(ขอบคุณครับ ความคิดเห็นที่ 5
"ดูท่าว่ายังไม่ลึกถึงธุรกิจMLMจริงๆ
ที่คุณทำแผนนั้นมันแค่ธุรกิจเบสิกธรรมดา กำไรเผื่อไว้สำหรับสิ่งที่เรีนกว่าเซลล์แมนก็แค่นั้น มันห่างกับ MLM เยอะครับ"
ขอบคุณครับ คำตอบ ตรงๆ และ โดนใจเลยครับ)
ความคิดเห็นของคุณ ทำให้ผมมองว่า การบริหารร้านค้า ไม่จำเป็นต้องเอาระบบ MLM มาประยุกต์ก็ได้ เอาแค่ เป็นร้านค้าที่เก็บสต๊อกสินค้าที่มีคนซื้อคนใช้จริงๆ เป็นสหกรณ์ร้านค้าเล็กๆ เวลาใครมาซื้อสินค้าก็ให้แต้มสะสมเขา และถามด้วยว่า รู้จักร้านค้ายังไงใครแนะนำมา ถ้าเขารู้จักและบอกว่ามีใครแนะนำมา และคนผู้นั้น เป็นลูกค้าสมาชิกเดิมอยู่ด้วยแล้ว เราก็ให้แต้มสะสมกับเขาด้วย การเฉลี่ยแต้ม จะขึ้นอยู่กับความใกล้ชิด กับคนที่ซื้อสินค้าชิ้นนั้น ในขณะนั้น
และผมสามารถที่จะลดการใช้งาน ระบบ ไอที ลงไปได้เยอะเลย แค่มีคอมพิวเตอร์ ที่เก็บโปรแกรม ระบบสมาชิกและผู้แนะนำสมาชิกและคำนวนแต้มสะสมไว้ที่ร้านค้า และหน้าเว็บแนะนำกิจการและบริการที่ใช้เฟสบุ๊ก หรือ บล็อกเกอร์ฟรี ต่างๆ
=========================================================================================================
ทดลองเขียนแผนธุรกิจเครือข่าย เพื่อน ๆ ว่าแผนธุรกิจแบบนี้ จะทำได้ไหม ยุติธรรม กับสมาชิกในเครือข่ายไหม
ในโลกนี้ มีธุรกิจเครือข่าย(MLM) ที่ไหน ที่ไม่เก็บค่าสมัครสมาชิก และค่าคงสภาพสมาชิกรายเดือนการทำงานเพียงแค่ว่า ซื้อใบปลิวแนะนำสินค้าอธิบายรายละเอียดการใช้งานสินค้า และสามารถที่จะทำการสำเนาถ่ายเอกสารใบปลิว
เองได้ หากใบปลิวที่เคยซื้อจากบริษัทหมด หน้าที่ของเราเพียง แค่ขอให้เขาเป็นสมาชิกต่อจากเรา ให้เขารู้ว่า บริษัทที่เราเป็นเครือข่ายมีสินค้าอะไรบ้าง แล้วหลังจากนั้น ก็ไม่รู้วันไหน ต้องมีสักวัน ที่เขาจะซื้อสินค้าในเครือบริษัทของเรา
วันนั้นเราจะได้รับผลตอบแทน จากการที่เคยไปแนะนำ เกี่ยวกับสินค้า และบริการต่างๆของบริษัท ... ใช้ใบปลิวแนะนำ ในการทำการตลาด หรือบล็อกเกอร์เว็บไซต์ฟรี ในการแนะนำสินค้า โดยไม่ต้องสูญเสียค่าใช้จ่ายที่มากมายจนเกิน
ไป เพื่อเป็นค่าไฟฟ้าและค่าเช่าพื้นที่บริการอินเตอร์เน็ต และค่าจ้างลูกน้องออฟฟิต ถ้ามีเอกสารใหม่ๆอะไร ที่จะแนะนำบุคคลในเครือข่ายก็จะทำเป็นไฟล์ PDF ให้เขาไปโหลด แล้วพิมพ์เองใส่กระดาษเอา โดยไม่จำเป็นต้องมาสั่งซื้อ
ใบปลิวจากศูนย์อีก
สินค้าเป็นที่ยอมรับและมีประโยชน์จริงต่อพี่น้องชาวโลก จริงๆใช้งานได้ทุกวัน ในชีวิต
ประจำวัน (เมื่อไม่มีค่าใช้จ่ายในการจ่ายค่าน้ำค่าไฟให้กับหน่วยงานที่ไหนอีก ก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเก็บค่าสมัครแรกเข้าของสมาชิก และค่ารักษาสภาพสมาชิกในแต่ละเดือนอีก ตัวผมเองทำหน้าที่ออกแบบสินค้า และค้นหาวัตถุ
ดิบที่ต้นทุนน้อยที่สุด แต่ไม่ได้เป็นศูนย์กลางของเครือข่ายทางอินเตอร์เน็ต(Serverกลาง) เพราะสมัยนี้มีเว็บไซต์ใจดี ที่จะให้เราสามารถฝากไฟล์ PDF แนะนำสินค้าและบริการได้ เป็นการลดต้นทุนการทำงาน ออนไลน์ทั้งหมด ส่วน
คนที่ไม่มีอินเตอร์เน็ตรายเดือนที่จะเข้าใช้ได้ทุกวัน จะนานๆครั้งไปใช้บริการที่ร้านอินเตอร์เน็ต และเข้าเว็บไซต์บล็อกเกอร์ฟรีของผม หรือเพื่อนๆคนอื่นในเครือข่ายเพื่อไปโหลดไฟล์ PDF ที่ทำเป็นใบปลิว และสามารถพิมพ์ลงใน
กระดาษ A4 หมึกสีดำแบบธรรมดาได้ แบบว่า 1 แผ่นของกระดาษ A4 สามารถทำเป็นใบปลิวแจกจ่าย ได้ถึง 3 แผ่น) และถ้าเกิดว่าเว็บบล็อกเกอร์ฟรีที่ผมใช้บริการอยู่ล่มวันไหน ก็จะสามารถที่จะเข้าดูข้อมูลการอัพเดทสิ่งต่างๆ จากบ
ล็อกเกอร์ของค่ายอื่นของผม หรือเพื่อนๆคนอื่นในเครือข่าย ที่เป็นหุ้นส่วน สมาชิกร่วมเครือข่ายด้วยกัน และที่สำคัญหากว่าวันใดวันหนึ่งเพื่อนคนใดคนหนึ่งร่วมเครือข่ายของเรา สามารถที่จะพัฒนาสิ่งประดิษฐ์ของเขาเองได้ สินค้าตัว
นั้นก็จะเป็นสินค้าในเครือข่ายของเราเช่นกัน
เพราะผมก็ไม่ได้เป็นคนที่มีเงินทุนที่จะตั้งบริษัท MLM ยักษ์ใหญ่ขึ้นมา ก็เลยเริ่มที่จะหาสิ่งที่แน่นอนคือสิ่งที่มีอยู่จริง ก็คือมนุษย์รอบตัวที่เราจะเข้าไปทำความรู้จักเขาได้ แล้วแนะนำตัวว่าเรา มีอะไรที่จะให้กับเขาได้บ้าง และถ้าสิ่งที่
เรามียังไม่ตอบสนองความต้องการของเขา ก็ฝากเขาว่า ถ้าวันหนึ่งมีโอกาสรู้จักกับใคร ที่จำเป็นต้องใช้ ในสิ่งที่เราเคยบอกกล่าวเขา ก็ขอให้เขาช่วยแนะนำต่อด้วย แล้วหลังจากเราพูดเรื่องแนะนำของเราเสร็จ ก็บอกเขาว่าในตอนนี้
เรามีเพื่อนสมาชิกร่วมเครือข่ายอยู่แล้วเท่าไหร่ และเขามีอะไรที่จะให้เรากลับไปแนะนำต่อกับสมาชิกเดิมที่มีอยู่บ้าง เราก็รับฟัง เพราะคงจะไม่มีใครที่จะยอมรับสิ่งของที่เราเป็นผู้ขายแต่ฝ่ายเดียว เปิดโอกาสให้เขาแนะนำบริการดีๆ
และสินค้าที่เขาทำอยู่แล้วบ้าง แบบว่าไม่เอารัดเอาเปรียบกันทั้งสองฝ่าย
ตัวอย่าง วิธีการตั้งรหัสของสมาชิกในเครือข่าย ใช้วิธีการตั้งแบบลักษณะข้างล่างนี้
<tel0902891552:1> คือรหัสของท่าน ( เบอร์โทร 0902891552 , อีเมล์ tel0902891552@gmail.com )
และท่านเลือกที่จะใช้เบอร์โทรศัพท์ของท่าน ตั้งเป็น รหัสดาวน์ไลน์ติดตัวของท่าน
รหัสดาวน์ไลน์ติดตัวของ 0902891552
===========================
<0902891552:1> คือรหัสดาวน์ไลน์คนที่ 1 ( เบอร์โทร 0890000001 )
<0902891552:2> คือรหัสดาวน์ไลน์คนที่ 2 ( เบอร์โทร 0890000002 )
<0902891552:3> คือรหัสดาวน์ไลน์คนที่ 3 ( เบอร์โทร 0890000003 )
