ถ่ายทอดสด คงรับสัญญาณไม่ได้นะครับ เพราะสัญญาณ วิ่งไปไม่ทันรถไฟ
ถึงแม้สัญญาณเร็วเท่าแสง แต่รถไฟก็เร็วเท่าแสงเหมือนกัน
ฉะนั้น ระยะห่างระหว่างสัญญาณจะเท่าเดิม ที่ความเร็วเท่าแสงเหมือนกัน แต่ไม่ทันกัน

เปรียบเทียบเป็น นาย ก ขับรถฝ่าด่านตำรวจ แล้วตำรวจก็ออกรถตามทันที
ด้วยความเร็วเท่ากับรถ นาย ก ถึงยังไงก็ตามจับนาย ก ไม่ได้ครับ เพราะรถนาย ก ก็ยังนำอยู่ตลอด

หรือถ้าคิดอีกกรณี ที่รถไฟเริ่มวิ่งจากหยุดนิ่ง ซึ่งสัญญาณถ่ายทอดสดก็จะรับภาพได้อยู่
แต่พอรถไฟวิ่งความเร็วเท่าแสงปุ๊ป สัญญาณจะเพี้ยนหายไปทันที เพราะ
สมมติสัญญาณภาพถ่ายทอดสดมี Bandwidth 10 Mbps
นั่นหมายความว่า ที่เครื่องรับต้องได้รับ ข้อมูลต่อเนื่อง 10 ล้านบิต ใน 1 วินาที
จึงจะสามารถแปลงภาพและเสียงออกมาสมบูรณ์ได้
แต่พอรถไฟวิ่งความเร็วเท่าแสง สัญญาณก็ความเร็วเท่าแสง
รถไฟกับสัญญาณ ก็จะวิ่งไปด้วยกันแทน โดยตามติดกันไป จึงแปลงข้อมูลไม่ได้ครับ

เปรียบเหมือนกับว่า นักเรียนในห้อง 50 คน ออกวิ่งเรียงแถวด้วยความเร็ว 20 km/hr
ออกตามกันมาทุกๆ 5 วินาที เพื่อไปตีหัวนาย ข ซึ่งกำลังจะเริ่มออกวิ่ง
และความเร็วเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ พอแต่ละคนตีหัวนาย ข เสร็จ ก็ให้ออกจากแถวไป
ในระหว่างนี้ นักเรียนก็จะสามารถวิ่งไปตีหัวนาย ข ได้เรื่อยๆ แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่นาย ข วิ่งความเร็ว 20 km/hr
ก็จะไม่มีใครสามารถวิ่งมาตีหัวนาย ข ได้อีกเลย กลายเป็น นักเรียนวิ่งตามนาย ข เป็นแถว ด้วยความเร็วคงที่แทน

นาย ข จึงไม่ได้โดนตี อีกเลย