ขออนุญาตตั้งกระทู้ใหม่นะคะ เพราะกระทู้เก่า
http://ppantip.com/topic/35384499 ตกไปแล้วเรียบร้อยค่ะ ขอบคุณทุกคนที่ตามอ่าน ได้เห็นล็อกอินเก่าๆ จากห้องเฉลิมไทยก่อนแยกจากห้องบางขุนพรหมแล้วมีความสุขเหมือนได้เจอ เพื่อนเก่าสมัยเรียนมัธยม ทำให้ถวิลหาอดีตเมื่อครั้งพันทิปยังรุ่งเรืองเลยค่ะ อยากให้พันทิปกลับไปเป็นแบบนั้นอีกจัง
ก่อนอื่นขออนุญาตตอบคำถามก่อนนะคะ มีเพื่อนสมาชิกถามว่าปัจจุบันท่านขุนพันธรักษ์ราชเดชยังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า ท่านสิ้นไปแล้วค่ะ จขกท.ไปสัมภาษณ์ท่านตอนท่านอายุ 101 ปี ท่านสิ้นอายุ 103 ปี แต่บางแหล่งข่าวบอกว่า 108 ปีค่ะ ตอนท่านสิ้นคนนครไปร่วมงานศพท่านแบบมืดฟ้ามัวดินเลยค่ะ
ส่วนเพื่อนสมาชิกที่ถามว่า จะหาอ่านงานเก่าๆ ของ จขกท.ได้ที่ไหน
หลังจากลองเสิร์ชดู มีเพื่อนสมาชิกชื่อ คุณ tarantella ได้กรุณารวบรวมไว้ให้เมื่อปี พ.ศ. 2555 จากกระทู้
http://topicstock.ppantip.com/chalermthai/topicstock/2012/08/A12478125/A12478125.html นี้ค่ะ ลองคลิกไปดูกันนะคะว่า จขกท. ได้เคยสัมภาษณ์ ณเดชน์ /เจมส์ มาร์ /เวียร์ / หมาก-ปริญ /บอย-ปกรณ์/ ป้าแจ๋ว/ หนุ่ม-อรรถพร/อา ปิ่น ณัฏฐนันท์/ พี่ แอ้ว-อำไพพร/ พี่แดง-ธัญญา / พี่แหม่ม-ธิติมา/ เจสัน ยัง/ เฟิร์สต์ เอกพงษ์/ กัน เดอะ สตาร์ /เอ-ศุภชัย ฯลฯ ไว้อย่างไรบ้าง
จขกท.หายไป ไม่ได้ตั้งกระทู้ Exclusive 4 ปี เพราะเบื่อพวกฟลัดกระทู้ แต่ก็ยังติดตามอ่านอยู่อย่างสม่ำเสมอมาตลอด ล่าสุดเพิ่งโผล่มาเมื่อปี 59 กับกระทู้ของน้อง “เจม มาร์” ค่ะ
นอกเรื่องไปเยอะแล้ว มาเข้าเรื่องตอนที่ท่านเล่าเรื่อง “จับเสือมือเปล่า” กันเลยค่ะ
ขออนุญาตเล่าเฉพาะเสือสังข์ก่อนนะคะ เพราะแค่เสือรายนี้เนื้อหาก็ยาวมากแล้ว ท่านเล่าเรื่อง “เสือสังข์” ไว้ได้น่าสนใจดังนี้
“เสือสังข์คนนี้โหดเหี้ยมมาก ปล้นฆ่ามานับไม่ถ้วน เป็นที่หวาดกลัวของคนทั่วไป ต่อมาเสือสังข์แหกคุกออกมาจากเมืองตรัง สืบเบาะแสทราบว่าเข้ามาอยู่ที่ อ.ควนขนุน จ.พัทลุง ตาก็ได้นำกำลังไปดักจับมันตั้งแต่ตอนตี 4 มีนายครั่งเป็นผู้นำทางไป และก็มีลูกน้องไปอีกคน ชื่อพลตำรวจเผือก
พอเสือสังข์เดินมายังจุดที่เราซุ่มอยู่ ตาก็ปีนออกมา พอเสือสังข์เห็น มันก็ยิงปืนออกมานัดนึง แต่กระสุนข้ามหัวตาไป วันนั้นถือว่าตาโชคดีมาก ที่ปากกระบอกปืนแก๊ปของเสือสังข์หันปากกระบอกปืนเลยไปข้างหลัง จริงๆ ยืนห่างกันนิดเดียว ไม่ถึงศอกเลย
