@... Man Utd 2016/17 : มูต้องพยายามคว้าแชมป์ในฤดูกาลแรกให้ได้ เพราะได้เปรียบคนอื่นที่สุดแล้ว ...@

เชื่อว่าแฟนแมนยูหลายๆ คนคงไม่คาดหวังว่ามูจะพาทีมคว้าแชมป์ได้ตั้งแต่ฤดูกาลแรกแน่ๆ
ผมเองก็ไม่คิดงั้นเหมือนกัน  แต่ดูจากสถานการณ์ตอนนี้  ถ้ามูจะคว้าแชมป์พรีเมียร์ให้ได้
ฤดูกาลนี้คือฤดูกาลที่ง่ายที่สุดแล้ว ถ้าเทียบกับปีที่ 2 หรือปีที่ 3 ที่คู่แข่งจะมีทีมที่ลงตัวกว่านี้
และเรียนรู้เกี่ยวกับพรีเมียร์ลีได้ดีกว่านี้

มาวิเคราะห์กันดูว่าผู้จัดการทีมแต่ละคนที่มีโอกาสลุ้นแชมป์ว่าเป็นยังไงบ้าง

เป็ป ณ แมนซิตี้ - คู่แข่งร่วมเมืองที่จะทำให้ศึกประจำเมืองแมนเชสเตอร์ดุเดือนกว่ามัยสเปนแน่นอน



ข้อเสียเปรียบของเป็ปคือการเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่เลย  ทั้งกับตัวผู้เล่นที่ยังไม่ลงตัว ต้องซื้อเพิ่มขายออก
อีกพอสมควร  กว่าจะลงตัว ลงระบบ  ไหนจะเรื่องของการเรียนรู้ระบบการเล่นของทีมอื่นๆ ในพรีเมียร์
ไหนจะเรื่องการบริหารจัดการภายใน ไม่ว่าจะระบบซ้อม ระบบบริหาร นู้นนั่นนี่สารพัด

ก็เลยมองว่าปีแรก เป็ปคงลุ้นแค่อันดับ 1-3 มากกว่า  ไม่น่าไปถึงขั้นลุ้นแชมป์ได้  แต่ปีที่ 2 นี่คงน่ากลัวแน่ๆ
เพราะนักเตะน่าจะเข้าใจระบบการเล่นของเป็ปมากขึ้น  และน่าจะคว้านักเตะที่ต้องการเข้าทีมได้ครบสักที
ดังนั้นปีที่สอง  เป็ปน่าจะมีลุ้นแชมปมากกว่าปีแรกเยอะมาก


---------------------------------------------------------------------------------------------

คอนเต้ ณ เชลซี - ว่าที่ฟานกัล แห่งลอนดอน



รายนี้ผมกำลังดูว่าจะเป็นฟานกัล 2 หรือเปล่า  เพราะเข้ามาคล้ายฟานกัลมาก
ไม่ว่าจะระบบที่โปรดปรานอย่าง 3-5-2  ที่เป็นของแสลงมากในพรีเมียร์ที่มักจะเน้นการลุกทางริมเส้น
ถ้าแบ็คสองตัวไม่อึดพอ  การโดนสวนกลับทางริมเส้นจะเป็นปัญหามาก ซึ่งฟานกัลโดนมาแล้ว

ไหนจะเรื่องที่กว่าจะได้มาคุมทีมเชลซี  ก็ช้ากว่าคนอื่น เพราะต้องทุ่มเทให้กับอิตาลีในยูโร
แถมอิตาลีก็เข้ามาซะลึกเชียว กว่าจะตกรอบและเก็บกระเป๋าเข้ามาเปิดตัวกับเชลซีได้
คงต้องใช้เวลาอีกสักพักกว่าจะจัดการเรื่องทีมใหม่ได้อย่างตัว  เหมือนฟานกัล
กว่าจะได้ลองตัวนักเตะ ได้เห็นฟอร์มในช่วงซ้อม กับช่วงเล่นแบบจริงจัง
ก็ตอนไปทัวร์ที่อเมริกานู้น  แถมช่วงพรีซีซั่นก็เล่นกันซะดี แผน 3-5-2 นี่คว้าแชมป์ได้
ปราบทีมดังๆ ได้หมดจนคว้าแชมป์ได้  ผมนี่ลุกขึ้นยืนน้ำตาไหลเลย  แมนยูกรูกลับมาแล้ว

