ประสบการณ์ขอวีซ่าท่องเที่ยวอเมริกาที่ประเทศชิลี

จากกระทู้นี้ http://ppantip.com/topic/35407504 ที่เราบอกว่าเราแวะขอวีซ่าอเมริกาที่ประเทศชิลี แล้วผ่าน เลยเอาประสบการณ์มาแชร์ เผื่อแป็นแนวทางให้ผู้ที่สนใจหรือผ่านไปที่ประเทศชิลีแล้วเกิดอยากแวะไปเอมริกาต่อนำไปปรับใช้
เริ่มเลยล่ะกัน เราเคยขอวีซ่าท่องเที่ยวอเมริกา ประมาณเดือนพฤษภาคม ปี 2557 แต่โดนปฏิเสธ โดยทางเจ้าหน้าที่ให้เหตุผลว่า หลักฐานที่นำมาแสดงไม่เพียงพอที่ทำให้เจ้าหน้าที่เชื่อว่าผู้รองขอวีซ่าจะกลับมาภูมิลำเลาเดิม(214B ถ้าจำไม่ผิด) แถมบอกเราอีกว่าให้ขอใหม่เมื่อไหร่ก็ได้ (เราคิดในใจบ้านไม่ได้เป็นธนาคารนะยะ ครั้งล่ะ 160 เหรียญ หึหึ) คำถามที่ก็ทั่วไป ไปไหน ไปเจอใคร รู้จักกันได้ยังไง ไปกี่วัน แล้วก็พิมพ์ แต็กๆๆ ไม่ผ่านครับ555
เราได้มีโอกาสไปเที่ยวแถวอเมริกาใต้พอดีพอดี้ ก็เลยวางแผนว่าจะขอใหม่ที่ประเทศใดประเทศหนึ่งในอเมริกาใต้ ตอนแรกเราจะขอที่เปรู กรอกเอกสารเรียบร้อย ก่อนจ่ายเงินเจ้าหน้าธนาคารบอกห้ไปปรินท์ใบเสร็จมาใหม่ อันนี้ใช้ไม่ได้ เราก็ค้นว่าคิวสัมภาษณ์ในการขอวีซ่าท่องเที่ยวอเมริกาที่เปรู อีกสามเดือนกว่าจะว่าง คุณพระช่วย ที่ไทยเดือนหนึ่งก็ว่านานแล้ว มาเจอที่นี่รอกันเหนียงยานพอดี เราลยล้มเลิกความตั้งใจที่จะขอที่นี่
หลังจากนั้นเราก็เริ่มหาข้อมูลว่าประเทศไหนในอเมริกาใต้ที่คิวรอสัมภาษณ์ไม่นาน หวยก็ออกที่ชิลี ชิลีเป็นประเทศที่อเมริกาให้ฟรีวีซ่าท่องเที่ยว กล่าวคือคนชิลีไปเที่ยวอเมริกาไม่เกิน 6 เดือนไม่ต้องขอวีซ่า คิวสัมภาษณ์เลยว่างทุกวัน พอทราบข้อมูลแล้วเราก็กรอกแบบฟอร์มเลย(DS160) จ่ายเงินปุ๊ปรอสัมภาษณ์วันรุ่งขึ้นเลย
ในแบบฟอร์มที่เรากรอกนั้น เรากรอกไปว่าเราเป็น Homemaker ก็แม่บ้านดีๆนี่แหละค่ะ เพราะเราลาออกจากงานเพื่อไปเที่ยว เราจะไปเที่ยวอเมริกาโดนมีแฟนเป็นสปอนเซอร์ให้ อันนี้สำคัญนะต้องจำรายละเอียดทุกอย่างที่เรากรอกไปในแบบฟอร์มให้ได้ เจ้าหน้าเค้าก็ถามตามที่เราตอบไปนั่นแหละ เค้าจะไม่ถามตรงๆแต่คำตอบที่ให้ไปต้องตรงกลับข้ามูลที่กรอก เช่น ไปอเมริกาจะไปซื้ออะไรหรอ คำตอบที่ตอบต้องหนักแน่นว่าไปเที่ยวไม่ต้องคิดตามว่าตูจะซื้ออะไรว่ะ555 อันนี้จากประสบการณ์รอบแรกที่โดนปฏิเสธเพราะเราตอบไม่รู้เรื่องด้วยแหละ
พอถึงวันสัมภาษณ์เราไปก่อนเวลาประมาณสิบนาที สิ่งที่เราไม่คิดว่าเราจะเห็นคือ ไม่มีแถวหน้าสถานทูตเลย ไม่มีแม้กระทั่งตำรวจยืนข้างหน้า เริ่มคิดและ นี่กรุมาถูกที่รึเปล่าว่ะ แฟนเราก็บอกว่าถูกๆมันโชว์อยู่แผนที่ พอเราเดินเข้าไปใกล้ประตูก็มีเจ้าหน้ามาทำตามกระบวนกานทั่วไปก่อนเข้าสถารทูต

