สวัสดีค่ะ บอกก่อนนะคะว่าเราตั้งกระทู้นี้เป็นกระทู้ที่สอง ถ้ามีไรผิดพลาดก็แนะนำได้เลยค่ะ
เรื่องมีอยู่ว่า เรา คบกับแฟนมาปีนึงแล้วค่ะ แล้วล่าสุดคือทางบ้านแฟนมีปัญหา ตอนแรกก็ไม่รู้ จนเขากลับบ้านไป แล้วบอกว่าคงไม่ได้กลับมาเรียนอีกแล้ว เพราะที่บ้านมีปัญหา (เราทั้งคู่ยังเรียนมหาวิทยาลัยอยู่)
เราเลยถาม เขาบอกว่า ตอนนี้ที่บ้านไม่มีเงินส่งให้เรียนแล้ว เราก็ถามว่าเพราะอะไร เขาก็บอกว่า แม่เขาเอาเงินไปบริจาคจนแทบจะไม่เหลือแล้ว ละล่าสุดตอนนี้แม่เขาก็ไม่สบาย ป่วยเป็นโรค (สะเก็ดเงิน) แม่เขาเลยเหมือนกับว่าหมดกำลังใจ หลังๆ เลยเอาแต่ทำบุญ บวกกับมีคนนึงที่เป็นคล้ายๆ หมอดูเข้ามาในชีวิตพอดี ก็พากันเดินสายทำบุญ ทำทีนึงก็เป็นแสน บางทีก็หลายหมื่น มีการบอกให้โอนเงินมาเดี๋ยวจะจัดการเรื่องทำบุญแก้กรรมอะไรให้เองด้วยนะคะ (ซึ่งเราว่าแปลกมาตรงนี้)
ล่าสุดหมอดูคนนั้นบอกว่า ลูกชายเป็นเนื้อคู่กับหลานสาวของหมอดูมาแต่ชาติก่อนต้องให้แต่งงานกัน (ทางบ้านแฟนเราค่อนข้างมีฐานะ เปิดร้านขายอุปกรก่อสร้างมาเป็นสิบปีแล้ว) เขาก็เลยให้ลูกชายคนกลางแต่ง ลูกชายคนกลางก็ยอมแต่ง แต่ก็มีข้อแลกเปลี่ยนคือต้องซื้อรถให้ ซึ่งไม่ได้ดูสภาพการเงินเลยว่าตอนนั้นกำลังย่ำแย่ พอแต่งงานเสร็จก็จดทะเบียนสมรสเรียบร้อย เขาฝ่ายหญิงเข้ามาอยู่บ้านก็ให้ฝ่ายหญิงบริหารกิจการของที่บ้านด้วย ซึ่งล่าสุดแฟนเรากลับบ้านไป เมื่ออาทิตย์ก่อน เพราะจะไปงานบวชน้องชายคนเล็ก (แฟนเราคนโต คนที่แต่งงานคนกลาง คนเล็กเพิ่งบวช) แม่ก็บอกแฟนเราว่าไม่ต้องแห่นาคไปส่งที่วัดนะ ให้น้องคนกลางกับลูกสะไภ้ไปแทน ซึ่งเราก็งงมากว่าทำไม พี่ชายที่อยู่ในชีวิตน้องชายมา 20 กว่าปีไม่ให้ไป แต่ให้ลูสะไภ้ไป หรือถ้าอยากจะให้ลูกสะไภ้ไปด้วยก็ปิดร้านไหม ? เราไม่รู้คิดมากไปไหม แต่ทุกอย่างมันดูเหมือนแม่แฟนเรากำลังโดนหลอก เพราะตอนที่แม่แฟนเราเริ่มป่วยเป็นสะเก็ดเงิน หมอดูคนนี้ (ขอเรียกว่าป้าจูละกันนะ) ป้าจูบอกว่า แม่ต้องบวช ต้องอุทิศบุญกุศลให้เจ้ากรรมนายเวร แม่แฟนเราก็เลยจัดแจงเรื่องจะบวช ซึ่งดูเหมือนจะต้องเป็นการบวชแบบยาวๆ พอจะบวชก็ต้องหาคนมาดูกิจการแทน แล้วตอนนั้นก็เป็นตอนที่ป้าจูทักพอดีกว่า