อ่านตอนแรกได้ที่
http://ppantip.com/topic/35397686
อ่านตอนที่สองได้ที่
http://ppantip.com/topic/35397823
อ่านตอนที่สามได้ที่
http://ppantip.com/topic/35398106
อ่านตอนที่สี่ได้ที่
http://ppantip.com/topic/35398186
และแล้วก็มาถึงตอนจบค่ะ ^^
ต่อไปนี้จะมีเรื่องดราม่านิดนึงนะคะ ...
เราไปเฉิงตูด้วยสายการบิน Sichuan Airline ค่ะ โดยจองสายการบินนี้ผ่าน Ctrip ไฟลท์ 12.10-13.15 น. เพื่อจะได้มีเวลาเที่ยวเฉิงตูตอนเย็น แต่สายการบินดันขอยกเลิกไฟล์และเปลี่ยนไปออก 15.55-17.00 น. T-T
จากเหตุการณ์นี้เราว่าเลือก China Eastern Airline ดีกว่าค่ะ แต่ที่เราเลือก Sichuan Airline เพราะตอนจองเวลาบินจะเร็วกว่า China Eastern แต่ปัญหาคือ Sichuan Airline ดันมาเลื่อนไฟลท์ตอนหลังนี่สิ เซ็งมาก
ข้อดีของ China Eastern คือ มีสำนักงานที่ไทย ทำให้สื่อสารสะดวกกว่า คือหลังจองผ่านเอเจนซี่แล้ว สามารถโทรให้สำนักงานเช็คข้อมูลได้ สามารถจองที่นั่งล่วงหน้าได้ ส่วน Sichuan Airline ต้องติดต่อผ่านเอเจนซี่ ซึ่ง Ctrip เป็นเอเจนซี่ที่จีน ถ้าภาษาอังกฤษไม่แข็งแรง ภาษาจีนไม่ได้อย่างเรานี่ ตอนเขาโทรมาแจ้งเรื่องไฟลท์เลื่อนนี่กว่าจะเข้าใจลำบากมากค่ะ คือถ้าย้อนเวลากลับไปได้ เราจะยกเลิกการจอง เอาเงินคืน แล้วไปจอง China Eastern แทน (ถ้าเจอเคสแบบเรา ให้แจ้งเขาว่าสะดวกรับเรื่องทางอีเมล์ก็ได้ค่ะ จะได้มีเวลาค่อย ๆ ทำความเข้าใจปัญหา และศึกษาเงื่อนไขการยกเลิกว่ามีหักอะไรเท่าไรบ้างด้วยค่ะ ที่สำคัญมีหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษรด้วย)
*** เพิ่มเติม ไม่รู้จะเป็นอย่างนี้ทุกครั้งไหมนะคะ จะบอกว่าช่วงที่เราไป ราคา China Eastern จะลงหนัก ๆ มาเหลือประมาณสองพันกว่า ๆ ช่วงหนึ่งเดือนก่อนออกเดินทาง แต่เราก็ไม่รู้อนาคตไง ตอนนั้น Sichuan Airline ลงมาที่สี่พันกว่าเราก็เอาละ เสียดายหนักมาก แต่ตอนนั้นก็เลยตัดสินใจจอง China Eastern เพิ่มเป็นขามาจิ่วจ้ายโกวแทนค่ะ ถ้ายังไงไปช่วง low season ก็ลองอดทนรอใกล้ ๆ เวลาไป แล้วค่อยจองก็ได้นะคะ เผื่อจะได้ราคาถูกและตารางเริ่มนิ่งแล้ว***
วันนี้ที่สนามบินหนาวมาก เพราะมาถึงไม่เท่าไรหิมะก็ตกอีกแล้ว ที่สำคัญสนามบินไม่ปิดประตูและไม่มีฮีตเตอร์ และกว่าจะ check in ได้ก็ต้องรอบ่ายสองโมง (ไปถึงประมาณบ่ายโมงค่ะ) หิวข้าวมากแต่ไม่มีอะไรขาย เลยต้องกินสตรอเบอร์รี่ประทังชีวิต
