วันนี้นึกถึงเรื่องที่เคยเกิดขึ้นกับตัวเองและพ่อ สมัยเราเป็นเด็กมัธยมเลยเอามาเล่าสู่กันฟังค่ะ
เราโตมาในค่ายทหาร อยู่บ้านพักของทหารมาตั้งแต่อนุบาลค่ะ บ้านเราเป็นตึกแถว มีแถวละ 10 ห้อง เราอยู่ห้องกลางๆ
มีประตูหน้าบ้าน หลังบ้านซึ่งติดประตูมุ้งลวดไว้ บ้านเรามี 1 ห้องน้ำอยู่ทางหลังบ้าน
และตรงห้องน้ำหลังบ้านจะมีรูระบายน้ำไปออกที่ทางระบายน้ำหลังบ้านอีกที
เรื่องมีอยู่ว่า ตรงหน้าห้องน้ำเราจะเจออึ่งอ่างเป็นประจำ เคยสงสัยว่ามันเข้ามาในบ้านได้อย่างไร เลยถามพ่อ
พ่อบอกคงมาทางรูระบายน้ำในห้องน้ำ เลยจับอึ่งอ่างไปปล่อยหลังบ้าน
และด้วยความที่หลังบ้านจะรกๆ พ่อก็กลัวว่างูจะเข้ามาทางเดียวกับที่อึ่งอ่างเข้า เลยหาตะแกรงลวดมาปิดตรงทางรูระบายน้ำ
แต่เราก็ยังเจออึ่งอ่างเหมือนเดิมค่ะ พอบอกพ่อ พ่อก็จับไปปล่อยหลังบ้าน ก็ยังเจออีก ประมาณ 3 ครั้งได้ที่พ่อทำแบบนี้
จนเราถามพ่อว่า หรือว่ามันจะคนละตัว? แบบมีหลายตัวหาทางเข้ามาในบ้าน
พ่อเราเลยบอก งั้นพ่อจะลองเอาด้ายสีดำผูกหลวมๆไว้ตรงขาด้านนึงของมันเป็นสัญลักษณ์จะได้รู้ว่าใช่ตัวเดิมไหม
(เราจำไม่ได้นะคะว่าด้านซ้ายหรือขวา)
แล้วพ่อก็เอาอึ่งอ่างไปปล่อย แต่คราวนี้เปลี่ยนที่ปล่อยค่ะ เป็นหน้าบ้านตรงที่มีคลองระบายน้ำ (ต้องเดินไปอีกสัก 20-30 เมตร)
เวลาผ่านไปหลายสัปดาห์ จนเราลืมเรื่องนี้ไปเลย แต่เคยบอกพ่อแค่ว่าเดี๋ยวนี้ไม่เจออึ่งอ่างหน้าห้องน้ำแล้วแค่นั้น
พ่อเราจะวิ่งออกกำลังกายในกรมทหารทุกเย็น พอพ่อไม่ไปวิ่งเลยถามพ่อ พ่อบอกว่าอยู่ๆพ่อเจ็บขาช่วงหัวเข่าข้างนึง
ผ่านไปสักพัก (2-3 วัน) ขาพ่อเริ่มบวม เราจำภาพนี้ได้ติดตาเลย คือ ตรงช่วงเข่าจะบวมๆช้ำๆ พ่อบอกว่าไม่รู้เป็นอะไร งงเหมือนกัน
ก็หาสาเหตุไม่ได้ค่ะ พ่อบอกถ้าไม่หายคงต้องไปหาหมอขอยามากินหรือทา
ในคืนนั้นเอง เราจำได้ว่าฝนตกหนักพอสมควร เราไปปิดประตูหน้าบ้าน และเก็บรองเท้ามาไว้ตรงใต้โต๊ะห้องรับแขก
ปรากฏว่าเจอ เจ้าอึ่งอ่างตัวนั้นค่ะ อยู่ตรงใต้โต๊ะ เราจำมันได้เพราะมีด้ายสีดำรัดอยู่ตรงข้อเข่ามัน
แต่ขามันบวมมากกกกก คือบวมเปล่งคงเพราะด้ายรัดขามันแน่น มันตัวโตขึ้นมากจากที่พ่อเอาด้ายผูกขามันแล้วเอาไปปล่อย
เราเรียกพ่อให้มาดู พ่อมองขาตัวเอง (ปรากฏว่าเป็นขาด้านเดียวกับที่พ่อปวดบวมพอดี)
พ่อรีบเอากรรไกรมาตัดด้ายที่ขาอึ่งอ่าง ต้องค่อยๆตัดเพราะด้ายรัดแน่นมาก