<0902891552:4> คือรหัสดาวน์ไลน์คนที่ 4 ( เบอร์โทร 0890000004 )
<0902891552:5> คือรหัสดาวน์ไลน์คนที่ 5 ( เบอร์โทร 0890000005 )
<0902891552:6> คือรหัสดาวน์ไลน์คนที่ 6 ( อีเมล์ aaaa@hotmail.com )
<0902891552:7> คือรหัสดาวน์ไลน์คนที่ 7 ( อีเมล์ bbbb@gmail.com )
<0902891552:8> คือรหัสดาวน์ไลน์คนที่ 8 ( อีเมล์ cccc@yahoo.com )
<0902891552:9> คือรหัสดาวน์ไลน์คนที่ 9 ( อีเมล์ dddd@yahoo.co.th )
รหัสดาวน์ไลน์ติดตัวของ 0890000001
===========================
<0890000001:1> คือรหัสดาวน์ไลน์คนที่ 1 ( เบอร์โทร 0890000006 )
<0890000001:2> คือรหัสดาวน์ไลน์คนที่ 2 ( เบอร์โทร 0890000007 )
<0890000001:3> คือรหัสดาวน์ไลน์คนที่ 3 ( อีเมล์ eeee@hotmail.com )
<0890000001:4> คือรหัสดาวน์ไลน์คนที่ 4 ( อีเมล์ ffff@gmail.com )
รหัสดาวน์ไลน์ติดตัวของ aaaa@hotmail.com
================================
<aaaa@hotmail.com:1> คือรหัสดาวน์ไลน์คนที่ 1 ( เบอร์โทร 0890000008 )
<aaaa@hotmail.com:2> คือรหัสดาวน์ไลน์คนที่ 2 ( เบอร์โทร 0890000009 )
<aaaa@hotmail.com:3> คือรหัสดาวน์ไลน์คนที่ 3 ( อีเมล์ gggg@hotmail.com )
<aaaa@hotmail.com:4> คือรหัสดาวน์ไลน์คนที่ 4 ( อีเมล์ hhhh@gmail.com )
รหัสดาวน์ไลน์ติดตัวของ eeee@hotmail.com
================================
<eeee@hotmail.com:1> คือรหัสดาวน์ไลน์คนที่ 1 ( เบอร์โทร 0890000010 )
<eeee@hotmail.com:2> คือรหัสดาวน์ไลน์คนที่ 2 ( เบอร์โทร 0890000011 )
<eeee@hotmail.com:3> คือรหัสดาวน์ไลน์คนที่ 3 ( อีเมล์ iiii@hotmail.com )
<eeee@hotmail.com:4> คือรหัสดาวน์ไลน์คนที่ 4 ( อีเมล์ jjjj@yahoo.com )
สรุปคือ รหัสของสมาชิกเครือข่ายแต่ละคนจะได้มาจาก <เบอร์โทรหรืออีเมล์ของผู้ที่เป็นอัพไลน์:ลำดับการเป็นดาวน์ไลน์ติดตัวของอัพไลน์สมาชิกท่านนั้น> เพียงแค่เห็นรหัสของสมาชิกในเครือข่ายแต่ละคน ก็สามารถที่จะรู้ได้ทันทีว่า
ใครเป็นอัพไลน์ติดตัวของสมาชิกคนนั้นในเครือข่ายของเรา และถ้าหากว่าสมาชิกในเครือข่ายท่านใดของเราซื้อสินค้าหรือบริการในเครือข่ายของเรา ลำดับสมาชิกตั้งแต่ดาวน์ไลน์ติดตัวของเจ้าของกิจการไปถึงอัพไลน์ติดตัวของ
สมาชิกผู้ซื้อสินค้าหรือบริการท่านนั้น ก็จะได้รับผลตอบแทน ในฐานะมีส่วนร่วมให้สมาชิกท่านนั้นรู้จักกับสินค้าและบริการภายในเครือข่ายของเรา ตามลำดับเฉลี่ยกันไป ลำดับอัพไลน์ติดตัวที่อยู่ใกล้กับสมาชิกที่ซื้อสินค้าหรือบริการมาก
ที่สุดก็จะได้รับกำไรปันผลมากที่สุดที่ภาษาอังกฤษเรียกว่าค่าคอมมิชชั่น และกำไรของสินค้าหรือการบริการอีก 2 ส่วน จากทั้งหมด 3 ส่วน จะแบ่งเก็บเข้าเครือข่ายเพื่อใช้ในการผลิตสื่อประชาสัมพันธ์ให้กับสมาชิกเครือข่ายเพื่อใช้ใน