เราใส่ชุดนี้ไปวันสัมภาษณ์ กลัวเจ้าหน้าที่ไม่เชื่อว่าเราจะเที่ยวจริงๆ ยังงงงๆอยู่เลยว่าเค้าปลอ่ยให้เข้าไปได้ยังไง555
ที่นี่เค้าไม่มีตรวจเอกสารก่อนเข้าเหมือนที่ไทย พอเข้าไปข้างในแล้วก็มีเจ้าหน้าที่ผู้หญิงหนึ่งคนเอาพาสเปอร์ตสแกน หลังจากนั้นก็นั่งรอประมาณ 15 นาที ข้างหน้ามีจอมอนิเตอร์ให้คนที่รอสัมภาษณ์เช็คว่าได้ไปที่ช่องไหน เจ้าหน้าผู้ชายที่เราแอบลุ้นให้สัมภาษณ์เราก็เรียกเรา โชคดีแท้(ตอนนั่งรอแอบมองเจ้าหน้าที่ผู้หญิงช่องถัดไปแบบโหด)
พอเราเดินไปถึงช่องสัมภาษณ์ แกก็ขอตัวไปกิน แต่เรามองไปข้างหลังเห็นไปยืนเมาท์กับเจ้าหน้าที่คนอื่นเฉยเลย(ข้างในบรรยากาศผ่อนคลายมาก ไม่เหมือนที่ไทยรู้สึกได้ถึงความกดดันระดับ10) ไม่นานเจ้าหน้าที่ก็เดินกลับมาแล้วถามเราว่า (บทสนทนาภาษอังกฤษ)
จนท : จะไปอเมริกาหรอ
เรา : ใช่ค่ะ
จนท :  แล้วนี่ขี่มอเตอร์ไซค์มากี่เดือนแล้ว(ในแบบฟอร์มเรากรอกไปว่าเราขี่มอเตอร์ไซค์จากที่นี่ไปอเมริกา)
เรา : ประมาณสามเดือน
จนท :  แล้วทำงานอะไร
เรา : เป็นแม่บ้านค่ะ
จนท :  แล้วจะผ่านเวเนซุเอล่ายังไง(นั่นไงอย่างที่เราบอก จนท เค้ามีวิธีถามจับโกหก จากที่นี่ไปอเมริกาไม่ผ่านเวเนซุเอล่าก็ได้ ถ้าเราข้อมูลไม่แน่นพอหรือโกหก อาจไปไต่อม่เป็นเลย)
เรา : ถ้าจะเข้าก็ต้องขอวีซ่าก่อน แต่คิดๆไว้ไม่ผ่านไปดีกว่ามีแต่คนบอกอันตราย
จนท : แล้วเอาเงินที่ไหนเที่ยว
เรา : แฟนออกให้ (กำลังจะยื่นเอกสาร แต่ จนท บอกไม่ต้องๆ)
จนท : จากโบลิเวียมาชิลีใช้ทางหลวงหมาย 5 รถเยอะไหม (อันนี้ก็จับโกหก เพราะมันไม่มีหรอกทางหลวงหมายเลข 5)
เรา : ขี่บนถนนลูกรังจนเข้าเขตชิลี ไม่รู้ว่ามีทางหลวงหมายเลข 5
จนท : เคยใช้พาสปอร์ตอีกเล่มขอวีซ่าอเมริกา มีพาสปอร์ทอันนั้นมาด้วยไหม
เรา : ไม่ได้เอามา มันหมดอายุแล้ว
หลังจากนั้น จนท ก็พิมพ์ แต็กๆๆๆๆๆๆๆ นานมากสำหรับเรา เราเลยถามว่า มีอะไรจะถามอีกไหม ต้องการข้อมูลอะไรอีกหรือเปล่า จนท ก็บอก ไม่ๆ ที่พิมพ์อยู่นี่จะให้วีซ่า ไม่ต้องกงวล ฮา พอ จนท พิมพ์เสร็จก็ว่าพาสปอร์ทพร้อมวีซ่าจะส่งที่ศูนย์ DHL ตามแบบฟอร์มที่เรากรอกไป ภายใน 4 วัน ไปรับได้เลย ตอนนั้นดีใจมาก แต่ต้องเก็บอาการ555 ก่อนเราออกไปเราแอบดูคนที่สัมภาษณ์ต่อจากเรา เหมือนขอวีซ่านักเรียน จนท คนเดียวกันกับเรา เราได้ยิน จนท บอกผู้หญิงคนนั้นว่า เอกสารฉบับนี้ใช้ไม่ได้ ให้ทางโรงเรียนออกให้ใหม่ เอากลับมาให้ที่สถานทูตตอนบ่าย เราได้ยินแบบนั้นหูผึ่งเลย โหววว ดีอะไรขนาดนี้ให้เอาหลักฐานมาส่งเพิ่มได้อีกตอนบ่าย บ่ะถ้าเป็นที่ไทยนิจบเลยขอใหม่อย่างเดียว
เรื่องทั้งหมดมันก็มีแค่นี้แหละค่ะ หวังว่าคงเป็นประโยชน์นะคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่