เฮลโหลลลลลล...มารีวิวเที่ยวเปิดภูหน้าฝนหน่อยกัน เป็นการไปเที่ยวภูสอยดาวครั้งแรก เราเป็นคนชอบเดินทาง ชอบท่องเที่ยว
มันเหมือนเพิ่มจังหวะชีวิต เพิ่มเรื่องราวให้ตัวเอง เพราะในระหว่างทางเรามักจะเจอเรื่องที่ไม่คาดคิดอยู่เสมอ เหมือนกำไรชีวิตที่เราจะได้รับจากการเดินทางในทุกๆ ครั้ง และการเดินทางครั้งนี้ก็เช่นกัน..
เราไม่รู้ว่าเราสนใจเที่ยวแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ชอบที่จะเดินทางไกลๆ เดินทางเข้าป่า ตามสันเขา ทิ้งความสะดวกสบายไว้ข้างหลัง รู้ตัวอีกทีมันซึมซับและต้องการไปในทุกๆ ที่ แต่เรามักเจอปัญหา เพื่อนๆ ในกลุ่มไม่มีใครที่สนใจแบบเดียวกับเราเลย แต่มันก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ค่ะ เราเริ่มต้นจากการเดินทางคนเดียว เริ่มจากที่ง่ายๆ ใกล้ๆ จนมีเพื่อนร่วมทางใหม่ๆ และครั้งนี้เราไปกับคนแปลกหน้า เรียกว่าเป็นคนที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน และต้องเดินทางร่วมกันกลางป่าเขา มันตื่นเต้นนะที่ต้องไปไกลขนาดนี้แต่ทุกอย่างต้องเรียนรู้ค่ะ^^
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้**ส่วนใหญ่รูปจากมือถือเรานะคะ และบางรูปที่ถ่ายร่วมกันจากกล้องของสมาชิกค่ะ
..ก่อนอื่นมารู้จัก "ภูสอยดาว"
อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว อยู่ที่อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ ยอดสูงสุดของภูสอยดาวสูงจากระดับน้ำทะเล 2,102 เมตร ซึ่งสูงเป็นอันดับ 4 ของประเทศไทย (ไปครั้งนี้เราไม่ได้ไปถึงยอด2,102 เนื่องจากอยู่ในช่วงฤดูฝน ซึ่งจะเปิดให้เข้าช่วงประมาณ พ.ย. - ม.ค. ของทุกปี) และนางเอกของเรื่อง คือ ทุ่งดอกไม้สีม่วง ที่เรียกว่า
"ดอกหงอนนาค" และมีดอกไม้อื่นๆ หลากสีสันขึ้นอยู่ค่อนข้างมากสลับไปให้เห็นอยู่ทั่วลานสน ซึ่งจะบานในช่วงฤดูฝนตั้งแต่เดือน ส.ค. - ก.ย ของทุกปี
เส้นทางเดินเท้าจากน้ำตกภูสอยดาวขึ้นสู่ยอดภูสอยดาว ระยะทางประมาณ 6.5 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 4 - 6 ชั่วโมง ผ่านเนินต่างๆ คือ เนินส่งญาติ เนินปราบเซียน เนินป่าก่อ เนินเสือโคร่ง เนินมรณะ ซึ่งเป็นเนินสุดท้าย ที่ลาดชันที่สุด
..จุดเริ่มต้นของทริปแปลกหน้า
..เริ่มต้นจากกลุ่มแบกเป้เที่ยวทริป.. มีหนึ่งในสมาชิกโพสในกลุ่มชวนเที่ยวภูสอยดาว ไปช่วงเปิดภูเลย 1 - 3 ก.ค. 2559 (3วัน 2 คืน) ใครที่สนใจเริ่มคุยกันหารายละเอียดการเดินทางต่างๆ แล้วการเดินทางของพวกเราก็เริ่มขึ้น..
***สมาชิกของพวกเรามีทั้งหมด 7 คน ( ช. 3 ญ 4 ) เดินทางจากกรุงเทพด้วยรถไฟปู๊นนนนน..
..ในคืนวันที่ 30 มิ.ย. (วันเดินทาง) ทุกคนนัดเจอกันที่หัวลำโพงค่ะ 19.30 น. เพื่อทำความรู้จักจากการที่คุยกันในไลน์กลุ่มมาตลอด และพวกเราได้ตั๋วรถไฟรอบ 21.00 น.