การทำงานประชาสัมพันธ์แนะนำสินค้าหรือการบริการและการชวนบุคคลอื่นมาร่วมเป็นสมาชิกร่วมเครือข่ายกับเรา และกำไรอีกส่วนหนึ่งก็จะแบ่งเฉลี่ยให้กับสมาชิกในเครือข่าย ที่ได้ทำการแนะนำให้ผู้อื่นมาเป็นสมาชิกร่วมเครือข่าย
โดยจะตัดยอดจำนวนสมาชิกที่ได้หาเพิ่มเข้ามาในช่วงต้นเดือนของเดือนถัดไป
เมื่อสินค้าหรือการบริการ รายการหนึ่งได้ถูกจำหน่ายออกไป รายได้นั้น ได้ถูกแบ่งออกเป็น 4 ส่วน
1. ต้นทุนสินค้าหรือการบริการ
2. เก็บรวมเข้าเครือข่ายเพื่อใช้ในการผลิตสื่อประชาสัมพันธ์ (กองทุนรวม)
3. ค่าคอมมิชชั่นจ่ายเฉลี่ยให้กับอัพไลน์ของสมาชิกที่ซื้อสินค้าหรือรับการบริการ รายการนั้น
4. เก็บรวมเข้าเครือข่ายเพื่อจ่ายผลตอบแทนให้กับสมาชิกที่ได้ทำการชวนผู้อื่นมาเป็นสมาชิกร่วมเครือข่าย (รายได้ทั้งหมดในส่วนนี้ภายในเดือน จะถูกหารโดยจำนวนสมาชิกที่เพิ่มเข้ามาใหม่ภายในเดือน และแบ่งจ่ายคืนให้กับ
สมาชิกเดิม ที่ได้ทำการชักชวนสมาชิกท่านนั้น)
ยกตัวอย่าง เช่น ราคาสินค้าบวกกำไรรายการนึงคือ 140 บาท จะมีต้นทุนราคาอยู่ที่ 100 บาท กำไร 40 บาท และกำไรใน 40 บาท นี้จะแบ่งให้กับเครือข่ายเพื่อใช้ในการผลิตสื่อ
ประชาสัมพันธ์ 10 บาท ค่าคอมมิชชั่นจ่ายเฉลี่ยให้กับอัพไลน์ของสมาชิกที่ซื้อสินค้าหรือรับการบริการ 15 บาท และอีก 15 บาท(จาก 140 บาท) เก็บรวมเข้าเครือข่ายเพื่อจ่ายผลตอบแทนให้กับสมาชิกที่ได้ทำการชวนผู้อื่นมาเป็น
สมาชิกร่วมเครือข่าย (รายได้ทั้งหมดในส่วนนี้ภายในเดือน จะถูกหารโดยจำนวนสมาชิกที่เพิ่มเข้ามาใหม่ภายในเดือน และแบ่งจ่ายคืนให้กับสมาชิกเดิม ที่ได้ทำการชักชวนสมาชิกท่านนั้น)
ตัวอย่างค่าคอมมิชชั่นจากสินค้าหรือบริการ ที่ราคา 140 บาท จ่ายให้ที่ 15 บาท
(เครือข่าย)-(อัพไลน์สูงสุดคนที่ 1)-(อัพไลน์สูงสุดคนที่ 2)-(อัพไลน์สูงสุดคนที่ 3)-(อัพไลน์สูงสุดคนที่ 4)-(อัพไลน์สูงสุดคนที่ 5)-(ผู้ซื้อ)
จะเห็นได้ว่ามีจำนวนอัพไลน์อยู่ 5 คน แต่จะแบ่งผลตอบแทนตามสัดส่วนความใกล้ชิดกับผู้ซื้อ จะได้สูตรว่า อัพไลน์สูงสุดคนที่... x (ค่าคอมมิชชั่นรวม / ลำดับอัพไลน์มาบวกกัน)
อัพไลน์สูงสุดคนที่ 1 จะได้ 1 x (15 / 15) = 1 บาท
อัพไลน์สูงสุดคนที่ 2 จะได้ 2 x (15 / 15) = 2 บาท
อัพไลน์สูงสุดคนที่ 3 จะได้ 3 x (15 / 15) = 3 บาท
อัพไลน์สูงสุดคนที่ 4 จะได้ 4 x (15 / 15) = 4 บาท
อัพไลน์สูงสุดคนที่ 5 จะได้ 5 x (15 / 15) = 5 บาท
140(ขาย) = 100(ทุน) + 10(คลังสื่อประชาสัมพันธ์) + 15(คอมมิชชั่น) +15(คลังแนะนำสมาชิก)
100% = 71.43% + 7.14% + 10.71% + 10.71%
ทดลองเขียนแผนธุรกิจเครือข่าย เพื่อน ๆ ว่าแผนธุรกิจแบบนี้ จะทำได้ไหม ยุติธรรม กับสมาชิกในเครือข่ายไหม
"ดูท่าว่ายังไม่ลึกถึงธุรกิจMLMจริงๆ
ที่คุณทำแผนนั้นมันแค่ธุรกิจเบสิกธรรมดา กำไรเผื่อไว้สำหรับสิ่งที่เรีนกว่าเซลล์แมนก็แค่นั้น มันห่างกับ MLM เยอะครับ"
ขอบคุณครับ คำตอบ ตรงๆ และ โดนใจเลยครับ)
ความคิดเห็นของคุณ ทำให้ผมมองว่า การบริหารร้านค้า ไม่จำเป็นต้องเอาระบบ MLM มาประยุกต์ก็ได้ เอาแค่ เป็นร้านค้าที่เก็บสต๊อกสินค้าที่มีคนซื้อคนใช้จริงๆ เป็นสหกรณ์ร้านค้าเล็กๆ เวลาใครมาซื้อสินค้าก็ให้แต้มสะสมเขา และถามด้วยว่า รู้จักร้านค้ายังไงใครแนะนำมา ถ้าเขารู้จักและบอกว่ามีใครแนะนำมา และคนผู้นั้น เป็นลูกค้าสมาชิกเดิมอยู่ด้วยแล้ว เราก็ให้แต้มสะสมกับเขาด้วย การเฉลี่ยแต้ม จะขึ้นอยู่กับความใกล้ชิด กับคนที่ซื้อสินค้าชิ้นนั้น ในขณะนั้น
และผมสามารถที่จะลดการใช้งาน ระบบ ไอที ลงไปได้เยอะเลย แค่มีคอมพิวเตอร์ ที่เก็บโปรแกรม ระบบสมาชิกและผู้แนะนำสมาชิกและคำนวนแต้มสะสมไว้ที่ร้านค้า และหน้าเว็บแนะนำกิจการและบริการที่ใช้เฟสบุ๊ก หรือ บล็อกเกอร์ฟรี ต่างๆ
=========================================================================================================
ทดลองเขียนแผนธุรกิจเครือข่าย เพื่อน ๆ ว่าแผนธุรกิจแบบนี้ จะทำได้ไหม ยุติธรรม กับสมาชิกในเครือข่ายไหม
ในโลกนี้ มีธุรกิจเครือข่าย(MLM) ที่ไหน ที่ไม่เก็บค่าสมัครสมาชิก และค่าคงสภาพสมาชิกรายเดือนการทำงานเพียงแค่ว่า ซื้อใบปลิวแนะนำสินค้าอธิบายรายละเอียดการใช้งานสินค้า และสามารถที่จะทำการสำเนาถ่ายเอกสารใบปลิว
เองได้ หากใบปลิวที่เคยซื้อจากบริษัทหมด หน้าที่ของเราเพียง แค่ขอให้เขาเป็นสมาชิกต่อจากเรา ให้เขารู้ว่า บริษัทที่เราเป็นเครือข่ายมีสินค้าอะไรบ้าง แล้วหลังจากนั้น ก็ไม่รู้วันไหน ต้องมีสักวัน ที่เขาจะซื้อสินค้าในเครือบริษัทของเรา
วันนั้นเราจะได้รับผลตอบแทน จากการที่เคยไปแนะนำ เกี่ยวกับสินค้า และบริการต่างๆของบริษัท ... ใช้ใบปลิวแนะนำ ในการทำการตลาด หรือบล็อกเกอร์เว็บไซต์ฟรี ในการแนะนำสินค้า โดยไม่ต้องสูญเสียค่าใช้จ่ายที่มากมายจนเกิน
ไป เพื่อเป็นค่าไฟฟ้าและค่าเช่าพื้นที่บริการอินเตอร์เน็ต และค่าจ้างลูกน้องออฟฟิต ถ้ามีเอกสารใหม่ๆอะไร ที่จะแนะนำบุคคลในเครือข่ายก็จะทำเป็นไฟล์ PDF ให้เขาไปโหลด แล้วพิมพ์เองใส่กระดาษเอา โดยไม่จำเป็นต้องมาสั่งซื้อ
ใบปลิวจากศูนย์อีก
สินค้าเป็นที่ยอมรับและมีประโยชน์จริงต่อพี่น้องชาวโลก จริงๆใช้งานได้ทุกวัน ในชีวิต
ประจำวัน (เมื่อไม่มีค่าใช้จ่ายในการจ่ายค่าน้ำค่าไฟให้กับหน่วยงานที่ไหนอีก ก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเก็บค่าสมัครแรกเข้าของสมาชิก และค่ารักษาสภาพสมาชิกในแต่ละเดือนอีก ตัวผมเองทำหน้าที่ออกแบบสินค้า และค้นหาวัตถุ
