Ghostbusters  ‘บริษัทกำจัดผี’ เป็นภาพยนตร์อันโด่งดังที่ออกฉายครั้งแรกในปี 1984 กับเรื่องราวของผู้ชาย 4 คนภายใต้ชุดยูนิฟอร์มภารโรงที่ตามกำจัดเหล่าผีร้ายต่างๆ พร้อมกับการสร้างเอกลักษณ์ด้วยโลโก้ที่กลายเป็นภาพจำของหนังชุดนี้ กระทั่งในปี 2016 ภาพยนตร์ชุดนี้ถูกชุบชีวิตกลับมาอีกครั้ง แต่เป็นการพลิกโฉมให้ทีมปราบผีกลายเป็นทีมพลังหญิง สร้างเสียงฮือฮาและดึงความสนใจจากหลายคนๆโดยเฉพาะกลุ่มบรรดาแฟนพันธุ์แท้จากภาคต้นฉบับ

ขอออกตัวก่อนเลยว่า  ทางผู้เขียนนั้น ได้รู้จักกับ Ghostbusters เป็นครั้งแรก จากเวอร์ชั่น Gameboy Advance และครั้งล่าสุดก็คือภาพยนตร์เวอร์ชั่นรีบูทปี 2016 นี้เอง ซึ่งจริงๆแล้ว ขณะที่กำลังหาภาพยนตร์สักเรื่องดูเพื่อคลายเครียด จึงคิดว่าเรื่องนี้เป็นตัวเลือกที่ดี เพราะว่าพี่สาวไม่อยากจะดูหนังผีน่ากลัวๆ (ผมให้เลือกระหว่าง Ghostbusters กับ Lights Out ซึ่งจริงๆก็ผีทั้งคู่นะ แต่คนละขั้วเท่านั้นเอง)

เข้าเรื่องเลยดีกว่าครับ ตัวภาพยนตร์เล่าเรื่องโดยเริ่ม Erin ที่พยายามจะเข้าบรรจุเป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัย กลับต้องมาเครียดหนักเมื่อพบว่า Ghosts from the Past หนังสือเกี่ยวกับการค้นคว้าเรื่องราวเหนือธรรมชาติที่เธอเคยเขียนนั้น มีคนนำมาอ่านและถูกวางขายบนอินเทอร์เน็ต ทั้งๆที่เธอคิดว่าได้เผาทำลายหนังสือเหล่านี้ไปไม่เหลือ จนทำให้เธอต้องตามหา Abby เพื่อนสนิทที่เขียนหนังสือเล่มนี้ร่วมกันกับเธอ ซึ่งพบว่า Abby ยังคงค้นคว้าและเชื่อมั่นในปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติว่ามันมีอยู่จริงและพิสูจน์มันได้ด้วยวิทยาศาสตร์ ซึ่งครั้งหนึ่ง Erin ก็เคยเชื่อแบบนั้น จนกระทั่งเธอต้องร่วมมือกับ Abby และ Holtzman เพื่อนผู้ร่วมค้นคว้าของ Abby เข้าไปสำรวจผีในพิพิธภัณฑ์ตอนต้นเรื่อง แลกกับเงื่อนไขการเอาหนังสือเล่มนั้นออกจากอินเทอร์เน็ต จนพวกเธอพบว่าผีมีอยู่จริง นำไปสู่จุดเริ่มต้นในการค้นคว้าวิจัย คิดค้นอาวุธปราบผีร้าย และก่อกำเนิดเป็นบริษัทกำจัดผีในที่สุด




สำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ ผมประทับใจนะ กับการได้ดู CG ที่สวยขนาดนี้ มันดูไม่หลอกตาเลยสำหรับผม แต่เสียดายไม่มี 3D ให้ดู เพราะหลายฉากโดยเฉพาะฉากบรรดาผีร้ายทั้งหลายนั้นเอื้อกับ 3D ถึงแม้ในส่วนของเนื้อเรื่อง อาจจะเป็นสูตรตายตัวที่ไม่หวือหวาและดูขาดอะไรไปบ้าง แต่ก็ถูกทดแทนด้วยการแสดงของนักแสดงนำของเรื่องอย่างแก๊งกำจัดผีนี่แหละ ซึ่งเห็นหน้าค่าตากันมาก่อนแล้วทั้ง Melissa McCarthy ในบทของ Abby (จำหน้าเจ๊แกได้จากเรื่อง The Heat และ SPY) , Kristen Wiig ในบท Erin และ Chris Helmsworth ในบทเลขาสุดหล่อแต่แสนซื่อบื้ออย่าง เควิน (จนต้องตั้งคำถามว่า คนแบบนี้มีอยู่บนโลกด้วย?) แต่จากนักแสดงนำทั้งหมด ตัวขโมยซีนที่แท้จริง คงต้องยกให้เจ๊ Holzmann ที่รับบทโดย Kate McKinnon เลยครับ เป็นบทบาทที่ฮา เท่ และดูมีเสน่ห์ในแบบล้นๆ (ชอบเป็นการส่วนตัว ><)  ส่วนอีกคนที่เข้ามาเสริมความฮา ก็คือ Patty รับบทโดย Leslie Jones สาวผิวสีอดีต รปภ. สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน ที่เข้ามาเป็นสมาชิกคนที่สี่ของทีม พร้อมกับความรู้รอบตัวเรื่องเมืองนิวยอร์ค

โดยภาพรวมแล้ว Ghostbusters 2016 เป็นภาพยนตร์อีกหนึ่งเรื่องที่รู้สึกไม่เสียดายค่าตั๋ว และถ้าออกแผ่น ก็คงซื้อเก็บแน่(ถ้าทำแผ่นออกมาโอเคนะ) ถึงแม้ว่าจะมีข้อเสียที่เนื้อเรื่องบางช่วงเนือยๆและเป็นสูตรตายตัวไม่หวือหวาเท่าไหร่ แต่หากดูเพื่อความบันเทิงแล้ว ถือว่าบันเทิงใช้ได้เลย กับงานด้านภาพที่ขอยืนยันว่าสวยจริงๆ และเหมาะกับการดูแบบ 3D มาก (เสียดาย T^T)  ข้อดีอีกอย่างของมัน คือแนวคิดที่เป็นแกนหลักอย่างการใช้วิทยาศาสตร์เข้ามาจับกับการกระทำต่างๆในเรื่องทั้งของฝั่งตัวเอกและตัวร้าย อย่างการให้ความหมายว่าผีเป็นประจุไอออนสักอย่าง และการจัดการกับมัน ก็ต้องนำวิทยาศาสตร์มาจัดการ ซึ่งผมชอบแนวคิดตรงนี้มาก ลองคิดดูสิว่า หากวันหนึ่งเราสามารถพิสูจน์สิ่งเหล่านี้ด้วยวิทยาศาสตร์ได้จริงๆ ความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เลยล่ะ มีฮือฮาแน่นอน อีกทั้งแรงจูงใจของฝั่งตัวร้ายที่ผมรับได้โดยไม่ขัดใจ และ Ghostbusters ฉบับนี้ยังทำให้ผมอยากกลับไปหาผลงานต้นฉบับทั้งสองภาคมาดู เพราะว่ามี Easter Eggs ที่แฟนๆจากต้นฉบับจะต้องร้องอ๋ออยู่เพียบ

ปล. เป็นการเขียนบทความรีวิวครั้งแรก ผิดพลาดยังไง แนะนำหรือติชมได้ และขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับผม  :]

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะครับ!