วันนี้มารีวิวร้านอาหารอีสาน-เวียดนาม ย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ชื่อร้านแซ่บแน่ เป็นร้านที่ขายอาหารไทยอีสาน และอาหารเวียดนามอยู่ในร้านเดียวกัน เป็นร้านที่สาว ๆ หรือ คนรักสุขภาพน่าจะถูกใจกัน เพราะว่าเค้ามีเมนูอีสานที่แซ่บ ๆ มากมายหลากหลายเมนู และก็มีเมนู Signature เด็ด ๆ ในสไตล์อื่นอีกหลายเมนูเช่นกัน เช่น เมี่ยงปลาทู, แหนมเนือง เป็นต้น
ร้านแซ่บแน่ เป็นร้านเฟรนด์ไชรส์ที่มีอยู่หลายสาขา แต่วันนี้มาลองกันที่สาขาอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ จึงขอเรียกร้านนี้ว่า แซ่บแน่ อนุสาวรีย์ ละกันครับ ตัวร้านไม่ใหญ่มาก การเดินทางมาก็ไม่ยากครับ ถ้านั่งรถไฟฟ้ามาก็มาลงสถานีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ แล้วเดินต่อมาบนถนนราชวิถีที่จะมุ่งหน้าไปทางดินแดง ตรงห้าง Center One หลายคนน่าจะนึกออก ร้านจะอยู่ระหว่างซอยราชวิถี 9 (เลิศปัญญา) และซอยราชวิถี 11 เข้าได้ทั้ง 2 ทาง แต่ด้านหน้าร้านจะอยู่ฝั่งซอย 11
ถ้าเดินเข้าจากซอยราชวิถี 11 เดินเข้าไปประมาณ 50 เมตรจะเจอร้านอยู่ทางซ้ายมือ แต่ถ้าใครเอารถมา ก็ให้ขับเข้าซอยราชวิถี 9 แล้วเลยเข้าไปอีกประมาณ 100 เมตร เพื่อไปจอดรถที่ลานจอดชื่อ “หลากหลาย” แล้วเอาบัตรจอดไปประทับตราที่ร้านได้ ไม่ฟรีนะแต่แค่เสียน้อยลง
ตัวร้านตกแต่งแนวร่วมสมัย ไม่ได้ดูไทยมาก แต่สอดแทรกความเป็นไทยอยู่นิดหน่อย สังเกตจากเพดาน ดูสะอาดตาด้วยเก้าอี้ไม้ทรงเตี้ยสีขาว คาดว่าสีประจำร้านเค้าน่าจะเป็นสีส้ม เพราะทั้งป้ายร้าน, เบาะนั่ง และชุดพนักงาน ก็ล้วนเป็นสีส้มสดใสทั้งนั้น ร้านดูสว่างดี ภายในร้านก็โล่ง ๆ ไม่แออัด แต่มีบางบริเวณที่เพดานดูจะเตี้ยไปหน่อย ก็เลือกนั่งได้ตามใจชอบครับ ทั้งร้านน่าจะจุคนได้ประมาณ 80 ที่นั่ง ร้านเปิดทุกวันตั้งแต่ 10.00 – 22.00 น.
เมนูของที่ แซ่บแน่ อนุสาวรีย์ แน่นอนว่าต้องเป็นอาหารอีสานเป็นหลัก แต่เค้าก็มีอาหารเวียดนาม และอาหารไทยเมนูอื่น ๆ ไว้ให้เราได้เลือกกินกันพอสมควรจริง ๆ ในเมนูมีเยอะกว่านี้ แต่นี่เป็นใบติ๊กเมนูอาหารที่เราจะสั่งคร่าว ๆ แต่น่าจะครอบคลุมพอประมาณ แต่ถ้าใครจะไปใช้บริการจริง ๆ ก็ดูจากเล่มเมนูหลักของทางร้านเอาได้เลยครับ มีชื่อเมนูและรูปประกอบครับ ราคาเป็นราคาสุทธินะครับ เช็คบิลมาก็ราคาจามเมนูเลยไม่มี++




เมนูนี้น่าจะเป็นเมนูที่ทางร้านคิดค้นขึ้นเอง ตอนแรกคิดว่าหน้าตาน่าจะเหมือนประมาณปูดอง อะไรประมาณนั้น แต่พอมาเสิร์ฟแล้ว ต่อมน้ำลายทำงานหนักมาก มันดูเผ็ด ดูแสบลิ้นมาก น่ากินสุด ๆ พอลองกินแล้วก็แซ่บได้อย่างที่คาดไว้เลย น้ำยำมีกลิ่นของกระเทียมสดและกระเทียมเจียวที่ชัดเจน รสชาติเผ็ดเปรี้ยวนำสมกับเป็นยำครับ อร่อยได้ใจคนรักรสจัดแน่นอนครับ





เมนูนี้จะเป็นส้มตำที่เสิร์ฟมากับกุ้งสดเราสามารถเลือกได้ว่าต้องการเอาเป็นตำแบบไหน ไทย, ลาว, โคราช และก็เลือกความเผ็ดได้ 3 ระดับ น้อย กลาง มาก ผมก็เลือกเปิดเอาเป็นตำลาวแบบกลางไปก่อน รสชาติแซ่บพอประมาณ แต่ถ้าให้เลือกใหม่อยากได้เผ็ดมากมากกว่า จะได้แซ่บซี๊ดกว่านี้ กุ้งสดมาก ตัวใหญ่พอประมาณ พูดแล้วน้ำลายไหล




