อยากเจอหิมะ แต่ดันได้เจอพายุหิมะ แพ็คกระเป๋าเที่ยวกันทุลักทุเลแถมรอด บนเกาะฮอกไกโด

ทริปนี้ด้วยความอยากเจอหิมะที่นุ่มมากๆ หรือที่เรียกว่า Powder Snow นั่นเอง ผมจึงได้ขอติดตามมาเป็นตากล้องให้กับพี่ 2 คน ซึ่งเขาก็เป็นแฟนกันด้วย เอ๊ะ…หรือว่าผมมาเป็น…ก็ตากล้องไง ว่าแล้วก็ไปลุยกันเลย ฮอกไกโดตอนติดลบจะหนาวแค่ไหนกันนะ

หน้าหนาวของฮอกไกโดคือตั้งแต่เดือนธันวาคม – กุมภาพันธ์ อุณหภูมิโดยเฉลี่ย -20 ถึง 5 องศา การแต่งกายต้องเรียกว่าจัดเต็มได้เลยครับ อย่างของผมนี่คือ 4 ชั้นทับไปถึงเอาอยู่ รองเท้าก็ต้องเป็นรองเท้ากันน้ำที่เฉพาะไว้เดินบนหิมะ เพราะทำให้ไม่ลื่น ถุงมือ หมวก ผ้าพันคอ อย่าให้ขาดเลยนะครับ

แพลนทริป
วันที่ 1 บินออกจากสนามบินดอนเมือง
วันที่ 2 บินไปลงสนามบินนาริตะ / บินไปสนามบินนิวชิโตเสะ / ต่อรถไฟไปฮาโกดาเตะ
วันที่ 3 เที่ยวเมืองฮาโกดาเตะ (Hakodate)
วันที่ 4 เที่ยวเมืองนิเซโกะ (Niseko)
วันที่ 5 เที่ยวเมืองโอตารุ (Otaru)
วันที่ 6 เที่ยวเมืองซับโปโร (Sapporo)
วันที่ 7 บินกลับสนามบินนาริตะ / เที่ยวเมืองโตเกียว (Tokyo)
วันที่ 8 บินกลับสนามบินดอนเมือง

ทริปนี้เป็นทริปแรกที่เราจะตลุยหิมะกันตลอดทั้งทริป นั่นก็คือที่ฮอกไกโดเป็นภูมิภาคที่อยู่ทางตอนเหนือสุดของประเทศญี่ปุ่น เป็นที่ๆ มีหิมะที่นุ่มที่สุด มีอากาศเย็นที่สุด และอาหารอร่อยสุดๆ

เริ่มต้นทริปนี้ด้วยการถูกชวน เรียกว่าเป็นทริปสุดท้ายที่ถูกชวนล่ะกัน เพราะหลังจากทริปนี้ผมนี่ล่ะเป็นคนชวนคนอื่นตลอด ฮ่าๆๆ พอชวนปุ๊บ ผมก็ตกลงปั๊บ สมองสั่งการในทันทีว่า ถ้าไม่ได้ไปตอนนี้คงไม่มีโอกาสได้ไปอีกเป็นแน่แท้

พอตกลงกันเรียบร้อยก็เริ่มหาตั๋วไปลงนาริตะ ก็ได้ราคาโปรมารวมทุกอย่างไม่เกินหมื่นเป็นที่รับได้ เราไปก่อนเทศกาลหิมะสักอาทิตย์นึง เพราะจะได้ไม่ต้องไปวุ่นวาย เพราะพวกผมชอบไปเที่ยวแบบสงบๆ คนไม่พลุกพล่าน ที่สำคัญไม่ต้องไปแย่งกับใครด้วยครับ จากนั้นก็ลองดูของวนิลาแอร์เป็นสายการบินโลว์คอสของญี่ปุ่น คราวนี้เลือกแบบ flexible ไว้หน่อยเพราะฤดูหนาวจะมีพายุบ่อยมากทำให้สายการบินต้องหยุดบินบ่อยครั้ง ก็ได้เลยตั๋วธรรมดาแบบรวมทุกอย่างมาที่ 4 พันกว่าบาท ก็โอเคเบ็ดเสร็จค่าตั๋วไม่ถึง 15,000 บาท และได้แวะที่โตเกียวด้วย

