***ขอออกตัวก่อนนะครับว่า ทุกข้อความต่อไปนี้ พูดถึงแค่เฉพาะ ขุนพันธ์เวอร์ชั่นหนังนะครับ ไม่ขอกล่าวถึงตัวจริงทั้งสิ้นครับ***
เพิ่งดู ขุนพันธ์ จบออกมาเลยครับ เอาจริงๆนะ ตอนแรกว่าจะไม่ดูแล้วละ แต่ด้วยนักแสดงนำทั้ง พี่น้อย ทั้ง อนันดา นี้คือแบบ อยากดูมาก แต่ตัวอย่างทำให้รู้สึกตะหงิดใจ แต่ก็เอาวะ หนังไทยเรื่องแรกของปีนี้ ที่อยากดูสุดๆ มันก็ต้องอุดหนุนกันหน่อย
รู้สึกตะหงิดใจตั้งแต่ฉากเปิดเรื่องละ อะไรกันน่ะ ไอ้ดนตรีแนวคาวบอยตะวันตกแบบนั้นน่ะ มันทำให้รู้สึกหนังมันโดดๆไงไม่รู้ แต่ช่างเหอะ มือหนักไปนิดตอนเริ่มไม่ว่ากัน
แต่ที่ไหนได้ มือหนักและล้นมันทั้งเรื่อง พยายามใส่ฉากเท่ๆ ถ่ายภาพสโลว์ เก็บมันทุกรายละเอียด เอาฉากเด่นและสไตล์ของหนังหลายๆเรื่องมายำรวมกัน ไร้ซึ่งแนวทางของตัวเองเลย อารมณ์ วอนนาบี ไรงั้นแหละ แต่ทำไม่ถึงไง
นอกจากหนังจะเล่าเกี่ยวกับคนมีของแล้ว "ตากล้อง" ของเรื่องนี้ก็เหมือนคนมีของเหมือนกันนะ คือพยายามปล่อยของ หามุมกล้องถ่ายกันน่าดู บางฉากนี้เวียนหัว ดูไม่รู้เรื่องเลย ฉากยิงกันเนี่ย แทบไม่รู้แล้วว่าใครฝ่ายไหน ใครได้เปรียบเสียเปรียบ ยิ่งฉากในรถไฟนะ อื้อหือ โคตรแคบ เปลี่ยนเลนส์ไหมครับ มันแคบมากซะจนมองไม่ทัน ไม่รู้เรื่องเลย แล้วก็ถ่ายจังเลย ภาพสโลว์เนี่ย เก็บรายละเอียดมันทุกช็อต เรื่องมันไม่เดินไปไหนก็เพราะยัดเยียดแต่ภาพสวยๆเนี่ยแหละ คือหนังยาว 1.40 ชม. ถ้าไม่สโลว์ ผมว่าจบตั้งแต่ ชั่วโมงแรกอ่ะ (แต่ความรู้สึกตอนดูนึกว่าหนังนาน 8 ชม.)
การเล่าเรื่องก็มึนๆงงๆ ตัดสลับไปมาแบบไม่ค่อยรู้ลำดับเวลาเท่าไร ไม่รู้มันผ่านไปนานแค่ไหน จากตอนนั้นมาตอนนี้ มันนานเท่าไรแล้ว คือพอไม่รู้มันก็ไม่อิน ปนสงสัยเหมือนกันนะ แฟลชแบ็ค(ย้อนฉากในอดีต)นี้ก็ใช้จังเลย ใช้แบบเหมือนจะมีความหมายนะ แต่มันเหมือนมาผิดเวลา จบซีนไปแบบงงๆยังไงไม่รู้ การถ่ายทำแต่ละซีน เหมือนถ่ายเป็นซีนสั้นๆ แล้วก็ตัดมารวมกัน โดยบางช่วงมันซีนอารมณ์คล้ายกัน หรือโดด หรือจบห้วนๆ จนเหมือน ตัดไปตัดมา คือสงสัยในหัวบางฉากด้วยซ้ำว่า "ให้ดูไรวะเนี่ย"
แล้วผมก็งงกับ สเกลระดับพลังของวิชาอาคมของ อนันดา กับ พี่น้อย ในหนังอ่ะ โดยเฉพาะ อนันดา คือหยุดกระสุนปืนได้ในตัวอย่างนี้เด็กๆไปเลย เมื่อในหนังสามารถ ไซโคเมทเลอร์ (อ่านความทรงจำจากวัตถุ)ได้ด้วยอ่ะ คุยกันทางจิตเป็นภาพแบบหนังจีนกำลังภายใน ยังครับ ยังไม่หมด ท่องมนต์เรียกสัตว์ได้ ท่องคาถาทำให้ล่องหน และทะลุสิ่งของก็ด้ายยยย นี่มิวแตนท์แล้วครับ ผม "ผิดหวัง" ในตัวอนันดาเรื่องนี้มาก ถ้ายังรับงานไม่เลือกแบบนี้ ผมคงไม่ตามดูแล้วละ