ปริมาณมากำลังดี ชอบตรงรสชาติที่ทำเปรี้ยวนำ มีความกลมกล่อมตามมา กลิ่นก็ใช้ได้เลย มีสมุนไพรและหอมเจียวที่เพิ่มเข้ามาจากพวกลาบธรรมดาเพื่อดับกลิ่นของเนื้อเป็ด แต่เรื่องความนัวนี่อยากให้เพิ่มอีกสักนิด อาจจะโดยการเพิ่มข้าวคั่วสักหน่อย เพราะรสชาติดีแล้ว





ก่อนหน้านี้ที่มีกระแสตำถาด เมนูนี้ก็กลายเป็นที่นิยมอยู่ช่วงนึง แต่ที่นี่ก็มีเมนูนี้อยู่อย่างถาวร เครื่องเคียงต่าง ๆ ก็ตามในรูป ดูอลังการดี เสิร์ฟมาเป็นถาด ๆ เลย แต่ไม่ต้องกลัวนะเพราะเค้ามีจานแก้วรองไว้อีกชั้น ไม่โดนโลหะครับ
เรื่องรสชาตินี่ก็ตามสั่งว่าชอบเผ็ดแซ่บระดับไหน ผมแนะนำว่าเอาเผ็ดและรสจัดไปเลยครับ เพราะกินกับเครื่องเคียงเหล่านี้มันจะออกมาพอดีกันครับ
ขอติแค่บางเรื่องนิดนึงเท่านั้น คือ เส้นมะละกอยาวไปหน่อย เวลาจะจ้วงขึ้นมามันยาวไปครับ และก็เมนูเส้นดูจะเยอะไป มีทั้งหมี่ผัด, หมี่ขาว และขนมจีน น่าจะเป็นอะไรที่ต่างจากนี้ไปสักหน่อย แต่ถ้าใครชอบกินส้มตำกับเส้นก็น่าจะชอบนะ





เมนูนี้ไม่ได้ตั้งใจสั่ง แต่หลังจากได้ลองตำลาว น้องพนักงานเสิร์ฟก็แนะนำว่าควรต้องลองโคตรมั่วลาว พอเมนูนี้มาเสิร์ฟก็ดูมั่วจริง ๆ แต่ก็ยังแยกของต่าง ๆ มาให้นะ ไม่ได้คลุกรวมกันมาทีเดียวใครอยากกินอะไรกับอะไรก็ตักกินเองได้เลย
ถ้าเทียบเมนูนี้กับตำลาวกุ้งสดที่กินตอนแรก เมนูนี้จะรสชาติอ่อนกว่าเพราะมีเครื่องอย่างอื่นเพิ่มเข้ามาด้วย ยังไงเป็นไปได้บอกเค้าไปเลยว่าขอรสจัดค่อนข้างเผ็ด แล้วพอกินกับพวกเครื่องที่รายล้อมมาเหล่านั้นมันจะกำลังดีครับ





เป็นตำที่นั่งอยู่ในใจใครหลาย ๆ คน สำหรับผมก็เช่นกัน แต่ที่ผมชอบจะต้องบุบไข่เค็มมาให้แหลก ๆ หน่อย ให้น้ำมันข้น ๆ นัว ๆ แล้วเมื่อทำเช่นนั้นตัวข้าวโพดก็จะแยกออกแล้วน้ำส้มตำที่ข้น ๆ นั้นก็จะแทรกอยู่ตามเม็ดข้าวโพด
เมนูบางที่ก็ใส่ถั่วกระจกแทนน้ำตาลเพราะจะได้ความหวาน ความมันของถั่ว และได้ความกรุบกรอบด้วย แต่ที่นี่จะปรุงแนวคลุกเคล้ากันมาข้าวโพดจะมาเป็นแผง ๆ ไข่เค็มก็มีแยกมาให้ ซึ่งผมคิดว่าถ้านำไข่เค็มและเครื่องต่าง ๆ ไปบุบ ๆ ให้เข้ากันอีกหน่อยผมว่าน่าจะอร่อยกลมกล่อมเลยครับ




จานนี้หน้าตาธรรมดาครับ เป็นไก่ส่วนปีกบนหมักแล้วก็ทอดให้หนังกรอบ ร้อน ๆ อร่อยกรอบดี เนื้อข้างในนี่ควันขึ้นเลย รสชาติเค็ม ๆ มัน ๆ กินกับข้าวเหนียวตัดความเผ็ดของส้มตำได้ดีครับ แต่ราคาดูจะสูงไปหน่อยกับปีกบน 6 ชิ้นนี้




ผมสั่งโดยเน้นว่าไม่เอามัน ก็ได้แบบเนื้อ ๆ มาสมใจ ถือเป็นคอหมูที่มันน้อยดี รสชาติเบาไปหน่อย เพราะความเข้มข้นจะอยู่ที่ผิว ๆ เท่านั้น สังเกตว่าที่ผิวจะฉ่ำ ๆ ด้วยซอสหมัก ถ้าใช้เวลาหมักมากกว่านี้น่าจะได้คอหมูที่เข้มข้นกว่านี้ครับ แจ่วรสชาติใช้ได้เปรี้ยวเค็มเผ็ด มีอมหวานนิด ๆ





หน้าตาดูน่ากิน เป็นน้ำใส แต่มีสีส้มอ่อน ๆ จากพริกและมะเขือเทศ ไม่รอช้าขอซดชิมน้ำต้มแซ่บกันก่อยเลย ซู๊ด....อืม...แซ่บสมชื่อ อร่อยเลย เปรี้ยวเผ็ดเค็มลงตัว แต่ความรู้สึกจะออกไปในทางต้มยำไปสักหน่อย ถ้าเพิ่มพริกทอด และ ผักชีฝรั่ง อีกสักนิดน่าจะให้ความรู้สึกเป็นต้มแซ่บมากกว่านี้