สวัสดีครับพอดีได้มีโอกาสไปภูทับเบิกเมื่อสองวันที่ผ่านมาคือวันที่ 14 - 15 มิถุนายน 2559 ที่ไปเพราะเกิดจากความคึกคึกจริงๆพอไปถึงเสื้อที่เตรียมไปใส่แว้นกันแดดได้ใช้กันหนาวจริงๆครับภูทับเบิกหนาวมากกก พอดีเปิดเวปดูแล้วเห็นสวยบวกกับไม่เคยไปด้วยเลยอยากไปเลยหาชวนเพื่อนสรุปมีน้องที่เตะบอลด้วยกันไปด้วยก็เลยไปกันสองคันสี่คนรวมผมและแฟน ส่วนผมก็ไปด้วยมอเตอไซค์ออโตเมติกคือเจ้าส้มซุเมอเอ๊ก เจ้านี่เคยพาไปไกลสุดที่น้ําตกเอราวัณส่วนทริปนี้ปุปปัปจริงๆ หาข้อมูลอยากไปพาหนะส่วนตัวก็มีแค่มอไซค์  เลยลองเปิดกูเกิ้ลลองหาดูของคนอื่นแล้วก็มีแต่อะไรที่ห้ามๆจนทำให้จิตใจคุณไม่กล้าเพราะคนตอบคอมเม้นจะแบบว่า อย่าไปเลย ไกล อันตราย ไปก็เหนื่อยคุณจะไม่สนุก ใช่ทุกอย่างในคอมเม้นมันใช่หมดแต่ผมเลือกที่จะปิดแล้วไปกันเลยเพราะทุกการเดินทางขอแค่ไม่ประมาท ภาวนาให้ยางไม่แตกเป็นพอ เริ่มการเดินทางด้วยเจ้าซุเมอเอ๊กกันเลยสำหรับผมจะไปไหนก็ อยู่ที่ใจใช่ซีซีตลอดการเดินทางแต่บางทีคำนี้ก้อาจจะใช้ไม่ได้กับดอยสูงๆแต่กับระยาทางใช้ได้นะครับ 555 ขอแค่ยางไม่แตกกับเครื่องไม่พังเพราะน้ำมันหมดผมไม่กลัว รูปตอนผ่านจังหวัดต่างๆไม่ค่อยมีส่วนมากจะถ่ายแค่ป้าย จะมีอีกทีก็ถึงที่หมายแล้ว โปรแกรมของผมคือไหนๆก็ไปภูทับเบิกแล้วระหว่างทางไปใกล้พิษณุโลกผมก็อยากเห็นเนินมะปรางว่าเป็นไงเลยขอแวะสะหน่อยเริ่มเลยนะครับ


ออกเดินทางตอนเช้านัดกันที่พระรามเจ็ดตอนตีห้าแต่มากันจริงๆก็หกโมงผมนี่แหละสาย 555+ ก่อนออกมาขอถ่ายเข็มไมล์สะหน่อยความเร็วเฉลี่ยทริปนี้คือ 60 75 80 ไม่เกินนี้ครับ ช้าสุดก็ตอนขึ้นภูทับเบิก 20-35


เส้นทางที่ผมเลือกไปคือตอนแรกจะไปไหว้พระพุทธชินราชก่อนเลยจะไปเส้นนี้สายเอเชีย


ก็ขี่กันมาเรื่อยๆครับมาทางดอนเมืองเข้ารังสิต ออกอยุธยา โผล่ เป็นลำดับๆ แวะปั้มบ่อยอยู่เหมือนกันแวะพักครับกลัวเครื่องน๊อคออคก็ผ่านมาเรื่อยๆ

ชัยนาทเมืองนก


อุทัยแล้ว

และนครสวรรค์



พอข้ามสะพานเดชามาก็พักกินข้าวเราถึงกันตอน สิบโมงกว่าๆ ที่บิ๊กซีพอถึงตอนนี้เปลี่ยนแผนครับเพราะผมดูแผนที่ยังไงก็ต้องไปๆมาๆอยู่ดีเลยต้องเลือกสักทางเลือกที่จะไปเนินมะปรางก่อนแผนเปลี่ยนเลยต้องไปทางนี้ครับ

พออิ่มแล้วก็เดินทางกันต่อสถานีต่อผ่านพิจิตรเมืองที่มีรูปปั้นจรเข้บนถนนเหมือนชัยนาทมีนกแต่ผมไม่ได้ถ่ายเพราะขับๆแวะๆปั้มอย่างเดียว

ขับต่อไปยาวๆยาวจริงๆจนมีป้ายเนินมะปราง และในที่สุดเราก็ถึง

ที่นี่ผมแวะแปปเดียวแต่รู้สึกได้ว่าสงบจริงๆ สงบเกิ๊นนน

หลังเขา



ก็แวะกันให้รู้ว่าอ๋อเป็นแบบนี้นี่เองแล้วเราก็ออกเดินทางต่อที่ต่อไปเข้าเมืองพิษณุโลกครับ

ก็ขับเรื่อยๆร้อนๆ

สองข้างทาง


และในที่สุดก็ถึง ถึงตอนสี่โมงเย็นเศษๆ

องค์พระพุทธชินราชงดงามมากเลยครับเห็นครั้งแรก


ด้านนอกวัดจะมีของดีของเด่นหน้าวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหารก๋วยเตี๋ยวห้อยขาครับ

แดดร่มลมตกเราก็เดินทางต่อจากวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหารไปเส้นนี้ครับเส้นหล่มสัก

