update บริษัทรถยนต์หลายบริษัท ทำยอดสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์นะครับ เช่น Mazda โตทะลุ 26%ในปีนี้ ยังมี Suzuki Isuzu และอื่นๆ ที่ยอดขายเพิ่มขึ้น ขนาด Nissan ที่ยอดไม่ได้เป้า ยังคิดว่าจะได้ market share เป็นเลข 2 หลักใน 3 ปี

-----------------------------------------------------------------------------------------------

วันก่อนเห็นคนใน facebook แชร์บทความอาจารย์คนหนึ่งที่สอนการตลาด Consumer Behavior มศว ว่า Toyota ลดคนเพราะใช้หุ่นยนต์มาทำงานแทน ลงทุนไปมหาศาล ซึ่งตอนนั้นผมก็ไม่เห็นด้วย เพราะ Toyota เขาลงทุนเรื่องนี้และ AI มานานแล้ว และลงทุนอีกในหลายบริษัทเทคโนโลยีด้วย อีกอย่างเรื่องรถคันแรกที่ รมต อุตสาหกรรมอ้างก็ไม่ใช่อีก แต่พลังโซเชียลทำให้มีการแชร์ข้อมูลแบบผิดๆ วันนี้ Toyota มาให้ข่าวเองเลย ว่า ไม่เกี่ยวกับเศรษฐกิจภายในประเทศเลย แต่เป็นเพราะยอดส่งออกลดลง (เรื่องส่งออก ไทยเราก็ติดลบติดต่อกันมา 16-17 เดือนแล้วนะครับถ้าจำไม่ผิด)

------------------------------------------------------------------------------------

ก.แรงงานร่วมผู้บริหารโตโยต้า ยืนยันมีแรงงานซับคอนแทรกเลิกเข้าร่วมโครงการเลิกจ้างโดยสมัครใจ 900 คน แจงเลิกจ้าง เพราะยอดสั่งซื้อลดไม่ใช่นำหุ่นยนต์มาทำงานแทน

เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม ที่กระทรวงแรงงาน นายสุเมธ มโหสถ รองปลัดกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย นายฉัตรชัย ทวีสกุลวัชระ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ร่วมกันแถลงข่าวกรณีการเลิกจ้างลูกจ้างรับเหมาค่าแรง โครงการจากกันด้วยใจ

นายสุเมธกล่าวว่า บริษัท โตโยต้า ยืนยันว่าการจัดโครงการนี้ขึ้นไม่ได้เกิดจากผลกระทบเศรษฐกิจภายในประเทศ แต่เกิดจากจำนวนยอดส่งออกรถยนต์ลดลงจาก 370,000 คัน เหลือเพียง 310,000 คัน เนื่องจากประเทศในตะวันออกกลางลดการสั่งซื้อและราคาน้ำมันในตลาดโลกลดลง ส่วนกระแสข่าวการนำหุ่นยนต์มาทำงานทดแทนคนนั้นไม่เป็นความจริง บริษัทยังยืนยันที่จะทำงานร่วมกับพนักงานต่อไป และหวังว่าจะเป็นสถานการณ์ชั่วคราว ซึ่งกระทรวงแรงงานรู้สึกไม่กังวลใจเมื่อได้รับการยืนยันเช่นนี้ ทั้งนี้ กระแสข่าวว่าพนักงานเข้าร่วมโครงการฯ 4,000-5,000 คน ไม่เป็นความจริง ข้อเท็จจริงมีพนักงานแสดงความจำนงเข้าร่วมโครงการฯ 1,200 คน อีกทั้ง การปรับลดพนักงานรับเหมาค่าแรง (ซับคอนแทรค) ของบริษัทโตโยต้านั้นรับเพียงกว่า 900 คนเท่านั้น ส่วนสาเหตุที่มีพนักงานสมัครเข้าร่วมโครงการมากกว่าจำนวนรับ เพราะทราบว่าเป็นการเลิกจ้างระยะสั้น และอนาคตจะรับกลับเข้าทำงานใหม่ในตำแหน่งเดิม

นายสุเมธกล่าวอีกว่า กระทรวงแรงงานได้ขอข้อมูลพนักงานที่เข้าร่วมโครงการฯ ทั้งหมดจากบริษัท โตโยต้า เพื่อประสานหางานให้ใหม่ โดยบริษัทจะส่งข้อมูลให้ในวันที่ 15 กรกฎาคมนี้ โดยขณะนี้ได้เตรียมงานด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ไว้ใน 4 จังหวัดได้แก่ สมุทรปราการ จำนวน 58 อัตรา ฉะเชิงเทรา 60 อัตรา ชลบุรี 1,111 อัตรา และระยอง 930 อัตรา รวมทั้งได้เตรียมอาชีพอิสระไว้รองรับหากแรงงานต้องการ ซึ่ง พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้สั่งให้ทุกหน่วยงานทำแผนปฏิบัติการร่วมบูรณาการการทำงานเพื่อรองรับเหตุการณ์ที่มีผลกระทบต่อแรงงาน เช่น อุบัติภัย การเลิกจ้าง ซึ่งทุกหน่วยงานของกระทรวงจะเข้าไปให้ความช่วยเหลือพร้อมกัน อย่าง กรณีเลิกจ้าง ก็จะหางานใหม่ให้ตรงความต้องการของแรงงาน โดยเป็นงานใกล้เคียงกับงานเดิมให้มากที่สุด และยืนยันว่าสถานการณ์การเลิกจ้างในปัจจุบันยังไม่น่าเป็นห่วง เนื่องจากประเทศไทยยังประสบปัญหาขาดแคลนแรงงานกว่า 240,000 อัตราทั่วประเทศ โดยเฉพาะช่างฝีมือที่ยังขาดแคลนเป็นจำนวนมาก

นายฉัตรชัยกล่าวว่า เมื่อวานนี้ (13 ก.ค.) บริษัทได้จ่ายเงินค่าชดเชยและสิทธิประโยชน์ต่างๆ ให้กับพนักงานทั้งหมดแล้ว รวมเป็นเงินกว่า 100 ล้านบาท และขอยืนยันบริษัทไม่มีนโยบายนำหุ่นยนต์มาทำงานแทนพนักงาน ทั้งนี้ เมื่อสถานการณ์การส่งออกรถยนต์ดีขึ้น ก็พร้อมรับพนักงานที่เข้าร่วมโครงการฯ กลับเข้าทำงานในตำแหน่งและอัตราเงินเดิม รวมทั้งนับอายุงานต่อเนื่อง ทั้งนี้ ขณะนี้บริษัทมีซับคอนแทรกที่ยังทำงานอยู่ด้วยกว่า 4,000 คน โดยในวันที่ 26 กรกฏาคมนี้ บริษัทโตโยต้าฯ จะแถลงผลประกอบการและชี้แจงสถานของบริษัททั้งหมด ที่โรงแรมโอกุระ กรุงเทพฯ

http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1468480287