จากนั้นเสือสังข์ซึ่งใช้โซ่ล่ามนายทองเป็นตัวประกันมาด้วย ก็รีบวิ่งไปที่บ้านเมียหลวง ตาก็รีบวิ่งตามไป มีพลเผือกวิ่งตามหลังมา สักพักได้ยินเสียงล้มลงดังตึ้ง ตอนแรกคิดว่าเสือสังข์สะดุดอะไรเสียหลักเลยล้ม เพราะตอนนั้นฟ้ายังมืดมาก แต่มาคิดอีกที เสือสังข์อาจถูกลูกปืนของนายครั่งก็ได้
รออยู่พักนึงเห็นเสียงเงียบ ก็สงสัยว่าเสือสังข์ตายแล้วหรือยังไม่ตาย ตาเลยวิ่งไปดู ตรงนั้นเป็นป่ามีจอมปลวกอยู่ ตาก็ไปยืนบนจอมปลวก อาวุธที่ใช้ตอนนั้น คือ เมาเซอร์ต่อด้ามใส่กระสุนไว้ 10 นัด ส่วนของพลเผือกมี 5 นัด กะว่าถ้ามันตายก็คงนอนนิ่งอยู่กับที่ แต่ถ้ายังไม่ตายก็คงได้ยินเสียงบ้าง
จังหวะที่กำลังชั่งใจว่าเสือสังข์เป็นยังไง ยังไม่ได้ประทับปืนเลย จู่ๆ เสือสังข์ก็ยิงมาหาเรา 1 นัด เสียงดังปั้ง กระสุนลอดรักแร้พลฯเผือกไป แล้วก็ลอยมาเข้าระหว่างเข่าตา พลเผือกเสื้อขาด ส่วนตาโสร่งขาด เดชะบุญ ตายืนกางขา พลฯเผือกยกแขน เลยรอดจากกระสุนมาได้
พอเสียงปืนเงียบ เสือสังข์ก็วิ่งเข้าไปในป่าลึก ตาสั่งให้พลเผือกไปสกัดด้านหน้า ส่วนตัวเองก็วิ่งตามเสียงเข้าไปในป่า ที่ต้องตามเสียงคือ มันมืด มองไม่เห็นกัน ระหว่างที่วิ่งก็ยิงเบิกทางไป ยิงไปก็ต้องคำนวณไปว่ายิงไปกี่นัด เพราะถ้ากระสุนหมด เราจะเพลี่ยงพล้ำ ประมาทไม่ได้เลย
วิ่งยิก (ไล่) กันอยู่นาน ตอนนั้นพระอาทิตย์เริ่มขึ้น ใกล้ 6 โมงเช้าแล้ว ก็เห็นเสือสังข์หันหน้ามา เดินถอยหลังแล้วประทับปืนหันมาทางตา ระยะห่างจากกระบอกปืนห่างกันคืบเดียว พอเสือสังข์ยิงมา ตาก็ยิงสวน แต่แปลก ไม่มีเสียงปืนทั้งคู่ ตาคิดว่ากระสุนของตาหมด ส่วนของเสือสังข์ ตาคิดว่าเป็นเพราะของขลังช่วยไว้
ของขลังที่ว่าก็คือ “อุณาโลมหน้าหมวก” กับ “ตะกรุดทองสองดอก” ของขลังนี้นอกจากจะช่วยให้เสือสังข์ยิงไม่ออกแล้ว ยังทำให้ตามองเห็นมันตัวเล็กลงด้วย (เสียดายที่กระทู้นี้
http://ppantip.com/topic/35399725 ไม่มีคำอธิบายของของขลังทั้งสองอย่างนี้ค่ะ )
ต่อมาตาปัดปืนมันหลุดกระเด็น แล้วตาก็ทิ้งปืนตา มาต่อสู้มือเปล่าแบบลูกผู้ชายกับมัน จากนั้นเราก็ใช้กำลังเตะต่อยกัน ตาถีบยอดอกมันล้ม แล้วก็เข้าไปเอาศอกกดไหล่ ตอนนี้แหละที่ตาพลาด ทำให้มันกัดแขนตาได้ (ว่าแล้วเปิดแขนให้ดูรอยแผล แล้วเล่าว่า) แผลนี้เป็นแผลเดียวในชีวิต ลักษณะแผลเป็นอยู่ที่แขนซ้ายข้างบน ถลอกบวมเป็นรอยฟันทุกซี่ เป็นวงกลมตามรูปปากเพราะว่าถูกกัดจนจมเขี้ยว ยังเป็นแผลเป็นติดมาจนถึงปัจจุบันนี้ เป็นเพียงแผลเดียวที่โจรฝากไว้เป็นที่ระลึก นอกนั้นต่อสู้กับโจรนับสิบก็ไม่เคยบาดเจ็บ มีแผลถึงกับเลือดตกยางออกเหมือนเสือสังข์เลย
