สวัสดีค่ะ วันนี้เราอยากจะมาแชร์เรื่องราวการลงทุนของเราให้เพื่อนๆอ่านกัน ซึ่งตอนนี้ยังไม่ได้อยู่ในจุดที่ประสบความสำเร็จใหญ่โต เนื่องจากเราลองมาหลายอย่างมว้าก และมาเจอการลงทุนแบบที่เข้ากับตัวเอง ลงทุนแล้วสบายใจ รับความเสี่ยงได้ ผลตอบแทนเป็นที่น่าพอใจ เรื่อยๆมาเรียงๆ เผื่อผู้มีความรู้ในห้องนี้จะมีคำแนะนำอะไรให้เราไปปรับใช้ในการลงทุนสไตล์บ้านๆของเราบ้าง อิอิ นี่คือเส้นทางการลงทุนของเรา ผ่านขวากหนามมาเยอะพอดู
บทเรียนที่ 1 แชร์วงใหญ่ในที่ทำงาน
เราพึ่งเรียนจบ มีน้องในออฟฟิศชวนเราเล่นแชร์วงที่ทำงาน เล่นกัน 20 คน เราส่งมือละ 2,000 ทุก 2 อาทิตย์ สุดท้ายมีคนเปียไปเหลือ 5 มือสุดท้าย ท้าวหนีจ้า ย้ายบ้านไปเรย ต้นรวมดอกของเราคือ 38,000 บาท สำหรับเด็กจบใหม่ มันคือเงินก้อนโตเลยนะ ตอนเราลงเราค่อนข้างคิดว่าเสี่ยงน้อยลงแล้วนะเพราะท้าวแชร์อยู่มาตั้งแต่โรงแรมที่เราทำงานเปิด เปิดมาแปดปีแน่ะ บ้านก็อยู่ไกล้ๆที่ทำงาน พลิกล็อคมว้าก กินไม่ได้นอนไม่หลับอยู่อาทิตย์นึงเลย เข็ดหลาบไปเลย น่าอนาถนักที่ดีใจ
กลมคอยจดทุกงวดๆ ซึ่งมารู้ทีหลังท้าวใส่ชื่อคนที่ไม่ได้เล่น และเปียปลอมๆไปเข้ากระเป๋าตัวเองด้วย มันช่างน่าชีช้ำกะหล่ำปลีจริงๆ จากนั้นเราตั้งใจไว้ว่าต่อให้ผู้จัดการโรงแรมเป็นท้าวแชร์ เราก็จะไม่เล่นอีกแล้ว เชอะ บรัยย วงการแชร์
บทเรียนที่ 2 หุ้น
หุ้นนี่เราอ่านและศึกษาหนักมาก ซื้อหนังสือมาหลายเล่ม อ่านในห้องสินทรเป็นปีๆ แต่เมื่อลงสนามจริงใช้เงินลงทุน 50,000 บาท เรากลับทนดูมันตัวแดง ขึ้นๆลงๆไม่ไหว บวกเราทำงานออฟฟิศ ไม่มีเวลามาเฝ้าหน้าจอหุ้นทุกวัน เกิดเจ้านายเห็นเข้า จะงงว่านี่แกทำงานโรงแรมหรืออยู่ตลาดหุ้นห๊ะ สุดท้ายใช้เวลา 1 เดือนเราก็ถอนตัวออกมาด้วยการขายขาดทุนนิดๆหน่อยๆ 5,000 บาท เป็นค่าวิชาตามที่พี่ๆในห้องสินทรสอนไว้
บทเรียนที่ 3 แชร์ในที่ทำงานที่ใหม่ (ไหนแกว่าจะไม่เล่นแล้วห๊า)
คือเวลาผ่านไปหลังจากเราล้มเรื่องแชร์เมื่อสี่ปีก่อน อะไรดลใจเราไม่รู้ให้ลองเล่นอีก โดยครั้งนี้เล่นในที่ทำงานใหม่ และเล่นเบาๆคือมือละ 1,000 บาททุก 2 อาทิตย์ รวมยอดทั้งดอกและต้นก็ได้มาสองหมื่นกว่าบาท แชร์วงนี้ก็โลดโผนน่าดู ต้น 1,000 ดอก 500 แบบนั้นเลยล่ะ และช่วงที่เล่นมีลูกแชร์บางคนลาออกด้วย สรุปครั้งนี้ได้กำไร แต่เราก็ไม่คิดจะเล่นอีกเหมือนกัน เพราะรู้สึกไม่สบายใจตลอดทุกเดือนว่าจะโดนชิ่งอีกไหม