ส่วนพี่น้อย ผมชอบลุคนี้ของพี่สุดๆอ่ะ คือมันเท่ มันจิต มันมีเสน่ห์สุดๆ "แต่" พอพี่พูดเท่านั้นแหละ ฟังไม่ค่อยรู้เรื่องเลย ปกติแกก็เป็นคนพูดจาชัดไม่มากเท่าไรอยู่แล้ว นี่เหมือนแกอมอะไรด้วยอีก จบกันเลย บทพูดบางฉากก็จับยัดใส่กันเข้ามา การแสดงของพี่ก็คงช่วยได้เต็มที่แค่นี้แหละ คือแสดงดีสมมาตราฐานพี่น้อยนะครับ แต่ฟังไม่ค่อยรู้เรื่องอ่ะ บางฉากเหมือนเด็กโวยวายเลย บทพี่น่ะดีนะ ดูมีมิติ แต่การขยี้ การเล่าเรื่อง มันทำไม่ถึงอ่ะ น่าเสียดาย
เรื่อง CG ก็อีกอย่าง ใส่มาจังเลย รู้ว่าเป็นจุดอ่อน เป็นสิ่งที่ทำแล้วไม่เนียน ก็ยังจะใส่เข้ามา ยัดฉากโชว์ CG กันเข้ามาจังเลย คือถ้า CG ดีๆเนี่ย มันทำให้หนังเกรดบี กลายเป็นเกรด เอ ได้เลยนะ และก็กลับกัน มันทำให้หนังที่ควรจะเกรด เอ กลายเป็น บี ได้ถ้ามันกาก ซึ่งเรื่องนี้มันคืออย่างหลัง ผมไม่เข้าใจ สหมงคล เลยทำไมชอบให้หนังตัวเองมี CG แบบห่วยๆ เข้ามาจัง
นอกจากขุนพันธ์ จะว่องไว สามารถเอามือขึ้นมาหยุดกระสุนได้แล้ว นักแสดงชาวบ้าน หรือตำรวจ ก็ว่องไวไม่แพ้กัน วิ่งหนีปืนกลที่ยิงต่อหน้าได้แบบไม่โดนซักนัด หรือว่า ชาวบ้านก็มีของเหมือนกันหว่า คือจะเกิดมาเป็นปืนกลหนักทำไม ถ้ายิงกลุ่มคนต่อหน้าไม่โดนเลยซักนัดเนี่ย ห้ะ
อีกอย่างหนึงที่หนังแนวๆนี้ของค่าย สหฯ มักมีคือ ตัวละครขี้เก๊กที่ออกแนวโอเวอร์ๆหน่อย ใส่เข้ามาให้เท่ ดูมีคนเยอะเข้าไว้ แต่ที่ไปที่มา แรงจูงใจหรือบทสรุปนี้ โคตรงง ทำเหมือนตัวสำคัญ แต่ก็ตัดทิ้ง หรือให้ตายกันง่ายๆไปเลย
พูดมาตั้งเยอะมีแต่แย่ๆทั้งนั้นเลย แต่เอาจริงๆนะ มันมีอะไรที่ "เหมือนจะดี" "เกือบจะดี" อยู่ในนั้นนะ มันมีประเด็นและปมที่วางเอาไว้อยู่ ที่บอกเลยว่า น่าสนใจ และมีความหมายที่ดีอยู่ ผมชอบเลยแหละ "แต่ว่า" หนังทำไม่ถึงครับ ไม่ทำให้รู้สึกอินหรือมีอารมณ์ร่วมอะไร สอบตกอย่างรุนแรง เสียดายของ
นักแสดงก็เล่นกันแข็งดี ยัดเยียดคำพูดอย่างกับหยิบมาจากการ์ตูนเลย หลายฉากไม่น่าผ่านมาได้ แต่ก็ผ่านเลือกมาตัดลงในหนังได้ซะงั้น งานรีบเหรอ? คือดูไปก็สงสัยไปว่า ตอนที่พวกพี่ๆอ่านบทกัน ตอนที่ถ่ายทำกันอยู่ ไม่รู้สึกว่ามันตลกๆบ้างเลยเหรอ?