ตะวันกำลังจะขึ้นต้อนรับพวกผม

เอาล่ะเริ่มเดินทางกันเลย เวลา 1.10 น. สายการบินแอร์เอเชียก็พาพวกผมทะยานขึ้นน่านฟ้า ณ ดอนเมือง นั่งหลับๆ ตื่นๆ ไม่ถึง 5 ชั่วโมงดีก็ถึงสนามบินนาริตะ เวลา 7.00 น. (เวลาไทยคือ 9.00 น.) กัปตันซิ่งมากจากเดิมที่ต้องใช้เวลาเดินทาง 6 ชั่วโมง พอถึงก็นั่งรอต่อเครื่องไปสายการบินวนิลาแอร์ รอบ 10.30 น. แต่ข่าวร้ายของพวกผมก็คือทีสนามบินนิวชิโตเสะถูกพายุหิมะถล่มไม่สามารถทำการบินขึ้นลงได้ พวกผมก็เลยได้แต่นั่งรอนอนรอไปประมาณ 5 ชม. ถึงได้เริ่มเดินทางไปสนามบินนิวชิโตเสะต่อ ก่อนที่จะได้ขึ้นเครื่องพนักงานยังบอกอีกว่าถ้าบินลงสนามบินไม่ได้ ก็จะพากลับมาที่สนามบินนาริตะเหมือนเดิม แหม… ช่างบีบหัวใจให้ลุ้นระทึกจริงๆ ว่าจะได้ไปต่อไหม แพลนจะล่มพังยับเยินแค่ไหน เฮ้อ....!! ทั้งเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่ไทยหรือญี่ปุ่นต่างข้อความมาหากันเต็มเลยว่าพายุถล่มฮอกไกโดอยู่นะ เป็นไงบ้าง ผมได้แต่บอกสบายดี เพราะยังติดอยู่นาริตะไม่ได้ไปไหนเล้ยยย

สถาพสนามบินนิวชิโตเสะ หลังจากถูกพายุหิมะถล่ม

แต่ก่อนผมก็ไม่คิดว่าการไปเที่ยวจะต้องพึ่งพาดวงมากๆ ดังนั้นใครที่โชคดีเรียกว่าไปหน้าฝนก็ฟ้าใส ไปหน้ามรสุมก็คลื่นลมสงบ นี่ไปหาหิมะก็คลาดแคล้ว ดังนั้นถ้าเราโชคดีก็จะได้เปรียบคนอื่นกว่าจริงๆ และแล้วโชคก็เข้าข้างผม พวกเราเดินทางมาถึงสนามบินนิวชิโตเสะเรียบร้อย กว่าจะเคลียร์กระเป๋าและซื้อบัตรโดยสารเสร็จก็เป็นเวลา 21.00 น. รถไฟด่วนรอบที่จะไปฮาโกดาเตะไม่มีแล้ว เหลือขบวนสุดท้ายเป็นรถไฟทางไกลวิ่งเรื่อยๆ จะไปถึงฮาโกดาเตะตอน 4.00 น. วันรุ่งขึ้น แถมยังถูกขู่อีกว่า ถ้าระหว่างทางเจอหิมะตกหนักๆ ก็อาจจะดีเลย์อีก ฮ่าๆ แต่พวกเราก็ไม่กลัวเพราะเป็นขบวนสุดท้ายแล้วนี่ ว่าแล้วเราก็ลุยโล้ดนั่งรถไฟยาวๆ 6 ชั่วโมงกันไปเรื่อยๆจริงๆ บรรยากาศสองข้างทางมืดสนิท กึ่งหลับกึ่งตื่นเพราะไฟในตัวรถเปิดซะสว่างเลย และแล้วในที่สุดก็มาถึงสถานีฮาโกดาเตะตามเวลาเป๊ะ 4.00 น. รีบ check-in เข้าที่พักโรงแรม Loisir Hotel Hakodate ซึ่งโชคดีที่พวกผมจองไว้อยู่ติดสถานีฮาโกดาเตะเลย เพราะถ้าต้องนั่งรถไปอีกตอน 4.00 น. คงต้องแท๊กซี่อย่างเดียว จากนั้นรีบเคลียร์ทั้งข้าวของแล้วก็พักผ่อนกันทันที

บริเวณรอบๆ สถานี JR ฮาโกดาเตะ หลังถูกพายุหิมะถล่ม

โอไฮโย ฮาโกดาเตะ ในที่สุดก็มาถึงแล้ว ดีใจมากๆ แพลนไม่เสียด้วย จงลืมๆ เรื่องเมื่อวานไปซะ แต่การที่เราถูกรับน้องจากพายุหิมะไปเรียบร้อยก็ดีนะ ทำให้ตลอดทั้งทริปนับแต่นี้เจอแต่อากาศดีๆ ตลอดเลย หรือเปล่า? ฮ่าๆ ว่าแล้วเราก็ไปลุยฮาโกดาเตะกันเลยคร้าบ การเดินทางวันนี้เราซื้อตั๋วเหมารถรางสำหรับ 1 วัน ราคา 600 เยน