แต่สุดท้ายก็ต้องลุกขึ้นยืนอีกทีหลังจากผ่านไปหนึ่งฤดูกาล  ลุงลุกหนีไปเถอะ  ฮ่าๆๆๆ

ไหนจะเรื่องการจัดหานักเตะที่ยังเดินเครื่องได้ไม่เต็มที่ ต้องดูฟอร์มนักเตะที่มีว่าต้องซื้อขายใครเพิ่ม
แม้ว่าจะได้นักเตะมาเพิ่มบ้างแล้ว  แต่ก็ต้องดูอีกทีว่าใครเป็นยังไง  แต่จริงๆ แล้วคอนเต้
ยังได้เปรียบฟานกัลคือประกาศเปิดตัวไปตั้งแต่กลางฤดูกาล  ดังนั้นคงมีเวลาศึกษาฟอร์มนักเตะบ้างแล้ว
เหลือแค่มาดูด้วยตาตัวเอง  ว่าสถิติที่เก็บได้มานั้น  กับของจริงเป็นไง  แล้วค่อยวัดอีกทีว่าจะขาย
หรือว่าซื้อใครมาเพิ่มบ้าง  ตอนนี้จบยูโรแล้ว คงได้เห็นเชลซีขยับมากขึ้นสักที

ไม่รวมกับปัญหาเดียวกับเป็ปทั้งเรื่องไม่คุ้นพรีเมียร์ ต้องนับหนึ่งใหม่ การบริหารจัดการภายในอีก
ผมว่าเผลอๆ อาจจะต้องไปลุ้นอันดับสี่กับสเปอร์นู้นเลยในฤดูกาลแรก  ส่วนลุ้นแชมป์คงฤดูกาลที่สองนู้นเลย


---------------------------------------------------------------------------------------------


คล็อป ณ The Kop -  คนดีคนเดียวที่จะปลุกเครื่องจักรสีแดงให้ร้อนฉ่าอีกครั้ง



รายนี้ได้เปรียบคนอื่นที่สุดในแง่การบริหารจัดการทีม เพราะได้มาลองเชิงครึ่งฤดูกาลแล้ว
ดังนั้นคล็อปน่าจะมีทีมในใจแล้ว ว่าต้องซื้อใคร ขายใครบ้าง ติดปัญหาเดียวคือนักเตะเกรด A+ อาจจะไม่มา
เพราะลิเวอร์พูลไม่ได้ไปบอลยุโรป และความสามารถในการทุ่มค่าเหนื่อยก็น้อยกว่าทีมอื่น

แม้ว่าบารมีของคล็อปจะพอมีบ้าง  แต่ฉายาเจ้าพ่อรองแชมป์ก็ไม่ได้มาเพราะโชคช่วยเช่นกัน
ดังนั้นนักเตะที่อยากเป็นแชมป์ก็อาจจะเลือกทีมอื่นมากกว่า  เว้นแต่ว่าจะมีสายสัมพันธ์ที่ดีกันมาก่อน

ดังนั้นก็จะเจอปัญหาเดิมๆ คือได้นักเตะเกรด B+ เป็นส่วนมาก  จริงอยู่ว่าคล็อปถนัดปั้นนักเตะมากกว่าซื้อดาวดัง
แต่พรีเมียร์ไม่ง่ายเหมือนเยอรมันนะ เพราะทุกทีมในพรีเมียร์นี่แพ้ชนะกันได้หมด  คล็อปเองก็รู้ดีอยุ่แล้ว