โดยสรุปเลยละกันนะ บอกได้เลยว่า ขุนพันธ์ เป็นหนังที่ตลกดีนะ คือหนังไม่ได้ตั้งใจให้ตลก แต่ดูแล้วหลายฉากตลกดี เชื่อเถอะ ได้ฮาแน่นอน ฮ่าๆ ถ้าจะไปดูเอาแอ๊คชั่น ก็เฉยๆนะ ตัวละครยืนให้ยิงกันง่ายดี บางคนก็วิ่งเข้าหากระสุนเลยก็มี ฉากใช้พลังคาถา มีเยอะ ใครชอบเรื่องสักยันต์ คาถาอาคม คงถูกใจอยู่ไม่น้อย คือถ้าใครอยากหาหนังตลกๆ ดูแบบงงๆว่า สร้างมาได้ไงว้า อะไรแบบนั้น ก็ลองตีตั๋วไปดูได้เลย แต่ถ้าให้แนะนำจริงๆนะ เก็บเงินไว้ดูเรื่องอื่นเหอะครับ
ปล.ดูจนจบ ผมละอยากให้เล่าเรื่อง ขุนพันธ์ ให้ออกมาแบบอิงประวัติจริงๆ ดราม่าไปเลย อารมณ์คล้ายๆ 2499 ประมาณนั้น แต่ใส่ คาถาอาคมเข้ามา แต่ใช้แค่บางจังหวะสำคัญ ให้พอคิดกันเอาเองว่า อาคมมีจริง หรือแค่จังหวะบังเอิญ ไรก็ว่าไป
ให้คะแนนพี่น้อย ล้วนๆ ถ้าพูดฟังรู้เรื่องกว่านี้ จะดีมากเลยครับ
#ขุนพันธ์เป็นหนังตลก
[CR] ขุนพันธ์ = เป็นหนังตลก ก็ไม่บอกกันซักคำ
เพิ่งดู ขุนพันธ์ จบออกมาเลยครับ เอาจริงๆนะ ตอนแรกว่าจะไม่ดูแล้วละ แต่ด้วยนักแสดงนำทั้ง พี่น้อย ทั้ง อนันดา นี้คือแบบ อยากดูมาก แต่ตัวอย่างทำให้รู้สึกตะหงิดใจ แต่ก็เอาวะ หนังไทยเรื่องแรกของปีนี้ ที่อยากดูสุดๆ มันก็ต้องอุดหนุนกันหน่อย
รู้สึกตะหงิดใจตั้งแต่ฉากเปิดเรื่องละ อะไรกันน่ะ ไอ้ดนตรีแนวคาวบอยตะวันตกแบบนั้นน่ะ มันทำให้รู้สึกหนังมันโดดๆไงไม่รู้ แต่ช่างเหอะ มือหนักไปนิดตอนเริ่มไม่ว่ากัน
แต่ที่ไหนได้ มือหนักและล้นมันทั้งเรื่อง พยายามใส่ฉากเท่ๆ ถ่ายภาพสโลว์ เก็บมันทุกรายละเอียด เอาฉากเด่นและสไตล์ของหนังหลายๆเรื่องมายำรวมกัน ไร้ซึ่งแนวทางของตัวเองเลย อารมณ์ วอนนาบี ไรงั้นแหละ แต่ทำไม่ถึงไง
นอกจากหนังจะเล่าเกี่ยวกับคนมีของแล้ว "ตากล้อง" ของเรื่องนี้ก็เหมือนคนมีของเหมือนกันนะ คือพยายามปล่อยของ หามุมกล้องถ่ายกันน่าดู บางฉากนี้เวียนหัว ดูไม่รู้เรื่องเลย ฉากยิงกันเนี่ย แทบไม่รู้แล้วว่าใครฝ่ายไหน ใครได้เปรียบเสียเปรียบ ยิ่งฉากในรถไฟนะ อื้อหือ โคตรแคบ เปลี่ยนเลนส์ไหมครับ มันแคบมากซะจนมองไม่ทัน ไม่รู้เรื่องเลย แล้วก็ถ่ายจังเลย ภาพสโลว์เนี่ย เก็บรายละเอียดมันทุกช็อต เรื่องมันไม่เดินไปไหนก็เพราะยัดเยียดแต่ภาพสวยๆเนี่ยแหละ คือหนังยาว 1.40 ชม. ถ้าไม่สโลว์ ผมว่าจบตั้งแต่ ชั่วโมงแรกอ่ะ (แต่ความรู้สึกตอนดูนึกว่าหนังนาน 8 ชม.)
