ย่างเข้าเดินห๊กฝนก็ตกพร่ำ กบมันร้องงึงงำ
พอเข้าช่วงหน้าฝนและเทศกาลเข้าพรรษาเป็นช่วงของดอกไม้แห่งวสีนตฤดูจะแบ่งบาน
เราเองมีโอกาศได้หยุดยาวในช่วงเทศกาลนี้จึง ขอติดสอยห้อยตามพ่อแม่ และ ญาติๆ ไปทำบุญเขาพรรษาที่ชัยภูมิ บ้านของน้าเขยเรา
แต่เรื่องมันมีอยุ่ว่า !! พวกเขาจะไปทำบุญวันเขาพรรษากัน ในใจเราหยุดยาวทั้งที่ก็อยากจะอยุ่บ้านนิ่งๆ
จะนอนพัก นอนแผ่หรา ทำตัวให้อยุ่ระนาบเดี่ยวกับแกนโลกแบบไม่ขยับ มันจะนิ่งกว่านี้ถ้าพี่สาวและน้องสาวตัวฉนวนทำให้ไม่ไปเอา
เพจ Chaiyaphum City : ชัยภูมิ เมืองต้องห้ามพลาด มาให้เราดู
ปั๊ดโถ๊เอ้ย มันแจ้งเตือนทุกวันและ ทำให้รู้ว่ามันไม่ได้มีดีแค่ดอกกระเจียว มันมีหมอก มันมีหน้าผาด้วย
ไอ้เราเดิมที่ก็เป็นคนชอบถ่ายรูปอยุ่แล้ว ไม่มีอะไรเสียหาย ไปก็ไป แถมไปกับพ่อกับแม่แล้ว ยิ้มมุมปากเลยว่าสบายกระเป๋าชัวววววว
และเป็นการไปเที่ยวเขาครั้งแรกที่ชัยภูมิ อยากจับหมอกอยากหยิบหมอกมากิน อยากรู้ว่ามันจะเหมือนสายไหมอยุธยา หรือป่าวนะ
นี้เป็นกระทู้ที่สองหลังจาก ครั้งที่แล้วรีวิวการเดินทางไปเยียวยาแผลใจที่เสม็ด พักใจให้ทะเลเลียแผล
http://ppantip.com/topic/34629817/comment5
มาครั้งนี้ไม่ต้องเลียแผลใจแล้ว ขอแบกเป้แบบสบายสบาย เที่ยวตามผา ล่าดอกกระเจียบบาน
ต้องขออภัยและขอโทษตั้งแต่ต้นกระทู้เลยนะครับ เพราะเรื่องที่พักผมไม่สามารถแนะนำได้
เนื่องจากทริปนี้ไปพักบ้านน้าเขย ได้เอาแต่ภาพบรรยากาศ การอยุ่การกินการใช้ชีวิตแบบบ้าน
และลายละเอียดสถานที่เที่ยวมาฝาก
DAY 1
เริ่มต้นการเดินทางที่เวลา 11.30 วิ่งออกจากสมุทรปารการขึ้นทางด่วนกาญจนาภิเษก เข้าบางประอิน
เดินทางตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1 ผ่านจังหวัดสระบุรีไปยังสามแยกพุแค แล้วเลี้ยวขวา
ไปตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 21 ไปยังบ้านลำนารายณ์ จากนั้นเลี้ยวขวาไปตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 205
เส้นทางลำนารายณ์-ลำสนธิ-เทพสถิต-หนองบัวโคก-นครราชสีมาเดินทางจากบ้านลำนารายณ์ประมาณ 48 กิโลเมตร