สรุปว่าแม้จะได้เปรียบเรื่องการได้มาคุมทีมลองเชิงมาแล้ว เข้าใจอะไรหลายๆ อย่างแล้ว
แต่สุดท้ายวัดที่ตัวผู้เล่น  ชื่อชั้นต่างๆ ยังไม่น่าจะดีพอให้ขึ้นไปลุ้นแชมป์ในฤดูกาลนี้  น่าจะฤดูกาลถัดไปมากกว่า
ปีนี้ก็คงลุ้นอันดับ 4-5 เหมือนเดิม อยู่ที่ว่าจะสามารถปลุกเครื่องจักรกลับมาได้ดีแค่ไหน  
เพราะจุดเด่นของคล็อปคือการสร้างสปิริตให้กับนักเตะในทีม โดยไม่เน้นพึ่งดาวดังมากนัก
ซึ่งถ้าทำสำเร็จอาจจะขึ้นมาลุ้นพี้นที่แชมป์เปี้ยนลีคได้เลย ในช่วงที่ทีมอื่นๆ ยังอยู่ระหว่างการปรับตัว


---------------------------------------------------------------------------------------------

เวงเกอร์ ณ ปืนโต - ขาประจำผู้รู้ทุกอย่าง  ยกเว้นการคว้าแชมป์ (มูกล่าวไว้)



ถ้ามองในแง่ประสบการณ์  ได้คะแนนเต็มไปเลย เพราะเยอะสุดแล้วในบรรดาทีมลุ้นแชมป์
แต่ปัญหาใหญ่ของปืนคือมีนักเตะไม่มากพอ มีเท่าไหร่ก็เจ็บวนๆ กันไป
คือจะเด้งฟอร์มดีมากๆ อยู่ช่วงหนึ่ง  สักพักพอตัวหลักเจ็บก็ร่วงไป
เป็นแบบนี้วนมาวนไปตลอด  แต่ปีนี้ถ้าทุ่มเงินคว้านักเตะกองหน้ามาเพิ่ม
เสริมนักเตะในตำแหน่งอื่นๆ ให้หมุนวนกันได้แบบไม่สะดุด
โอกาสก็มีเช่นกัน  ถ้าเจ๊แกไม่ชิ่งหนีไปคุมอังกฤษก่อนนะ

แต่ในภาพรวม ผมว่าก็คงลุ้นแค่อันดับ 2-4 เหมือนเดิมนะแหละ
จะน่าสนุกมากถ้าเวงเกอร์จะผันตัวไปคุมอังกฤษ  แล้วปีนได้บล็องค์มาคุม
พรีเมียร์คงน่าสนุกและมีสีสันมากกว่านี้เยอะเลย

เพราะผมมองว่าถ้าแกขยับไปคุมอังกฤษ  รับรองว่าน่าจะพาทีมไปได้ดีแน่ๆ
เรื่องเทคติคการเล่นบอลถ้วย  อาร์เซนอลก็เยี่ยมไม่แพ้ใครเลยนะ
ดังนั้นถ้าผันตัวไปคุมอังกฤษ ผมว่าระดับทีมจะพุ่งขึ้นกว่านี้แน่ๆ


---------------------------------------------------------------------------------------------

รานิเอรี่ - ขรัวเฒ่าแห่งจิ้งจอกสยาม



มาแบบนิ่งๆ คว้าแชมป์แบบนิ่มๆ  ชนิดที่ตะลึงกันทั้งเมือง  แต่ต้องดูว่าฤดูกาลนี้
ตัวดังๆ จะยังอยู่สักกี่คน  โดยเฉพาะมาเรซ, กองเต้ เนี่ย  จะดึงไว้ได้หรือเปล่า
ซึ่งผมมองว่าดึงไว้ยาก  ตอนนี้มองผ่านไปแล้วว่าเงินที่ได้มาเยอะเนี่ย
จะเปลี่ยนไปซื้อนักเตะได้ดีแค่ไหนเท่านั้นเอง  

เพราะจะเห็นได้ว่าในบรรดาทีมลุ้นแชมป์เนี่ย  เลสเตอร์ซื้อเยอะสุดแล้วตอนนี้
คือเตรียมพร้อมในการเพิ่มขนาดทีมเพื่อลุยบอลถ้วยยุโรปอย่างเต็มที่แล้ว
และด้วยเทคติคต่างๆ ที่มี ผมว่าไม่น่าพลาดไปบอลยุโรปแน่ๆ  คือน่าจะติดอันดับ 3-5 ได้
แต่คงไม่สามารถไปลุ้นแชมป์ได้แล้วล่ะ  เพราะต้องไปโฟกัสถ้วยยุโรปอีก
ต้องเตะหลายถ้วยขึ้น  นักเตะคงกรอบกว่าเดิม และถ้าขุมกำลังไม่ดีพอ
ระหว่างตัวสำรองกับตัวจริง  นั่นจะเป็นปัญหาแน่ๆ ทางแก้คือขายตัวที่ได้ราคา
แล้วเอาเงินนั้นไปซื้อตัวระดับใกล้เคียงกันมาหมุนเวียนเยอะขึ้น ซึ่งก็ทำตามนี้อยู่