รถรางที่เมืองฮาโกดาเตะ

ที่แรกที่เราจะไปก็คือตลาดเช้าฮาโกดาเตะครับ ที่นี่มีอาหารสด ทุกอย่างสดและอร่อยมาก ได้มาดูการจับจ่ายใช้สอยของเหล่าพ่อบ้านแม่บ้าน และพ่อค้าแม่ค้าที่เรียกเชิญชวนกันอย่างสนุกสนาน บางร้านนี่ถามว่าคนไทยใช่ไหมแล้วพูดภาษาไทยขายของพวกผมกันเลยทีเดียว

ตลาดเช้าฮาโกดาเตะ


อาหารสด ที่ตลาดฮาโกดาเตะ

จากนั้นก็นั่งรถรางต่อไปยังหอคอยโกเรียวคาคุ เป็นลักษณะป้อมรูปดาวหน้าแฉก หิมะเต็มไปหมดพวกผมก็เลยไม่ได้ขึ้นไปชมบนยอดหอคอยเพราะคงเห็นแต่หิมะเท่านั้น ภายในสวยงามมากๆ ยิ่งเห็นหิมะสุดลูกหูลูกตาอีก เกิดมาก็เพิ่งเคยเจอครั้งแรกนี่ล่ะ เดินเล่นกันสักพักก็ไปต่อ

หอคอยโกเรียวคาคุ


แผนผังภายในบริเวณสวนสาธารณะโกเรียวคาคุ

ลงรถรางแล้วก็ต้องเดินขึ้นเขาไปสักระยะ ระหว่างทางเราจะเจอโบสถ์รัสเซีย สร้างเพื่อให้คนรัสเซียที่อาศัยอยู่ที่นี่ได้ใช้ทำพิธีทางศาสนา แล้วเราก็เดินกันต่อไปครับ

โบสถ์รัสเซีย

ในที่สุดก็มาถึงกระเช้า จัดแจงซื้อตั๋วไปกลับเรียบร้อย 1,200 เยน ตอนนี้เวลา 16.00 น. แล้วถือว่าโอเค เพราะจะได้เห็นวิวเมืองตอนมีแสงอาทิตย์และตอนไม่มีแสง ขึ้นไปถึงยอดเขาก็เดินถ่ายรูปเล่นกัน มีร้านอาหาร ร้านขนมให้ได้ทานเล่นรอเวลาด้วย

กระเช้าขึ้นยอดเขาฮาโกดาเตะ

ข้างบนอากาศเย็นกว่าข้างล่างมากๆ นะครับ ลมพัดหอบความเย็นกระแทกใบหน้าเป็นระยะๆ ดังนั้นเตรียมอุปกรณ์กันหนาวจัดเต็มทั้งผ้าพันคอ ถุงมือ หรือหาแผ่นร้อนแปะก็ได้ครับ อ่ะ.. เรามาชมวิวกันดีกว่า อากาศดีมากๆ ครับ ฟ้าเปิดสดใสทีเดียว

วิวจากยอดเขาฮาโกดาเตะ ยามเย็น


วิวจากยอดเขาฮาโกดาเตะ ตอนค่ำ

ตอนใกล้ค่ำนี่ทัวร์มาขึ้นลงกระเช้ากันเพียบเลย พวกผมต้องต่อคิวกันนาน 30 นาทีทีเดียวกว่าจะได้ลงมาข้างล่าง เสร็จแล้วก็เดินย้อนกลับไปยังรถรางที่เดิม ระหว่างเดินกลับแวะถ่ายรูปโบสถ์โมโตมาจินิดหน่อยพอเป็นพิธี ตอนกลางคืนก็สวยไปอีกแบบนะ มีการเอาไฟมาประดับเป็นแสงสีสวยงามจริงๆ

โบสถ์โมโตมาจิ

บ้ายบาย ฮาโกดาเตะ พวกเราออกจากฮาโกดาเตะแต่เช้าเพราะวันนี้จะต้องรีบเดินทางไปเมืองนิเซโกะ โดยเราจะต้องนั่งรถไฟสองต่อ ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมงเลยทีเดียว รถไฟที่ผมได้นั่งเป็นรถไฟตู้เดียวไปกันแบบหวานเย็นซะด้วยได้บรรยากาศญี่ปุ่นๆ ตามชนบทมากๆ เลยล่ะครับ ขอวาร์ปมาที่สถานีโอชามัมเบะเลยล่ะกันครับ ที่นี่ยังไม่ถึงนิเซโกะครับผมแค่ต้องมารอเพื่อต่อรถไฟอีกขบวนนั่นเอง ผมเลยไปเดินถ่ายรูปเล่นท่ามกลางหิมะฆ่าเวลาซะเลย สถานีนี้เป็นสถานีเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยหิมะที่กำลังตกค่อนข้างมาก ได้เจอหิมะลอยล่ะล่องตกใส่หัวสมใจ