หลานสาวเขาเป็นเนื้อคู่กับลูกชายคนกลางมาแต่ชาติปางก่อน ทุกอย่างมันดูมีการจัดเตรียมมากๆ แล้วตอนนี้ลูกชายคนเล็กบวชไปแล้ว แม่แฟนก็โกนหัวเตรียมบวชแล้ว มีน้องคนกลางกับลูกสะไภ้ดูแลกิจการ โดยที่แม่เราสั่งห้ามแฟนเรายุ่งกับเงิน ให้น้องคนกลางกับเมียดูแล (อาจจะเป็นเพราะแฟนเราไม่ค่อยเชื่อฟังแม่สักเท่าไหร่)
เมื่อก่อนเราก็ยังพอคุยกับแม่แฟนได้บ้างเพราะเราก็สายบุญนิดๆ ชอบทำทาน ชอบช่วยเหลือคน แต่มาช่วงนี้คือเขาดูงมงายมากๆ แล้วเราก็เคยบอกแม่แฟนไปแล้วว่า ถ้าอยากรักษาโรคควรไปหาหมอ ถึงโรคนี้มันจะรักษาไม่หายขาดและดูจะรักษายาก แต่ก็มีหมอเก่งๆ ที่เขารักษาแล้วดีขึ้นก็หลายคนแล้ว ไม่ใช่ไปหาหมอผี หาพระ หรือหาหมอสมุนไพร การเข้าวัดมันคือการรักษาทางใจ ถ้าทำควบคู่กับการรักษาโดยแพทย์อันนั้นจะไม่ว่า แต่นี้ซื้อยาสมุนไพร ยาจากตำหนัก บางทีซื้อเป็นหมื่นๆ มากิน เราก็เตือนเท่าที่เตือนได้เพราะเราเป็นคนนอก เคยแนะนำเขามาคลีนิคผิวหนังที่อนุเสาวรีย์ เขาก็บอกจะมารักษานะ แต่สักพักก็เปลี่ยนใจจะไปบวชแทน ตอนนี้เราคุยกับแม่แฟน เขาก็ไม่ฟังละ (เราไม่ใช่ผู้หญิงแท้ๆ นะ ตอนแรกเหมือนเขาจะไม่รู้ว่าเราไม่ใช่ผู้หญิง เราเคยเจอแม่แฟนแค่สองครั้ง แล้วเจอแบบผ่านๆ ไม่ได้คุยไรกัน เพราะเราต้องรีบไปทำงานทุกครั้ง เลยแค่ยกมือสวัสดีแล้วผ่านไป คงมีใครไปบอกเขา)
พอจะมีวิธียังไงที่จะบอก หรือทำให้แม่เขาหายจากการงมงายจนเกินกว่าเหตุแบบนี้ไหมคะ คือเราลองให้แฟนไปคุยแล้ว แต่แฟนเขาก็ไม่สนิทกับแม่ ก็เลยพูดแบบผ่านๆ แล้วเขาก็บอกว่าแม่เขาไม่ฟังเขาเลยด้วย ฟังป้าจูซะมากกว่า
สำหรับเรา เราว่าการทำบุญการเข้าวัดก็เป็นเรื่องดี แต่ถ้าทำทีเป็นแสนๆ ทำจนลำบาก มันก็ไม่น่าจะได้บุญแล้วนะ ที่สำคัญเราคิดว่าหมอดูคนนั้นกะจะมาหลอก เพราะฐานะทางบ้านหมอดูก็ไม่ได้ว่าดีอะไรมากมาย ล่าสุดที่แต่งงานกับน้องชายคนกลางไปเห็นบอกว่าได้สร้างบ้านใหม่เลยหลังนึง เราไม่รู้ว่าเราคิดมากหรือมองโลกแบบไม่เป็นกลางหรือเปล่านะ อาจจะเพราะเรารักแฟนเรามาก เลยมองว่าป้าจูจะมาหลอกแม่แฟนเราเพื่อให้บ้านตัวเองสบาย เลยอยากฟังความเห็นคนอื่นๆ แล้วก็อยากถามด้วยว่าจะช่วยแม่แฟนยังไงดี