สรุปเลสเตอร์ผมว่าคงได้ลุ้นอันดับ 4-5 เท่านั้นในฤดูกาลนี้
ส่วนฤดูกาลหน้าอาจจะมีลุ้นน้อยกว่าเดิม เพราะทีมระดับหัวแถว
คงทยอยกลับมายึดพื้นที่คืนหลังจากที่ทุกอย่างลงตัวแล้ว


---------------------------------------------------------------------------------------------

เมารีซีโอ โปเชตีโน หนุ่มไฟแรงแห่งลอนดอน



ฤดูกาลที่แล้วฟอร์มดีมาก  ทีมสปิริตเยี่ยม แต่ปัญหาของทีมคนหนุ่มคือ
บทจะหมดไฟก็หมดและน็อคไปดื้อๆ เลยในช่วงปลายฤดูกาลที่รู้ว่าพลาดแชมป์แน่ๆ
นักเตะก็ฟอร์มตกส่งท้ายกันหมด  เหมือนกับว่ากำลังใจหมดไปซะเฉยๆ

ซึ่งนี่คือปัญหาของการไล่ล่าแชมป์ที่นักเตะส่วนใหญ่รวมถึงผู้จัดการทีมไม่เคยเจอ
คือจะบริหารจิตใจนักเตะหนุ่มเหล่านี้ยังไง  ให้ไม่เสียสมาธิหรือจิตหลุด
พอเป้าหมายที่ใกล้แค่คว้ามือเอื้อมหลุดลอยไป

ฤดูกาลนี้น่าจะเดินสายช็อปไม่แพ้กันกับทีมอื่นๆ แต่โอกาสได้นักเตะระดับ A+ น้อย
แม้ว่าจะได้ไปเตะแชมปเปี้ยนลีคก็ตามที เพราะตอนนี้นักเตะดังๆ ถ้าจะย้ายมาพรีเมียร์
คงเล็งทีมอื่นๆ มากกว่า  ดังนั้นจะเจอปัญหาเดียวกับคล็อปคือดึงผู้เล่นระดับ A+ ไม่ได้

แต่ด้วยความที่ทีมค่อนข้างลงตัวแล้ว  ดังนั้นน่าจะเน้นเสริมมากกว่า น่าจะหานักเตะ
ที่มีประสบการณ์ลุ้นแชมป์ และเป็นกำลังใจให้นักเตะหนุ่มๆ ในทีมได้สักคน
เสนอคนนี้เลย  เบอร์ 7 แห่งเยอรมัน  ฮ่าๆๆ

ส่วนตัวคิดว่าสเปอร์ปีนี้คงลุ้นอันดับ 3-5 มากกว่า  อยู่ที่ว่าจะแก้ไขปัญหาได้ดีแค่ไหน


---------------------------------------------------------------------------------------------


มูริญโญ่ - ผีแดงตัวใหม่ที่ไม่รู้จะผีเข้าผีออกตอนไหน



ไล่เลียงด้านบนมาจะเห็นได้ว่า ตอนนี้เรื่องประสบการณ์ ขุมกำลัง
และความพร้อมในการเตรียมตัวรับงาน  มูริญโญ่น่าจะถือว่าพร้อม
และได้เปรียบกว่าเป็ป และคอนเต้พอสมควร

เพราะมีเวลาวางแผน จัดตัวนักเตะ  และเตรียม List รายชื่อนักเตะ
ที่จะดึงมาร่วมทีมพอสมควร  เพราะแต่ละตัวที่ได้มานี่ถือว่าตอบโจทย์เลย
อีกทั้งงบที่ทีมพร้อมเสนอให้ก็ถือว่ามากมายมหาศาล เรียกว่าทุ่มไม่อั้น

