เมื่อคนเคยรัก มาอยู่ในสถานะหัวหน้า-ลูกน้อง ??

ต้องขอเกริ่นก่อนว่านี่คือกระทู้แรกของเรา  หากใช้ภาษาหรือข้อความผิดพลาดประการใดก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ
เนื่องจากเราเกิดความทุกข์และความเครียดอย่างมาก  เลยอยากจะแชร์เรื่องราวเพื่ออยากระบาย  และเราพร้อมรับข้อคิดเห็นของทุกๆคน

เริ่มเรื่องเลยล่ะกันเนอะ  
เรากับพี่เค้ารู้จักกันมาประมาณ 2 ปีกว่า  ก่อนที่เราจะย้ายมาทำงานที่เดียวกัน  มาเป็นหัวหน้าลูกน้องกัน
ในระยะเวลา 2 ปี  เราคบกับเค้าในขณะที่เค้าเองก็มีแฟน  เรายอมที่จะเป็นแบบนั้น และไม่เคยสนใจว่าเค้าจะมีใครอีกกี่คน
ความสัมพันธ์ก็เป็นแบบนี้มาเรื่อยๆ เป็นผู้ใหญ่ที่เราเคารพ เป็นพี่ เป็นเพื่อน เป็นทุกๆอย่างของเรา
แก็งส์เพื่อนสนิทพี่เค้าก็รับรู้เรื่องความสัมพันธ์ของเรา  เรากับพี่เค้ารับปากกันว่า  มีอะไรจะคุยกันตรงๆ  ทุกๆอารมณ์  
ทุกๆความคิดและความรู้สึก เราจะไม่ปิดบังกัน  เรารักเค้าและรักมาก

เรายอมรับนะ  ว่าในตอนนั้นในใจเรามีทั้งสุขที่มีเค้า และเป็นทุกข์เพราะรู้สึกผิดต่อแฟนเค้า
แต่เราไม่เคยเรียกร้องอะไรจากเค้า เราแค่อยากดูแลเค้าในแบบที่เราดูแลได้ ได้รักและมีเค้าแบบนี้
จนวันนึงเรามีปัญหาเรื่องงาน  พี่เค้าเลยให้ส่งใบสมัครไปให้เค้า  และนี่คือจุดเริ่มของปัญหาที่เราต้องเผชิญ
เค้าบอกเราว่า  "ถ้าเมื่อไหร่มีคนอื่นๆในที่ทำงานรู้เรื่องเรา  พี่จะจบทุกอย่าง  
และหากมันกระทบกับงานของพี่  พี่ก็จะเล่นงานเราเหมือนกัน และจะเกลียดเราตลอดไป"

ตอนเริ่มมาทำงานด้วยกันใหม่ๆ ลักษณะความสัมพันธ์ของเราก็ยังคงเหมือนเดิม  ในด้านการทำงานพี่เค้าก็ปกติ
คือปฏิบัติและแสดงออกเหมือนกับทุกๆคน  แต่เนื่องจาก ความคิดเห็น  บุคลิก แนวคิด เรากับพี่เค้าค่อนข้างจะแตกต่าง
และเพราะเราเคยสนิทกัน  บางครั้งลักษณะการคุยงานจึงแตกต่างกับคนอื่นๆ  
คุยกันก้อแนวเถียง ดุ ด่า แต่เราเข้าใจว่าพี่เค้าหวังดีกับเราจริงๆ

จนวันนึง เราสังเกตได้อย่างชัดเจนว่าเค้าเปลี่ยนไป  งานเราเค้าก็ทำเป็นอารมณ์เสีย ด่ายับทุกๆครั้ง หน้าก็ไม่มองด้วยซ้ำ
เราก็เคลียร์กับพี่เค้าว่าทำไม เพราะอะไร?  และคำตอบที่ได้คือ มีคนในที่ทำงานถามพี่เค้าว่า  เรากับเค้าเป็นอะไรกัน?
และคนที่ถามที่เป็นคนรู้จักของแฟนพี่เค้า  เค้าบอกเราว่า  เลิกเป็นแบบเดิมๆซะที  

ในเรื่องความสัมพันธ์  :  เราหยุดทุกอย่าง มีแค่ความเป็นหัวหน้าลูกน้อง  ข้อความในไลน์ที่เราส่งให้เค้าล่าสุด
ก่อนที่เค้าจะบล็อคเราทุกทาง  เราส่งไปประมาณว่า  "เราไม่เข้าใจว่าทำไมทำเ ี้ยๆกับเราแบบนี้  มันคือความผิดของเราเหรอ
ที่เราเคยเป็นแบบนั้นกันมาก่อนทำไมต้อง 2 มาตราฐาน  ทิ้งเราแล้วทิ้งงานด้วย  เราไปทำอะไรให้ถึงได้ทำกับเราแบบนี้"
พี่เค้าโกรธเรามาก มากกกกๆ  เค้าบอกว่าในชีวิตการทำงานและในความเป็นนาย  ไม่เคยมีใครมาว่าเค้าแบบนี้  
เค้าบอกว่าเค้าแฟร์พอในเรื่องงาน  และเค้าเกลียดที่เราว่าเค้าแบบนั้น