บ่ายสองโมง ได้เช็คอินเสร็จก็รีบไปด่านตรวจผู้โดยสาร ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ขอตรวจกระเป๋าค่ะ เขาสงสัย power bank Eloop 13,000 mAh ของเรา คือ ที่นี่พูดภาษาอังกฤษกันได้น้อยมากค่ะ เราเลยไม่เข้าใจว่ามันมีปัญหาอะไร แต่เรามั่นใจว่า power bank นี่ปกติเขาให้พกขึ้นเครื่องได้ค่ะ (ห้ามยึดนะเฟ่ย) เราเลยอธิบายยาวมาก แต่เขาก็พลิกไปพลิกมา ทำหน้างง ๆ แล้วส่งคืนให้นะคะ
พอได้ขึ้นไปอาคารผู้โดยสารชั้นสองก็ค่อยยังชั่วหน่อย อากาศอุ่นขึ้น ระหว่างรอเครื่องก็ดูคนจีนตั้งวงเล่นไพ่ อาม่ากินข้าวกล่อง โอ้! พระเจ้า มีแค่เราสี่คนเป็นต่างชาติอ่า (แต่หน้าตี๋หมวยพันธุ์แท้ มีเพดดีกรีด้วย ฮ่าๆ)
เวลาผ่านไปสถานะบนจอก็บอกว่าเครื่อง return คือไรอ่ะ พวกเราก็คิดว่าอากาศคงไม่ดี เลยยังไม่ขึ้นบิน แต่ทำไมเครื่องอื่นบินปกติล่ะ แถมรอ ๆ ไปอากาศแจ่มขึ้นนางก็ไม่มีวี่แววว่าจะบิน
ผ่านไปสามชั่วโมง อากาศเริ่มหนาวขึ้น เครื่องกันหนาวก็อยู่ในกระเป๋าที่โหลดไปแล้ว หิวข้าวก็หิว ตู้กดน้ำก็ไม่มีแก้วกระดาษให้ ขวดเปล่าเราก็ไม่มี จนคิดว่าจะตัดใจยอมเสียเงินซื้อน้ำขวด แต่โชคดีที่เจ้าหน้าที่เอาข้าวกล่องและน้ำมาแจกก่อน ทำให้บรรยากาศและอารมณ์ผู้โดยสารดีขึ้นมาหน่อยนึง
สักพักผ่านไปอีกชั่วโมงเริ่มมีคนไปมุงเคาน์เตอร์มากขึ้น บางคนมีกรอกใบอะไรไม่รู้สีขาวมีแต่อักษรจีนแล้วเดินออกจากเกทไป เราเลยไปถามบ้าง เพราะเครียดมากไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เราจะได้บินไหม เรามีทางเลือกอะไรได้บ้าง ทำไมไม่มีการประกาศอะไรเลย แต่ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ โชคดีเจอน้อง ๆ กลุ่มนึงเลยถามเขาว่าเกิดอะไรขึ้น ปรากฏว่าน้อง ๆ ก็สื่อสารภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้ แต่เขาก็พยายามช่วยเต็มที่มาก ไปหาเพื่อนที่เก่งภาษาที่สุดมาช่วยคุย หาแอปมาแปลภาษาให้ จนพอรู้ว่าเครื่องไม่บินเพราะหิมะ จบ! T-T
