สวัสดี๊ค่ะ
ขอเรียกแทนตัวเองว่า "ซาย" นะคะ
ทริปนี้เป็นการไปเที่ยวภูเก็ตจริงๆครั้งแรกของซายและครอบครัวเลยก็ว่าได้
ซายไปในช่วง 5-7 กรกฏาคม เรียกว่าเป็นช่วงมรสุมก็จะดูใจร้ายเกินไป ขอเรียกว่าหน้าฝนก็แล้วกันเน๊าะ
เรื่องของเรื่องก็คือไปช่วง low season แบบนี้อะไรๆก็ถูก แถมเป็นช่วงปิดเทอมของเด็กมหาวิทยาลัยด้วย
ดังนั้นแผนการเที่ยวครั้งนี้จะอยู่ในเมืองทั้งนั้น ไม่ได้ออกเกาะดำน้ำแต่อย่างใด
ไปแบบพักผ่อนๆ เน้นๆเลยค่ะ ยังไงๆ ก็ติดตามรับชมกันนะคะ







ซายเดินทางมาภูเก็ตโดยจองโปรฯ เที่ยวบิน + โรงแรม ของสายการบิน Air Asia ไว้ล่วงหน้าเกือบๆปี
และการเดินทางในตัวเมืองภูเก็ตนั้น ซายเลือกเช่ารถกับบริษัท Hertz เพราะได้ข่าวว่าการขนส่งมวลชนสาธารณะของที่นี่ราคาโหดมาก
และเป็นการเช่ารถเที่ยวกับบริษัทครั้งแรกเลย ที่เลือก Hertz เพราะมันทำการจองง่ายดีค่ะ จองผ่านเว็ปไม่ได้เสียอะไร
ตัดเงินผ่านบัตรที่หน้าเคาร์เตอร์ทีเดียว และมัดจำเงินในบัตรไว้ 10,000 บาท




ในส่วนของที่พัก ซายนอนที่ภูเก็ต 2 คืน ก็พัก 2 ที่เลยค่ะ
ที่พักแรก The blu monkey (บ้านสามกอง) อยู่ในเมืองภูเก็ต ไม่ใกล้ทะเล เป็นที่พักที่จองร่วมกับโปรของสายการบิน
แอบไปส่องใน Agoda ราคาประมาณคืนละ 800-900 บาท/ห้อง

และที่พักคืนที่ 2 ถาวรบีช วิลเลจ รีสอร์ตแอนด์สปา (หาดกมลา) เป็นที่พักอยู่ติดทะเลเลยค่ะ
เอาจริงๆที่เลือกที่นี่ เพราะเห็นคุณบี๋และคุณกุ๊บกิ๊บพ่อแม่ของน้องเป่าเปาเค้าจัดฉลองงานแต่งกันที่นี่
แอบส่องราคาใน Agoda ตลอด และตัดสินใจจองล่วงหน้าเพียง 1 เดือน
ได้ราคา 4,835.02 บาท/คืน สำหรับ 2 ห้อง ซึ่งซายคิดว่าน่าจะเป็นราคาดีที่สุดแล้วนะ
จะบอกว่าจองผ่านแอป Agoda ในโทรศัพท์ได้ราคาถูกกว่าจองผ่านเว็ปซะอีกนะ




คือมีแพลนจะไปกินร้านเด่นร้านดังในภูเก็ตมากมายตามที่เหล่านักรีวิวทั้งหลายกล่าวไว้
แต่ในสถานการณ์จริงบอกเลยว่ายาก ด้วยหลายๆอย่าง เช่น อิ่มมากกก ไกลไม่ไปแล้วเหนื่อยแล้ว และอื่นๆอีกมากมาย
เลยเหลือร้านมารีวิวแค่ 3 ร้าน

กันเอง@เพียร์
ร้านนี้ไปเนื่องจากมีกิ๊ฟวอเชอร์ 500 บาท จากการซื้อบัตรโหนสลิงที่งานไทยเที่ยวไทยค่ะ
อ่านรีวิวแล้วพบว่า ร้านนี้มีเมนูเด็ดคือ เบือทอด ตั้งใจไว้เลยจะต้องสั่งแน่ๆ
แต่สถานการณ์จริงตรงหน้า พ่อสั่งปลากะพงทอดน้ำปลาตัดหน้าไปซะงั้น

แหลมหินซีฟูด
สำหรับร้านนี้ก็ตั้งใจไปกินยำสาหร่ายพวงองุ่นเลยนะ แต่สาหร่ายหมดค่ะ มีความเฟลซ้ำซ้อน
ดีที่ยังได้ความหวานฉ่ำของหอยนางรมมาแทน (มันแทนกันได้ช้ะ)