ในเรื่องการทำงานและสภาพแวดล้อมทำงาน  :  เรารู้สึกว่าเค้าทิ้งเรา  เราไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งในทีม  
เค้าไม่คุยเล่นกับเรา  เหมือนคุยกับทุกๆคนในทีม
การคุยงานกันทุกครั้งก็ด่าเราลั่น  และหลายครั้งด่าแบบไม่ให้เกียรติ  ไม่ไว้หน้าเรา  
จนเรารู้สึกเหมือนเค้าอยากให้เราออกๆไป  คนอื่นๆในทีมก็ต่างมาถามเราว่า  มีประเด็นส่วนตัวอะไรกันมั๊ย
เรารู้สึกถึงความแตกต่าง  การปฏิบัติแบบ 2 มาตรฐานอย่างชัดเจนระหว่างแสดงกับเรา  และกับทุกๆคน  
เราไม่มีความสุขเลยสักวัน  ในเช้าทุกๆวัน สมองมันเต็มเปี่ยม  แต่โดนบั่นทอน หมดกำลังใจ  
มันส่งผลกับความคิดและสมองเรามาก จนเราคิดงานไม่ออก จนสุขภาพเราแย่มากๆ
เราเข้า รพ บ่อยมาก  ต้องกินยาให้หลับทุกคืน

การแสดงออกของเค้า  ที่แสดงออกมาแบบหยาบๆ  ด่าแบบไร้สติ  เหมือนไม่ควบคุมอารมณ์
เราก็พยายามจะคิดในแง่ดีว่าอาจจะเพราะความเคยชินที่เค้าแสดงออกกับเราแบบนี้มาก่อน  
เค้าบอกเราว่า  เค้าไม่เคยด่าและโมโหลูกน้องแบบนี้มาก่อน  เราเป็นคนแรกในชีวิตเลย  
เราก็งงๆว่าบางเรื่องไม่เห็นต้องใส่อารมณ์ขนาดนี้เลย  พูดดีๆก็ได้  แต่ก็ไม่อยากเถียง เดี๋ยวจะยิ่งหนัก
ในทุกๆวันเราร็สึกได้ว่า  เค้าแสดงออกกับเราร้อยอารมณ์  เหอะๆ  เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย  ร้ายก้อร้ายน่ากลัว  ดีก้อดีแบบแอบดี

มีวันนึง ที่ทั้งชั้นกลับกันไปหมดล่ะ  มีแค่เรากับเค้าที่เคลียร์งานกัน   เค้าสอนงานเราดีมากกกกกก ก ไก่ล้านตัว
สักพักมีพี่ที่รู้จักจากชั้นอื่นมานั่งล็อคข้างๆ  เหมือนองค์ลงพี่เค้า  อยู่ๆก้อเสียงเปลี่ยน ด่าเรายับ เรานี่น้ำตาไหล และก็งงๆ

เราอึดอัดมาก ซึ่งต้องบอกก่อนเลยว่า  เราเปลี่ยนสายงานมาทำอันนี้  ประสบการณ์ยังไม่ถึงปี  
เรากำลังมองหาและสมัครงานใหม่ ซึ่งด้วยสถานการณ์ตอนนี้หางานยากมาก  
เราแค่ต้องการให้เราพออยู่ได้  พอได้ยิ้มได้  พอให้สมองได้มีพิ้นที่ไว้คิดงาน ไม่อยากโดนบั่นทอน  
อยากรู้สึกเป็นคนในทีมที่เค้าเห็นเราเป็นลูกน้องบ้าง  
นี่เราร้องไห้ทุกวัน  บางวันในระหว่างวันที่ไม่ไหว  ก้อแอบไปร้องในห้องน้ำ  
เราเครียดมากจริงๆ เราไม่อยากลาออกโดยที่ยังไม่มีงานรองรับ ไม่มีงาน ไม่มีเงิน ไม่มีกิน  
นี่เราอดทนจนถึงที่สุดแล้ว เรากลัวว่ามันจะสุดจนสุขภาพจิตใจและร่างกายเราไม่ไหว

วันนี้ที่เรามาแชร์เรื่องราว  เราแค่อยากระบายความอึดอัดในใจเรา และเผื่อเราจะได้ข้อเสนอแนะหรือคำแนะนำดีๆ

ขอบคุณคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่