ก่อนถึงที่ทำการอำเภอเทพสถิตประมาณ 1 กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายไปอำเภอหนองบัวระเหว ตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2354
ระยะทางประมาณ 15 กิโลเมตร ถึงทางแยกซ้ายมือเข้าบ้านไร่ ใช้ระยะทางอีกประมาณ 14 กิโลเมตร
ก็จะถึงที่ทำการอุทยาน จะมีป้ายบอกตลอดทาง
ปลายทางเป็น อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม ผมตั้ง GPS เลยครับเพราะเส้นทางเราก็ไม่มั่นใจเหมือนกัน
วันนี้รถออก ตจว. ค่อนข้างเยอะ
ประมาณ 17.30 ก็ถึง ชัยภูมิ อ.เทพสถิตย์ ตอนแรกว่าขึ้นไปดูพระอาทิตย์ตกดินก่อน แต่อุทยานเค้าปิด เข้าไม่ได้เลยต้องไปหาที่พักก่อน
เวลา เปิด-ปิด เยี่ยมชมอุทยาน 6.00 - 18.00 เท่านั้น คนขายของแถวนั้นแอบกระซิบมา สามารถมาพักกลางเต้นท์ในอุทยานได้อยุ่
ถ้าไม่นอนเต้นท์ก็ไปหาที่พักเอาแถวนี้ พรุ้งนี้ค่อยมาใหม่
คนส้วนใหญ่เค้าต่อคิวขึ้นอุทยานกันแต่เช้ามืด ตี 5 นี้เค้ามาต่อแถวกันแล้วนะ
ได้ยินตามนั้นเราก็ตะเวนหาที่พักใกล้ๆทางเข้านั้นแหละ สุดท้าย บริเวณทางขึ้นอุทยานป่าหินงาน เต็มหมดเลย
ใกล้ๆหน่อยก็เต็มหมดแต่ราคาประมาน 1500 - 2000 หมดเลย
เราเลยหาที่พักไกลจากอุทยานออกมาหน่อยแต่ไม่ไกลมาก ได้นอนที่บ้านพัก คุณลุงเทพสถาพร คืนละ 500 บาท
เป็นบ้านพักไม้ธรรมดาๆ มีเตียง ห้องน้ำ พัดลมแค่นั้น ได้ฟิวแบบบ้านป่ามากๆ
และนี้คือรูปที่พักที่ถ่ายได้ก่อนไฟจะดับ พระเดจพระคุณ คืนนี้จะรอดมั๊ยเนี้ย
แต่ไม่ต้องกังวนเลย อากาศเย็นสบายมาก อากาศเย็นอ่อนๆ หลอนๆ ดีครับคุณผู้ชม (เสียงในรายการมาเอง)
พักเอาแรง หากับข้าวกับปลาสักหน่อยแล้วกัน
DAY 2
เรานัดเจอกับพี่เราไว้ที่หน้าทางเข้าอุทยานป่าหินงามไว้ประมาณตี 05.30
พี่เราออกจาก กรุงเทพฯ ประมานตี 01.30 ถึงหน้าทางเข้าอุทยานประานตี 5 กมว่า คือแบบว่าไวกว่าเราเยอะ
เอาหละ 05.50 เจ้าหน้าที่เริ่มปล่อยให้รถยนต์ทยอยเข้าไปจอดในพื้นอุทยานได้
มาเช้ามีสิทธิ์ก่อน เพราะสามารถนำรถเข้ามาได้ประมาน 300 คันเท่านั้น แต่มันไม่ได้ไกลเลย
พอขับเข้ามาประมาน 100 เมตร ก็ถึงประตูเข้า เข้าจะรู้ว่าคนจะเยอะขนาดนี้ นี้แค่พึ่งเปิดนะ
คนมารอกันซื้อบัตรเข้าเยี่ยมชมอุทยาน
ค่าบัตรเข้าคนละ 50
