ขอพูดถึง 2ภาค ที่รีบูทก่อนหน้านี้หน่อยครับ (สามารถข้ามไปได้เลยผมแค่อยากเล่าเฉยๆ555)
เริ่มด้วย รายได้กันก่อนละกัน
ตามด้วยคำวิจารณ์หนัง
การรีบูทภาคแรกของสตาร์เทรค คำวิจารณ์ถือว่าดีมาก รายได้ในอเมริกาทำได้ดีเลยทีเดียว ส่วนนอกอเมริกาถือว่าน้อยไปหน่อย แต่ก็โอเคพอสมควรสำหรับหนังที่นำมารีบูทใหม่ ภาคแรกทุนสร้าง 150ล้านดอลลาร์ รายได้ในไทย 8แสนดอลลาร์ พอมาภาค2 เพิ่มทุนสร้าง เป็น 185-190ล้านดอลลาร์ (แหงละภาคแรกคำวิจารณ์ดีขนาดนั้น) พอฉายจริงคำวิจารณ์ก็ออกมาดีมากแต่ไม่ถึงภาคแรก (แต่สำหรับผมภาคนี้มันดีกว่าภาคแรกอีก) แต่รายได้ในอเมริกาน้อยกว่าภาคแรก และถึงรายได้ทั่วโลก จะเก็บไป 467ล้านดอลลาร์(ในไทย 1.5ล้านดอลลาร์ ขึ้นเท่าตัว ดีใจมาก) ถือว่ากำไรแต่ผมคิดว่าภาค(Into Darkness) มันควรรายได้มากกว่านี้ ทั้งคำวิจารณ์ออกมาดีทั้ง2ภาค และเป็นภาคต่อ สตาร์เทรคสร้างมา 12ภาคที่เป็นภาพยนตร์ก่อนหน้านี้ยังไม่เคยมีภาคไหนทำเงินเกิน 500ล้านดอลลาร์ แต่พอไปดูโปรแกรมฉายเก่าช่วง Star Trek Into Darkness เข้าโรง ฉายหลังiron man3 2อาทิตย์ ฉายก่อนFast 6 1อาทิตย์
(แหม ถ้าเข้าช่วงคู่แข่งไม่เยอะน้า ภาคที่แล้ว 600up ชัว มโน 555)
เอาละแล้วก็มาถึงภาคที่ 3 ที่จะเข้า 20 กรกฎานี้
สิ่งที่จะทำให้คุณควรไปดูในโรงภาพยนตร์
1. เพราะมันเป็นปีครบรอบ50ปีของ Star Trek คิดดูซิว่ามันจะต้องยิ่งใหญ๋แน่ๆ
2. ภาคนี้มีการเปลี่ยนผู้เขียนบทใหม่เป็น Simon Pegg กับ Doug Jung สก็อตตี้ต้นกลในเรื่อง ลงมาเขียนบทเองเลยซึ่งผลงานเขียนบทของแกก่อนหน้านี้ก็ไม่ธรรมดาเลย อย่าง Shaun of the Dead , Hot Fuzz , The World's End (เป็นหนังไตรภาค) ส่วนอีกคนนั้นผมไม่ได้ติดตามอะไรมาก เป็นผลงานซีรีย์ส่วนใหญ่แล้วก็ยังมีผลงานไม่มาก ต้องมารอดูว่าการเปลี่ยนทีมเขียนบทจะทำให้เนื้อเรื่องดูสดใหม่หรือไม่
3. ได้นักแสดงอย่าง Idris Elba กับ Sofia Boutella มาร่วมแสดงต้องรอดูว่าจะมาแค่ภาคเดียวหรือป่าว รายแรกนั้นเล่นหนังใหญ่มาพอสมควร อย่างเช่น รับบท Heimdall ในThor ผู้การสไตรเกอร์ในPacificrim กัปตันยานPrometheus และปีล่าสุดเล่นเรื่อง Beasts of No Nation ได้SAG awardsมา เสียดายไม่ได้เข้าชิงออสการ์ พี่แกเล่นดีกว่าบางคนที่เข้าชิงซะด้วยซ้ำ ส่วน Sofia Boutella นั้นเริ่มมีชื่อขึ้นมาจาก Kingsman: The Secret Service ที่เป็นสาวขาเหล็ก เสียดายที่ทั้ง2คนต้องบทเป็นมนุษย์ต่างดาวทำให้ไม่ได้เห็นหน้าที่เป็นปกติ ต้องแต่งหน้าเต็มตลอด ภาค2009นั้นได้ออสการ์แต่งหน้ามาด้วย