ดิบที่ต้นทุนน้อยที่สุด แต่ไม่ได้เป็นศูนย์กลางของเครือข่ายทางอินเตอร์เน็ต(Serverกลาง) เพราะสมัยนี้มีเว็บไซต์ใจดี ที่จะให้เราสามารถฝากไฟล์ PDF แนะนำสินค้าและบริการได้ เป็นการลดต้นทุนการทำงาน ออนไลน์ทั้งหมด ส่วน
คนที่ไม่มีอินเตอร์เน็ตรายเดือนที่จะเข้าใช้ได้ทุกวัน จะนานๆครั้งไปใช้บริการที่ร้านอินเตอร์เน็ต และเข้าเว็บไซต์บล็อกเกอร์ฟรีของผม หรือเพื่อนๆคนอื่นในเครือข่ายเพื่อไปโหลดไฟล์ PDF ที่ทำเป็นใบปลิว และสามารถพิมพ์ลงใน
กระดาษ A4 หมึกสีดำแบบธรรมดาได้ แบบว่า 1 แผ่นของกระดาษ A4 สามารถทำเป็นใบปลิวแจกจ่าย ได้ถึง 3 แผ่น) และถ้าเกิดว่าเว็บบล็อกเกอร์ฟรีที่ผมใช้บริการอยู่ล่มวันไหน ก็จะสามารถที่จะเข้าดูข้อมูลการอัพเดทสิ่งต่างๆ จากบ
ล็อกเกอร์ของค่ายอื่นของผม หรือเพื่อนๆคนอื่นในเครือข่าย ที่เป็นหุ้นส่วน สมาชิกร่วมเครือข่ายด้วยกัน และที่สำคัญหากว่าวันใดวันหนึ่งเพื่อนคนใดคนหนึ่งร่วมเครือข่ายของเรา สามารถที่จะพัฒนาสิ่งประดิษฐ์ของเขาเองได้ สินค้าตัว
นั้นก็จะเป็นสินค้าในเครือข่ายของเราเช่นกัน
เพราะผมก็ไม่ได้เป็นคนที่มีเงินทุนที่จะตั้งบริษัท MLM ยักษ์ใหญ่ขึ้นมา ก็เลยเริ่มที่จะหาสิ่งที่แน่นอนคือสิ่งที่มีอยู่จริง ก็คือมนุษย์รอบตัวที่เราจะเข้าไปทำความรู้จักเขาได้ แล้วแนะนำตัวว่าเรา มีอะไรที่จะให้กับเขาได้บ้าง และถ้าสิ่งที่
เรามียังไม่ตอบสนองความต้องการของเขา ก็ฝากเขาว่า ถ้าวันหนึ่งมีโอกาสรู้จักกับใคร ที่จำเป็นต้องใช้ ในสิ่งที่เราเคยบอกกล่าวเขา ก็ขอให้เขาช่วยแนะนำต่อด้วย แล้วหลังจากเราพูดเรื่องแนะนำของเราเสร็จ ก็บอกเขาว่าในตอนนี้
เรามีเพื่อนสมาชิกร่วมเครือข่ายอยู่แล้วเท่าไหร่ และเขามีอะไรที่จะให้เรากลับไปแนะนำต่อกับสมาชิกเดิมที่มีอยู่บ้าง เราก็รับฟัง เพราะคงจะไม่มีใครที่จะยอมรับสิ่งของที่เราเป็นผู้ขายแต่ฝ่ายเดียว เปิดโอกาสให้เขาแนะนำบริการดีๆ
และสินค้าที่เขาทำอยู่แล้วบ้าง แบบว่าไม่เอารัดเอาเปรียบกันทั้งสองฝ่าย
ตัวอย่าง วิธีการตั้งรหัสของสมาชิกในเครือข่าย ใช้วิธีการตั้งแบบลักษณะข้างล่างนี้
<tel0902891552:1> คือรหัสของท่าน ( เบอร์โทร 0902891552 , อีเมล์ tel0902891552@gmail.com )
และท่านเลือกที่จะใช้เบอร์โทรศัพท์ของท่าน ตั้งเป็น รหัสดาวน์ไลน์ติดตัวของท่าน
รหัสดาวน์ไลน์ติดตัวของ 0902891552
===========================
<0902891552:1> คือรหัสดาวน์ไลน์คนที่ 1 ( เบอร์โทร 0890000001 )
<0902891552:2> คือรหัสดาวน์ไลน์คนที่ 2 ( เบอร์โทร 0890000002 )
<0902891552:3> คือรหัสดาวน์ไลน์คนที่ 3 ( เบอร์โทร 0890000003 )