ค่าจอดรถคันละ 30
ค่ารถรางพาวนรอบอุทยาน พาไปยังจุดต่าง 30 บาท
และแล้วก็ได้มาอยุ่ในมือ รีบเดินไปขึ้นรถรางกันเถอะ
นั้นไงรถรางพาทัวร์ของเรา และนั้นพ่อเรา แม่เรา ย่าเรา น้องสาว น้าเขยเรา และพี่สาวเรา ไปยืนรอคิวขึ้นรถ
เรื่องรถนี้ไม่ต้องรีบนะครับ เพราะไม่จำเป็นต้องขึ้นคันเดิมก็ได้ จะอยุ่จุดไหนนานๆก็ได้
เพราะจะมีรถ วิ่งวนไปเรื่อย ทุกๆ 15 นาที
พร้อมไหมจร้าทุกคนนนนนนนนน พอคนเต็มรถทันที ล้อก็หมุนทันใด
แต่ว่าไหม มันเหมือนทัวร์ซาฟารีเวิลด์เลย 5555+
และนี้คือบรรยากาศระหว่างทางขึ้นไปยังผาสุดแผ่นดิน
พื้นนี้มีแต่มอสสสส เขียวไปทั้งป่าเลย สดชื่นดีนะ
ต่อจากจุดนี้เราต้องเดินต่อไปเองอีกนิดหน่อยก็ถึงจุดที่ เรียกว่าผาสุดแผ่นดินแล้วครับ
คนเยอะมากจริงๆ ช่วงเทศกาลแบบนี้ ใครๆก็อยากเที่ยว
นี้คือมวลมหาประชาชนที่แห่แหนกันมาดูดอกกนะเจียวบาน แต่จากตรงที่เราเดินขึ้นไปอีกประมาณ 50 เมตร
ก็ถึงจุดที่ เรียกว่าผาสุดแผ่นดินแล้วครับ เป็นจุดชมวิวที่สูงที่สุดของป่าหินงาม
เป็นหน้าผา ที่คนรอถ่ายรูปเยอะมากเลยครับ จุดนี้จะอยุ่สูงกว่าระดับน้ำทะเลประมาน 846 เมตร
และนี้ก็คือจุดแลนด์มาร์ค ของป่าหินงามเลยก็ว่าได้ เพราะคนยืนต่อคิวถ่ายรูปกันเยอะมาก
ลักษณะเหมือนเป็นหินยื่นๆ ออกไป เป็นผา
จุดนี้เค้าเรียกว่า ผาสุดแผ่นดิน
การจะทำใจไปยืนในจุดนั่นมันไม่ง่ายเลยที่เดียว
ทุลักทุเลสุดๆ มีคนยืนต่อคิว ถอดใจไปก็หลายคนเหมือนกัน
ส่วนตัวเราหนะเหรอไปทั้งที่ จัดสิ ได้ยินเสียงตามหลังของย่าๆยายๆ มันจะโต๊กกกก มันจะตก #เสียงสูง
จะมาคนเดียวหรือเซลฟี่คู่ก็ไม่หวั่น
กลั้นใจยิ้มสุด แต่วิวมันก็สวยสุด ถ้าไม่มีคนต่อแถวนะ จะนั่งมันทั้งวันเลย
อยากหายใจเอาโอโซน กลับไป กทม เยอะ
ลองเดินไปเรื่อยตามหน้าผาหนีความวุ่นวาย ว่าไปวิวก็สวยไม่ต่างกันนะ ลมเย็นดี
อากาศฃ่วงเช้าค่อนข้างเย็นแต่ไม่ถึงกับหนาว
ไม่มีหมอกเลยเสียดายไม่จับหมอกกับเค้า
ปะเราไปจุดต่อไปกันเถอะ เดินลงย้อนกลับมาทางที่เดิม ตรงที่เราลงรถในตอนแรก
ยืนรอรถราง พาเราทัวร์ไปยังจุดต่อไป
จุดต่อไปที่เราจะไปก็คืนจุดชมดอกกระเจียวจุดที่ 1
เป็นสะพานเดิน วนไปวนมา ในทุ่งดอกกระเจียว