เสือสังข์กัดไม่ปล่อย ตาต่อยไปไม่รู้กี่หมัดต่อกี่หมัดก็ไม่ปล่อย บีบลูกกระเดือก ทำทุกท่าก็ไม่ยอมปล่อย
สุดท้ายเข้าตาจนเลยยื่นมือไปบีบไข่มัน บีบสุดแรงเลย เสือสังข์ก็ดิ้นหนี ตาก็ไม่ยอมปล่อย คนนึงหนีคนนึงตามจนป่าตรงนั้นราบเลย แล้วพอเสือสังข์เผลอ ตาก็กัดที่หัวไหล่มันเอาคืนบ้าง เลือดมันไหลกบปากตา ไหลลงไปในคอ ไหลไปตามคางเต็มไปหมด แต่แผลที่มันกัดตา ไม่มีเลือดเลย มีแต่รอยบวมช้ำเท่านั้น
จากนั้นก็สู้กันเหมือนในหนังบู๊นั่นแหละ ด้วยสัญชาตญาณเอาตัวรอด ตาก็ใช้ง่ามนิ้วเท้าหนีบบีบไข่มันไว้ คราวนี้มันเลยชักพร้าที่เหน็บเอวไว้ออกมาฟัน มันฟันถูกเท้าตา 1 แผล แล้วก็พยายามเอาพร้ามาเชือดคอตาจนแสบคอหลายครั้ง ตาก็ใช้เท้าหนีบไข่มัน จนสุดท้ายไม่รู้ว่ามันตายไปตั้งแต่ตอนไหน มารู้อีกทีก็ตอนที่พลเผือกกับนายครั่งตามมาช่วยแล้ว”
จบเรื่องเสือสังข์ค่ะ
ปลาดาว เอเวอริงแฮ
ขออภัยแท็กห้องผิดค่ะ ขอย้ายไปห้องเฉลิมไทย ตามกระทู้นี้เลยนะคะ
http://ppantip.com/topic/35414302 ในกระทู้นี้มีเพิ่มเติมข้อมูลเกี่ยวกับหนังเพิ่มด้วย ขอบคุณมากค่ะ
Exclusive : สัมภาษณ์ “ขุนพันธ์” (อนันดา) จากปากท่าน ตอน จับเสือมือเปล่า ตามคำขอ
ก่อนอื่นขออนุญาตตอบคำถามก่อนนะคะ มีเพื่อนสมาชิกถามว่าปัจจุบันท่านขุนพันธรักษ์ราชเดชยังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า ท่านสิ้นไปแล้วค่ะ จขกท.ไปสัมภาษณ์ท่านตอนท่านอายุ 101 ปี ท่านสิ้นอายุ 103 ปี แต่บางแหล่งข่าวบอกว่า 108 ปีค่ะ ตอนท่านสิ้นคนนครไปร่วมงานศพท่านแบบมืดฟ้ามัวดินเลยค่ะ
ส่วนเพื่อนสมาชิกที่ถามว่า จะหาอ่านงานเก่าๆ ของ จขกท.ได้ที่ไหน
หลังจากลองเสิร์ชดู มีเพื่อนสมาชิกชื่อ คุณ tarantella ได้กรุณารวบรวมไว้ให้เมื่อปี พ.ศ. 2555 จากกระทู้ http://topicstock.ppantip.com/chalermthai/topicstock/2012/08/A12478125/A12478125.html นี้ค่ะ ลองคลิกไปดูกันนะคะว่า จขกท. ได้เคยสัมภาษณ์ ณเดชน์ /เจมส์ มาร์ /เวียร์ / หมาก-ปริญ /บอย-ปกรณ์/ ป้าแจ๋ว/ หนุ่ม-อรรถพร/อา ปิ่น ณัฏฐนันท์/ พี่ แอ้ว-อำไพพร/ พี่แดง-ธัญญา / พี่แหม่ม-ธิติมา/ เจสัน ยัง/ เฟิร์สต์ เอกพงษ์/ กัน เดอะ สตาร์ /เอ-ศุภชัย ฯลฯ ไว้อย่างไรบ้าง