บทเรียนที่ 4 แชร์ออนไลน์
เรื่องนี้คือพีคมาก นึกแล้วขำ เราประกาศกร้าวจะไม่เล่นแชร์แล้ว (หลายรอบแล้วนะ) เพราะเวลาโดนคนรู้จักคนไว้ใจกันหักหลังมันเจ็บ
แต่อันนี้มันเป็นแชร์ในไลน์ มันจะมีเป็นกลุ่มๆ ชื่อบ้านออมหุ้น บ้านสมบูรณ์ทรัพย์ บ้านนู่นบ้านนี่ชื่อเป็นมงคลมาก พี่เราแนะนำมา ซึ่งเราคิดว่าลองเล่นดูซิ กะคนไม่รู้จักนี่แหละ โดนโกงคงไม่เจ็บมาก 555 คิดตื้นๆตลอด วางแผนว่าเล่นนิดเดียวพอ หาเงินกินเค้กกินกาแฟวันหยุด คือต้องบอกก่อนวงการนี้มันสนุกสนานมาก มันไม่ค่อยเหมือนแชร์เพราะเราเล่นประเภทกินดอก หมายความว่าสมมุติเราส่งเงิน 1,000 บาท 3 มือเป็น 3,000 บาท เราจะได้ดอกในอีกสามวันถัดมาจำนวน 250 บาทต่อ 1 มือ รวมเป็น 750 บาทพร้อมคืนต้นด้วย กำไรงามเชีย ล่อตาล่อใจคนโลภระยะสั้นแบบเรามาก ถอนเงินในบัญชีเงินฝากมาเล่นตู้มแรก 45,000 บาท สุดท้ายเรามาโดยท้าวบิน ท้าวบินหมายถึงท้าวหนีน่ะนะ เราเล่นสามบ้าน ท้าวบ้านแรกบิน บ้านสองบิน บ้านสามบิน เป็นจำนวนเงินประมาณ 60,000 บาท เจ็บมั๊ยล่ะ แปลกนะครั้งนี้เราไม่สะทกสะท้านมากเหมือนตอนแชร์คนรู้จักโกง คือสมน้ำหน้าตัวเองที่โลภมากกว่า ไม่ได้เจ็บใจจากการโดนคนที่ไว้ใจโกง อิอิ คือทั้งที่รู้ว่าเป็นแชร์ลูกโซ่ แต่ความโลภมันบังตาจริงๆนะ แนวเดียวกับผีพนันเข้าสิง อย่าได้หลงตัวไปเลย บางคนเสียเป็นแสนเป็นล้านตามที่เป็นข่าวที่ DSI ตรวจสอบอยู่น่ะล่ะ ทีกะหุ้น กะกองทุนเราศึกษา 4 ปีเต็มกว่าจะกล้าลงทุนจริง วงแชร์ออนไลน์นี่ ลงตู้มๆ ศึกษาวันเดียวคร่า
บทเรียนที่ห้า กองทุนรวมหุ้นปันผล
และแล้วเราก็เจอสิ่งที่เหมาะกับเรา ปกติเราเป็นคนประหยัดนะ เก็บเงินได้นะ แต่พอเก็บได้จำนวนนึงเราก็จะเอาไปทำอย่างอื่น หรือไม่ก็เอาไปให้ชาวบ้านโกงแบบที่เล่าข้างต้น ตั้งแต่เราเริ่มสะสมกองทุนรวมตอนปลายปี 2014 ทุกๆวันที่ 15 กับ 28 รายได้จะเข้ามาในบัญชีเงินเดือนเรา