เราประสบอุบัติเหตุรถมอเตอร์ไซค์ชนกันค่ะ โดยเราขับบิ๊กไบค์และเป็นฝ่ายถูก ส่วนคู่กรณีเป็นฝรั่ง โดยเบื้องต้นเราเรียกร้องค่าเสียหายไปดังนี้ค่ะ
- ค่ารักษาพยาบาลตามจริง ส่วนเกินจากประกันอุบัติเหตุ (เราใช้ประกันกลุ่มของบริษัทที่ทำงานและ พรบ.) จำนวนเงิน 130,000 บาท
- ค่าชดเชยรายได้เนื่องจากไม่ได้ไปทำงานและไม่ได้รับเงินเดือนจำนวนสามเดือน (เราขาหักต้องใส่เหล็ก และเรามีรายได้สุทธิปประมาณ 50,000 ต่อเดือน) จำนวนเงิน 150,000 บาท
- ค่าซ่อมรถตามบิลจริง จำนวน 40,000 บาท
รวมทั้งสิ้นเป็นเงิน 320,000 บาท
หลังจากนั้น จนท.ตำรวจก็เรียกเราและคู่กรณีไปเจรจากันที่โรงพัก (และเราก็แจ้งไปยังจนท.ประกันรถบิ๊กไบค์ แต่จนท. ไม่ได้มาตามนัด) และพบว่าฝรั่งที่ชนเรานั้นเป็นนักท่องเที่ยวที่ไม่มีอาชีพ และ passport หมดอายุ ซึ่งไม่มีเงินจ่ายค่าสินไหมตามที่เราเรียกร้องไป โดย จนท.ตำรวจให้คำแนะนำเราว่ากรณีแบบนี้หากขึ้นศาลก็มีแต่เสียกับเสีย เสียเวลา เสียเงินค่าใช้จ่ายมากขึ้น และที่สำคัญทาง จนท. ไม่สามารถยึด passport ของคู่กรณีไว้ได้ เนื่องจากเค้าก็ต้องดำเนินคดีผลักดันฝรั่วคนนี้ออกนอกประเทศเพราะ passport เค้าหมดอายุ ตอนนั้นเราจึงมืดแปดด้านมาก เพราะไม่มีความรู้เรื่องกฎหมายเลย และดูเหมือนเราจะไม่ได้ค่าเสียหายอะไรเลยจากอุบัติเหตุครั้งนี้
จนท.ตำรวจให้เวลาเราและคู่กรณีไกล่เกลี่ย และนัดเข้าไปเจรจาอีกรอบในอาทิตย์ถัดไป เราแจ้งไปยังจนท.ประกัน แต่เช่นเคย ไม่มีการตอบกลับใดๆทั้งสิ้น
จนสุดท้ายเรายินยอมลดค่าสินไหมลงเหลือแค่ 150,000 บาท ตามที่คู่กรณีเสนอ เพราะในใจเราคิดว่า 150,000 นี้ถือเป็นเงินค่าชดเชยรายได้สามเดือน และเรายังสามารถเคลมค่ารักษาพยาบาลและค่าซ่อมรถจากบริษัทประกันของเราได้ (ค่ารักษาพยาบาลเคลมได้สูงสุด 1 แสน และค่าซ่อมรถเคลมตามบิลจริง)
หลังจากเสร็จเรื่องจากโรงพัก เราก็ดำเนินการยื่นเอกสารเคลมกับ บ.ประกัน จนเรื่องผ่านไป 1 เดือน เราได้รับหนังสือปฏิเสธจ่ายจาก บ.ประกัน โดยมีเหตุผลว่าเราได้ตกลงกับคู่กรณีและยินยอมรับเงินสินไหมเรียบร้อยแล้ว (โดยเอกสารยินยอมคดีของตำรวจระบุว่า เงิน 150,000 ที่เรารับมาเป็นค่ารักษาพยาบาล ค่าซ่อมรถ และค่าสินไหมทดแทน )
คือเราไม่รู้จริงๆว่าการยอมให้ จนท.ตำรวจระบุรายละเอียดข้างต้นจะส่งผลให้เราไม่สามารถเคลมประกันได้ โดยตอนนี้เราเดือดร้อนมากเพราะเราได้ไปยืมเงินเพื่อนสนิทมาเป็นค่าใช้จ่ายระหว่างหยุดงาน เพราะคิดว่าพอได้เงินเคลมมาก็จะคืนกลับให้เค้า ใช้เงินเป็นค่าเช่าบ้าน ค่าผ่อนรถยนต์ ค่าผ่อนรถบิ๊กไบค์ ค่าใช้จ่ายประจำวัน เพราะเงิน 150,000 ที่เราได้มาจากคู่กรณีในตอนแรกนั้น เราได้จ่ายคืนค่าบัตรเครดิตที่เราสำรองจ่ายค่ารักษาพยายาลส่วนเกินไปแล้ว และตอนนี้เราเพิ่งได้รับแจ้งจากศูนย์ซ่อมรถบิ๊กไบค์เราว่าบริษัทประกันปฏิเสธการจ่ายและเราต้องชำระค่าซ่อมรถเองด้วย
เราเครียดมากค่ะ จึงอยากปรึกษาว่ามีวิธีไหน หรือมีโอกาสไหมที่เราจะสามารถได้เงินและใช้สิทธิ์เรากับบริษัทประกันไหมคะ เราซื้อประกันชั้นหนึ่ง เราก็หวังพึ่งเวลาเกิดเรื่องแบบนี้ถูกไหมคะ