โอ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
เจ้าพระคุณรุนช่อง คุณกิตติค่ะ อิฉันเจอดอกกระเจียวแล้ว แล้วค่ะ
สถานะการณ์ตอนนี้ตึงเครียดมาคะคุณกิตติ เนืองจากดอกกระเจียวมันยังไม่บาน และมีแค่ดอกเดียวเท่านั้น
แดดยังไม่ร้อนเท่าไรสู้ตาย
เรามาเดินตามทางไปเรื่อยๆดูว่าเราจะเจออีกไหม
ในขณะที่เราตามหาดอกกระเจียวบาน นักท่องเที่ยวเริ่มเข้ามาเยอะขึ้นเรื่อยๆ
เจออีกแล้ว มันไม่ได้มามีดอกเดียวอย่างที่คิด คะคุณกิตติค่ะ
มาดูใกล้ๆกันบ้าง ว่ามันเป็นแบบนี้เองหรอ เจ้าดอกกระเจียว
ปะ ปะ ปะ กลับกันเถอะ ไปจุดต่อไปเดียวคนจะเยอะ
และนี้ทางเดินกลับ ทำไมรู้สึกมันไกลจังแหะ
แต่พอมองรวมๆ เหมือนหญ้าจะเยอะกว่าดอกกระเจียว ที่เห็นสีชมพูเล็กๆนั้นดอกกระเจียวนะนั้น
B : เองว่าพี่ถ่ายรูปท่าไหนดี
F : ไม่รู้โว้ยยยยย
B : เองทายว่า ท่านี้ ท่าอะไร
F : ท่าจะบ้า สิไม่ว่า ไปเล่นตรงโน้นเลย
B :ถูกต้องนะครับบบบบบบบบบบบบบบบบบบ
พอเถอะแล้วเราไปจุดต่อไปกัน เจ้าหน้าที่พาเราไปยังจุดกำเนิดหินงาม
และนี้คือจุดแวะอีจุดหนึ่งในอุทยาน ผาหินงาม มีก้อนหินประปราย หินท้องหินใหญ่
นอกจากหินแล้ว ก็ยังมีดอกกระเจียว ขึ้นตามทางเดินชมเหมือนกันนะ
พอดอกกระเจียวมันบานรวมๆกัน มันก็สวยอยุ่นะ
พอมองออกไปยังจุดรอรถคนต่อแถวเยอะมาก เราก็ถ่ายรูปรอละกัน
พลัดกันถ่ายบ้าง
[CR] ll ชัยภูมิ ll • แบกเป้ขึ้นรถพ่อ ไปชมดอกกระเจียวเที่ยวชัยภูมิ •
พอเข้าช่วงหน้าฝนและเทศกาลเข้าพรรษาเป็นช่วงของดอกไม้แห่งวสีนตฤดูจะแบ่งบาน
เราเองมีโอกาศได้หยุดยาวในช่วงเทศกาลนี้จึง ขอติดสอยห้อยตามพ่อแม่ และ ญาติๆ ไปทำบุญเขาพรรษาที่ชัยภูมิ บ้านของน้าเขยเรา
จะนอนพัก นอนแผ่หรา ทำตัวให้อยุ่ระนาบเดี่ยวกับแกนโลกแบบไม่ขยับ มันจะนิ่งกว่านี้ถ้าพี่สาวและน้องสาวตัวฉนวนทำให้ไม่ไปเอา
เพจ Chaiyaphum City : ชัยภูมิ เมืองต้องห้ามพลาด มาให้เราดู
ปั๊ดโถ๊เอ้ย มันแจ้งเตือนทุกวันและ ทำให้รู้ว่ามันไม่ได้มีดีแค่ดอกกระเจียว มันมีหมอก มันมีหน้าผาด้วย
ไอ้เราเดิมที่ก็เป็นคนชอบถ่ายรูปอยุ่แล้ว ไม่มีอะไรเสียหาย ไปก็ไป แถมไปกับพ่อกับแม่แล้ว ยิ้มมุมปากเลยว่าสบายกระเป๋าชัวววววว