พอพ่อตัดด้ายสำเร็จ พ่อเราหันมาบอกกับเราว่า พ่อคงทำบาปกับอึ่งอ่างตัวนี้ ด้วยความที่อยากรู้ว่ามันใช่ด้วยเดิมไหมเลยทำให้ด้ายรัดขามัน
จนทำให้ขามันเจ็บ (ดูจากเวลามันเดินค่ะ มันเดินขาด้านนั้นไม่ปกติ) แล้วพ่อก็เอามันไปปล่อยหลังบ้าน บอกขออโหสิกรรมกับมันด้วย
เช้าอีกวันก่อนเราไปโรงเรียน พ่อบอกว่าหายปวดตรงหัวเข่าแล้ว และที่บวมอยู่ก็ยุบลง เราลองดูเห็นว่าขาพ่อไม่ออกสีเขียวๆม่วงๆแล้ว โล่งอกเลยค่ะ
ตั้งแต่นั้นมา เราเชื่อเรื่องเวรกรรมว่ามีจริงเลยค่ะ อาจจะฟังดูตลก แต่เรารู้สึกว่ามันพอเหมาะพอเจาะมากทั้งขาอึ่งอ่างและขาพ่อเรา
ส่วนตัวพ่อเราเอง ท่านเชื่อในเรื่องเวรกรรมอยู่แล้วค่ะ พ่อบอกต้องนั่งสมาธิแผ่เมตตาให้มัน (พ่อเรานั่งสมาธิทุกคืน)
เรื่องอึ่งอ่างนี้เกิดจากความไม่ตั้งใจให้มันเจ็บ แค่อยากรู้ว่าใช่ตัวเดียวกันไหมเลยเอาด้ายไปผูกไว้ สุดท้ายกลายเป็นไปเบียดเบียนเค้า
หลังจากนั้นมา เราไม่เจออึ่งอ่างตัวใหญ่อีกเลย แต่สักพักมีลูกอึ่งอ่าง 2 ตัว อยู่หน้าห้องน้ำบ้านเราค่ะ
คราวนี้เรากับพ่อเลยตกลงกันว่าให้มันอยู่แบบนั้นไป พ่อบอกให้มันช่วยจับแมลงในบ้านเลยละกัน
จบแล้วค่ะ
เพื่อนๆที่เคยประสบเหตุการณ์ทำนองนี้มาแชร์กันนะคะ
ป.ล. เป็นกระทู้แรกแทกห้องอาจไม่ถูก ขอโทษด้วยนะคะ
ชวนเพื่อนๆมาแบ่งปันเรื่องราวของเวรกรรม+บาปบุญที่เกิดจากคนใกล้ตัวหรือประสบกับตัวเองกันค่ะ
เราโตมาในค่ายทหาร อยู่บ้านพักของทหารมาตั้งแต่อนุบาลค่ะ บ้านเราเป็นตึกแถว มีแถวละ 10 ห้อง เราอยู่ห้องกลางๆ
มีประตูหน้าบ้าน หลังบ้านซึ่งติดประตูมุ้งลวดไว้ บ้านเรามี 1 ห้องน้ำอยู่ทางหลังบ้าน
และตรงห้องน้ำหลังบ้านจะมีรูระบายน้ำไปออกที่ทางระบายน้ำหลังบ้านอีกที
เรื่องมีอยู่ว่า ตรงหน้าห้องน้ำเราจะเจออึ่งอ่างเป็นประจำ เคยสงสัยว่ามันเข้ามาในบ้านได้อย่างไร เลยถามพ่อ
พ่อบอกคงมาทางรูระบายน้ำในห้องน้ำ เลยจับอึ่งอ่างไปปล่อยหลังบ้าน
และด้วยความที่หลังบ้านจะรกๆ พ่อก็กลัวว่างูจะเข้ามาทางเดียวกับที่อึ่งอ่างเข้า เลยหาตะแกรงลวดมาปิดตรงทางรูระบายน้ำ
แต่เราก็ยังเจออึ่งอ่างเหมือนเดิมค่ะ พอบอกพ่อ พ่อก็จับไปปล่อยหลังบ้าน ก็ยังเจออีก ประมาณ 3 ครั้งได้ที่พ่อทำแบบนี้
จนเราถามพ่อว่า หรือว่ามันจะคนละตัว? แบบมีหลายตัวหาทางเข้ามาในบ้าน
พ่อเราเลยบอก งั้นพ่อจะลองเอาด้ายสีดำผูกหลวมๆไว้ตรงขาด้านนึงของมันเป็นสัญลักษณ์จะได้รู้ว่าใช่ตัวเดิมไหม
(เราจำไม่ได้นะคะว่าด้านซ้ายหรือขวา)