4. เพราะ J. J. Abrams เป็น Producer และ บริษัท Bad Robot Productions เป็นที่รู้กันว่า JJไม่ได้กลับมากำกับภาคนี้แต่เขายังเป็นProducer ซึ่งผลงานการเป็นProducerของ JJนั้นหนังออกมาดีแทบหมด เช่น Star Trek 2009,2013 Star wars7 Mission: Impossible3-5 Super 8 Cloverfield2ภาค นี่จึงเป็นสิ่งที่การันตีว่าโอกาสที่ Star Trek Beyond จะออกมาดีมีโอกาสสูงทีเดียว
5. Anton Yelchin เทรคภาคนี้เป็นภาคสุดท้ายของเขาเพราะเขาเสียชีวิตแล้วจากอุบัติเหตุทางรถยนต์
แต่ภาคนี้ไม่รู้ทำไม Alice Eve ในบท แครอล มาคัส ไม่ได้กลับมาทั้งที่ภาค 2Original (The Wrath of Khan) นั้น ทั้งที่มีลูกกับกัปตันเคิร์กด้วยซ้ำ ผมว่าเป็นตัวละครสำคัญพอสมควรเลย แถมภาคที่แล้วยังทิ้งทวนออกไปปฎิบัติภารกิจกับยานในตอนจบอีก แต่ก็คิดว่าเทรคภาค3Original (The Search for Spock) นั้นแครอลก็ไม่ได้กลับมาเหมือนกัน แต่ภาค Into Darkness นี่เธอก็มีบทมากพอสมควรเลยนะ เสียดายอีกคน
แหม่ เกือบลืม เราจะได้เห็น Carlo Ancelotti มาให้เราเห็นผ่านๆในเรื่องด้วย เห็นว่าน่าจะเป็นหมอ ไปรักษามะเร็งทีได้เล่นหนังเลย555
พูดถึงตัวอย่าง
ตัวอย่างที่ 2
ตัวอย่างนี้ตัดออกมาได้ดีมาก ซาวดนตรีประกอบ ดูสมูทไปหมด บอกเนื้อหามากขึ้นและโทนของหนังซึ่งไม่ได้มาแค่แอ๊คชั่นแบบ
ตัวอย่างแรก นอกจากนี้จะมีการผจญภัยที่มากกว่า 2ภาคแรกแน่ๆ
ในตัวอย่างนี้ส่วนที่ดูจะแปลกตาที่สุดและผมคิดว่าดีที่สุดก็คือ ช่วงวาปของยาน ฉากนี้เราคงไม่ได้เห็นในไซไฟเรื่องไหนมาก่อนแน่
แล้วก็อย่างตอนที่ที่ว่า ตลอดเวลาที่มานายพยายามจะเป็นแบบพ่อ ตอนนี้นายเกิดสงสัยว่าอะไรคือตัวนาย
ผมว่านี่เป็นประเด็นที่น่าสนใจ ที่นำมาเล่นได้ดีมาก
แล้วก็ฉากนี้ผมคิดว่าเราจะได้เห็นยานเอ็นเตอร์ไพรซ์ลำใหม่แน่ในเรื่อง ฉากนี้โบนพูดขึ้นมาว่านายอยากออกไปท่องอวกาศแล้วใช่ปะ แล้วทั้งสามคนก็มองอะไรบางอย่าง
แล้วนี่ก็น่าจะเป็นภาพยานอีกลำในเรื่อง
ตัวอย่างที่ 3
ตัวอย่างนี้มาแบบหรูๆ ดูแพง ผมคิดว่าดีที่สุด มันดูสมกับคำว่า Beyond จริงๆ รวมทั้งเพลงประกอบที่เข้ากันมาก และตอนต้นคลิปเราจะเห็นบรรยากาศของเมืองดูเป็น ซีจี ที่ดูอลังการกว่าสองภาคแรกมากๆ สมกับครบรอบ 50ปีหน่อย
และตัวอย่างนี้ก็ได้เพลง Sledgehammer ของ Rihanna ที่เธอแต่งมาให้กับหนังภาคนี้โดยเฉพาะ (เธอแฟนแฟนสตาร์ เทรค ด้วยนะ)
และพวกต่างดาวที่ทำลายยานEnterpriseนี่ตอนแรกนี่อย่างโหด(ดูคล้ายๆการโจมตีของพวกฟอร์มิคในEnder Game) แต่ในตัวอย่างก็เห็นว่าตอนจบไหม้
อยู่ดี555 อยากรู้จริงๆว่าจัดการยังไง ขนาดยานEnterpriseโหดกว่ายังเละ555
แล้วนี่ก็เป็นอีกหนึ่งคลิปที่ถูกปล่อยออกมา จะเห็นหลายๆมุมที่ไม่เห็นในตัวอย่าง
เราจะได้เห็นว่าเมืองที่เราเห็นในตัวอย่างนั้นคืออาณานิคมนอกโลก(อาจจะชายแดน ตัดปัญหาโลกโดนโจมตีง่ายแบบ 2ภาคแรก555)
อย่าลืมไปดู Star Trek Beyond ในโรงกันนะครับ
[CR] สิ่งที่น่าสนใจในเรื่อง Star Trek Beyond พูดถึงตัวอย่างนิดหน่อย
เริ่มด้วย รายได้กันก่อนละกัน
ตามด้วยคำวิจารณ์หนัง
การรีบูทภาคแรกของสตาร์เทรค คำวิจารณ์ถือว่าดีมาก รายได้ในอเมริกาทำได้ดีเลยทีเดียว ส่วนนอกอเมริกาถือว่าน้อยไปหน่อย แต่ก็โอเคพอสมควรสำหรับหนังที่นำมารีบูทใหม่ ภาคแรกทุนสร้าง 150ล้านดอลลาร์ รายได้ในไทย 8แสนดอลลาร์ พอมาภาค2 เพิ่มทุนสร้าง เป็น 185-190ล้านดอลลาร์ (แหงละภาคแรกคำวิจารณ์ดีขนาดนั้น) พอฉายจริงคำวิจารณ์ก็ออกมาดีมากแต่ไม่ถึงภาคแรก (แต่สำหรับผมภาคนี้มันดีกว่าภาคแรกอีก) แต่รายได้ในอเมริกาน้อยกว่าภาคแรก และถึงรายได้ทั่วโลก จะเก็บไป 467ล้านดอลลาร์(ในไทย 1.5ล้านดอลลาร์ ขึ้นเท่าตัว ดีใจมาก) ถือว่ากำไรแต่ผมคิดว่าภาค(Into Darkness) มันควรรายได้มากกว่านี้ ทั้งคำวิจารณ์ออกมาดีทั้ง2ภาค และเป็นภาคต่อ สตาร์เทรคสร้างมา 12ภาคที่เป็นภาพยนตร์ก่อนหน้านี้ยังไม่เคยมีภาคไหนทำเงินเกิน 500ล้านดอลลาร์ แต่พอไปดูโปรแกรมฉายเก่าช่วง Star Trek Into Darkness เข้าโรง ฉายหลังiron man3 2อาทิตย์ ฉายก่อนFast 6 1อาทิตย์
(แหม ถ้าเข้าช่วงคู่แข่งไม่เยอะน้า ภาคที่แล้ว 600up ชัว มโน 555)
เอาละแล้วก็มาถึงภาคที่ 3 ที่จะเข้า 20 กรกฎานี้
สิ่งที่จะทำให้คุณควรไปดูในโรงภาพยนตร์
แต่ภาคนี้ไม่รู้ทำไม Alice Eve ในบท แครอล มาคัส ไม่ได้กลับมาทั้งที่ภาค 2Original (The Wrath of Khan) นั้น ทั้งที่มีลูกกับกัปตันเคิร์กด้วยซ้ำ ผมว่าเป็นตัวละครสำคัญพอสมควรเลย แถมภาคที่แล้วยังทิ้งทวนออกไปปฎิบัติภารกิจกับยานในตอนจบอีก แต่ก็คิดว่าเทรคภาค3Original (The Search for Spock) นั้นแครอลก็ไม่ได้กลับมาเหมือนกัน แต่ภาค Into Darkness นี่เธอก็มีบทมากพอสมควรเลยนะ เสียดายอีกคน
แหม่ เกือบลืม เราจะได้เห็น Carlo Ancelotti มาให้เราเห็นผ่านๆในเรื่องด้วย เห็นว่าน่าจะเป็นหมอ ไปรักษามะเร็งทีได้เล่นหนังเลย555
พูดถึงตัวอย่าง
ตัวอย่างนี้ตัดออกมาได้ดีมาก ซาวดนตรีประกอบ ดูสมูทไปหมด บอกเนื้อหามากขึ้นและโทนของหนังซึ่งไม่ได้มาแค่แอ๊คชั่นแบบ
ตัวอย่างแรก นอกจากนี้จะมีการผจญภัยที่มากกว่า 2ภาคแรกแน่ๆ
ในตัวอย่างนี้ส่วนที่ดูจะแปลกตาที่สุดและผมคิดว่าดีที่สุดก็คือ ช่วงวาปของยาน ฉากนี้เราคงไม่ได้เห็นในไซไฟเรื่องไหนมาก่อนแน่
แล้วก็อย่างตอนที่ที่ว่า ตลอดเวลาที่มานายพยายามจะเป็นแบบพ่อ ตอนนี้นายเกิดสงสัยว่าอะไรคือตัวนาย
ผมว่านี่เป็นประเด็นที่น่าสนใจ ที่นำมาเล่นได้ดีมาก
แล้วก็ฉากนี้ผมคิดว่าเราจะได้เห็นยานเอ็นเตอร์ไพรซ์ลำใหม่แน่ในเรื่อง ฉากนี้โบนพูดขึ้นมาว่านายอยากออกไปท่องอวกาศแล้วใช่ปะ แล้วทั้งสามคนก็มองอะไรบางอย่าง
แล้วนี่ก็น่าจะเป็นภาพยานอีกลำในเรื่อง
ตัวอย่างนี้มาแบบหรูๆ ดูแพง ผมคิดว่าดีที่สุด มันดูสมกับคำว่า Beyond จริงๆ รวมทั้งเพลงประกอบที่เข้ากันมาก และตอนต้นคลิปเราจะเห็นบรรยากาศของเมืองดูเป็น ซีจี ที่ดูอลังการกว่าสองภาคแรกมากๆ สมกับครบรอบ 50ปีหน่อย
และตัวอย่างนี้ก็ได้เพลง Sledgehammer ของ Rihanna ที่เธอแต่งมาให้กับหนังภาคนี้โดยเฉพาะ (เธอแฟนแฟนสตาร์ เทรค ด้วยนะ)
และพวกต่างดาวที่ทำลายยานEnterpriseนี่ตอนแรกนี่อย่างโหด(ดูคล้ายๆการโจมตีของพวกฟอร์มิคในEnder Game) แต่ในตัวอย่างก็เห็นว่าตอนจบไหม้
อยู่ดี555 อยากรู้จริงๆว่าจัดการยังไง ขนาดยานEnterpriseโหดกว่ายังเละ555
แล้วนี่ก็เป็นอีกหนึ่งคลิปที่ถูกปล่อยออกมา จะเห็นหลายๆมุมที่ไม่เห็นในตัวอย่าง
เราจะได้เห็นว่าเมืองที่เราเห็นในตัวอย่างนั้นคืออาณานิคมนอกโลก(อาจจะชายแดน ตัดปัญหาโลกโดนโจมตีง่ายแบบ 2ภาคแรก555)
อย่าลืมไปดู Star Trek Beyond ในโรงกันนะครับ