จขกท.หายไป ไม่ได้ตั้งกระทู้ Exclusive 4 ปี เพราะเบื่อพวกฟลัดกระทู้ แต่ก็ยังติดตามอ่านอยู่อย่างสม่ำเสมอมาตลอด ล่าสุดเพิ่งโผล่มาเมื่อปี 59 กับกระทู้ของน้อง “เจม มาร์” ค่ะ
นอกเรื่องไปเยอะแล้ว มาเข้าเรื่องตอนที่ท่านเล่าเรื่อง “จับเสือมือเปล่า” กันเลยค่ะ
ขออนุญาตเล่าเฉพาะเสือสังข์ก่อนนะคะ เพราะแค่เสือรายนี้เนื้อหาก็ยาวมากแล้ว ท่านเล่าเรื่อง “เสือสังข์” ไว้ได้น่าสนใจดังนี้
“เสือสังข์คนนี้โหดเหี้ยมมาก ปล้นฆ่ามานับไม่ถ้วน เป็นที่หวาดกลัวของคนทั่วไป ต่อมาเสือสังข์แหกคุกออกมาจากเมืองตรัง สืบเบาะแสทราบว่าเข้ามาอยู่ที่ อ.ควนขนุน จ.พัทลุง ตาก็ได้นำกำลังไปดักจับมันตั้งแต่ตอนตี 4 มีนายครั่งเป็นผู้นำทางไป และก็มีลูกน้องไปอีกคน ชื่อพลตำรวจเผือก
พอเสือสังข์เดินมายังจุดที่เราซุ่มอยู่ ตาก็ปีนออกมา พอเสือสังข์เห็น มันก็ยิงปืนออกมานัดนึง แต่กระสุนข้ามหัวตาไป วันนั้นถือว่าตาโชคดีมาก ที่ปากกระบอกปืนแก๊ปของเสือสังข์หันปากกระบอกปืนเลยไปข้างหลัง จริงๆ ยืนห่างกันนิดเดียว ไม่ถึงศอกเลย
จากนั้นเสือสังข์ซึ่งใช้โซ่ล่ามนายทองเป็นตัวประกันมาด้วย ก็รีบวิ่งไปที่บ้านเมียหลวง ตาก็รีบวิ่งตามไป มีพลเผือกวิ่งตามหลังมา สักพักได้ยินเสียงล้มลงดังตึ้ง ตอนแรกคิดว่าเสือสังข์สะดุดอะไรเสียหลักเลยล้ม เพราะตอนนั้นฟ้ายังมืดมาก แต่มาคิดอีกที เสือสังข์อาจถูกลูกปืนของนายครั่งก็ได้
รออยู่พักนึงเห็นเสียงเงียบ ก็สงสัยว่าเสือสังข์ตายแล้วหรือยังไม่ตาย ตาเลยวิ่งไปดู ตรงนั้นเป็นป่ามีจอมปลวกอยู่ ตาก็ไปยืนบนจอมปลวก อาวุธที่ใช้ตอนนั้น คือ เมาเซอร์ต่อด้ามใส่กระสุนไว้ 10 นัด ส่วนของพลเผือกมี 5 นัด กะว่าถ้ามันตายก็คงนอนนิ่งอยู่กับที่ แต่ถ้ายังไม่ตายก็คงได้ยินเสียงบ้าง
จังหวะที่กำลังชั่งใจว่าเสือสังข์เป็นยังไง ยังไม่ได้ประทับปืนเลย จู่ๆ เสือสังข์ก็ยิงมาหาเรา 1 นัด เสียงดังปั้ง กระสุนลอดรักแร้พลฯเผือกไป แล้วก็ลอยมาเข้าระหว่างเข่าตา พลเผือกเสื้อขาด ส่วนตาโสร่งขาด เดชะบุญ ตายืนกางขา พลฯเผือกยกแขน เลยรอดจากกระสุนมาได้
พอเสียงปืนเงียบ เสือสังข์ก็วิ่งเข้าไปในป่าลึก ตาสั่งให้พลเผือกไปสกัดด้านหน้า ส่วนตัวเองก็วิ่งตามเสียงเข้าไปในป่า ที่ต้องตามเสียงคือ มันมืด มองไม่เห็นกัน ระหว่างที่วิ่งก็ยิงเบิกทางไป ยิงไปก็ต้องคำนวณไปว่ายิงไปกี่นัด เพราะถ้ากระสุนหมด เราจะเพลี่ยงพล้ำ ประมาทไม่ได้เลย