เราและเพื่อนพยายามมองหาตัวช่วยอื่นจนไปเจอสาวจีนคนหนึ่งคุยกับชาวต่างชาติอยู่ เลยเข้าไปขอความช่วยเหลือ เธอน่ารักมาก และพูดภาษาอังกฤษได้ชัดมาก สรุปว่าเธอไม่ได้ไปไฟลท์เดียวกับเรา แต่พอเธอรู้ว่าเรารอเครื่องนานมากแล้วไม่มีใครบอกอะไรเราได้ เธอก็รีบไปถามเคาน์เตอร์ให้ ก่อนอธิบายเราว่าสายการบินขอให้เรารอเครื่องที่กำลังบินมาจากเฉิงตู ซึ่งอีกหลายชั่วโมง กว่าเครื่องจะพร้อมให้ขึ้น พวกเราเลยตัดสินใจไปนั่งรอที่ร้านเบอร์เกอร์ ซึ่งเป็นที่เดียวที่มีฮีตเตอร์ และอาหาร คืออีกนิดจะแข็งแล้ว
ราวสามทุ่มกว่า ๆ ก็มีประกาศจากสนามบินให้ไฟลท์เราย้ายเกทและคอยติดตามข้อมูลต่อไป พวกเราจึงออกจากร้านเบอร์เกอร์ไปเกทใหม่ ซึ่งเริ่มมีคนไปเข้าแถวรอขึ้นเครื่องกันบางส่วนแล้ว
สักพักมีหลายคนไปมุงกันที่เคาน์เตอร์ เพื่อนเราเลยออกจากแถวไปสืบ ก็ได้เรื่องมาว่าสายการบินประกาศคืนเงินคนละ 200 หยวน ก่อนขึ้นเครื่อง บรรยากาศเลยดีขึ้นแบบทันตาเห็น (ได้เงินช้อปเพิ่มขึ้นตั้งพันกว่าบาท หุหุ)
Bye Bye จิ่วจ้ายโกว
เครื่องบินบินได้แบบรถเมล์สาย 8 มาก ไม่มีความนุ่มนวลเอาซะเลย ไม่รู้ว่าสภาพอากาศไม่ดีหรือเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว
กว่าจะถึงเฉิงตูก็ราวห้าทุ่มค่ะ เสียใจนิดนึง ฮืออออ อยากไปเดิน Kuan Alley/Zhai Alley (宽窄巷子)
หนีร้อนสงกรานต์ 59 ไปตะลอนเที่ยวจิ่วจ้ายโกว-หวงหลง-ซงพาน-เฉิงตู (ตอนที่ 5-ตอนจบ)
อ่านตอนที่สองได้ที่ http://ppantip.com/topic/35397823
อ่านตอนที่สามได้ที่ http://ppantip.com/topic/35398106
อ่านตอนที่สี่ได้ที่ http://ppantip.com/topic/35398186
และแล้วก็มาถึงตอนจบค่ะ ^^
ต่อไปนี้จะมีเรื่องดราม่านิดนึงนะคะ ...
เราไปเฉิงตูด้วยสายการบิน Sichuan Airline ค่ะ โดยจองสายการบินนี้ผ่าน Ctrip ไฟลท์ 12.10-13.15 น. เพื่อจะได้มีเวลาเที่ยวเฉิงตูตอนเย็น แต่สายการบินดันขอยกเลิกไฟล์และเปลี่ยนไปออก 15.55-17.00 น. T-T
จากเหตุการณ์นี้เราว่าเลือก China Eastern Airline ดีกว่าค่ะ แต่ที่เราเลือก Sichuan Airline เพราะตอนจองเวลาบินจะเร็วกว่า China Eastern แต่ปัญหาคือ Sichuan Airline ดันมาเลื่อนไฟลท์ตอนหลังนี่สิ เซ็งมาก
