ดีเอสไอ รอเอกสารข้อมูลต่างประเทศ คดีรถเบนซ์โบราณ ‘สมเด็จช่วง’
เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ กล่าวถึงความคืบหน้าการสอบสวนกรณีสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ หรือสมเด็จช่วง เจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ
ปฏิบัติหน้าที่แทนสมเด็จพระสังฆราช มีชื่อครอบครองรถเบนซ์โบราณ ทะเบียน ขม 99 กรุงเทพมหานคร ว่า
ตอนนี้อยู่ระหว่างการรอเอกสารสำคัญจากประเทศสหรัฐอเมริกา ในส่วนของรถยนต์คันดังกล่าว และยังรอเอกสารประเทศอังกฤษ ที่ก่อนหน้านี้มอบหมายให้ พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร ผบ.สำนักปฏิบัติการคดีพิเศษภาค เดินทางไปประสานขอเอกสารหลักฐาน ในส่วนรถยนต์หรูที่เกิดเหตุไฟไหม้ เพื่อนำมาประกอบสำนวน ตอนนี้ก็เร่งดำเนินการทุกขั้น แต่การประสานความร่วมมือทางอาญาระหว่างประเทศ
ต้องใช้เวลาพอสมควร
พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าวด้วยว่า คดีการครอบครองรถเบนซ์โบราณ เบื้องต้นดีเอสไอได้แจ้งข้อกล่าวหากับบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้า ไปแล้ว 3-4 ราย ตอนนี้รอเพียงเอกสารต้นทางการนำเข้ารถ ที่ปรากฏในเอกสารการนำจากประเทศต้นทาง แต่รถยนต์ลักษณะดังกล่าวในต่างประเทศมีซื้อขายกันจำนวนมากหลายแห่ง
ต้องสืบค้นถึงต้นตอที่มาว่าขายจากที่ใดของประเทศต้นทาง ยอมรับว่าเป็นเรื่องยาก แต่ดีเอสไอกำลังดำเนินการในส่วนนี้
“ดีเอสไอยังไม่สามารถสรุปสำนวนคดีได้ เพราะหากมีข้อมูลหลักฐานผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติม อาจจะเกิดปัญหาตามมา จึงต้องรอความชัดเจนของข้อมูลในส่วนนี้” พ.ต.อ.ไพสิฐกล่าว
มติชนออนไลน์
http://www.matichon.co.th/news/208598
คดีรถเบนซ์โบราณ ‘สมเด็จช่วง’ : ดีเอสไอยังไม่สามารถสรุปสำนวนคดีได้
เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ กล่าวถึงความคืบหน้าการสอบสวนกรณีสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ หรือสมเด็จช่วง เจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ ปฏิบัติหน้าที่แทนสมเด็จพระสังฆราช มีชื่อครอบครองรถเบนซ์โบราณ ทะเบียน ขม 99 กรุงเทพมหานคร ว่า
ตอนนี้อยู่ระหว่างการรอเอกสารสำคัญจากประเทศสหรัฐอเมริกา ในส่วนของรถยนต์คันดังกล่าว และยังรอเอกสารประเทศอังกฤษ ที่ก่อนหน้านี้มอบหมายให้ พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร ผบ.สำนักปฏิบัติการคดีพิเศษภาค เดินทางไปประสานขอเอกสารหลักฐาน ในส่วนรถยนต์หรูที่เกิดเหตุไฟไหม้ เพื่อนำมาประกอบสำนวน ตอนนี้ก็เร่งดำเนินการทุกขั้น แต่การประสานความร่วมมือทางอาญาระหว่างประเทศ ต้องใช้เวลาพอสมควร
พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าวด้วยว่า คดีการครอบครองรถเบนซ์โบราณ เบื้องต้นดีเอสไอได้แจ้งข้อกล่าวหากับบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้า ไปแล้ว 3-4 ราย ตอนนี้รอเพียงเอกสารต้นทางการนำเข้ารถ ที่ปรากฏในเอกสารการนำจากประเทศต้นทาง แต่รถยนต์ลักษณะดังกล่าวในต่างประเทศมีซื้อขายกันจำนวนมากหลายแห่ง ต้องสืบค้นถึงต้นตอที่มาว่าขายจากที่ใดของประเทศต้นทาง ยอมรับว่าเป็นเรื่องยาก แต่ดีเอสไอกำลังดำเนินการในส่วนนี้
“ดีเอสไอยังไม่สามารถสรุปสำนวนคดีได้ เพราะหากมีข้อมูลหลักฐานผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติม อาจจะเกิดปัญหาตามมา จึงต้องรอความชัดเจนของข้อมูลในส่วนนี้” พ.ต.อ.ไพสิฐกล่าว
มติชนออนไลน์
http://www.matichon.co.th/news/208598