บ.ประกันปฏิเสธจ่ายเงินค่าสินไหม เหตุเพราะเรารับเงินจากคู่กรณีมาแล้ว ทำอย่างไรได้บ้างคะ
- ค่ารักษาพยาบาลตามจริง ส่วนเกินจากประกันอุบัติเหตุ (เราใช้ประกันกลุ่มของบริษัทที่ทำงานและ พรบ.) จำนวนเงิน 130,000 บาท
- ค่าชดเชยรายได้เนื่องจากไม่ได้ไปทำงานและไม่ได้รับเงินเดือนจำนวนสามเดือน (เราขาหักต้องใส่เหล็ก และเรามีรายได้สุทธิปประมาณ 50,000 ต่อเดือน) จำนวนเงิน 150,000 บาท
- ค่าซ่อมรถตามบิลจริง จำนวน 40,000 บาท
รวมทั้งสิ้นเป็นเงิน 320,000 บาท
หลังจากนั้น จนท.ตำรวจก็เรียกเราและคู่กรณีไปเจรจากันที่โรงพัก (และเราก็แจ้งไปยังจนท.ประกันรถบิ๊กไบค์ แต่จนท. ไม่ได้มาตามนัด) และพบว่าฝรั่งที่ชนเรานั้นเป็นนักท่องเที่ยวที่ไม่มีอาชีพ และ passport หมดอายุ ซึ่งไม่มีเงินจ่ายค่าสินไหมตามที่เราเรียกร้องไป โดย จนท.ตำรวจให้คำแนะนำเราว่ากรณีแบบนี้หากขึ้นศาลก็มีแต่เสียกับเสีย เสียเวลา เสียเงินค่าใช้จ่ายมากขึ้น และที่สำคัญทาง จนท. ไม่สามารถยึด passport ของคู่กรณีไว้ได้ เนื่องจากเค้าก็ต้องดำเนินคดีผลักดันฝรั่วคนนี้ออกนอกประเทศเพราะ passport เค้าหมดอายุ ตอนนั้นเราจึงมืดแปดด้านมาก เพราะไม่มีความรู้เรื่องกฎหมายเลย และดูเหมือนเราจะไม่ได้ค่าเสียหายอะไรเลยจากอุบัติเหตุครั้งนี้
จนท.ตำรวจให้เวลาเราและคู่กรณีไกล่เกลี่ย และนัดเข้าไปเจรจาอีกรอบในอาทิตย์ถัดไป เราแจ้งไปยังจนท.ประกัน แต่เช่นเคย ไม่มีการตอบกลับใดๆทั้งสิ้น
จนสุดท้ายเรายินยอมลดค่าสินไหมลงเหลือแค่ 150,000 บาท ตามที่คู่กรณีเสนอ เพราะในใจเราคิดว่า 150,000 นี้ถือเป็นเงินค่าชดเชยรายได้สามเดือน และเรายังสามารถเคลมค่ารักษาพยาบาลและค่าซ่อมรถจากบริษัทประกันของเราได้ (ค่ารักษาพยาบาลเคลมได้สูงสุด 1 แสน และค่าซ่อมรถเคลมตามบิลจริง)
หลังจากเสร็จเรื่องจากโรงพัก เราก็ดำเนินการยื่นเอกสารเคลมกับ บ.ประกัน จนเรื่องผ่านไป 1 เดือน เราได้รับหนังสือปฏิเสธจ่ายจาก บ.ประกัน โดยมีเหตุผลว่าเราได้ตกลงกับคู่กรณีและยินยอมรับเงินสินไหมเรียบร้อยแล้ว (โดยเอกสารยินยอมคดีของตำรวจระบุว่า เงิน 150,000 ที่เรารับมาเป็นค่ารักษาพยาบาล ค่าซ่อมรถ และค่าสินไหมทดแทน )
คือเราไม่รู้จริงๆว่าการยอมให้ จนท.ตำรวจระบุรายละเอียดข้างต้นจะส่งผลให้เราไม่สามารถเคลมประกันได้ โดยตอนนี้เราเดือดร้อนมากเพราะเราได้ไปยืมเงินเพื่อนสนิทมาเป็นค่าใช้จ่ายระหว่างหยุดงาน เพราะคิดว่าพอได้เงินเคลมมาก็จะคืนกลับให้เค้า ใช้เงินเป็นค่าเช่าบ้าน ค่าผ่อนรถยนต์ ค่าผ่อนรถบิ๊กไบค์ ค่าใช้จ่ายประจำวัน เพราะเงิน 150,000 ที่เราได้มาจากคู่กรณีในตอนแรกนั้น เราได้จ่ายคืนค่าบัตรเครดิตที่เราสำรองจ่ายค่ารักษาพยายาลส่วนเกินไปแล้ว และตอนนี้เราเพิ่งได้รับแจ้งจากศูนย์ซ่อมรถบิ๊กไบค์เราว่าบริษัทประกันปฏิเสธการจ่ายและเราต้องชำระค่าซ่อมรถเองด้วย
เราเครียดมากค่ะ จึงอยากปรึกษาว่ามีวิธีไหน หรือมีโอกาสไหมที่เราจะสามารถได้เงินและใช้สิทธิ์เรากับบริษัทประกันไหมคะ เราซื้อประกันชั้นหนึ่ง เราก็หวังพึ่งเวลาเกิดเรื่องแบบนี้ถูกไหมคะ