<0902891552:4> คือรหัสดาวน์ไลน์คนที่ 4 ( เบอร์โทร 0890000004 )
<0902891552:5> คือรหัสดาวน์ไลน์คนที่ 5 ( เบอร์โทร 0890000005 )
<0902891552:6> คือรหัสดาวน์ไลน์คนที่ 6 ( อีเมล์ aaaa@hotmail.com )
<0902891552:7> คือรหัสดาวน์ไลน์คนที่ 7 ( อีเมล์ bbbb@gmail.com )
<0902891552:8> คือรหัสดาวน์ไลน์คนที่ 8 ( อีเมล์ cccc@yahoo.com )
<0902891552:9> คือรหัสดาวน์ไลน์คนที่ 9 ( อีเมล์ dddd@yahoo.co.th )
รหัสดาวน์ไลน์ติดตัวของ 0890000001
===========================
<0890000001:1> คือรหัสดาวน์ไลน์คนที่ 1 ( เบอร์โทร 0890000006 )
<0890000001:2> คือรหัสดาวน์ไลน์คนที่ 2 ( เบอร์โทร 0890000007 )
<0890000001:3> คือรหัสดาวน์ไลน์คนที่ 3 ( อีเมล์ eeee@hotmail.com )
<0890000001:4> คือรหัสดาวน์ไลน์คนที่ 4 ( อีเมล์ ffff@gmail.com )
รหัสดาวน์ไลน์ติดตัวของ aaaa@hotmail.com
================================
<aaaa@hotmail.com:1> คือรหัสดาวน์ไลน์คนที่ 1 ( เบอร์โทร 0890000008 )
<aaaa@hotmail.com:2> คือรหัสดาวน์ไลน์คนที่ 2 ( เบอร์โทร 0890000009 )
<aaaa@hotmail.com:3> คือรหัสดาวน์ไลน์คนที่ 3 ( อีเมล์ gggg@hotmail.com )
<aaaa@hotmail.com:4> คือรหัสดาวน์ไลน์คนที่ 4 ( อีเมล์ hhhh@gmail.com )
รหัสดาวน์ไลน์ติดตัวของ eeee@hotmail.com
================================
<eeee@hotmail.com:1> คือรหัสดาวน์ไลน์คนที่ 1 ( เบอร์โทร 0890000010 )
<eeee@hotmail.com:2> คือรหัสดาวน์ไลน์คนที่ 2 ( เบอร์โทร 0890000011 )
<eeee@hotmail.com:3> คือรหัสดาวน์ไลน์คนที่ 3 ( อีเมล์ iiii@hotmail.com )
<eeee@hotmail.com:4> คือรหัสดาวน์ไลน์คนที่ 4 ( อีเมล์ jjjj@yahoo.com )
สรุปคือ รหัสของสมาชิกเครือข่ายแต่ละคนจะได้มาจาก <เบอร์โทรหรืออีเมล์ของผู้ที่เป็นอัพไลน์:ลำดับการเป็นดาวน์ไลน์ติดตัวของอัพไลน์สมาชิกท่านนั้น> เพียงแค่เห็นรหัสของสมาชิกในเครือข่ายแต่ละคน ก็สามารถที่จะรู้ได้ทันทีว่า
ใครเป็นอัพไลน์ติดตัวของสมาชิกคนนั้นในเครือข่ายของเรา และถ้าหากว่าสมาชิกในเครือข่ายท่านใดของเราซื้อสินค้าหรือบริการในเครือข่ายของเรา ลำดับสมาชิกตั้งแต่ดาวน์ไลน์ติดตัวของเจ้าของกิจการไปถึงอัพไลน์ติดตัวของ
สมาชิกผู้ซื้อสินค้าหรือบริการท่านนั้น ก็จะได้รับผลตอบแทน ในฐานะมีส่วนร่วมให้สมาชิกท่านนั้นรู้จักกับสินค้าและบริการภายในเครือข่ายของเรา ตามลำดับเฉลี่ยกันไป ลำดับอัพไลน์ติดตัวที่อยู่ใกล้กับสมาชิกที่ซื้อสินค้าหรือบริการมาก
ที่สุดก็จะได้รับกำไรปันผลมากที่สุดที่ภาษาอังกฤษเรียกว่าค่าคอมมิชชั่น และกำไรของสินค้าหรือการบริการอีก 2 ส่วน จากทั้งหมด 3 ส่วน จะแบ่งเก็บเข้าเครือข่ายเพื่อใช้ในการผลิตสื่อประชาสัมพันธ์ให้กับสมาชิกเครือข่ายเพื่อใช้ใน
