เครดิตข้อมูล สมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า(ประเทศไทย)
คนส่วนใหญ่คุ้นเคยกับคำว่า “Cash is king” ซึ่งแปลว่า “เงินสดคือราชัน” บางคนก็เรียกว่า “เงินสดคือพระเจ้า” ความหมายก็คือ ในยามที่กิจการหรือบุคคล “มีปัญหาทางการเงิน” เฉพาะอย่างยิ่งก็คือ ขาดสภาพคล่องหรือกำลังใกล้ล้มละลาย ซึ่งต้องการเงินสดมาใช้จ่ายหมุนเวียนนั้น เงินสดเป็นสิ่งสำคัญมากที่สุดที่จะเอาตัวรอดได้ และดังนั้น เงินจึงเปรียบเสมือนกับพระเจ้า ไม่มีเงินสดก็ “ตาย”
Cash is king นั้นเป็นคำที่พูดกันมากในช่วงที่เศรษฐกิจของประเทศเกิดวิกฤตในช่วงปี 2540 ที่ทำให้กิจการส่วนใหญ่และบุคคลทั่วไปขาดสภาพคล่องทางการเงินอย่างรุนแรง ในช่วงนั้นใครที่ยังมีเงินสดหรือสภาพคล่องที่ดีอยู่จึงปลอดภัยและได้เปรียบมากในการทำธุรกิจ
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ในช่วงเร็ว ๆ นี้เปลี่ยนแปลงไปในทางตรงกันข้าม ธุรกิจและบุคคลธรรมดาส่วนใหญ่มีเงินสดและสภาพคล่อง “ล้น” อัตราดอกเบี้ยและผลตอบแทนจาก “เงินสด” ตกต่ำลง “ใกล้ศูนย์” เงินสดไม่เป็นสิ่งที่น่าพิสมัยในขณะที่การลงทุนอื่นโดยเฉพาะในหุ้นจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์กำลังวิ่งขึ้นให้ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีแล้วถึงกว่า 15%
ดังนั้น ภาพของเงินสดในขณะนี้ก็คือ “Cash is trash” หรือเงินสดก็คือ “ขยะ” ที่ “ไม่มีค่า” ดังนั้น จึงอาจจะมีคำแนะนำสำหรับนักลงทุนว่าเราไม่ควรถือเงินสดมากนัก แค่พอมีไว้ใช้จ่ายหมุนเวียนก็พอแล้ว...
55555 เราบอกแล้วมีเงินสดเป็นภาระ ดูอย่างสวิสซิ กลัวคนทั่วโลกเอาเงินมาฝาก เลยให้ดอกเบี้ยติดลบ รัฐบาล แบงค์ต่างๆ กลัวการหาเงินมาจ่ายดอกเบี้ยเงินฝาก พัทธบัตร ไอ้กันยังไม่กล้าขึ้นดอกก็เพราะเหตุนี้ด้วยมัง
เงินพิมพ์ได้ไม่จำกัด แต่หุ้นดีๆ ปันผลงามๆ มีจำกัด ทองด้วย ไม่รีบสอยมาครอบครองตอนนี้แล้วจะเสียใจเด้อ
แม้แต่เซียนวีไอ ดร.นิเวศน์ ยังพูคว่า
คนส่วนใหญ่คุ้นเคยกับคำว่า “Cash is king” ซึ่งแปลว่า “เงินสดคือราชัน” บางคนก็เรียกว่า “เงินสดคือพระเจ้า” ความหมายก็คือ ในยามที่กิจการหรือบุคคล “มีปัญหาทางการเงิน” เฉพาะอย่างยิ่งก็คือ ขาดสภาพคล่องหรือกำลังใกล้ล้มละลาย ซึ่งต้องการเงินสดมาใช้จ่ายหมุนเวียนนั้น เงินสดเป็นสิ่งสำคัญมากที่สุดที่จะเอาตัวรอดได้ และดังนั้น เงินจึงเปรียบเสมือนกับพระเจ้า ไม่มีเงินสดก็ “ตาย”
Cash is king นั้นเป็นคำที่พูดกันมากในช่วงที่เศรษฐกิจของประเทศเกิดวิกฤตในช่วงปี 2540 ที่ทำให้กิจการส่วนใหญ่และบุคคลทั่วไปขาดสภาพคล่องทางการเงินอย่างรุนแรง ในช่วงนั้นใครที่ยังมีเงินสดหรือสภาพคล่องที่ดีอยู่จึงปลอดภัยและได้เปรียบมากในการทำธุรกิจ
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ในช่วงเร็ว ๆ นี้เปลี่ยนแปลงไปในทางตรงกันข้าม ธุรกิจและบุคคลธรรมดาส่วนใหญ่มีเงินสดและสภาพคล่อง “ล้น” อัตราดอกเบี้ยและผลตอบแทนจาก “เงินสด” ตกต่ำลง “ใกล้ศูนย์” เงินสดไม่เป็นสิ่งที่น่าพิสมัยในขณะที่การลงทุนอื่นโดยเฉพาะในหุ้นจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์กำลังวิ่งขึ้นให้ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีแล้วถึงกว่า 15%
ดังนั้น ภาพของเงินสดในขณะนี้ก็คือ “Cash is trash” หรือเงินสดก็คือ “ขยะ” ที่ “ไม่มีค่า” ดังนั้น จึงอาจจะมีคำแนะนำสำหรับนักลงทุนว่าเราไม่ควรถือเงินสดมากนัก แค่พอมีไว้ใช้จ่ายหมุนเวียนก็พอแล้ว...
55555 เราบอกแล้วมีเงินสดเป็นภาระ ดูอย่างสวิสซิ กลัวคนทั่วโลกเอาเงินมาฝาก เลยให้ดอกเบี้ยติดลบ รัฐบาล แบงค์ต่างๆ กลัวการหาเงินมาจ่ายดอกเบี้ยเงินฝาก พัทธบัตร ไอ้กันยังไม่กล้าขึ้นดอกก็เพราะเหตุนี้ด้วยมัง
เงินพิมพ์ได้ไม่จำกัด แต่หุ้นดีๆ ปันผลงามๆ มีจำกัด ทองด้วย ไม่รีบสอยมาครอบครองตอนนี้แล้วจะเสียใจเด้อ