ยังไงก็ขอฟังความเห็นทุกคนหน่อยนะคะ เพราะยังไงการรับฟังความคิดคนอื่นก็ย่อมดีกว่าอยู่แค่ในกะลาของตัวเอง
อ๊อ แล้วที่สำคัญคือ แม่แฟนเขาเลิกกับพ่อเขานะคะ เขาเลี้ยงลูกคนเดียว แต่คือดูเหมือนครอบครัวเขาค่อนข้างจะมีปัญหา เพราะพ่อเขาเลิกกับแม่ไปอยู่กับน้องสาวของแม่ (ซึ่งเราฟังตอนแรกก็ว้าววววเหมือนกัน) แล้วแฟนเราก็เป็นคนมีความคิดแปลกๆ ไม่ค่อยสนใจเพื่อนร่วมโลก ค่อนข้างเห็นแก่ตัว ไม่เคยคิดว่าตัวเองผิด ไม่เชื่อว่าความรักมีจริง ไม่นับถือศาสนา ไม่เชื่อเรื่องบาปบุญ ค่อนข้างมองโลกแง่ลบ แบบนี้เราควรพาเขาไปพบจิตแพทย์ไหม เรากลัวจะเป็นโรคซึมเศร้าเพราะเคยอ่านมาจากกระทู้นึง ที่มีปัญหาครอบครัวจนต้องให้จิตแพทย์ช่วย
หรือเราไม่ควรยุ่งเรื่องนี้เพราะเป็นเรื่องในครอบครัวของเขา แต่แฟนเราเขาก็มาปรึกษาเรานะคะ ถ้ามีทางที่จะทำให้แม่เขาเปลี่ยนความคิดได้บ้างเขาก็จะทำค่ะ
ยังไงก็ขอฟังความเห็นทุกคนหน่อยนะคะ เราเชื่อว่ายังไงการฟังความเห็นคนอื่นมันก็ดีกว่าคิดเองคนเดียว คงจะเจอทางเดินที่มันหลากหลายกว่าแน่ๆ
ปล. ไม่ต้องแท็กเพศที่สามหรอกเนาะ เพราะใจความสำคัญมันไม่ได้อยู่ตรงนั้น . 555
ขอบคุณ สวัสดีค่ะ
แม่แฟนงมงายเกินไป จะช่วยยังไงดีคะ
เรื่องมีอยู่ว่า เรา คบกับแฟนมาปีนึงแล้วค่ะ แล้วล่าสุดคือทางบ้านแฟนมีปัญหา ตอนแรกก็ไม่รู้ จนเขากลับบ้านไป แล้วบอกว่าคงไม่ได้กลับมาเรียนอีกแล้ว เพราะที่บ้านมีปัญหา (เราทั้งคู่ยังเรียนมหาวิทยาลัยอยู่)
เราเลยถาม เขาบอกว่า ตอนนี้ที่บ้านไม่มีเงินส่งให้เรียนแล้ว เราก็ถามว่าเพราะอะไร เขาก็บอกว่า แม่เขาเอาเงินไปบริจาคจนแทบจะไม่เหลือแล้ว ละล่าสุดตอนนี้แม่เขาก็ไม่สบาย ป่วยเป็นโรค (สะเก็ดเงิน) แม่เขาเลยเหมือนกับว่าหมดกำลังใจ หลังๆ เลยเอาแต่ทำบุญ บวกกับมีคนนึงที่เป็นคล้ายๆ หมอดูเข้ามาในชีวิตพอดี ก็พากันเดินสายทำบุญ ทำทีนึงก็เป็นแสน บางทีก็หลายหมื่น มีการบอกให้โอนเงินมาเดี๋ยวจะจัดการเรื่องทำบุญแก้กรรมอะไรให้เองด้วยนะคะ (ซึ่งเราว่าแปลกมาตรงนี้)
