เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา(19 พ.ค.56)มีความตั้งใจสูงมากที่จะไปดู Star Trek Into Darkness ที่โรงภาพยนตร์ ด้วยเหตุผล 3 ข้อ คือ
1. ติดใจภาคแรกในฉบับของ J.J. Abrams
2. ชื่นชอบฝีไม้ลายมือของ ผกก. คนนี้ จากผลงานในอดีตหลายเรื่อง ซึ่งค่อนข้างมั่นใจและตั้งความหวังไว้สูงกับ Star Trek Into Darkness
3. J.J. Abrams ทำให้คนที่ไม่ชอบหนังสงครามอวกาศเรื่องนี้ในอดีตอย่างผมกลับมาชอบ Star Trek ได้ชนิดโงหัวไม่ขึ้น จากหนังภาคแรก
โดยหลังจากได้พิสูจน์ Star Trek Into Darkness ซึ่งเลือกดูในระบบ 3D ที่ SF The Mall บางกะปิ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เพราะราคาแพงกว่าระบบปกติแค่ 20 บาท และหลังดูจบผมพูดในใจเลยว่า J.J. Abrams คุณชนะผมแล้ว คุณไม่ทำให้ผมผิดหวังแถมยังทำได้สูงกว่าที่คาดหวังไว้ซะอีก หนังมาพร้อมความสมบูรณ์แบบในหลายๆเรื่อง เช่น ฉาก Action ที่ดูแล้วบอกตามตรงว่าลุ้นจนคอแห้งจริงๆเพราะ , ฉากตลกกับบทบาทของ Scotty (Simon Pegg) ที่ออกน้อยแต่ปล่อยมุกหนักๆหลายมุก รวมถึงคนที่ไม่น่าตลกอย่างคุณหมอ Bones (Karl Urban) ที่ฮาแบบหน้าเครียดๆในแบบของเค้า , ฉาก 3D ที่สวยมากซึ่งมาพร้อมกับ CG ที่เยี่ยมเป็นทุนอยู่แล้ว และที่เป็นจุดเด่นที่ทำให้ J.J. Abrams ทำหนัง Action SCI-FI ได้เหนือกว่า ผกก. หลายคนคือการใส่อารมณ์ Drama ซึ้งๆกำลังดีแบบไม่ยัดเยียดลงไปในช่วงท้ายของเรื่อง(ต้องยกย่องทีมเขียนบทหนังเรื่องนี้ด้วย)
ออ และต้องไม่ลืมสิ่งสำคัญที่ J.J สร้างและฝากไว้ใน Into Darkness นี้กับการสร้างตัวร้ายที่น่ากลัว , เก่ง และมีเสน่ห์มากๆในภาคนี้ ผมคิดว่าหลายคนหลังดูหนังจบอาจรอการกลับมาของ Khan (Benedict Cumberbatch) ในภาคต่อไปกันเลยทีเดียว เพราะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้นี่คือตัวร้ายที่เก่งที่สุดเท่าทียาน Enterprise เคยเจอมา
สรุป ผมคงไม่สามารถบรรยายเนื้อเรื่องได้มากนัก เพราะกลัวจะทำให้คนที่ยังลังเลหรือยังไม่ได้ดูหมดสนุกไปซะก่อนตอนที่ตัดสินใจเข้าไปดูเอง แต่สิ่งที่ผมอยากบอกคือ นี่คือความบันเทิงแบบไร้ที่ติของ J.J. Abrams ที่ต้องบอกว่าคุณโคตรเจ๋งเลยจริงๆ
[CR][SR] Star Trek Into Darkness ทะยานสู่ห้วงมืด : ที่สุดของความสุขในการรับชม กับผลงานไร้ที่ติของ J.J. Abrams
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา(19 พ.ค.56)มีความตั้งใจสูงมากที่จะไปดู Star Trek Into Darkness ที่โรงภาพยนตร์ ด้วยเหตุผล 3 ข้อ คือ
1. ติดใจภาคแรกในฉบับของ J.J. Abrams
2. ชื่นชอบฝีไม้ลายมือของ ผกก. คนนี้ จากผลงานในอดีตหลายเรื่อง ซึ่งค่อนข้างมั่นใจและตั้งความหวังไว้สูงกับ Star Trek Into Darkness
3. J.J. Abrams ทำให้คนที่ไม่ชอบหนังสงครามอวกาศเรื่องนี้ในอดีตอย่างผมกลับมาชอบ Star Trek ได้ชนิดโงหัวไม่ขึ้น จากหนังภาคแรก
โดยหลังจากได้พิสูจน์ Star Trek Into Darkness ซึ่งเลือกดูในระบบ 3D ที่ SF The Mall บางกะปิ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เพราะราคาแพงกว่าระบบปกติแค่ 20 บาท และหลังดูจบผมพูดในใจเลยว่า J.J. Abrams คุณชนะผมแล้ว คุณไม่ทำให้ผมผิดหวังแถมยังทำได้สูงกว่าที่คาดหวังไว้ซะอีก หนังมาพร้อมความสมบูรณ์แบบในหลายๆเรื่อง เช่น ฉาก Action ที่ดูแล้วบอกตามตรงว่าลุ้นจนคอแห้งจริงๆเพราะ , ฉากตลกกับบทบาทของ Scotty (Simon Pegg) ที่ออกน้อยแต่ปล่อยมุกหนักๆหลายมุก รวมถึงคนที่ไม่น่าตลกอย่างคุณหมอ Bones (Karl Urban) ที่ฮาแบบหน้าเครียดๆในแบบของเค้า , ฉาก 3D ที่สวยมากซึ่งมาพร้อมกับ CG ที่เยี่ยมเป็นทุนอยู่แล้ว และที่เป็นจุดเด่นที่ทำให้ J.J. Abrams ทำหนัง Action SCI-FI ได้เหนือกว่า ผกก. หลายคนคือการใส่อารมณ์ Drama ซึ้งๆกำลังดีแบบไม่ยัดเยียดลงไปในช่วงท้ายของเรื่อง(ต้องยกย่องทีมเขียนบทหนังเรื่องนี้ด้วย)
ออ และต้องไม่ลืมสิ่งสำคัญที่ J.J สร้างและฝากไว้ใน Into Darkness นี้กับการสร้างตัวร้ายที่น่ากลัว , เก่ง และมีเสน่ห์มากๆในภาคนี้ ผมคิดว่าหลายคนหลังดูหนังจบอาจรอการกลับมาของ Khan (Benedict Cumberbatch) ในภาคต่อไปกันเลยทีเดียว เพราะ[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สรุป ผมคงไม่สามารถบรรยายเนื้อเรื่องได้มากนัก เพราะกลัวจะทำให้คนที่ยังลังเลหรือยังไม่ได้ดูหมดสนุกไปซะก่อนตอนที่ตัดสินใจเข้าไปดูเอง แต่สิ่งที่ผมอยากบอกคือ นี่คือความบันเทิงแบบไร้ที่ติของ J.J. Abrams ที่ต้องบอกว่าคุณโคตรเจ๋งเลยจริงๆ
**SR - Sponsored Review : ผู้เขียนรีวิวนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้แก่ผู้เขียนรีวิว โดยที่ผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว