คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 6
การรักษาพยาบาลในออสเตรเลียด้วยบัตรเมดิแคร์ ถ้าเป็นการหาหมอตามคลีนิค โอเคเลย ดีมาก แต่ถ้าต้องเข้าโรงพยาบาลนี่ หลายโรคที่ waiting list เป็นปีนะคะ อย่างเราจะพาลูกไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลเด็ก ต้องรอคือหนึ่งปีถึงหนึ่งปีครึ่งค่ะ บางโรครอสองสามปีเลยด้วยซ้ำ
ถ้าคุณแม่ห้าสิบต้นๆ น่าจะให้ทำประกันสุขภาพที่ไทยค่ะ เรื่องโรงพยาบาล ไม่จำเป็นต้องไประดับบำรุงราษฎร์ รพ กรุงเทพ หรอกค่ะ แพงมหาศาลเหมาะสำหรับเศรษฐี
เดี๋ยวนี้โรงพยาบาลรัฐหลายแห่งมีคลีนิคพรีเมี่ยมค่ะ เช่น ปิยมหาราชการุณย์ซึ่งเป็นโรงพยาบาลพรีเมี่ยมของศิริราชค่ะ ตรวจรักษากับอาจารย์หมอ ในราคาถูกกว่าเอกชนอย่างบำรุงราษฎร์ ฯลฯ แล้วค่ารักษาที่จ่ายไปนำไปอุดหนุนศิริราชเพื่อช่วยรักษาผู้ป่วยฐานะไม่ดี ไม่มีเงินเข้ารักษาตัวตามโรงพยาบาบเอกชน เท่ากับว่าคุณแม่จะได้รับการดูแลอย่างดีจากอาจารย์แพทย์ (โรงพยาบาลหรูมาก มีร้านอาหารญี่ปุ่น จีน ฝรั่ง สตาร์บัคส์ฯลฯ พร้อม) และได้ทำบุญช่วยผู้ป่วยอื่นๆ ที่ศิริราชฝั่งรัฐบาลด้วย
เคยไปพบแพทย์ ประทับใจมาก อาจรอนานนิดนึง เพราะคนไข้เยอะอยู่ แต่ยังไงก็น้อยกว่าศิริราชมากมายหลายเท่าตัว
ถ้าคุณแม่ห้าสิบต้นๆ น่าจะให้ทำประกันสุขภาพที่ไทยค่ะ เรื่องโรงพยาบาล ไม่จำเป็นต้องไประดับบำรุงราษฎร์ รพ กรุงเทพ หรอกค่ะ แพงมหาศาลเหมาะสำหรับเศรษฐี
เดี๋ยวนี้โรงพยาบาลรัฐหลายแห่งมีคลีนิคพรีเมี่ยมค่ะ เช่น ปิยมหาราชการุณย์ซึ่งเป็นโรงพยาบาลพรีเมี่ยมของศิริราชค่ะ ตรวจรักษากับอาจารย์หมอ ในราคาถูกกว่าเอกชนอย่างบำรุงราษฎร์ ฯลฯ แล้วค่ารักษาที่จ่ายไปนำไปอุดหนุนศิริราชเพื่อช่วยรักษาผู้ป่วยฐานะไม่ดี ไม่มีเงินเข้ารักษาตัวตามโรงพยาบาบเอกชน เท่ากับว่าคุณแม่จะได้รับการดูแลอย่างดีจากอาจารย์แพทย์ (โรงพยาบาลหรูมาก มีร้านอาหารญี่ปุ่น จีน ฝรั่ง สตาร์บัคส์ฯลฯ พร้อม) และได้ทำบุญช่วยผู้ป่วยอื่นๆ ที่ศิริราชฝั่งรัฐบาลด้วย
เคยไปพบแพทย์ ประทับใจมาก อาจรอนานนิดนึง เพราะคนไข้เยอะอยู่ แต่ยังไงก็น้อยกว่าศิริราชมากมายหลายเท่าตัว
แสดงความคิดเห็น
การรักษในโรงพยาบาลรัฐ (สิทธิ์ medicare) ที่ออสเตรเลีย เทียบกับ โรงพยาบาลเอกชน ในไทย
ตอนนี้ผมเป็น PR ที่ออสเตรเลีย และ กำลังมีแผนจะขอยื่นวีซ่า PR ตัวที่ชื่อ contributory parent visa subclass 143 ให้คุณแม่ครับ
ผมอ่านดูแล้วพบว่าค่าใช้จ่ายสำหรับ subclass 143 นั้นแพงมากอยู่ คือประมาณ $40,000 เหรียญ หรือราวๆ ล้านกว่าบาท
ตอนนี้เลยเริ่มคิดว่าเราควรขอให้แม่ดีมั้ย มันคุ้มค่าแค่ไหนที่คุณแม่จะได้ PR
..โอเคจะเข้าเรื่องที่เกี่ยวกับหัวข้อกระทู้ละครับ..