ล่าสุดหมอดูคนนั้นบอกว่า ลูกชายเป็นเนื้อคู่กับหลานสาวของหมอดูมาแต่ชาติก่อนต้องให้แต่งงานกัน (ทางบ้านแฟนเราค่อนข้างมีฐานะ เปิดร้านขายอุปกรก่อสร้างมาเป็นสิบปีแล้ว) เขาก็เลยให้ลูกชายคนกลางแต่ง ลูกชายคนกลางก็ยอมแต่ง แต่ก็มีข้อแลกเปลี่ยนคือต้องซื้อรถให้ ซึ่งไม่ได้ดูสภาพการเงินเลยว่าตอนนั้นกำลังย่ำแย่ พอแต่งงานเสร็จก็จดทะเบียนสมรสเรียบร้อย เขาฝ่ายหญิงเข้ามาอยู่บ้านก็ให้ฝ่ายหญิงบริหารกิจการของที่บ้านด้วย ซึ่งล่าสุดแฟนเรากลับบ้านไป เมื่ออาทิตย์ก่อน เพราะจะไปงานบวชน้องชายคนเล็ก (แฟนเราคนโต คนที่แต่งงานคนกลาง คนเล็กเพิ่งบวช) แม่ก็บอกแฟนเราว่าไม่ต้องแห่นาคไปส่งที่วัดนะ ให้น้องคนกลางกับลูกสะไภ้ไปแทน ซึ่งเราก็งงมากว่าทำไม พี่ชายที่อยู่ในชีวิตน้องชายมา 20 กว่าปีไม่ให้ไป แต่ให้ลูสะไภ้ไป หรือถ้าอยากจะให้ลูกสะไภ้ไปด้วยก็ปิดร้านไหม ? เราไม่รู้คิดมากไปไหม แต่ทุกอย่างมันดูเหมือนแม่แฟนเรากำลังโดนหลอก เพราะตอนที่แม่แฟนเราเริ่มป่วยเป็นสะเก็ดเงิน หมอดูคนนี้ (ขอเรียกว่าป้าจูละกันนะ) ป้าจูบอกว่า แม่ต้องบวช ต้องอุทิศบุญกุศลให้เจ้ากรรมนายเวร แม่แฟนเราก็เลยจัดแจงเรื่องจะบวช ซึ่งดูเหมือนจะต้องเป็นการบวชแบบยาวๆ พอจะบวชก็ต้องหาคนมาดูกิจการแทน แล้วตอนนั้นก็เป็นตอนที่ป้าจูทักพอดีกว่า หลานสาวเขาเป็นเนื้อคู่กับลูกชายคนกลางมาแต่ชาติปางก่อน ทุกอย่างมันดูมีการจัดเตรียมมากๆ แล้วตอนนี้ลูกชายคนเล็กบวชไปแล้ว แม่แฟนก็โกนหัวเตรียมบวชแล้ว มีน้องคนกลางกับลูกสะไภ้ดูแลกิจการ โดยที่แม่เราสั่งห้ามแฟนเรายุ่งกับเงิน ให้น้องคนกลางกับเมียดูแล (อาจจะเป็นเพราะแฟนเราไม่ค่อยเชื่อฟังแม่สักเท่าไหร่)
เมื่อก่อนเราก็ยังพอคุยกับแม่แฟนได้บ้างเพราะเราก็สายบุญนิดๆ ชอบทำทาน ชอบช่วยเหลือคน แต่มาช่วงนี้คือเขาดูงมงายมากๆ แล้วเราก็เคยบอกแม่แฟนไปแล้วว่า ถ้าอยากรักษาโรคควรไปหาหมอ ถึงโรคนี้มันจะรักษาไม่หายขาดและดูจะรักษายาก แต่ก็มีหมอเก่งๆ ที่เขารักษาแล้วดีขึ้นก็หลายคนแล้ว ไม่ใช่ไปหาหมอผี หาพระ หรือหาหมอสมุนไพร การเข้าวัดมันคือการรักษาทางใจ ถ้าทำควบคู่กับการรักษาโดยแพทย์อันนั้นจะไม่ว่า แต่นี้ซื้อยาสมุนไพร ยาจากตำหนัก บางทีซื้อเป็นหมื่นๆ มากิน เราก็เตือนเท่าที่เตือนได้เพราะเราเป็นคนนอก เคยแนะนำเขามาคลีนิคผิวหนังที่อนุเสาวรีย์ เขาก็บอกจะมารักษานะ แต่สักพักก็เปลี่ยนใจจะไปบวชแทน ตอนนี้เราคุยกับแม่แฟน เขาก็ไม่ฟังละ (เราไม่ใช่ผู้หญิงแท้ๆ นะ ตอนแรกเหมือนเขาจะไม่รู้ว่าเราไม่ใช่ผู้หญิง เราเคยเจอแม่แฟนแค่สองครั้ง แล้วเจอแบบผ่านๆ ไม่ได้คุยไรกัน เพราะเราต้องรีบไปทำงานทุกครั้ง เลยแค่ยกมือสวัสดีแล้วผ่านไป คงมีใครไปบอกเขา)