ออกมากันตอนห้าโมงเย็น

ขับเรื่อยๆชิวดีครับลำบากตอนขึ้นเขาเครื่องจะอืดได้ 40-60



หนทางอีกยาวไกล


ตามมา

ฟ้าก้เริ่มมืดครึ่ม

ถึงจุดชมวิวแวะพักตั้งสถานะบ่นเมื่อยมากก่อน

ไปกันต่อขึ้นเขาอีกแล้วมืดแล้วด้วย

ขับเลยวัดผาซ่อนแก้วมาแล้วได้แต่มองน้องที่ไปด้วยอยากไปมากบ่นเสียดายผมเองก็เสียดายแต่เวลาไม่มีจริงๆแวะก็ไม่ได้เย็นแล้วด้วย

โค้งไป

ก็โค้งมา

และในที่สุดอาจจะเบลอนิดหน่อยไม่น่าหน่อยนะ ภูทับเบิกเลี้ยวซ้าย


และตรงไปในที่สุดเราก็ถึงเซเว่นก่อนขึ้นภูทับเบิกแวะเติมพลังก่อนขึ้น ถึงตอนสองทุ่มห้านาทีโดยประมาณ




แล้วเราก็ขับขึ้นไปทางขึ้นไปไม่มีไฟทางเลยครับ มืดสนิทรถขับสวนหรือขับผ่านทีผมนี่ดีใจมาก มาถึงตรงใช้คำว่า อยู่ที่ใจใช่ซีซีไม่ได้ครับถ้าซีซีเยอะก็สบาย 55 ผมนี่ลากขึ้นไป 20-30 เวลาขึ้นสูงๆ อันนี้เป็นวีดีโอมืดจริงๆ

แล้วก็ถึงครับที่พักเราก็พยายามหาที่พักกางเต๊นแต่หาไม่เจอเพราะทางมืดมากขับเลยที่เป็นไม้กางเขนมาแล้วก็มาเจอที่พักไร่สุวิทย์เลยลงไปถามราคา ราคาห้องละ 500 มี wifi น้ำอุ่นด้วยเราเลยเอาสองห้องลองถามราคาช่วงไฮพี่เขาบอกห้องนี้ 2,500  เที่ยวช่วงนี้ดีอย่างงี้นี่เองคนไม่เยอะที่พักหาง่ายไม่ต้องจองราคาดีด้วยเราเลยตกลงเอาที่นี่เสร็จแล้ววันนี้ไม่เหลือครับหลับอันนี้เป็นเข็มไมล์ที่ลุยมาวันนี้รวมเที่ยวขับรถจนถึงที่พักที่ภูทับเบิกจาก กทม ทั้งสิ้น 641 กิโล


วันที่ 15/06/2559
ช่วงเช้าตื่นมาตกใจครับโอ้โหมันเป็นยังงี้นี่เองแฟนผมตื่นมาตอนหกโมงบอกหมอกไม่มี ผมตื่นมาเก้าโมงหมอกออกมาหาแล้วโคตรดีใจไม่เสียเที่ยวและเป็นครั้งแรกพึ่งเห็นว่าที่พักวิวเป็นยังไงนี่ครับที่พักของผม บาบิโลนดีดีนี่เองตอนหมอกออก

สภาพในห้องขออภัยในความรก


มีสไปเดอแมนด้วย

ถึงกับต้องลงมานั่งดูหมอกกับน้องหมา

สักพักนึงอ้าวเห้ยมาเยอะไปและเริ่มขึ้นไปและหมอกเริ่มขึ้นไปเป็นเมฆและ

แต่สไปเดอแมนก็ยังอยู่

สักพักนึงครับเป็นอันว่าความฝันพังทลายจะอาบน้ำไปถ่ายรูปสักหน่อยหมอกมาเยอะจัดฟุ้งเลยทีนี้

ออกไปดูหน้าห้องสักหน่อยหมดกันบาบิโลน

ขนาดถนนยังมองไปข้างหน้าไม่เห็น

แต่เหมือนฟ้าเป็นใจสักพักนึงแดดเริ่มออกก็เริ่มมองเห็นแต่หมอกก็ยังพื้นขาว

เอาวะพื้นขาวก็ได้วะสักภาพ

ทีนี้เราก็เช็คเอาท์ออกครับแม้หมอกจะไม่หมดดีแต่ถ้ากลับช้าเกินกว่านี้ถึง กทม นานแน่พลาดอีกทริปคือภูหินร่องกล้าเวลาไม่พอก่อนออกมาถ่ายอัศวินสีส้มสักหน่อยไม่ดื้อเลยขอบคุณนะน้องส้ม

วิวดี




ก่อนกลับขอไปส่องไร่ริมผาชื่อดังโอกาสหน้าจะแวะมาครับ



ทางออกจะเป็นจุดกางเต๊นใหญ่ๆเลยแวะดูทางที่ขึ้นมาโอ้โหตูขึ้นมาขนาดนี้เลยหรอวะรุ้ว่าตอนกลางคืนมองไปเห็นไฟด้านล่างสวยแต่มันสุงมากๆ



ปะลงขอถ่ายเป็นที่ระทึกสักหน่อยก่อนลง

ลงแล้วนะบะบายภูทับเบิกหมอกก้ยังมีอยู่ตอนขับพัดผ่านตัวและหนามากๆ สรุปมาตอนกลางคืนมืดขากลับหมอกก็ออกอีก