...ข้อนี้ อธิบายขยายคำถามมาจาก หัวข้อกระทู้ที่ผ่านมานี้ ที่เขาเล่าเรื่องเปรตกันจบไปแล้วนั้น ณ เรื่องทำนองนี้ว่า อบายภูมิ ยิบๆย่อยๆ เป็นว่าบรรลุธรรมได้อยู่แม้เป็นกำเนิดตกที่ภูมิเปรตอย่างใดอย่างหนึ่ง
ตัวอย่างเปรตที่บรรลุบรมสัจจะ มีพบมาหนึ่งเรื่องเมื่อค้นตามไป ดังนี้ :-
ฉบับ มมร. ๒๕-๔๐๗-๑,๘
[๘๒๕] ยักษิณีพูดว่า
น่าชื่นชมนัก ลูกผู้นอนบนอกของ
แม่เป็นคนฉลาด ลูกของแม่ย่อมรักใคร่
พระธรรมอันบริสุทธิ์ของพระพุทธเจ้าผู้
ประเสริญ ปุนัพพสุเจ้าจงมีความสุขเถิด
วันนี้แม่เป็นผู้ย่างขึ้นไปในพระศาสนา
แม่และเจ้าเห็นอริยสัจแล้ว แม้แม่อุตรก็
จงฟังแม่.
ฉบับ มมร. ๖๗-๓๕๗-๑๗,๑๘
แต่เวมานิกเปรตที่เป็นติเหตุกะ ย่อมเป็นผู้บรรลุ
ธรรมได้ดุจการบรรลุธรรมของยักษิณีผู้เป็นมารดาของปิยังกระเป็นต้น.
ข้อนี้ก็เป็นความแปลกใหม่ในทางที่จะรู้สึกหากถ้าคิดให้ดี ว่าฝึกฝนแล้วพลัดผลูตกผล่อยไปที่เกิดกำเนิดได้เป็นเปรตมาอย่างนั้น ก็ยังแน่ดีซะกว่าตกกำเนิดพรหมที่เป็นด้วยฌาณโลกีย์ เพราะว่า หากได้พบคำสอน แล้วได้ฟังซะเข้าใจ แล้วก็อาจจบบรรลุฝั่งแห่งบรมสัจจะได้ในภพนั้น
ฉบับ มมร. ๒๕-๔๐๓-๑๐,๑๙
[๘๒๐] ครั้งนั้นแล นางยักษิณีผู้เป็นมารดาของปิยังกระปลอบบุตร
น้อยอย่างนี้ว่า
ปิยังกระ อย่าอึกทึกไป ภิกษุกำลัง
กล่าวบทพระธรรมอยู่ อนึ่ง เรารู้แจ้งบท
พระธรรมแล้วปฏิบัติ ข้อนั้นจะพึงมีเพื่อ
ประโยชน์เกื้อกูลแก่เรา.
[๘๒๑] เราสำรวมในเหล่าสัตว์มีปราณ เรา
ไม่กล่าวเท็จทั้งที่รู้อยู่ เราศึกษา ทำตนไห้
เป็นผู้มีศีลดีนั่นแหละ เราจะพ้นจากกำเนิด
ปีศาจ.
ดูว่า ปิกังกระ กับแม่นั้นจะพ้นจากกำเนิดเปรตด้วย และบรรลุธรรมด้วยดีแล้วพร้อมกันนั้น จากที่ได้ฟังคำสอนธรรมะขององค์พระพุทธะตรัส
ส่วนคำถามนั้นจะได้ถามเพื่อนๆ อย่างนี้ว่า การที่ได้รับคำสอนนั้น เปรตชนิดนี้ที่บรรลุได้อยู่ เมื่อฟังคำสอนทั่วไปจากวิทยุโทรทัศน์สมัยนี้ เปรตชนิดนี้ก็จะยังสามารถบรรลุได้อยู่ดังเช่นเรื่องแต่ก่อนดั้งเดิมจากสมัยพุทธกาลมานั้นใช่หรือเปล่า? หรือจำต้องรอพระพุทธะตรัสอีก ในพระพุทธะองค์อื่น ณ กาลข้างหน้าโน้น
เปรตแม่ลูก เห็นอริยสัจ?