แล้วพ่อก็เอาอึ่งอ่างไปปล่อย แต่คราวนี้เปลี่ยนที่ปล่อยค่ะ เป็นหน้าบ้านตรงที่มีคลองระบายน้ำ (ต้องเดินไปอีกสัก 20-30 เมตร)
เวลาผ่านไปหลายสัปดาห์ จนเราลืมเรื่องนี้ไปเลย แต่เคยบอกพ่อแค่ว่าเดี๋ยวนี้ไม่เจออึ่งอ่างหน้าห้องน้ำแล้วแค่นั้น
พ่อเราจะวิ่งออกกำลังกายในกรมทหารทุกเย็น พอพ่อไม่ไปวิ่งเลยถามพ่อ พ่อบอกว่าอยู่ๆพ่อเจ็บขาช่วงหัวเข่าข้างนึง
ผ่านไปสักพัก (2-3 วัน) ขาพ่อเริ่มบวม เราจำภาพนี้ได้ติดตาเลย คือ ตรงช่วงเข่าจะบวมๆช้ำๆ พ่อบอกว่าไม่รู้เป็นอะไร งงเหมือนกัน
ก็หาสาเหตุไม่ได้ค่ะ พ่อบอกถ้าไม่หายคงต้องไปหาหมอขอยามากินหรือทา
ในคืนนั้นเอง เราจำได้ว่าฝนตกหนักพอสมควร เราไปปิดประตูหน้าบ้าน และเก็บรองเท้ามาไว้ตรงใต้โต๊ะห้องรับแขก
ปรากฏว่าเจอ เจ้าอึ่งอ่างตัวนั้นค่ะ อยู่ตรงใต้โต๊ะ เราจำมันได้เพราะมีด้ายสีดำรัดอยู่ตรงข้อเข่ามัน
แต่ขามันบวมมากกกกก คือบวมเปล่งคงเพราะด้ายรัดขามันแน่น มันตัวโตขึ้นมากจากที่พ่อเอาด้ายผูกขามันแล้วเอาไปปล่อย
เราเรียกพ่อให้มาดู พ่อมองขาตัวเอง (ปรากฏว่าเป็นขาด้านเดียวกับที่พ่อปวดบวมพอดี)
พ่อรีบเอากรรไกรมาตัดด้ายที่ขาอึ่งอ่าง ต้องค่อยๆตัดเพราะด้ายรัดแน่นมาก
พอพ่อตัดด้ายสำเร็จ พ่อเราหันมาบอกกับเราว่า พ่อคงทำบาปกับอึ่งอ่างตัวนี้ ด้วยความที่อยากรู้ว่ามันใช่ด้วยเดิมไหมเลยทำให้ด้ายรัดขามัน
จนทำให้ขามันเจ็บ (ดูจากเวลามันเดินค่ะ มันเดินขาด้านนั้นไม่ปกติ) แล้วพ่อก็เอามันไปปล่อยหลังบ้าน บอกขออโหสิกรรมกับมันด้วย
เช้าอีกวันก่อนเราไปโรงเรียน พ่อบอกว่าหายปวดตรงหัวเข่าแล้ว และที่บวมอยู่ก็ยุบลง เราลองดูเห็นว่าขาพ่อไม่ออกสีเขียวๆม่วงๆแล้ว โล่งอกเลยค่ะ
ตั้งแต่นั้นมา เราเชื่อเรื่องเวรกรรมว่ามีจริงเลยค่ะ อาจจะฟังดูตลก แต่เรารู้สึกว่ามันพอเหมาะพอเจาะมากทั้งขาอึ่งอ่างและขาพ่อเรา
ส่วนตัวพ่อเราเอง ท่านเชื่อในเรื่องเวรกรรมอยู่แล้วค่ะ พ่อบอกต้องนั่งสมาธิแผ่เมตตาให้มัน (พ่อเรานั่งสมาธิทุกคืน)
เรื่องอึ่งอ่างนี้เกิดจากความไม่ตั้งใจให้มันเจ็บ แค่อยากรู้ว่าใช่ตัวเดียวกันไหมเลยเอาด้ายไปผูกไว้ สุดท้ายกลายเป็นไปเบียดเบียนเค้า
หลังจากนั้นมา เราไม่เจออึ่งอ่างตัวใหญ่อีกเลย แต่สักพักมีลูกอึ่งอ่าง 2 ตัว อยู่หน้าห้องน้ำบ้านเราค่ะ
คราวนี้เรากับพ่อเลยตกลงกันว่าให้มันอยู่แบบนั้นไป พ่อบอกให้มันช่วยจับแมลงในบ้านเลยละกัน
จบแล้วค่ะ
เพื่อนๆที่เคยประสบเหตุการณ์ทำนองนี้มาแชร์กันนะคะ
ป.ล. เป็นกระทู้แรกแทกห้องอาจไม่ถูก ขอโทษด้วยนะคะ