การเล่าเรื่องก็มึนๆงงๆ ตัดสลับไปมาแบบไม่ค่อยรู้ลำดับเวลาเท่าไร ไม่รู้มันผ่านไปนานแค่ไหน จากตอนนั้นมาตอนนี้ มันนานเท่าไรแล้ว คือพอไม่รู้มันก็ไม่อิน ปนสงสัยเหมือนกันนะ แฟลชแบ็ค(ย้อนฉากในอดีต)นี้ก็ใช้จังเลย ใช้แบบเหมือนจะมีความหมายนะ แต่มันเหมือนมาผิดเวลา จบซีนไปแบบงงๆยังไงไม่รู้ การถ่ายทำแต่ละซีน เหมือนถ่ายเป็นซีนสั้นๆ แล้วก็ตัดมารวมกัน โดยบางช่วงมันซีนอารมณ์คล้ายกัน หรือโดด หรือจบห้วนๆ จนเหมือน ตัดไปตัดมา คือสงสัยในหัวบางฉากด้วยซ้ำว่า "ให้ดูไรวะเนี่ย"
แล้วผมก็งงกับ สเกลระดับพลังของวิชาอาคมของ อนันดา กับ พี่น้อย ในหนังอ่ะ โดยเฉพาะ อนันดา คือหยุดกระสุนปืนได้ในตัวอย่างนี้เด็กๆไปเลย เมื่อในหนังสามารถ ไซโคเมทเลอร์ (อ่านความทรงจำจากวัตถุ)ได้ด้วยอ่ะ คุยกันทางจิตเป็นภาพแบบหนังจีนกำลังภายใน ยังครับ ยังไม่หมด ท่องมนต์เรียกสัตว์ได้ ท่องคาถาทำให้ล่องหน และทะลุสิ่งของก็ด้ายยยย นี่มิวแตนท์แล้วครับ ผม "ผิดหวัง" ในตัวอนันดาเรื่องนี้มาก ถ้ายังรับงานไม่เลือกแบบนี้ ผมคงไม่ตามดูแล้วละ
ส่วนพี่น้อย ผมชอบลุคนี้ของพี่สุดๆอ่ะ คือมันเท่ มันจิต มันมีเสน่ห์สุดๆ "แต่" พอพี่พูดเท่านั้นแหละ ฟังไม่ค่อยรู้เรื่องเลย ปกติแกก็เป็นคนพูดจาชัดไม่มากเท่าไรอยู่แล้ว นี่เหมือนแกอมอะไรด้วยอีก จบกันเลย บทพูดบางฉากก็จับยัดใส่กันเข้ามา การแสดงของพี่ก็คงช่วยได้เต็มที่แค่นี้แหละ คือแสดงดีสมมาตราฐานพี่น้อยนะครับ แต่ฟังไม่ค่อยรู้เรื่องอ่ะ บางฉากเหมือนเด็กโวยวายเลย บทพี่น่ะดีนะ ดูมีมิติ แต่การขยี้ การเล่าเรื่อง มันทำไม่ถึงอ่ะ น่าเสียดาย
เรื่อง CG ก็อีกอย่าง ใส่มาจังเลย รู้ว่าเป็นจุดอ่อน เป็นสิ่งที่ทำแล้วไม่เนียน ก็ยังจะใส่เข้ามา ยัดฉากโชว์ CG กันเข้ามาจังเลย คือถ้า CG ดีๆเนี่ย มันทำให้หนังเกรดบี กลายเป็นเกรด เอ ได้เลยนะ และก็กลับกัน มันทำให้หนังที่ควรจะเกรด เอ กลายเป็น บี ได้ถ้ามันกาก ซึ่งเรื่องนี้มันคืออย่างหลัง ผมไม่เข้าใจ สหมงคล เลยทำไมชอบให้หนังตัวเองมี CG แบบห่วยๆ เข้ามาจัง
