เหตุผลหลักที่เรารักหนังของ Paul Feig คือการเป็น ‘ตลกจำแลง’ แม้ฉากหน้าจะเป็น ‘บริษัทกำจัดผี’ แฟนตาซีฟรุ้งฟริ้ง แต่เนื้อแท้จริงแล้วเป็น Workplace Comedy ที่หยิบเรื่องใกล้ตัวจากชีวิตการทำงาน มามองมุมกลับ ยำให้ขำขัน
ช่วงแรกของหนังใหม่ มีประเด็นคล้าย Spy หนังเรื่องก่อนของเขา อันว่าด้วยการไต่เต้าขอโอกาสให้ผู้หญิงบ้าน ๆ ได้โชว์ฝีมือในองค์กร แต่ Ghostbusters เสนอทางเลือกใหม่ คือดิชั้นจะไม่ทนความงี่เง่า! ตบเท้าออกไปตั้งบริษัทเป็นของตัวเอง
สามนักวิทยาศาสตร์สาวผู้เชื่อมั่นในการจับผี (Melissa McCarthy, Kristen Wiig และ Kate McKinnon) ล้มลุกคลุกคลานกับปัญหาที่บริษัท Start-up จะต้องพบเจอ ตั้งแต่การค้นหา ‘จุดขาย’ และ ‘Identity’ ของตัวเอง, พัฒนาสินค้าและบริการแหวกตลาดอย่างทุลักทุเล และการหาพนักงานใหม่ที่สุดจะไม่ Qualify แต่ก็ต้องรับไว้เพราะไม่มีทางเลือก (Chris Hemsworth ใช้ความหล่อล่ำบิ้วความขำมากในฉากสำพลาดงาน) ซึ่งอาจนำไปสู่การแอบรักเพื่อนพนักงานในออฟฟิศอีก โอ๊ย! โคตรจะ Real life!
จะใช้หนังเป็นสื่อการสอนประกอบคอร์ส Business 101 ก็พอได้ ชอบการเตือนใจให้คิดถึงสิ่งสำคัญที่ผู้ประกอบการรายย่อยพึงมี นั่นคือความมั่นใจในความแตกต่างของตัวเอง กล้าแหวกกระแส เพราะนั่นแหละคือกุญแจไขความสำเร็จ สังเกตว่าพอพวกเธอเริ่มมั่นใจในความรู้ความสามารถที่มี ชื่อเสียงชีก็ขจรขจาย พร้อมเผชิญอุปสรรคใหม่ที่เข้ามาซัดบริษัทซึ่งเติบโตมากขึ้น เช่น การรับมือกับ Stakeholder ที่ใหญ่กว่าเดิม เพิ่มเติมด้วยความสัมพันธ์อันซับซ้อน (เช่นภาครัฐที่อยากกำจัดผีแต่ไม่มีศักยภาพ)
หนังเคารพต้นฉบับ คงความสนุกแบบ 80s ไว้ ทั้ง Color Palette จัดจ้าน, งานออกแบบผีเรืองแสงที่ใครว่าดูเชยแต่เราว่ามันคือเสน่ห์ของหนังชุดนี้ แอบคิดถึงสติ๊กเกอร์ผีสามมิติที่เคยสะสมตอนต้นฉบับดัง, เพลงประกอบชวนแดนซ์ และนักแสดง Original ที่มารับเชิญเดินผ่านฉากกันครบ
หนังไม่ได้ Copy-Paste สลับเพศตัวละครแล้วจบ McCarthy สร้างความแตกต่างทุกครั้งในหนังที่ร่วมงานกับ Feig แม้คราวนี้จะเจือน้ำลดความเผ็ดลงเพื่อให้ไม่ล้ำหน้า, Wiig โดดเด่น Physical Comedy, ที่เราเลิฟสุดคือ Leslie Jones ตื่นเต้นจากใจที่จะได้เปลี่ยนสถานะจาก Outsider เป็น Ghostbuster ซึ่งเธอก็มีความรู้มาช่วยทีม ส่วน McKinnon มาแนวผ่อนคลาย เหมือนมาเยี่ยมกองถ่ายแล้วยิ้มหวานให้กล้อง
เหมือน Feig เป็นผู้หยั่งรู้ฟ้าดิน ทำนายได้ว่าหนังจะต้องโดนก่นด่าแม้ว่าจะยังไม่มีใครได้ชม นี่คือความน่ากลัวของยุคสังคมออนไลน์ที่ Bully จะพูดอะไรก็ได้และ Bias ต่อผู้หญิงที่ยังไม่หมด ซึ่งเขาก็รับมือกองแช่งด้วยวิธีเดียวกับสาว ๆ ในเรื่องโดยการให้คุณภาพของผลงานเป็นเครื่องพิสูจน์ ไม่ต้องพูดเยอะ
เกรด | B
Ghostbusters (2016)
Directed by Paul Feig
With Melissa McCarthy, Kristen Wiig and Kate McKinnon
แบ่งปันรีวิวจาก
https://www.facebook.com/jijabanang