เราก็จะโอนไปซื้อกองทุนรวมในหุ้นสะสมไว้ให้มากที่สุดโดยเหลือเงินไว้ใช้จ่ายด้วยเพราะเรารายจ่ายเยอะ ซึ่งวิธีนี้มันเป็นการเก็บเงินที่ดีอย่างนึงเลยล่ะ เพราะไม่อยากเอามาใช้เพราะจะใช้ทีต้องขาย รวมทั้งราคากำลังลง ขายก็ขาดทุนอีก เราตั้งใจสะสมหน่วยให้ได้มากที่สุดตอนแรกก็เริ่มต้นซื้อด้วยราคา 13.5 บาทต่อหน่วย ต่อมาเริ่มชำนาญและตั้งเป้าหมายให้ชัดเจนขึ้นว่า กองทุน KFSDIV ที่เราเล่นนี้ อย่างน้อยที่สุดจะปันผลที่ 0.3 สตางค์ต่อ 1 หน่วยทุก 3 เดือน ถ้าเราทำต้นทุนให้ได้ที่ 12 บาท ได้เงินปันผล 0.3 สตางค์ * 4 ครั้งต่อปีจะได้ 1.2 บาทต่อปี หมายถึงได้เงินปันผล 10 % ต่อปี แค่นี้เราก็พอใจมากแล้ว มาเก็บเงินได้เป็นกอบเป็นกำกะการสะสมหน่วยลงทุนนี่แหละ ตอนนี้เราเฉลี่ยต้นทุนจนเหลือตัวละ 11.7 บาทแล้วค่ะ / ทั้งนี้ขึ้นอยุ่กับกองทุนที่เราลงด้วย กองทุนอาจจะไม่ปันผลทุกสามเดือนแบบนี้ตลอดไป การลงทุนมีความเสียงเสมอ ถ้าทุกอย่างมันเริ่มไม่ราบรื่น เราอาจจะพิจารณาปรับเปลี่ยนอีกทีหนึ่ง
นี่คือตารางการเติบโตกองทุนเล็กๆของเรา มนุษย์เงินเดือนตัวน้อยๆ พอเห็นการเพิ่มพูนของหน่วยลงทุนและเงินปันผล จากครั้งแรกที่เริ่มต้นในปลายปี 2014 มีหน่วยลงทุนสามพันกว่าหน่วยได้เงินปันผลรอบนึง 900 กว่าบาท ครั้งล่าสุดได้รับปันผลหนึ่งหมื่นกว่าบาทแล้ว เย้ๆ ตอนนี้เราสะสมหน่วยลงทุนรได้ 36,300 หน่วยแล้ว ก็ภูมิใจค่ะ และจะสะสมต่อไปเรื่อยๆ สู้ๆ
ยังๆไม่หมด เราอยากรู้ถึงพลังมหัศจรรย์ดอกเบี้ยทบต้นตามที่เขาว่า เราจึงเอาเงินปันผลที่ได้ทั้งหมดทุกบาททุกสตางค์ มาลงทุนเพิ่ม ด้วยวิธีบ้านๆต้องการให้เข้าใจง่ายสุด ว่าลงทุนจริงเท่าไหร่ กำไรเท่าไหร่ บัญชีกองทุนเราจึงแยกเป็น 2 บัญชีดังนี้
1. บัญชีกองทุนที่ใช้เงินของเราซื้อกองทุนมา
2. บัญชีกองทุนที่เราเอาเงินที่ได้รับจากเงินปันผลบัญชีที่ 1 ไปซื้อ พอได้ปันผลตอบแทนมาอีกก็ทบซื้อเพิ่มไปอีกเรื่อยๆ
และนี่คือเงินปันผลที่เราได้รับจากการนำเงินปันผล ข้อ 1 ไปซื้อหน่วยลงทุนสะสมไว้ ถึงมันจะยังไม่เยอะ แต่ถ้าเราทำต่อไปเรื่อยๆ เห็นผลระยะยาวแน่เรย / ได้ดอกเบี้ยกรุบกริบน่ารักๆ ให้พอชื่นใจ