การทำงานประชาสัมพันธ์แนะนำสินค้าหรือการบริการและการชวนบุคคลอื่นมาร่วมเป็นสมาชิกร่วมเครือข่ายกับเรา และกำไรอีกส่วนหนึ่งก็จะแบ่งเฉลี่ยให้กับสมาชิกในเครือข่าย ที่ได้ทำการแนะนำให้ผู้อื่นมาเป็นสมาชิกร่วมเครือข่าย
โดยจะตัดยอดจำนวนสมาชิกที่ได้หาเพิ่มเข้ามาในช่วงต้นเดือนของเดือนถัดไป
เมื่อสินค้าหรือการบริการ รายการหนึ่งได้ถูกจำหน่ายออกไป รายได้นั้น ได้ถูกแบ่งออกเป็น 4 ส่วน
1. ต้นทุนสินค้าหรือการบริการ
2. เก็บรวมเข้าเครือข่ายเพื่อใช้ในการผลิตสื่อประชาสัมพันธ์ (กองทุนรวม)
3. ค่าคอมมิชชั่นจ่ายเฉลี่ยให้กับอัพไลน์ของสมาชิกที่ซื้อสินค้าหรือรับการบริการ รายการนั้น
4. เก็บรวมเข้าเครือข่ายเพื่อจ่ายผลตอบแทนให้กับสมาชิกที่ได้ทำการชวนผู้อื่นมาเป็นสมาชิกร่วมเครือข่าย (รายได้ทั้งหมดในส่วนนี้ภายในเดือน จะถูกหารโดยจำนวนสมาชิกที่เพิ่มเข้ามาใหม่ภายในเดือน และแบ่งจ่ายคืนให้กับ
สมาชิกเดิม ที่ได้ทำการชักชวนสมาชิกท่านนั้น)
ยกตัวอย่าง เช่น ราคาสินค้าบวกกำไรรายการนึงคือ 140 บาท จะมีต้นทุนราคาอยู่ที่ 100 บาท กำไร 40 บาท และกำไรใน 40 บาท นี้จะแบ่งให้กับเครือข่ายเพื่อใช้ในการผลิตสื่อ
ประชาสัมพันธ์ 10 บาท ค่าคอมมิชชั่นจ่ายเฉลี่ยให้กับอัพไลน์ของสมาชิกที่ซื้อสินค้าหรือรับการบริการ 15 บาท และอีก 15 บาท(จาก 140 บาท) เก็บรวมเข้าเครือข่ายเพื่อจ่ายผลตอบแทนให้กับสมาชิกที่ได้ทำการชวนผู้อื่นมาเป็น
สมาชิกร่วมเครือข่าย (รายได้ทั้งหมดในส่วนนี้ภายในเดือน จะถูกหารโดยจำนวนสมาชิกที่เพิ่มเข้ามาใหม่ภายในเดือน และแบ่งจ่ายคืนให้กับสมาชิกเดิม ที่ได้ทำการชักชวนสมาชิกท่านนั้น)
ตัวอย่างค่าคอมมิชชั่นจากสินค้าหรือบริการ ที่ราคา 140 บาท จ่ายให้ที่ 15 บาท
(เครือข่าย)-(อัพไลน์สูงสุดคนที่ 1)-(อัพไลน์สูงสุดคนที่ 2)-(อัพไลน์สูงสุดคนที่ 3)-(อัพไลน์สูงสุดคนที่ 4)-(อัพไลน์สูงสุดคนที่ 5)-(ผู้ซื้อ)
จะเห็นได้ว่ามีจำนวนอัพไลน์อยู่ 5 คน แต่จะแบ่งผลตอบแทนตามสัดส่วนความใกล้ชิดกับผู้ซื้อ จะได้สูตรว่า อัพไลน์สูงสุดคนที่... x (ค่าคอมมิชชั่นรวม / ลำดับอัพไลน์มาบวกกัน)
อัพไลน์สูงสุดคนที่ 1 จะได้ 1 x (15 / 15) = 1 บาท
อัพไลน์สูงสุดคนที่ 2 จะได้ 2 x (15 / 15) = 2 บาท
อัพไลน์สูงสุดคนที่ 3 จะได้ 3 x (15 / 15) = 3 บาท
อัพไลน์สูงสุดคนที่ 4 จะได้ 4 x (15 / 15) = 4 บาท
อัพไลน์สูงสุดคนที่ 5 จะได้ 5 x (15 / 15) = 5 บาท
140(ขาย) = 100(ทุน) + 10(คลังสื่อประชาสัมพันธ์) + 15(คอมมิชชั่น) +15(คลังแนะนำสมาชิก)
100% = 71.43% + 7.14% + 10.71% + 10.71%