และเป็นการไปเที่ยวเขาครั้งแรกที่ชัยภูมิ อยากจับหมอกอยากหยิบหมอกมากิน อยากรู้ว่ามันจะเหมือนสายไหมอยุธยา หรือป่าวนะ
นี้เป็นกระทู้ที่สองหลังจาก ครั้งที่แล้วรีวิวการเดินทางไปเยียวยาแผลใจที่เสม็ด พักใจให้ทะเลเลียแผล
http://ppantip.com/topic/34629817/comment5
มาครั้งนี้ไม่ต้องเลียแผลใจแล้ว ขอแบกเป้แบบสบายสบาย เที่ยวตามผา ล่าดอกกระเจียบบาน
ต้องขออภัยและขอโทษตั้งแต่ต้นกระทู้เลยนะครับ เพราะเรื่องที่พักผมไม่สามารถแนะนำได้
เนื่องจากทริปนี้ไปพักบ้านน้าเขย ได้เอาแต่ภาพบรรยากาศ การอยุ่การกินการใช้ชีวิตแบบบ้าน
และลายละเอียดสถานที่เที่ยวมาฝาก
เดินทางตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1 ผ่านจังหวัดสระบุรีไปยังสามแยกพุแค แล้วเลี้ยวขวา
ไปตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 21 ไปยังบ้านลำนารายณ์ จากนั้นเลี้ยวขวาไปตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 205
เส้นทางลำนารายณ์-ลำสนธิ-เทพสถิต-หนองบัวโคก-นครราชสีมาเดินทางจากบ้านลำนารายณ์ประมาณ 48 กิโลเมตร
ก่อนถึงที่ทำการอำเภอเทพสถิตประมาณ 1 กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายไปอำเภอหนองบัวระเหว ตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2354
ระยะทางประมาณ 15 กิโลเมตร ถึงทางแยกซ้ายมือเข้าบ้านไร่ ใช้ระยะทางอีกประมาณ 14 กิโลเมตร
ก็จะถึงที่ทำการอุทยาน จะมีป้ายบอกตลอดทาง
ปลายทางเป็น อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม ผมตั้ง GPS เลยครับเพราะเส้นทางเราก็ไม่มั่นใจเหมือนกัน
วันนี้รถออก ตจว. ค่อนข้างเยอะ
ประมาณ 17.30 ก็ถึง ชัยภูมิ อ.เทพสถิตย์ ตอนแรกว่าขึ้นไปดูพระอาทิตย์ตกดินก่อน แต่อุทยานเค้าปิด เข้าไม่ได้เลยต้องไปหาที่พักก่อน
เวลา เปิด-ปิด เยี่ยมชมอุทยาน 6.00 - 18.00 เท่านั้น คนขายของแถวนั้นแอบกระซิบมา สามารถมาพักกลางเต้นท์ในอุทยานได้อยุ่
ถ้าไม่นอนเต้นท์ก็ไปหาที่พักเอาแถวนี้ พรุ้งนี้ค่อยมาใหม่
คนส้วนใหญ่เค้าต่อคิวขึ้นอุทยานกันแต่เช้ามืด ตี 5 นี้เค้ามาต่อแถวกันแล้วนะ
ได้ยินตามนั้นเราก็ตะเวนหาที่พักใกล้ๆทางเข้านั้นแหละ สุดท้าย บริเวณทางขึ้นอุทยานป่าหินงาน เต็มหมดเลย