ข้อดีของ China Eastern คือ มีสำนักงานที่ไทย ทำให้สื่อสารสะดวกกว่า คือหลังจองผ่านเอเจนซี่แล้ว สามารถโทรให้สำนักงานเช็คข้อมูลได้ สามารถจองที่นั่งล่วงหน้าได้ ส่วน Sichuan Airline ต้องติดต่อผ่านเอเจนซี่ ซึ่ง Ctrip เป็นเอเจนซี่ที่จีน ถ้าภาษาอังกฤษไม่แข็งแรง ภาษาจีนไม่ได้อย่างเรานี่ ตอนเขาโทรมาแจ้งเรื่องไฟลท์เลื่อนนี่กว่าจะเข้าใจลำบากมากค่ะ คือถ้าย้อนเวลากลับไปได้ เราจะยกเลิกการจอง เอาเงินคืน แล้วไปจอง China Eastern แทน (ถ้าเจอเคสแบบเรา ให้แจ้งเขาว่าสะดวกรับเรื่องทางอีเมล์ก็ได้ค่ะ จะได้มีเวลาค่อย ๆ ทำความเข้าใจปัญหา และศึกษาเงื่อนไขการยกเลิกว่ามีหักอะไรเท่าไรบ้างด้วยค่ะ ที่สำคัญมีหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษรด้วย)
*** เพิ่มเติม ไม่รู้จะเป็นอย่างนี้ทุกครั้งไหมนะคะ จะบอกว่าช่วงที่เราไป ราคา China Eastern จะลงหนัก ๆ มาเหลือประมาณสองพันกว่า ๆ ช่วงหนึ่งเดือนก่อนออกเดินทาง แต่เราก็ไม่รู้อนาคตไง ตอนนั้น Sichuan Airline ลงมาที่สี่พันกว่าเราก็เอาละ เสียดายหนักมาก แต่ตอนนั้นก็เลยตัดสินใจจอง China Eastern เพิ่มเป็นขามาจิ่วจ้ายโกวแทนค่ะ ถ้ายังไงไปช่วง low season ก็ลองอดทนรอใกล้ ๆ เวลาไป แล้วค่อยจองก็ได้นะคะ เผื่อจะได้ราคาถูกและตารางเริ่มนิ่งแล้ว***
วันนี้ที่สนามบินหนาวมาก เพราะมาถึงไม่เท่าไรหิมะก็ตกอีกแล้ว ที่สำคัญสนามบินไม่ปิดประตูและไม่มีฮีตเตอร์ และกว่าจะ check in ได้ก็ต้องรอบ่ายสองโมง (ไปถึงประมาณบ่ายโมงค่ะ) หิวข้าวมากแต่ไม่มีอะไรขาย เลยต้องกินสตรอเบอร์รี่ประทังชีวิต
บ่ายสองโมง ได้เช็คอินเสร็จก็รีบไปด่านตรวจผู้โดยสาร ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ขอตรวจกระเป๋าค่ะ เขาสงสัย power bank Eloop 13,000 mAh ของเรา คือ ที่นี่พูดภาษาอังกฤษกันได้น้อยมากค่ะ เราเลยไม่เข้าใจว่ามันมีปัญหาอะไร แต่เรามั่นใจว่า power bank นี่ปกติเขาให้พกขึ้นเครื่องได้ค่ะ (ห้ามยึดนะเฟ่ย) เราเลยอธิบายยาวมาก แต่เขาก็พลิกไปพลิกมา ทำหน้างง ๆ แล้วส่งคืนให้นะคะ
พอได้ขึ้นไปอาคารผู้โดยสารชั้นสองก็ค่อยยังชั่วหน่อย อากาศอุ่นขึ้น ระหว่างรอเครื่องก็ดูคนจีนตั้งวงเล่นไพ่ อาม่ากินข้าวกล่อง โอ้! พระเจ้า มีแค่เราสี่คนเป็นต่างชาติอ่า (แต่หน้าตี๋หมวยพันธุ์แท้ มีเพดดีกรีด้วย ฮ่าๆ)
เวลาผ่านไปสถานะบนจอก็บอกว่าเครื่อง return คือไรอ่ะ พวกเราก็คิดว่าอากาศคงไม่ดี เลยยังไม่ขึ้นบิน แต่ทำไมเครื่องอื่นบินปกติล่ะ แถมรอ ๆ ไปอากาศแจ่มขึ้นนางก็ไม่มีวี่แววว่าจะบิน
