาจัดแผงและดูนั่งท่องเที่ยวถ่ายรูปเพลินทีเดียว



    ตลาดมืดมีทุกวัน เป็นแหล่งขายของกิน ของที่ระลึก ผ้าพื้นเมือง  ฯลฯ



    ถัดจากถนนคนเดินเป็นย่านกลางคืนของหลวงพระบาง เป็นย่านร้านอาหารเก๋ๆในตึกเก่าอนุรักษ์ เก๋น่านั่ง ถ่ายรูปมาแต่รูปเสียหมด 55



    ตอนเช้าพระจะออกรับบิฑบาตประมาณ ตี 5 .40 น. ก่อนออกจะมีการตีกลองให้สัญญาณ สถานที่ยอดที่นิยมในการใส่บาตของนักท่องเที่ยวจะอยู่ที่สี่แยกตรงถนนคนเดิน มีคนมารอเยอะมาก ข้าวเหนียวสำหรับใส่บาตรจะมีแม่ค้ามาเตรียมไว้ขายพร้อมปูเสื่อให้นั่งสำหรับใส่บาตร




       แต่การใส่บาตรที่ดูมีแบบแผนมากที่สุดจะเป็นที่หน้าวัดใหม่ ใกล้ๆกับพิพิธภัณฑ์ มีการตั้งตั่งนั่ง ปูเสื่อ มีผ้าพาดบ่าให้ แต่พระที่นี่จะไม่เยอะเท่าตรงสี่แยก



หลังจากใส่บาตรเสร็จก็เดินเล่นตลาดเช้าซึ่งอยู่ข้างๆวัดใหม่นั่นเอง

    

สำหรับคนไทยมีร้านยอดนิยมที่คนไทยมักจะมาตอนเช้าคือร้านกาแฟประชานิยม ขายกาแฟ ปาทั่งโก๋ โจ๊ก อยู่ริมน้ำคาน ไม่ไกลจากถนนคน
เดิน



ที่โรงแรมจะมีบริการรถรับส่งไปน้ำตกกวงสีซึ่งห่างจากตัวเมือง 25 กม. ราคาไปกลับ 50000 กีบ ที่น้ำตกมีร้านขายอาหาร เครื่องดื่ม สามารถซื้อเข้าไปกินในอุทยานได้ นักท่องเที่ยวต้องเสียค่าเข้าอุทยาน 20000 กีบ



ระหว่างทางเดินไปน้ำตกจะผ่านศูนย์อนุรักษ์หมี ตัวน้ำตกมีหลายชั้น ชั้นบนสุดไม่ให้นักท่องเที่ยวเล่นน้ำ ชั้นลดลั่นลงมามีนักท่องเที่ยวเล่นน้ำกันจำนวนมาก น้ำใสน่าเล่นมาก



ในเมืองหลวงพระบางมีตึกอนุรักษ์จำนวนมาก บางร้านทำเป็นร้านนวด ร้านอาหาร ร้านกาแฟ เป็นโรงแรม  บรรยากาศน่านั่งมาก



วัดสำคัญที่เป็นเอกลักษณ์ของหลวงพระบางคือวัดเชียงทอง เป็นวัดเก่าแก่มีโบสภ์ที่ได้รับการตกแต่งที่วิจิตรงดงามมาก




   จบแล้วครับ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคร้าบ


แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่