อะแซหวุ่นกี้เมื่อทราบว่าไทยตีหักค่ายหนีไปได้ก็ยกกองทัพเข้าเมือง ให้จุดเพลิงเผาบ้านเรือนและวัดวาอารามใหญ่น้อยทุกตำบล ไล่จับผู้คนและครอบครัวซึ่งยังตกค้างอยู่ในเมืองและยังหนีไม่ทันเก็บเอาทรัพย์สินและเครื่องศัตราวุธต่าง ๆ และตั้งทัพอยู่ในเมืองแล้วอะแซหวุ่นกี้จึงประกาศแก่นายทัพนายกองทั้งปวงว่า “ไทยบัดนี้ฝีมือเข้มแข็งนัก ไม่เหมือนไทยแต่ก่อนแล้ว เมืองพิษณุโลกเสียครั้งนี้ใช่จะแพ้ฝีมือเพราะทแกล้วทหารนั้นหามิได้ เพราะเขาอดข้าวขาดเสบียงอาหารดอกจึงเสียเมือง พม่าซึ่งจะมารบเมืองไทยสืบไปภายหน้านั้น ถ้าแม่ทัพมีสติปัญญาและฝีมือแต่เพียงเสมอเราหรือต่ำกว่าเรา อย่ามาทำสงครามที่เมืองไทยเลย จะเอาชนะเขามิได้ แม้ดีกว่าเราจึงจะมาทำศึกกับไทยได้ชัยชนะ”
ถ้ามี
นี้คือสาเหตุหลัก ที่เสียกรุงครั้งสองหรือเปล่า เพราะว่างศึกมานาน ตั้งแต่สมัยพระนเรศวร
แทบจะไม่มีสงครามใหญ่ ยิ่งบุกเข้ามาถึงชานพระนคร ไม่มีเลย
สอบถาม อะแซหวุ่นกี้ พูดตอนตีเมืองสุพรรณบุรีได้ มีในบันทึกพม่าหรือไม่
ถ้ามี
นี้คือสาเหตุหลัก ที่เสียกรุงครั้งสองหรือเปล่า เพราะว่างศึกมานาน ตั้งแต่สมัยพระนเรศวร
แทบจะไม่มีสงครามใหญ่ ยิ่งบุกเข้ามาถึงชานพระนคร ไม่มีเลย