ผมลองคุยกับคุณแม่ดู พบว่าสิ่งที่คุณแม่น่าจะได้จากการเป็น PR ที่สำคัญที่สุดเลยคงเป็นสิทธิ์ medicare
เผลอๆจะมีแค่เรื่องนี้เรื่องเดียวที่ (อาจ) คุ้มค่าแก่การขอ PR ให้คุณแม่
ตอนนี้คุณแม่อายุ 50 ต้นๆ ยังไม่ได้ป่วยเป็นโรคร้ายแรงอะไร แต่คิดว่าตอนแก่กว่านี้คงจะเริ่มมีโรครุมเร้าตามประสาคนแก่
คุณแม่เคยบอกผมว่าตอนแก่ๆ ถ้าตัวเองยังอยู่ไทย แล้วป่วยหนัก หรือ เรื้อรัง ก็อยากจะรักษาโรงพยาบาลเอกชนดีๆในไทย เช่นพวก BNH กรุงเทพ บำรุงราษฎร์ หรือ อย่างน้อยก็ลงไปจากนั้นขั้นนึงก็ยังโอเค
ผมเลยมาดูค่ารักษา ค่าห้องของโรงพยาบาลระดับนั้นพบว่า...โคตรแพงเลยครับ 555
คือแม้ที่บ้านผมจะพอมีฐานะอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ใช่ระดับเศรษฐี ถ้าสมมุติว่าคุณแม่ป่วยเรื้อรังตอนแก่ แล้วจะต้องเข้าโรงพยาบาลพวกนั้น เงินที่หามาคงหายไปกับค่ารักษาหมดแน่ๆ
พอคิดได้แบบนี้แล้ว เลยมาคิดว่า ถ้าขอ PR ให้คุณแม่ (ยอมจ่ายล้านกว่าบาท) แล้วถ้าคุณแม่ป่วย ก็ให้คุณแม่มาเข้าโรงพยาบาลรัฐในออสเตรเลีย ที่ใช้สิทธิ์ medicare ในการรักษา ถ้ามีส่วนต่างก็ค่อยจ่ายส่วนต่างเอา
คำถามคือ หากทำแบบนี้แล้ว..
- มันจะเทียบเท่ากับโรงพยาบาลเอกชนในไทยมั้ย?
- ถ้าเทียบเท่า มันเทียบเท่าระดับไหน?
- มันมีค่าใช้จ่ายอะไรที่ผมยังไม่รู้อีกมั้ย?
(เช่น ผมเคยได้ยินเพื่อนที่ทำงานพูดเรื่องประกันเอกชน ที่กึ่งโดนบังคับทำเมื่ออายุ 30 กว่า..)
- มีแง่มุมไหนที่ผมลืมคิดไปรึเปล่า?
- รวมๆแล้ว จากความต้องการของแม่ การขอ PR เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าเพื่อคุณแม่หรือไม่?
ผมเองไม่รู้เรื่องนี้เลย เพราะตั้งแต่เป็น PR มา และใช้ชีวิตที่นี่มาก็ยังไม่เคยได้ใช้สิทธิ์ medicare ด้วยตัวเองเลย
เลยไม่มีประสบการณ์การเข้าโรงพยาบาลที่นี่มาก่อน ...แค่ GP ผมก็ยังไม่เคยเข้าไปด้วยตัวเองเลยด้วยซ้ำครับ
จะลองอ่านดูในบอร์ดฝรั่งก็ไม่ได้ เพราะฝรั่งก็คงไม่เคยใช้บริการโรงพยาบาลเอกชนที่ไทย ก็คงจะเปรียบเทียบไม่ได้อีก
เลยคิดว่าถามในพันทิปดีที่สุดแล้ว
ใครพอมีความรู้เรื่องนี้ รบกวนแนะนำหน่อยนะครับ