ตัวอย่างเปรตที่บรรลุบรมสัจจะ มีพบมาหนึ่งเรื่องเมื่อค้นตามไป ดังนี้ :-
ฉบับ มมร. ๒๕-๔๐๗-๑,๘
[๘๒๕] ยักษิณีพูดว่า
น่าชื่นชมนัก ลูกผู้นอนบนอกของ
แม่เป็นคนฉลาด ลูกของแม่ย่อมรักใคร่
พระธรรมอันบริสุทธิ์ของพระพุทธเจ้าผู้
ประเสริญ ปุนัพพสุเจ้าจงมีความสุขเถิด
วันนี้แม่เป็นผู้ย่างขึ้นไปในพระศาสนา
แม่และเจ้าเห็นอริยสัจแล้ว แม้แม่อุตรก็
จงฟังแม่.
ฉบับ มมร. ๖๗-๓๕๗-๑๗,๑๘
แต่เวมานิกเปรตที่เป็นติเหตุกะ ย่อมเป็นผู้บรรลุ
ธรรมได้ดุจการบรรลุธรรมของยักษิณีผู้เป็นมารดาของปิยังกระเป็นต้น.
ข้อนี้ก็เป็นความแปลกใหม่ในทางที่จะรู้สึกหากถ้าคิดให้ดี ว่าฝึกฝนแล้วพลัดผลูตกผล่อยไปที่เกิดกำเนิดได้เป็นเปรตมาอย่างนั้น ก็ยังแน่ดีซะกว่าตกกำเนิดพรหมที่เป็นด้วยฌาณโลกีย์ เพราะว่า หากได้พบคำสอน แล้วได้ฟังซะเข้าใจ แล้วก็อาจจบบรรลุฝั่งแห่งบรมสัจจะได้ในภพนั้น
ฉบับ มมร. ๒๕-๔๐๓-๑๐,๑๙
[๘๒๐] ครั้งนั้นแล นางยักษิณีผู้เป็นมารดาของปิยังกระปลอบบุตร
น้อยอย่างนี้ว่า
ปิยังกระ อย่าอึกทึกไป ภิกษุกำลัง
กล่าวบทพระธรรมอยู่ อนึ่ง เรารู้แจ้งบท
พระธรรมแล้วปฏิบัติ ข้อนั้นจะพึงมีเพื่อ
ประโยชน์เกื้อกูลแก่เรา.
[๘๒๑] เราสำรวมในเหล่าสัตว์มีปราณ เรา
ไม่กล่าวเท็จทั้งที่รู้อยู่ เราศึกษา ทำตนไห้
เป็นผู้มีศีลดีนั่นแหละ เราจะพ้นจากกำเนิด
ปีศาจ.
ดูว่า ปิกังกระ กับแม่นั้นจะพ้นจากกำเนิดเปรตด้วย และบรรลุธรรมด้วยดีแล้วพร้อมกันนั้น จากที่ได้ฟังคำสอนธรรมะขององค์พระพุทธะตรัส
ส่วนคำถามนั้นจะได้ถามเพื่อนๆ อย่างนี้ว่า การที่ได้รับคำสอนนั้น เปรตชนิดนี้ที่บรรลุได้อยู่ เมื่อฟังคำสอนทั่วไปจากวิทยุโทรทัศน์สมัยนี้ เปรตชนิดนี้ก็จะยังสามารถบรรลุได้อยู่ดังเช่นเรื่องแต่ก่อนดั้งเดิมจากสมัยพุทธกาลมานั้นใช่หรือเปล่า? หรือจำต้องรอพระพุทธะตรัสอีก ในพระพุทธะองค์อื่น ณ กาลข้างหน้าโน้น