ใกล้ๆหน่อยก็เต็มหมดแต่ราคาประมาน 1500 - 2000 หมดเลย
เราเลยหาที่พักไกลจากอุทยานออกมาหน่อยแต่ไม่ไกลมาก ได้นอนที่บ้านพัก คุณลุงเทพสถาพร คืนละ 500 บาท
เป็นบ้านพักไม้ธรรมดาๆ มีเตียง ห้องน้ำ พัดลมแค่นั้น ได้ฟิวแบบบ้านป่ามากๆ
แต่ไม่ต้องกังวนเลย อากาศเย็นสบายมาก อากาศเย็นอ่อนๆ หลอนๆ ดีครับคุณผู้ชม (เสียงในรายการมาเอง)
พักเอาแรง หากับข้าวกับปลาสักหน่อยแล้วกัน
พี่เราออกจาก กรุงเทพฯ ประมานตี 01.30 ถึงหน้าทางเข้าอุทยานประานตี 5 กมว่า คือแบบว่าไวกว่าเราเยอะ
เอาหละ 05.50 เจ้าหน้าที่เริ่มปล่อยให้รถยนต์ทยอยเข้าไปจอดในพื้นอุทยานได้
มาเช้ามีสิทธิ์ก่อน เพราะสามารถนำรถเข้ามาได้ประมาน 300 คันเท่านั้น แต่มันไม่ได้ไกลเลย
พอขับเข้ามาประมาน 100 เมตร ก็ถึงประตูเข้า เข้าจะรู้ว่าคนจะเยอะขนาดนี้ นี้แค่พึ่งเปิดนะ
คนมารอกันซื้อบัตรเข้าเยี่ยมชมอุทยาน
ค่าบัตรเข้าคนละ 50
ค่าจอดรถคันละ 30
ค่ารถรางพาวนรอบอุทยาน พาไปยังจุดต่าง 30 บาท
และแล้วก็ได้มาอยุ่ในมือ รีบเดินไปขึ้นรถรางกันเถอะ
นั้นไงรถรางพาทัวร์ของเรา และนั้นพ่อเรา แม่เรา ย่าเรา น้องสาว น้าเขยเรา และพี่สาวเรา ไปยืนรอคิวขึ้นรถ
เรื่องรถนี้ไม่ต้องรีบนะครับ เพราะไม่จำเป็นต้องขึ้นคันเดิมก็ได้ จะอยุ่จุดไหนนานๆก็ได้
เพราะจะมีรถ วิ่งวนไปเรื่อย ทุกๆ 15 นาที
พร้อมไหมจร้าทุกคนนนนนนนนน พอคนเต็มรถทันที ล้อก็หมุนทันใด
แต่ว่าไหม มันเหมือนทัวร์ซาฟารีเวิลด์เลย 5555+
และนี้คือบรรยากาศระหว่างทางขึ้นไปยังผาสุดแผ่นดิน
พื้นนี้มีแต่มอสสสส เขียวไปทั้งป่าเลย สดชื่นดีนะ
นี้คือมวลมหาประชาชนที่แห่แหนกันมาดูดอกกนะเจียวบาน แต่จากตรงที่เราเดินขึ้นไปอีกประมาณ 50 เมตร
ก็ถึงจุดที่ เรียกว่าผาสุดแผ่นดินแล้วครับ เป็นจุดชมวิวที่สูงที่สุดของป่าหินงาม
เป็นหน้าผา ที่คนรอถ่ายรูปเยอะมากเลยครับ จุดนี้จะอยุ่สูงกว่าระดับน้ำทะเลประมาน 846 เมตร
และนี้ก็คือจุดแลนด์มาร์ค ของป่าหินงามเลยก็ว่าได้ เพราะคนยืนต่อคิวถ่ายรูปกันเยอะมาก
ลักษณะเหมือนเป็นหินยื่นๆ ออกไป เป็นผา
จุดนี้เค้าเรียกว่า ผาสุดแผ่นดิน