ขอบคุณที่อ่านมาจนจบค่ะ สรุปคือ ทุกคนมีแนวทางการลงทุนไม่เหมือนกัน ขอแค่อย่าไปยุ่งกับการลงทุนด้านมืด (เหมือนเราเลย ฮ่าๆ) และหาสไตล์การลงทุนที่เหมาะสมกับตัวเองเนอะ ชอบเสี่ยงมากเสี่ยงน้อย ระยะสั้นระยะยาว
แชร์ประสบการณ์ลงทุน พลาดมาเยอะ เจ็บมาแยะ สุดท้ายมาลงเอยกับการลงทุนในกองทุนรวมหุ้นปันผล
บทเรียนที่ 1 แชร์วงใหญ่ในที่ทำงาน
เราพึ่งเรียนจบ มีน้องในออฟฟิศชวนเราเล่นแชร์วงที่ทำงาน เล่นกัน 20 คน เราส่งมือละ 2,000 ทุก 2 อาทิตย์ สุดท้ายมีคนเปียไปเหลือ 5 มือสุดท้าย ท้าวหนีจ้า ย้ายบ้านไปเรย ต้นรวมดอกของเราคือ 38,000 บาท สำหรับเด็กจบใหม่ มันคือเงินก้อนโตเลยนะ ตอนเราลงเราค่อนข้างคิดว่าเสี่ยงน้อยลงแล้วนะเพราะท้าวแชร์อยู่มาตั้งแต่โรงแรมที่เราทำงานเปิด เปิดมาแปดปีแน่ะ บ้านก็อยู่ไกล้ๆที่ทำงาน พลิกล็อคมว้าก กินไม่ได้นอนไม่หลับอยู่อาทิตย์นึงเลย เข็ดหลาบไปเลย น่าอนาถนักที่ดีใจกลมคอยจดทุกงวดๆ ซึ่งมารู้ทีหลังท้าวใส่ชื่อคนที่ไม่ได้เล่น และเปียปลอมๆไปเข้ากระเป๋าตัวเองด้วย มันช่างน่าชีช้ำกะหล่ำปลีจริงๆ จากนั้นเราตั้งใจไว้ว่าต่อให้ผู้จัดการโรงแรมเป็นท้าวแชร์ เราก็จะไม่เล่นอีกแล้ว เชอะ บรัยย วงการแชร์
บทเรียนที่ 2 หุ้น
หุ้นนี่เราอ่านและศึกษาหนักมาก ซื้อหนังสือมาหลายเล่ม อ่านในห้องสินทรเป็นปีๆ แต่เมื่อลงสนามจริงใช้เงินลงทุน 50,000 บาท เรากลับทนดูมันตัวแดง ขึ้นๆลงๆไม่ไหว บวกเราทำงานออฟฟิศ ไม่มีเวลามาเฝ้าหน้าจอหุ้นทุกวัน เกิดเจ้านายเห็นเข้า จะงงว่านี่แกทำงานโรงแรมหรืออยู่ตลาดหุ้นห๊ะ สุดท้ายใช้เวลา 1 เดือนเราก็ถอนตัวออกมาด้วยการขายขาดทุนนิดๆหน่อยๆ 5,000 บาท เป็นค่าวิชาตามที่พี่ๆในห้องสินทรสอนไว้
บทเรียนที่ 3 แชร์ในที่ทำงานที่ใหม่ (ไหนแกว่าจะไม่เล่นแล้วห๊า)
คือเวลาผ่านไปหลังจากเราล้มเรื่องแชร์เมื่อสี่ปีก่อน อะไรดลใจเราไม่รู้ให้ลองเล่นอีก โดยครั้งนี้เล่นในที่ทำงานใหม่ และเล่นเบาๆคือมือละ 1,000 บาททุก 2 อาทิตย์ รวมยอดทั้งดอกและต้นก็ได้มาสองหมื่นกว่าบาท แชร์วงนี้ก็โลดโผนน่าดู ต้น 1,000 ดอก 500 แบบนั้นเลยล่ะ และช่วงที่เล่นมีลูกแชร์บางคนลาออกด้วย สรุปครั้งนี้ได้กำไร แต่เราก็ไม่คิดจะเล่นอีกเหมือนกัน เพราะรู้สึกไม่สบายใจตลอดทุกเดือนว่าจะโดนชิ่งอีกไหม
บทเรียนที่ 4 แชร์ออนไลน์
เรื่องนี้คือพีคมาก นึกแล้วขำ เราประกาศกร้าวจะไม่เล่นแชร์แล้ว (หลายรอบแล้วนะ) เพราะเวลาโดนคนรู้จักคนไว้ใจกันหักหลังมันเจ็บ
แต่อันนี้มันเป็นแชร์ในไลน์ มันจะมีเป็นกลุ่มๆ ชื่อบ้านออมหุ้น บ้านสมบูรณ์ทรัพย์ บ้านนู่นบ้านนี่ชื่อเป็นมงคลมาก พี่เราแนะนำมา ซึ่งเราคิดว่าลองเล่นดูซิ กะคนไม่รู้จักนี่แหละ โดนโกงคงไม่เจ็บมาก 555 คิดตื้นๆตลอด วางแผนว่าเล่นนิดเดียวพอ หาเงินกินเค้กกินกาแฟวันหยุด คือต้องบอกก่อนวงการนี้มันสนุกสนานมาก มันไม่ค่อยเหมือนแชร์เพราะเราเล่นประเภทกินดอก หมายความว่าสมมุติเราส่งเงิน 1,000 บาท 3 มือเป็น 3,000 บาท เราจะได้ดอกในอีกสามวันถัดมาจำนวน 250 บาทต่อ 1 มือ รวมเป็น 750 บาทพร้อมคืนต้นด้วย กำไรงามเชีย ล่อตาล่อใจคนโลภระยะสั้นแบบเรามาก ถอนเงินในบัญชีเงินฝากมาเล่นตู้มแรก 45,000 บาท สุดท้ายเรามาโดยท้าวบิน ท้าวบินหมายถึงท้าวหนีน่ะนะ เราเล่นสามบ้าน ท้าวบ้านแรกบิน บ้านสองบิน บ้านสามบิน เป็นจำนวนเงินประมาณ 60,000 บาท เจ็บมั๊ยล่ะ แปลกนะครั้งนี้เราไม่สะทกสะท้านมากเหมือนตอนแชร์คนรู้จักโกง คือสมน้ำหน้าตัวเองที่โลภมากกว่า ไม่ได้เจ็บใจจากการโดนคนที่ไว้ใจโกง อิอิ คือทั้งที่รู้ว่าเป็นแชร์ลูกโซ่ แต่ความโลภมันบังตาจริงๆนะ แนวเดียวกับผีพนันเข้าสิง อย่าได้หลงตัวไปเลย บางคนเสียเป็นแสนเป็นล้านตามที่เป็นข่าวที่ DSI ตรวจสอบอยู่น่ะล่ะ ทีกะหุ้น กะกองทุนเราศึกษา 4 ปีเต็มกว่าจะกล้าลงทุนจริง วงแชร์ออนไลน์นี่ ลงตู้มๆ ศึกษาวันเดียวคร่า
บทเรียนที่ห้า กองทุนรวมหุ้นปันผล
และแล้วเราก็เจอสิ่งที่เหมาะกับเรา ปกติเราเป็นคนประหยัดนะ เก็บเงินได้นะ แต่พอเก็บได้จำนวนนึงเราก็จะเอาไปทำอย่างอื่น หรือไม่ก็เอาไปให้ชาวบ้านโกงแบบที่เล่าข้างต้น ตั้งแต่เราเริ่มสะสมกองทุนรวมตอนปลายปี 2014 ทุกๆวันที่ 15 กับ 28 รายได้จะเข้ามาในบัญชีเงินเดือนเรา เราก็จะโอนไปซื้อกองทุนรวมในหุ้นสะสมไว้ให้มากที่สุดโดยเหลือเงินไว้ใช้จ่ายด้วยเพราะเรารายจ่ายเยอะ ซึ่งวิธีนี้มันเป็นการเก็บเงินที่ดีอย่างนึงเลยล่ะ เพราะไม่อยากเอามาใช้เพราะจะใช้ทีต้องขาย