วิ่งยิก (ไล่) กันอยู่นาน ตอนนั้นพระอาทิตย์เริ่มขึ้น ใกล้ 6 โมงเช้าแล้ว ก็เห็นเสือสังข์หันหน้ามา เดินถอยหลังแล้วประทับปืนหันมาทางตา ระยะห่างจากกระบอกปืนห่างกันคืบเดียว พอเสือสังข์ยิงมา ตาก็ยิงสวน แต่แปลก ไม่มีเสียงปืนทั้งคู่ ตาคิดว่ากระสุนของตาหมด ส่วนของเสือสังข์ ตาคิดว่าเป็นเพราะของขลังช่วยไว้
ของขลังที่ว่าก็คือ “อุณาโลมหน้าหมวก” กับ “ตะกรุดทองสองดอก” ของขลังนี้นอกจากจะช่วยให้เสือสังข์ยิงไม่ออกแล้ว ยังทำให้ตามองเห็นมันตัวเล็กลงด้วย (เสียดายที่กระทู้นี้ http://ppantip.com/topic/35399725 ไม่มีคำอธิบายของของขลังทั้งสองอย่างนี้ค่ะ )
ต่อมาตาปัดปืนมันหลุดกระเด็น แล้วตาก็ทิ้งปืนตา มาต่อสู้มือเปล่าแบบลูกผู้ชายกับมัน จากนั้นเราก็ใช้กำลังเตะต่อยกัน ตาถีบยอดอกมันล้ม แล้วก็เข้าไปเอาศอกกดไหล่ ตอนนี้แหละที่ตาพลาด ทำให้มันกัดแขนตาได้ (ว่าแล้วเปิดแขนให้ดูรอยแผล แล้วเล่าว่า) แผลนี้เป็นแผลเดียวในชีวิต ลักษณะแผลเป็นอยู่ที่แขนซ้ายข้างบน ถลอกบวมเป็นรอยฟันทุกซี่ เป็นวงกลมตามรูปปากเพราะว่าถูกกัดจนจมเขี้ยว ยังเป็นแผลเป็นติดมาจนถึงปัจจุบันนี้ เป็นเพียงแผลเดียวที่โจรฝากไว้เป็นที่ระลึก นอกนั้นต่อสู้กับโจรนับสิบก็ไม่เคยบาดเจ็บ มีแผลถึงกับเลือดตกยางออกเหมือนเสือสังข์เลย
เสือสังข์กัดไม่ปล่อย ตาต่อยไปไม่รู้กี่หมัดต่อกี่หมัดก็ไม่ปล่อย บีบลูกกระเดือก ทำทุกท่าก็ไม่ยอมปล่อย
สุดท้ายเข้าตาจนเลยยื่นมือไปบีบไข่มัน บีบสุดแรงเลย เสือสังข์ก็ดิ้นหนี ตาก็ไม่ยอมปล่อย คนนึงหนีคนนึงตามจนป่าตรงนั้นราบเลย แล้วพอเสือสังข์เผลอ ตาก็กัดที่หัวไหล่มันเอาคืนบ้าง เลือดมันไหลกบปากตา ไหลลงไปในคอ ไหลไปตามคางเต็มไปหมด แต่แผลที่มันกัดตา ไม่มีเลือดเลย มีแต่รอยบวมช้ำเท่านั้น
จากนั้นก็สู้กันเหมือนในหนังบู๊นั่นแหละ ด้วยสัญชาตญาณเอาตัวรอด ตาก็ใช้ง่ามนิ้วเท้าหนีบบีบไข่มันไว้ คราวนี้มันเลยชักพร้าที่เหน็บเอวไว้ออกมาฟัน มันฟันถูกเท้าตา 1 แผล แล้วก็พยายามเอาพร้ามาเชือดคอตาจนแสบคอหลายครั้ง ตาก็ใช้เท้าหนีบไข่มัน จนสุดท้ายไม่รู้ว่ามันตายไปตั้งแต่ตอนไหน มารู้อีกทีก็ตอนที่พลเผือกกับนายครั่งตามมาช่วยแล้ว”
จบเรื่องเสือสังข์ค่ะ
ปลาดาว เอเวอริงแฮ
ขออภัยแท็กห้องผิดค่ะ ขอย้ายไปห้องเฉลิมไทย ตามกระทู้นี้เลยนะคะ
http://ppantip.com/topic/35414302 ในกระทู้นี้มีเพิ่มเติมข้อมูลเกี่ยวกับหนังเพิ่มด้วย ขอบคุณมากค่ะ