Ghostbusters | ใต้ความแฟนตาซี มีอะไรซ่อนอยู่
เหตุผลหลักที่เรารักหนังของ Paul Feig คือการเป็น ‘ตลกจำแลง’ แม้ฉากหน้าจะเป็น ‘บริษัทกำจัดผี’ แฟนตาซีฟรุ้งฟริ้ง แต่เนื้อแท้จริงแล้วเป็น Workplace Comedy ที่หยิบเรื่องใกล้ตัวจากชีวิตการทำงาน มามองมุมกลับ ยำให้ขำขัน
ช่วงแรกของหนังใหม่ มีประเด็นคล้าย Spy หนังเรื่องก่อนของเขา อันว่าด้วยการไต่เต้าขอโอกาสให้ผู้หญิงบ้าน ๆ ได้โชว์ฝีมือในองค์กร แต่ Ghostbusters เสนอทางเลือกใหม่ คือดิชั้นจะไม่ทนความงี่เง่า! ตบเท้าออกไปตั้งบริษัทเป็นของตัวเอง
สามนักวิทยาศาสตร์สาวผู้เชื่อมั่นในการจับผี (Melissa McCarthy, Kristen Wiig และ Kate McKinnon) ล้มลุกคลุกคลานกับปัญหาที่บริษัท Start-up จะต้องพบเจอ ตั้งแต่การค้นหา ‘จุดขาย’ และ ‘Identity’ ของตัวเอง, พัฒนาสินค้าและบริการแหวกตลาดอย่างทุลักทุเล และการหาพนักงานใหม่ที่สุดจะไม่ Qualify แต่ก็ต้องรับไว้เพราะไม่มีทางเลือก (Chris Hemsworth ใช้ความหล่อล่ำบิ้วความขำมากในฉากสำพลาดงาน) ซึ่งอาจนำไปสู่การแอบรักเพื่อนพนักงานในออฟฟิศอีก โอ๊ย! โคตรจะ Real life!
จะใช้หนังเป็นสื่อการสอนประกอบคอร์ส Business 101 ก็พอได้ ชอบการเตือนใจให้คิดถึงสิ่งสำคัญที่ผู้ประกอบการรายย่อยพึงมี นั่นคือความมั่นใจในความแตกต่างของตัวเอง กล้าแหวกกระแส เพราะนั่นแหละคือกุญแจไขความสำเร็จ สังเกตว่าพอพวกเธอเริ่มมั่นใจในความรู้ความสามารถที่มี ชื่อเสียงชีก็ขจรขจาย พร้อมเผชิญอุปสรรคใหม่ที่เข้ามาซัดบริษัทซึ่งเติบโตมากขึ้น เช่น การรับมือกับ Stakeholder ที่ใหญ่กว่าเดิม เพิ่มเติมด้วยความสัมพันธ์อันซับซ้อน (เช่นภาครัฐที่อยากกำจัดผีแต่ไม่มีศักยภาพ)
หนังเคารพต้นฉบับ คงความสนุกแบบ 80s ไว้ ทั้ง Color Palette จัดจ้าน, งานออกแบบผีเรืองแสงที่ใครว่าดูเชยแต่เราว่ามันคือเสน่ห์ของหนังชุดนี้ แอบคิดถึงสติ๊กเกอร์ผีสามมิติที่เคยสะสมตอนต้นฉบับดัง, เพลงประกอบชวนแดนซ์ และนักแสดง Original ที่มารับเชิญเดินผ่านฉากกันครบ
หนังไม่ได้ Copy-Paste สลับเพศตัวละครแล้วจบ McCarthy สร้างความแตกต่างทุกครั้งในหนังที่ร่วมงานกับ Feig แม้คราวนี้จะเจือน้ำลดความเผ็ดลงเพื่อให้ไม่ล้ำหน้า, Wiig โดดเด่น Physical Comedy, ที่เราเลิฟสุดคือ Leslie Jones ตื่นเต้นจากใจที่จะได้เปลี่ยนสถานะจาก Outsider เป็น Ghostbuster ซึ่งเธอก็มีความรู้มาช่วยทีม ส่วน McKinnon มาแนวผ่อนคลาย เหมือนมาเยี่ยมกองถ่ายแล้วยิ้มหวานให้กล้อง
เหมือน Feig เป็นผู้หยั่งรู้ฟ้าดิน ทำนายได้ว่าหนังจะต้องโดนก่นด่าแม้ว่าจะยังไม่มีใครได้ชม นี่คือความน่ากลัวของยุคสังคมออนไลน์ที่ Bully จะพูดอะไรก็ได้และ Bias ต่อผู้หญิงที่ยังไม่หมด ซึ่งเขาก็รับมือกองแช่งด้วยวิธีเดียวกับสาว ๆ ในเรื่องโดยการให้คุณภาพของผลงานเป็นเครื่องพิสูจน์ ไม่ต้องพูดเยอะ
เกรด | B
Ghostbusters (2016)
Directed by Paul Feig
With Melissa McCarthy, Kristen Wiig and Kate McKinnon
แบ่งปันรีวิวจาก https://www.facebook.com/jijabanang