สถานีรถไฟโอชามัมเบะ (OSHAMAMBE) ท่ามกลางหิมะ

เสร็จแล้วก็เดินทางต่อไปยังสถานีกุดจัง (KUTCHAN) วิวระหว่างทางอลังการมากๆ เพราะตัวรถไฟจะวิ่งลัดเลาะไปใจกลางป่าระหว่างภูเขาให้ใจตุ้มๆ ต่อมๆ แล่นท่ามกลางพายุหิมะที่พัดต้นไม้สองข้างทางอย่างสนุกสนาน มีจอดเคลียร์หิมะตลอดทาง ฮ่าๆๆ อะไรหนักหนาเนี่ย มีตู้เดียวด้วยนะ สองข้างทางไม่มีบ้านพักอะไรเลย และแล้วเราก็มาถึงสถานีกุดจังซึ่งเป็นที่ที่รถชัตเตอร์บัสของโรงแรม Green Leaf Niseko จะมารับพวกผม

สถานีกุดจัง (KUTCHAN)

ตอนนี้ทุลักทุเลช่วยแบกกระเป๋าทั้งใบเล็กใบใหญ่กันเอาขึ้นรถจนไม่ได้ถ่ายรูปเก็บบรรยากาศกันเลย พอถึงโรงแรมก็โยนข้าวของเตรียมออกไปหาอาหารเที่ยงทาน แต่ขอถ่ายรูปสักนิดเพราะห้องพักที่นี่อลังการมากผมได้นอนติดกระจกหน้าต่างบานใหญ่ที่มองออกไปเห็นวิวภูเขาและหิมะขาวโพลน เกือบจะฟินสุดๆ ล่ะ ถ้าท้องไม่ร้องซะก่อน ว่าแล้วก็ขอตัวไปหาอะไรทานก่อนนะคร้าบ

เตียงเสริมของผม กับวิวจากกระจกบานใหญ่

เมื่อทานอาหารเสร็จแล้วก็หยิบเสื้อขนเป็ดตัวเก่งออกไปเดินเล่นสำรวจสถานที่กันว่าวันนี้เราจะทำอะไรกันดี เพราะตอนนี้พายุหิมะกำลังมาคุเล็กๆ ทำให้กระเช้าปิด รถโดยสารเริ่มหยุดวิ่ง ฮ่าๆ พวกผมก็เลยวนตั้งแต่หน้าโรงแรมยันลานสกี  ก็ได้ข้อสรุปอย่างเอกฉันท์ว่าเราจะเดินถ่ายรูป เล่นสกี และแช่ออนเซ็นกันแถวๆ โรงแรมนี่แหละ ที่นี่มีครบทั้งหมดแล้ว

โรงแรมกรีนลีฟ นิเซโกะ ท่ามกลางหิมะที่ขาวโพลน

การเล่นสกีก็ยากพอสมควรสำหรับมือใหม่เช่นผม แต่ก็เอานะถือว่าเป็นประสบการณ์สักครั้งนึง ที่นี่มีให้เช่าอุปกรณ์การเล่นอย่างเพรียบพร้อมเรียกว่าจ่ายเงินก็ได้ครบทุกอย่างเลย ระบบการรักษาความปลอดภัยก็ดีมาก ผมเล่นกันจนลืมเวลาไปเลย แป๊บเดียวเย็นซะแล้วก็จัดแจงคืนอุปกรณ์แล้วไปทานบุฟเฟ่ต์อาหารเย็นกันครับ

ดินเนอร์อาหารเย็นแบบบุฟเฟ่ต์

ผมรีบทานแล้วก็รีบไปดีกว่าเพราะทัวร์เริ่มทยอยมาลงแล้วที่สำคัญผมรีบที่จะไปแช่ออนเซ็นด้วย ออนเซ็นแบบภายนอกที่นี่บรรยากาศดีมากๆ ครับ

ออนเซนแบบภายนอก โรงแรมกรีนลีฟ นิเซโกะ จากเว็บไซต์ www.thegreenleafhotel.com

จะว่าไปที่นี่คนจะมาเพื่อพักผ่อนจริงๆ ไม่ค่อยได้ออกไปไหน เพราะภายในบริเวณโรงแรมก็มีเพรียบพร้อมไปหมดทุกอย่างแล้ว หิมะที่นี่จะแตกต่างจากที่อื่นมากๆ เพราะนุ่มละเอียดประดุจผงแป้ง ผมทดลองล้มกลิ้งตอนเล่นสกีก็ไม่มีอาการเจ็บใดๆ เลย ยืนยันว่านุ่มจริงๆ ครับ เมื่อเรียบร้อยพวกผมก็พักผ่อนเตรียมเดินทางไปยังเมืองต่อไปวันพรุ่งนี้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่