บุญรัตน์ติ่มซำ
เป็นการมากินติ่มซำตามกระแสสังคมเลยค่ะ เพราะใครที่รู้ว่าจะมาภูเก็ตก็ต้องบอกว่า "อย่าลืมมากินติ่มซำนะ"
ทั้งๆที่ในพักของเราก็มีอาหารเช้า แต่ราก็ต้องออกมากินติ่มซำเป็นมื้อเช้าซ้ำอีก เป็นการกินซ้ำซ้อนใน 1 มื้อ (ก็ทำบ่อยนิ)
สำหรับซายประทับใจนะ เป็นติ่มซำเนื้อแน่นๆเลย
และอีกอย่างเพิ่งรู้ว่าติ่มซำที่นี่เค้าจิ้มน้ำจิ้มแบบคล้ายๆน้ำจิ้มสุกี้อ่ะบอกไม่ถูก และไม่ใส่กระเทียมเจียว
แต่มันเข้ากันมากคร้าลงตัวสุดๆ นี่นั่งพิมพ์อยู่ยังน้ำลายไหลเลยอ่ะ

และร้านบุฟเฟ่ต์ทะเลที่เราคาดหวังไว้มาก แต่ด้วยความที่คืนที่สองเราพักที่ริมหาดแล้วการเข้าเมืองต้องขับผ่านเขาทางคดโค้ง
พ่อเลยให้กินแถวๆที่พัก แต่ไม่ถึงกับเฟลนะเพราะร้านบังเอิญไปเจอนี้อร่อยมากกก
(อันนี้ไม่แน่ใจว่าหิว หรือไม่ได้คาดหวัง แต่เกินคาดอร่อยเกินหน้าตาร้าน)
จำชื่อร้านไม่ได้ด้วย เป็นร้าน 2 คูหาอยู่ริมถนน ถ้าขับเรียบหาดมาเจอวงเวียนปลาโลมาแล้วเลี้ยวซ้าย
เส้นเข้าเมืองภูเก็ตน่ะ ตรงมาเรื่อยๆประมาณ 1-3 กิโล ร้านอยู่ซ้ายมือริมถนนเลย




ต้องออกตัวก่อนว่าซายและครอบครัวต้องบิน 2 ต่อ โดยนัดต่างคนมาเจอกันที่สนามบินดอนเมือง
ดังนั้นทริป 3 วัน 2 คืนนี้จะหมดเวลาเดินทางไป-กลับ รวมแล้วประมาณ 1 วันเลยทีเดียว
สถานที่เที่ยวเลยตามเก็บได้เพียงเท่านี้เองค่ะ

วัดไชยธาราราม (วัดฉลอง)
วันนี้ได้ยินเรื่องบารมีหลวงพ่อแช่มมาตั้งแต่สมัยสังคมศึกษาตอนมัธยม ไม่แวะไม่ได้คร้า
ไหว้พระ ทำบุญ และทำการบนหลวงพ่อแล้วจุดประแก้บนทันทีเลย
ทำตามคำแนะนำของ ลุงพุงโต ในพันทิปนี่แหล่ะค่ะ

แหลมพรหมเทพ
มีความตั้งใจจะไปชมพระอาทิตย์ตกดิน แต่ด้วยความมีเมฆหมอกมากมาย
ไม่เห็นตะวันกลมๆเป็นไข่แดงกับเค้าเลย ฟ้าสีส้มๆ ชมพูนมๆ ก็ไม่ได้เห็น
เลยได้แค่รูปแหลมที่ยื่นไปในทะเล

เมืองเก่าภูเก็ต ตึกชิโนโปรตุกีส
มีความไปตามภาพวาดที่ Art street แต่ในสถานการณ์จริงหามุมถ่ายยากนะที่จะได้คนและภาพวาดอยู่ในรูปเดียวกัน
มีเวลาจำกัดด้วย เพราะซายนัดเล่น Flying Hanuman ไว้รอบ 10.00 น. และทางทีมงานบอกว่าควรมาถึงสัก 09.30 น.
บอกได้เลยว่า ไปเป็นชะโชกทัวร์ย่านตึกเก่าชิโนโปรตุกีสเลยก็ว่าได้