การจะทำใจไปยืนในจุดนั่นมันไม่ง่ายเลยที่เดียว
ทุลักทุเลสุดๆ มีคนยืนต่อคิว ถอดใจไปก็หลายคนเหมือนกัน
ส่วนตัวเราหนะเหรอไปทั้งที่ จัดสิ ได้ยินเสียงตามหลังของย่าๆยายๆ มันจะโต๊กกกก มันจะตก #เสียงสูง
จะมาคนเดียวหรือเซลฟี่คู่ก็ไม่หวั่น
กลั้นใจยิ้มสุด แต่วิวมันก็สวยสุด ถ้าไม่มีคนต่อแถวนะ จะนั่งมันทั้งวันเลย
อยากหายใจเอาโอโซน กลับไป กทม เยอะ
ลองเดินไปเรื่อยตามหน้าผาหนีความวุ่นวาย ว่าไปวิวก็สวยไม่ต่างกันนะ ลมเย็นดี
อากาศฃ่วงเช้าค่อนข้างเย็นแต่ไม่ถึงกับหนาว
ไม่มีหมอกเลยเสียดายไม่จับหมอกกับเค้า
ปะเราไปจุดต่อไปกันเถอะ เดินลงย้อนกลับมาทางที่เดิม ตรงที่เราลงรถในตอนแรก
ยืนรอรถราง พาเราทัวร์ไปยังจุดต่อไป
จุดต่อไปที่เราจะไปก็คืนจุดชมดอกกระเจียวจุดที่ 1
เป็นสะพานเดิน วนไปวนมา ในทุ่งดอกกระเจียว
โอ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
เจ้าพระคุณรุนช่อง คุณกิตติค่ะ อิฉันเจอดอกกระเจียวแล้ว แล้วค่ะ
สถานะการณ์ตอนนี้ตึงเครียดมาคะคุณกิตติ เนืองจากดอกกระเจียวมันยังไม่บาน และมีแค่ดอกเดียวเท่านั้น
แดดยังไม่ร้อนเท่าไรสู้ตาย
เรามาเดินตามทางไปเรื่อยๆดูว่าเราจะเจออีกไหม
ในขณะที่เราตามหาดอกกระเจียวบาน นักท่องเที่ยวเริ่มเข้ามาเยอะขึ้นเรื่อยๆ
เจออีกแล้ว มันไม่ได้มามีดอกเดียวอย่างที่คิด คะคุณกิตติค่ะ
มาดูใกล้ๆกันบ้าง ว่ามันเป็นแบบนี้เองหรอ เจ้าดอกกระเจียว
ปะ ปะ ปะ กลับกันเถอะ ไปจุดต่อไปเดียวคนจะเยอะ
และนี้ทางเดินกลับ ทำไมรู้สึกมันไกลจังแหะ
แต่พอมองรวมๆ เหมือนหญ้าจะเยอะกว่าดอกกระเจียว ที่เห็นสีชมพูเล็กๆนั้นดอกกระเจียวนะนั้น
B : เองว่าพี่ถ่ายรูปท่าไหนดี
F : ไม่รู้โว้ยยยยย
B : เองทายว่า ท่านี้ ท่าอะไร
F : ท่าจะบ้า สิไม่ว่า ไปเล่นตรงโน้นเลย
B :ถูกต้องนะครับบบบบบบบบบบบบบบบบบบ
พอเถอะแล้วเราไปจุดต่อไปกัน เจ้าหน้าที่พาเราไปยังจุดกำเนิดหินงาม
และนี้คือจุดแวะอีจุดหนึ่งในอุทยาน ผาหินงาม มีก้อนหินประปราย หินท้องหินใหญ่
นอกจากหินแล้ว ก็ยังมีดอกกระเจียว ขึ้นตามทางเดินชมเหมือนกันนะ
พอดอกกระเจียวมันบานรวมๆกัน มันก็สวยอยุ่นะ
พอมองออกไปยังจุดรอรถคนต่อแถวเยอะมาก เราก็ถ่ายรูปรอละกัน
พลัดกันถ่ายบ้าง