ราคาตั๋วรถไฟ กทม - พิษณุโลก 179 บาท
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ถึงสถานีปลายทาง (สถานีรถไฟพิษณุโลก) ประมาณ 03.50 น.แยกย้ายทำภารกิจส่วนตัว ล้างหน้าล้างตา รอรถสองแถวที่เราเหมาไว้มารับ 04.30 น. (รถเหมาแบบไปกลับ) ราคาเหมา 4500/7 = 462 บาทถ้วน
เพจที่เช่าเหมารถ : อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว คุณพงษ์ บริการรับส่งภูสอยดาวราคาถูก
06.00 น. โดยประมาณ รถสองแถวแล่นมาหยุดที่หน้าตลาดสดเทศบาลตำบลป่าแดง เพื่อให้เราซื้ออาหารแห้ง อาหารสด (เนื้อหมู เนื้อไก่ แนะนำควรรวนเนื้อให้สุกก่อนเดินทาง เพื่อเก็บไว้ได้หลายวัน) และของจำเป็นต่างๆ ให้ครบทุกมื้อที่ต้องอยู่บนภูสอยดาว และไม่ลืมอาหารมื้อกลางวันระหว่างทาง ซื้อเสร็จก็ทานข้าวเช้ากัน และออกเดินทางไปยังอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว
**เราเก็บเงินกองกลางคนละ 400 บาท (ไม่รวมค่ารถ)
07.30 น. น. รถสองแถวพาเรามุ่งหน้าไปยังอุทยานฯ...
สองข้างทางมองเห็นทิวเขา เห็นหมอกที่ลอยไปมา แล้วค่อยๆ มาปกคลุมอยู่ที่ปลายเขา อากาศเย็นสบาย ได้กลิ่นของสายฝนที่น่าจะตกมาเมื่อคืน ดูแล้วทุกอย่างที่นี่ลงตัวเหลือเกิน รถแล่นมาเรื่อยๆ จนเจอหมู่บ้าน ไร่สับปะรด เส้นทางที่มุ่งไปค่อนข้างคดเคี้ยวเป็นระยะๆ มีทางโค้งขึ้นเขาไปเรื่อยๆ บรรยากาศเหล่านี้ที่เมืองหลวงที่ที่เราจากมาคงยากที่จะหาได้ พวกเราต่างเพลินกับสิ่งรอบตัวไม่รู้ว่านานแค่ไหน และสัญญาณโทรศัพท์ก็เริ่มหายไป..
[CR] เที่ยวเปิดภูหน้าฝนกับคนแปลกหน้า..ภูสอยดาว^^
เราไม่รู้ว่าเราสนใจเที่ยวแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ชอบที่จะเดินทางไกลๆ เดินทางเข้าป่า ตามสันเขา ทิ้งความสะดวกสบายไว้ข้างหลัง รู้ตัวอีกทีมันซึมซับและต้องการไปในทุกๆ ที่ แต่เรามักเจอปัญหา เพื่อนๆ ในกลุ่มไม่มีใครที่สนใจแบบเดียวกับเราเลย แต่มันก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ค่ะ เราเริ่มต้นจากการเดินทางคนเดียว เริ่มจากที่ง่ายๆ ใกล้ๆ จนมีเพื่อนร่วมทางใหม่ๆ และครั้งนี้เราไปกับคนแปลกหน้า เรียกว่าเป็นคนที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน และต้องเดินทางร่วมกันกลางป่าเขา มันตื่นเต้นนะที่ต้องไปไกลขนาดนี้แต่ทุกอย่างต้องเรียนรู้ค่ะ^^
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
..ก่อนอื่นมารู้จัก "ภูสอยดาว"
อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว อยู่ที่อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ ยอดสูงสุดของภูสอยดาวสูงจากระดับน้ำทะเล 2,102 เมตร ซึ่งสูงเป็นอันดับ 4 ของประเทศไทย (ไปครั้งนี้เราไม่ได้ไปถึงยอด2,102 เนื่องจากอยู่ในช่วงฤดูฝน ซึ่งจะเปิดให้เข้าช่วงประมาณ พ.ย. - ม.ค. ของทุกปี) และนางเอกของเรื่อง คือ ทุ่งดอกไม้สีม่วง ที่เรียกว่า "ดอกหงอนนาค" และมีดอกไม้อื่นๆ หลากสีสันขึ้นอยู่ค่อนข้างมากสลับไปให้เห็นอยู่ทั่วลานสน ซึ่งจะบานในช่วงฤดูฝนตั้งแต่เดือน ส.ค. - ก.ย ของทุกปี
เส้นทางเดินเท้าจากน้ำตกภูสอยดาวขึ้นสู่ยอดภูสอยดาว ระยะทางประมาณ 6.5 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 4 - 6 ชั่วโมง ผ่านเนินต่างๆ คือ เนินส่งญาติ เนินปราบเซียน เนินป่าก่อ เนินเสือโคร่ง เนินมรณะ ซึ่งเป็นเนินสุดท้าย ที่ลาดชันที่สุด
..จุดเริ่มต้นของทริปแปลกหน้า
..เริ่มต้นจากกลุ่มแบกเป้เที่ยวทริป.. มีหนึ่งในสมาชิกโพสในกลุ่มชวนเที่ยวภูสอยดาว ไปช่วงเปิดภูเลย 1 - 3 ก.ค. 2559 (3วัน 2 คืน) ใครที่สนใจเริ่มคุยกันหารายละเอียดการเดินทางต่างๆ แล้วการเดินทางของพวกเราก็เริ่มขึ้น..
***สมาชิกของพวกเรามีทั้งหมด 7 คน ( ช. 3 ญ 4 ) เดินทางจากกรุงเทพด้วยรถไฟปู๊นนนนน..
..ในคืนวันที่ 30 มิ.ย. (วันเดินทาง) ทุกคนนัดเจอกันที่หัวลำโพงค่ะ 19.30 น. เพื่อทำความรู้จักจากการที่คุยกันในไลน์กลุ่มมาตลอด และพวกเราได้ตั๋วรถไฟรอบ 21.00 น.
06.00 น. โดยประมาณ รถสองแถวแล่นมาหยุดที่หน้าตลาดสดเทศบาลตำบลป่าแดง เพื่อให้เราซื้ออาหารแห้ง อาหารสด (เนื้อหมู เนื้อไก่ แนะนำควรรวนเนื้อให้สุกก่อนเดินทาง เพื่อเก็บไว้ได้หลายวัน) และของจำเป็นต่างๆ ให้ครบทุกมื้อที่ต้องอยู่บนภูสอยดาว และไม่ลืมอาหารมื้อกลางวันระหว่างทาง ซื้อเสร็จก็ทานข้าวเช้ากัน และออกเดินทางไปยังอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว
**เราเก็บเงินกองกลางคนละ 400 บาท (ไม่รวมค่ารถ)
07.30 น. น. รถสองแถวพาเรามุ่งหน้าไปยังอุทยานฯ...
สองข้างทางมองเห็นทิวเขา เห็นหมอกที่ลอยไปมา แล้วค่อยๆ มาปกคลุมอยู่ที่ปลายเขา อากาศเย็นสบาย ได้กลิ่นของสายฝนที่น่าจะตกมาเมื่อคืน ดูแล้วทุกอย่างที่นี่ลงตัวเหลือเกิน รถแล่นมาเรื่อยๆ จนเจอหมู่บ้าน ไร่สับปะรด เส้นทางที่มุ่งไปค่อนข้างคดเคี้ยวเป็นระยะๆ มีทางโค้งขึ้นเขาไปเรื่อยๆ บรรยากาศเหล่านี้ที่เมืองหลวงที่ที่เราจากมาคงยากที่จะหาได้ พวกเราต่างเพลินกับสิ่งรอบตัวไม่รู้ว่านานแค่ไหน และสัญญาณโทรศัพท์ก็เริ่มหายไป..