Flying Hanuman
บอกได้เลยว่าซายแพลนเอาที่นี่เป็นไฮไลต์ของทริปภูเก็ตครั้งนี้เลย
ในแพลนของซายคือนั่งเครื่องบินราคาถูกๆมาพักผ่อน กินอาหารใต้ อาหารทะเล และโหนสลิงแค่นั้นจบ
แต่สถานที่อื่นๆค่อยจับยัดลงในตารางเวลาทีหลัง
และได้ซื้อโปรฯจากงานไทยเที่ยวไทย ตอนเดือนมีนา ได้ในราคา 1,800 บาท จากปกติ ราคา 3,250 บาท
เห็นส่วนลดขนาดนี้ บอกตัวเองว่าคุ้มค่ะคุ้ม จัดไปเลย 4 ใบ
ไม่ถงไม่ถามสุขภาพพ่อแม่สักคำ แล้วแม่ซายนะเป็นคนขี้กลัวมากๆ และแม่เพิ่งรู้ล่วงหน้าแค่ 1 วันเท่านั้น
ความต่างๆ มากมายจึงบังเกิดขึ้น . . .
อันนี้จะขอเล่าค่อนข้างละเอียดเลยนะ เพราะประทับใจจริงๆ
พอไปถึงหน้างานทางทีมงานก็เอาเอกสารมาให้เซ็นยินยอมว่าตัวเรามีร่างกาย จิตใจ แข็งแรงพร้อมลงสู่สนาม
แม่ก็ไม่เซ็น บอกว่าจะรอตรงนี้ไปเล่นกันเลยไม่ต้องห่วง
เอาจริงๆ นะซายก็ไม่ได้เป็นลูกที่เลวร้ายอะไร แต่ซายรู้จักแม่ดี และก็รู้อยู่แล้วว่าแม่ทำได้
ทางทีมงานก็เข้ามาคุยกับแม่อย่างสุภาพ เป็นกันเอง และใจเย็นสุดๆ ทั้งๆ ที่ลูกค้าเค้าก็มีมากมาย
ทางทีมงานบอกกับแม่ว่า "ขุ่นพี่ ขุ่นพี่ลองเล่นดูก่อนมั้ย ถ้าไม่ไหว ไม่ชอบค่อยลงมา ลองดูก่อนน้า
มันไม่เหวี่ยงเลย (อันนี้ขึ้นอยู่กับไกด์ข้างในเลยนะ ว่าจะจัดแบบไหนให้) มันสนุกน้า" อะไรประมาณนี้
พอแม่ตกลงเล่นไปเปลี่ยนชุดแต่งตัว ก่อนเดินเข้าป่าเข้าดง ทางทีมงานยังตะโกนมาบอกว่า "ขุ่นพี่ผู้หญิงสู้ๆน้า"
ตลอดทางไกด์พยายามสร้างสถานการณ์ให้สนุกสนาน จนแม่สามารถเล่นจบได้ 28 ฐานเลย
ต้องขอขอบคุณจริงๆ ที่ทำให้บ้านเราสนุกขนาดนี้ บอกเล่อว่าซายเองก็ทำไม่ได้

Note: ความจริงทาง Flying Hanuman เค้าจะแจกเสื้อให้ตอนที่เล่นกิจกรรมเสร็จแล้วนะ
แต่เรารู้ไงว่าเสื้อมันจะเปียกเราเลยขอเปลี่ยนเสื้อก่อนเข้าไปเล่น เลยมีความเป็นเสื้อทีมเข้าไปอี๊กกก ถ่ายรูปออกมาแล้วสวยมากๆเลย
แถมเล่นเสร็จเราก็ใส่เสื้อสวยๆของเราไปที่อื่นต่อได้เล้ยยย

สรุป
ทริปเที่ยวภูเก็ตหน้าฝนแบบนี้มันก็ไม่ได้แย่นะ สำหรับซายมันดีเลยแหล่ะ
บ้านซายทุกคนก็มีความสุข สนุกสนานดี เอาเป็นว่าเราก็ต้องรู้จักปรับเปลี่ยนแผนตามความเหมาะสม
เที่ยวหน้าโลบางครั้งอาจจะไม่ได้วิวสวยๆเหมือนตามโปสการ์ด แต่อย่างน้อยมันก็ได้ประการณ์ ได้มุมมองอีกแบบ
และซายก็ยังคงหลงรักการเที่ยวหน้าโลอยู่ แน่นอนว่าราคาคือปัจจัยหลัก ฮิ้ววววววว#รวยเมื่อไหร่ชั้นจะเที่ยวหน้าไฮบ้าง

สำหรับการรีวิวก็ขอจบลงเพียงเท่านี้ ขอบคุณสำหรับการรับชมนะคะ ยินดีสำหรับคำแนะนำและการแลกเปลี่ยนต่างๆ
สุดท้ายนี้ขอให้ทุกคนมีความสุขกับการท่องเที่ยวที่กำลังจะเกิดขึ้นกันนะคร้า