พอจะมีวิธียังไงที่จะบอก หรือทำให้แม่เขาหายจากการงมงายจนเกินกว่าเหตุแบบนี้ไหมคะ คือเราลองให้แฟนไปคุยแล้ว แต่แฟนเขาก็ไม่สนิทกับแม่ ก็เลยพูดแบบผ่านๆ แล้วเขาก็บอกว่าแม่เขาไม่ฟังเขาเลยด้วย ฟังป้าจูซะมากกว่า
สำหรับเรา เราว่าการทำบุญการเข้าวัดก็เป็นเรื่องดี แต่ถ้าทำทีเป็นแสนๆ ทำจนลำบาก มันก็ไม่น่าจะได้บุญแล้วนะ ที่สำคัญเราคิดว่าหมอดูคนนั้นกะจะมาหลอก เพราะฐานะทางบ้านหมอดูก็ไม่ได้ว่าดีอะไรมากมาย ล่าสุดที่แต่งงานกับน้องชายคนกลางไปเห็นบอกว่าได้สร้างบ้านใหม่เลยหลังนึง เราไม่รู้ว่าเราคิดมากหรือมองโลกแบบไม่เป็นกลางหรือเปล่านะ อาจจะเพราะเรารักแฟนเรามาก เลยมองว่าป้าจูจะมาหลอกแม่แฟนเราเพื่อให้บ้านตัวเองสบาย เลยอยากฟังความเห็นคนอื่นๆ แล้วก็อยากถามด้วยว่าจะช่วยแม่แฟนยังไงดี
ยังไงก็ขอฟังความเห็นทุกคนหน่อยนะคะ เพราะยังไงการรับฟังความคิดคนอื่นก็ย่อมดีกว่าอยู่แค่ในกะลาของตัวเอง
อ๊อ แล้วที่สำคัญคือ แม่แฟนเขาเลิกกับพ่อเขานะคะ เขาเลี้ยงลูกคนเดียว แต่คือดูเหมือนครอบครัวเขาค่อนข้างจะมีปัญหา เพราะพ่อเขาเลิกกับแม่ไปอยู่กับน้องสาวของแม่ (ซึ่งเราฟังตอนแรกก็ว้าววววเหมือนกัน) แล้วแฟนเราก็เป็นคนมีความคิดแปลกๆ ไม่ค่อยสนใจเพื่อนร่วมโลก ค่อนข้างเห็นแก่ตัว ไม่เคยคิดว่าตัวเองผิด ไม่เชื่อว่าความรักมีจริง ไม่นับถือศาสนา ไม่เชื่อเรื่องบาปบุญ ค่อนข้างมองโลกแง่ลบ แบบนี้เราควรพาเขาไปพบจิตแพทย์ไหม เรากลัวจะเป็นโรคซึมเศร้าเพราะเคยอ่านมาจากกระทู้นึง ที่มีปัญหาครอบครัวจนต้องให้จิตแพทย์ช่วย
หรือเราไม่ควรยุ่งเรื่องนี้เพราะเป็นเรื่องในครอบครัวของเขา แต่แฟนเราเขาก็มาปรึกษาเรานะคะ ถ้ามีทางที่จะทำให้แม่เขาเปลี่ยนความคิดได้บ้างเขาก็จะทำค่ะ
ยังไงก็ขอฟังความเห็นทุกคนหน่อยนะคะ เราเชื่อว่ายังไงการฟังความเห็นคนอื่นมันก็ดีกว่าคิดเองคนเดียว คงจะเจอทางเดินที่มันหลากหลายกว่าแน่ๆ
ปล. ไม่ต้องแท็กเพศที่สามหรอกเนาะ เพราะใจความสำคัญมันไม่ได้อยู่ตรงนั้น . 555
ขอบคุณ สวัสดีค่ะ