นอกจากขุนพันธ์ จะว่องไว สามารถเอามือขึ้นมาหยุดกระสุนได้แล้ว นักแสดงชาวบ้าน หรือตำรวจ ก็ว่องไวไม่แพ้กัน วิ่งหนีปืนกลที่ยิงต่อหน้าได้แบบไม่โดนซักนัด หรือว่า ชาวบ้านก็มีของเหมือนกันหว่า คือจะเกิดมาเป็นปืนกลหนักทำไม ถ้ายิงกลุ่มคนต่อหน้าไม่โดนเลยซักนัดเนี่ย ห้ะ
อีกอย่างหนึงที่หนังแนวๆนี้ของค่าย สหฯ มักมีคือ ตัวละครขี้เก๊กที่ออกแนวโอเวอร์ๆหน่อย ใส่เข้ามาให้เท่ ดูมีคนเยอะเข้าไว้ แต่ที่ไปที่มา แรงจูงใจหรือบทสรุปนี้ โคตรงง ทำเหมือนตัวสำคัญ แต่ก็ตัดทิ้ง หรือให้ตายกันง่ายๆไปเลย
พูดมาตั้งเยอะมีแต่แย่ๆทั้งนั้นเลย แต่เอาจริงๆนะ มันมีอะไรที่ "เหมือนจะดี" "เกือบจะดี" อยู่ในนั้นนะ มันมีประเด็นและปมที่วางเอาไว้อยู่ ที่บอกเลยว่า น่าสนใจ และมีความหมายที่ดีอยู่ ผมชอบเลยแหละ "แต่ว่า" หนังทำไม่ถึงครับ ไม่ทำให้รู้สึกอินหรือมีอารมณ์ร่วมอะไร สอบตกอย่างรุนแรง เสียดายของ
นักแสดงก็เล่นกันแข็งดี ยัดเยียดคำพูดอย่างกับหยิบมาจากการ์ตูนเลย หลายฉากไม่น่าผ่านมาได้ แต่ก็ผ่านเลือกมาตัดลงในหนังได้ซะงั้น งานรีบเหรอ? คือดูไปก็สงสัยไปว่า ตอนที่พวกพี่ๆอ่านบทกัน ตอนที่ถ่ายทำกันอยู่ ไม่รู้สึกว่ามันตลกๆบ้างเลยเหรอ?
โดยสรุปเลยละกันนะ บอกได้เลยว่า ขุนพันธ์ เป็นหนังที่ตลกดีนะ คือหนังไม่ได้ตั้งใจให้ตลก แต่ดูแล้วหลายฉากตลกดี เชื่อเถอะ ได้ฮาแน่นอน ฮ่าๆ ถ้าจะไปดูเอาแอ๊คชั่น ก็เฉยๆนะ ตัวละครยืนให้ยิงกันง่ายดี บางคนก็วิ่งเข้าหากระสุนเลยก็มี ฉากใช้พลังคาถา มีเยอะ ใครชอบเรื่องสักยันต์ คาถาอาคม คงถูกใจอยู่ไม่น้อย คือถ้าใครอยากหาหนังตลกๆ ดูแบบงงๆว่า สร้างมาได้ไงว้า อะไรแบบนั้น ก็ลองตีตั๋วไปดูได้เลย แต่ถ้าให้แนะนำจริงๆนะ เก็บเงินไว้ดูเรื่องอื่นเหอะครับ
ปล.ดูจนจบ ผมละอยากให้เล่าเรื่อง ขุนพันธ์ ให้ออกมาแบบอิงประวัติจริงๆ ดราม่าไปเลย อารมณ์คล้ายๆ 2499 ประมาณนั้น แต่ใส่ คาถาอาคมเข้ามา แต่ใช้แค่บางจังหวะสำคัญ ให้พอคิดกันเอาเองว่า อาคมมีจริง หรือแค่จังหวะบังเอิญ ไรก็ว่าไป
ให้คะแนนพี่น้อย ล้วนๆ ถ้าพูดฟังรู้เรื่องกว่านี้ จะดีมากเลยครับ
#ขุนพันธ์เป็นหนังตลก