รวมทั้งราคากำลังลง ขายก็ขาดทุนอีก เราตั้งใจสะสมหน่วยให้ได้มากที่สุดตอนแรกก็เริ่มต้นซื้อด้วยราคา 13.5 บาทต่อหน่วย ต่อมาเริ่มชำนาญและตั้งเป้าหมายให้ชัดเจนขึ้นว่า กองทุน KFSDIV ที่เราเล่นนี้ อย่างน้อยที่สุดจะปันผลที่ 0.3 สตางค์ต่อ 1 หน่วยทุก 3 เดือน ถ้าเราทำต้นทุนให้ได้ที่ 12 บาท ได้เงินปันผล 0.3 สตางค์ * 4 ครั้งต่อปีจะได้ 1.2 บาทต่อปี หมายถึงได้เงินปันผล 10 % ต่อปี แค่นี้เราก็พอใจมากแล้ว มาเก็บเงินได้เป็นกอบเป็นกำกะการสะสมหน่วยลงทุนนี่แหละ ตอนนี้เราเฉลี่ยต้นทุนจนเหลือตัวละ 11.7 บาทแล้วค่ะ / ทั้งนี้ขึ้นอยุ่กับกองทุนที่เราลงด้วย กองทุนอาจจะไม่ปันผลทุกสามเดือนแบบนี้ตลอดไป การลงทุนมีความเสียงเสมอ ถ้าทุกอย่างมันเริ่มไม่ราบรื่น เราอาจจะพิจารณาปรับเปลี่ยนอีกทีหนึ่ง
นี่คือตารางการเติบโตกองทุนเล็กๆของเรา มนุษย์เงินเดือนตัวน้อยๆ พอเห็นการเพิ่มพูนของหน่วยลงทุนและเงินปันผล จากครั้งแรกที่เริ่มต้นในปลายปี 2014 มีหน่วยลงทุนสามพันกว่าหน่วยได้เงินปันผลรอบนึง 900 กว่าบาท ครั้งล่าสุดได้รับปันผลหนึ่งหมื่นกว่าบาทแล้ว เย้ๆ ตอนนี้เราสะสมหน่วยลงทุนรได้ 36,300 หน่วยแล้ว ก็ภูมิใจค่ะ และจะสะสมต่อไปเรื่อยๆ สู้ๆ
ยังๆไม่หมด เราอยากรู้ถึงพลังมหัศจรรย์ดอกเบี้ยทบต้นตามที่เขาว่า เราจึงเอาเงินปันผลที่ได้ทั้งหมดทุกบาททุกสตางค์ มาลงทุนเพิ่ม ด้วยวิธีบ้านๆต้องการให้เข้าใจง่ายสุด ว่าลงทุนจริงเท่าไหร่ กำไรเท่าไหร่ บัญชีกองทุนเราจึงแยกเป็น 2 บัญชีดังนี้
1. บัญชีกองทุนที่ใช้เงินของเราซื้อกองทุนมา
2. บัญชีกองทุนที่เราเอาเงินที่ได้รับจากเงินปันผลบัญชีที่ 1 ไปซื้อ พอได้ปันผลตอบแทนมาอีกก็ทบซื้อเพิ่มไปอีกเรื่อยๆ
และนี่คือเงินปันผลที่เราได้รับจากการนำเงินปันผล ข้อ 1 ไปซื้อหน่วยลงทุนสะสมไว้ ถึงมันจะยังไม่เยอะ แต่ถ้าเราทำต่อไปเรื่อยๆ เห็นผลระยะยาวแน่เรย / ได้ดอกเบี้ยกรุบกริบน่ารักๆ ให้พอชื่นใจ
ขอบคุณที่อ่านมาจนจบค่ะ สรุปคือ ทุกคนมีแนวทางการลงทุนไม่เหมือนกัน ขอแค่อย่าไปยุ่งกับการลงทุนด้านมืด (เหมือนเราเลย ฮ่าๆ) และหาสไตล์การลงทุนที่เหมาะสมกับตัวเองเนอะ ชอบเสี่ยงมากเสี่ยงน้อย ระยะสั้นระยะยาว