ผ่านไปสามชั่วโมง อากาศเริ่มหนาวขึ้น เครื่องกันหนาวก็อยู่ในกระเป๋าที่โหลดไปแล้ว หิวข้าวก็หิว ตู้กดน้ำก็ไม่มีแก้วกระดาษให้ ขวดเปล่าเราก็ไม่มี จนคิดว่าจะตัดใจยอมเสียเงินซื้อน้ำขวด แต่โชคดีที่เจ้าหน้าที่เอาข้าวกล่องและน้ำมาแจกก่อน ทำให้บรรยากาศและอารมณ์ผู้โดยสารดีขึ้นมาหน่อยนึง
สักพักผ่านไปอีกชั่วโมงเริ่มมีคนไปมุงเคาน์เตอร์มากขึ้น บางคนมีกรอกใบอะไรไม่รู้สีขาวมีแต่อักษรจีนแล้วเดินออกจากเกทไป เราเลยไปถามบ้าง เพราะเครียดมากไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เราจะได้บินไหม เรามีทางเลือกอะไรได้บ้าง ทำไมไม่มีการประกาศอะไรเลย แต่ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ โชคดีเจอน้อง ๆ กลุ่มนึงเลยถามเขาว่าเกิดอะไรขึ้น ปรากฏว่าน้อง ๆ ก็สื่อสารภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้ แต่เขาก็พยายามช่วยเต็มที่มาก ไปหาเพื่อนที่เก่งภาษาที่สุดมาช่วยคุย หาแอปมาแปลภาษาให้ จนพอรู้ว่าเครื่องไม่บินเพราะหิมะ จบ! T-T
เราและเพื่อนพยายามมองหาตัวช่วยอื่นจนไปเจอสาวจีนคนหนึ่งคุยกับชาวต่างชาติอยู่ เลยเข้าไปขอความช่วยเหลือ เธอน่ารักมาก และพูดภาษาอังกฤษได้ชัดมาก สรุปว่าเธอไม่ได้ไปไฟลท์เดียวกับเรา แต่พอเธอรู้ว่าเรารอเครื่องนานมากแล้วไม่มีใครบอกอะไรเราได้ เธอก็รีบไปถามเคาน์เตอร์ให้ ก่อนอธิบายเราว่าสายการบินขอให้เรารอเครื่องที่กำลังบินมาจากเฉิงตู ซึ่งอีกหลายชั่วโมง กว่าเครื่องจะพร้อมให้ขึ้น พวกเราเลยตัดสินใจไปนั่งรอที่ร้านเบอร์เกอร์ ซึ่งเป็นที่เดียวที่มีฮีตเตอร์ และอาหาร คืออีกนิดจะแข็งแล้ว
ราวสามทุ่มกว่า ๆ ก็มีประกาศจากสนามบินให้ไฟลท์เราย้ายเกทและคอยติดตามข้อมูลต่อไป พวกเราจึงออกจากร้านเบอร์เกอร์ไปเกทใหม่ ซึ่งเริ่มมีคนไปเข้าแถวรอขึ้นเครื่องกันบางส่วนแล้ว
สักพักมีหลายคนไปมุงกันที่เคาน์เตอร์ เพื่อนเราเลยออกจากแถวไปสืบ ก็ได้เรื่องมาว่าสายการบินประกาศคืนเงินคนละ 200 หยวน ก่อนขึ้นเครื่อง บรรยากาศเลยดีขึ้นแบบทันตาเห็น (ได้เงินช้อปเพิ่มขึ้นตั้งพันกว่าบาท หุหุ)
Bye Bye จิ่วจ้ายโกว
เครื่องบินบินได้แบบรถเมล์สาย 8 มาก ไม่มีความนุ่มนวลเอาซะเลย ไม่รู้ว่าสภาพอากาศไม่ดีหรือเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว
กว่าจะถึงเฉิงตูก็ราวห้าทุ่มค่ะ เสียใจนิดนึง ฮืออออ อยากไปเดิน Kuan Alley/Zhai Alley (宽窄巷子)