แม้ว่าจะไม่ได้ไปแชมป์เปี้ยนลีค  แต่บารมีของมูริญโญ่ก็ดีพอ
ที่จะดึงให้นักเตะระดับ A+  หรือแม้แต่ระดับ S (โรยรา) อย่างสลาตัน
ให้เดินหน้าเข้ามาในทีมได้เช่นกัน  และดูเหมือนว่าน่าจะเสริมอีก
อย่างน้อยหนึ่งตำแหน่งคือกองกลางตัวหลักอีกหนึ่งตัว
ที่จะทำหน้าที่แบกทีม  สร้างสรรค์เกมส์รุกให้กับทีม

ข่าวตอนนี้ก็คือป็อกบาซึ่งราคามหาโหดมาก
และตลกที่แฟนผีหลายๆ คนลุ้นให้ป็อกบาไปรีล มาดริดซะ
เดี๋ยวผีแดงจะเซ้งโทนี่​ โครสต่อเอง  ฮ่าๆๆ

สรุปว่าตัวนักเตะไม่น่าจะใช่ปัญหาของแมนยูอีกแล้ว
ส่วนระบบที่จะใช้เล่นคงเป็น 4-3-3 ไม่ก็ 4-2-1-3 เวลาเน้นรับ
ซึ่งเป็นระบบที่ไม่ได้ยากต่อการปรับตัวเท่าไหร่  นักเตะคงไม่มีปัญหา
ลุ้นแค่ให้เล่นเข้าขากันได้ไวๆ เท่านั้นเอง

ส่วนเรื่องประสบการณ์ในพรีเมียร์  ก็ไม่มีอะไรน่ากังวลใจ
เพราะถือว่ามีเยอะมาก ผ่านทั้งประสบการณ์ลุ้นแชมป์ คว้าแชมป์
รวมไปถึงโดนไล่ออกก็โดนมาแล้ว เรียกว่าผ่านมาทุกสิ่งอย่างแล้ว

ซึ่งการโดนไล่ออกถือเป็นสิ่งใหม่ที่น่าจะเป็นจุดเปลี่ยนของมูเลย
ดังนั้นการกลับมาครั้งนี้  ได้คุมทีมที่อยากคุม  ได้การสนับสนุนเต็มที่
ทั้งจากนักเตะ  และทีมบริหาร  รวมไปถึงทุนซื้อนักเตะ

บวกกับ Passion ในการพิสูจน์ตัวเอง และแก้ไขปัญหาที่เคยก่อไว้
ผมว่าน่าจะทำให้มูนิ่งขึ้น และคงไม่ออกอาการผีเข้าผีออกเหมือนเดิม
ซึ่งก็ต้องรอดูต่อไปว่าจะเปลี่ยนแปลงตัวเองได้มากแค่ไหน

ดังนั้นเมื่อไล่เรียงดูคู่แข่งแล้ว  ผมว่าถ้าแมนยูจะคว้าแชมป์พรีเมียร์
ปีนี้คือโอกาสที่ดีที่สุดแล้ว  เพราะปีหน้าทีมอื่นๆ น่าจะลงตัวกว่านี้
และทำให้งานยากขึ้นอีกเยอะ

แต่ด้วยสถิติแล้ว มูมักจะคว้าแชมป์ได้ในปีที่สองเสมอ
ดังนั้นผมว่าปีนี้พรีเมียร์ยังไม่ไฟแลบอย่างที่หลายๆ คนคิด
แต่ฤดูกาล 2017/18 นี่แหละ  ที่จะโหดสุดขั้วจริงๆ
เพราะหลายๆ ทีมคงอยู่ในฟอร์มที่พร้อมรบกับแบบสุดขั้ว


สำหรับผมขอเดาอันดับ 1-5 พรีเมียร์ฤดูกาล 2016/2017 ไว้ดังนี้

1. Man Utd
2. Man City
3. Arsenal
4. Spur
5. Chelsea


เพื่อนๆ เดาว่าใครจะติดอันดับไหนกันมั่ง  มาลองเดาดูกันเล่นๆ  จบฤดูกาลมาวัดกันใครแม่นสุด
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่