สวัสดีค่ะ คิดอยู่นานว่าจะตั้งกระทู้นี่ขึ้นมาดีมั้ย เรื่องอาจจะยาวหน่อย แต่จะพยายามกระชับที่สุดนะคะ ขอเข้าเรื่องเลยแล้วกัน เรากับสามีอยู่ด้วยกันมาจะเข้าปีที่ 12 ละค่ะ ดูแลเขาและครอบครัวเขาอย่างดีมาตลอดไม่เคยขาดตกบกพร่อง ที่ผ่านมาก็เหมือนคู่ปกติทั่วไป อาจจะมีปัญหาบ้างแต่ก็ไม่เคยถึงขั้นเลิกกัน จนเมื่อต้นปีที่ผ่านมา มีเด็กผู้หญิงคนนึง ที่สามีเรียกว่า "น้องที่ทำงาน" ผู้หญิงคนนี้ย้ายมาเพื่อประจำสาขาที่เปิดใหม่ในห้างสีเขียว ซึ่งจริงๆอยู่คนละสาขากันกับสามีเรา พอจะเล่าเป็นช๊อตๆได้ตามนี้ค่ะ
ตอนที่นาง(ขอเรียกผู้หญิงคนนี้ว่านางนะคะ) มาอยู่แรกๆ สามีเราขอออกไปเที่ยวกลางคืนบ่อยมาก ซึ่งเราก็ไม่เคยว่าอะไร เพราะปกติสามีเป็นคนชอบออกสังคมอยู่แล้ว เราก็โอเคให้ไปตลอด (ทุกครั้งเราจะเป็นคนไปรับ) และเราก็ไม่เคยรู้เลยว่านางไปด้วยเกือบทุกครั้งจน...
ครั้งนึงเราเคยไปรับสามีตอนไปเที่ยว(ครั้งนี้ไปกันหลายคน) ก็ไปเห็นภาพที่นางคนนี้ นั่งติดสามีเราไม่พอ มีการซบไหล่เล่นกันหยอกล้อมุ้งมิ้ง ด้วยสันชาตญานของความเป็นเมีย ใจเย็นและกลับไปคุยที่บ้าน แต่สามีเราเป็นคนปากแข็งค่ะ ไม่มีทางยอมรับเด็ดขาด บอกว่าไม่มีอะไรอย่างเดียว ด้วยความที่ไม่อยากมีปัญหา เราก็โอเคค่ะ แต่หลังจากนั้นก็เริ่มมีไลน์แปลกๆเข้ามา คือเป็นนางคนนี้ค่าาาา เราอ่านดูก็รู้ว่าหยอด (คือเจอมาเยอะแล้ว) สามีรู้ค่ะ ว่าเราเช็คไลน์เขาบ่อยๆ คำโต้ตอบของสามีเลยดูจะวางตัวนิดนึง แต่นางนี่ อ่อยสุดๆ เราไม่ถามสามีค่ะ เพราะรู้ว่าไม่ได้คำตอบแน่ๆ ทีนี้เริ่มปฏิบัติการสืบค่ะ
เลยพอรู้มาว่า นางมาทำงานที่นี้ตัวคนเดียวพักอยู่อพาร์ตเม้นท์ (ซึ่งเป็นโรงแรมในตัว) นางชอบเที่ยว คือเที่ยวทุกคืน ก็จะมีเพื่อนคือพวกที่เที่ยวๆด้วยกัน เวลาเมานางก็ชอบเล่าค่ะ ให้เพื่อนๆที่ไปเที่ยวกลางคืนด้วยกันนี่ละค่ะ เราเลยรู้ว่ามันต้องมีซัมติงกะสามีเราแน่ๆตามนี้ค่ะ
มีครั้งนึงสามีเราเลิกงานแต่ไม่มารับเราตามเวลา โทรหาก็ไม่ติดปิดเครื่อง เราก็ตามหาเพราะเริ่มจะดึกละชักสงสัย ไปเจอรถจอดอยู่ แถวอพาร์ทเม้นท์นางคือไม่ได้ใกล้มาก แต่ก็อยู่ในระยะที่เดินไปได้ เราโทรๆๆๆ จนสามีเราเดินกลับมาพร้อมก๋วยเตี๋ยวถุงนึง ทำหน้าตาดี๊ด๊าแล้วถามว่า ตัวเองมาทำไรตรงนี้เนี่ย กะลังจะไปรับเลย ดูมัน (เราติดต่อมันไม่ได้ชั่วโมงกว่าค่ะ) ช๊อตนี้ขอข้ามนะคะ เพราะจริงๆมันแถเรายาวกว่านี้
หลังจากนั้นสักสองอาทิตย์ เราก็ไปนั่งคุยเล่นกับน้องๆที่รู้จัก ซึ่งน้องๆกลุ่มนี้ก็รู้จักกับนาง ในฐานะที่ชอบเที่ยวด้วยกันแต่ไม่สนิทค่ะ เราสนิทกว่าแต่นางไม่รู้ (จริงๆเรากำลังสืบค่ะ) เราแกล้งถามว่า น้องคนนี้เป็นยังไงอะไรงี้ คือแกล้งๆถามไปแต่ไม่คิดว่าจะได้เรื่องสำคัญยาวมาเป็นขบวน
นางไปเล่าให้คนอื่นฟัง (ตอนเมา) ว่านางชอบผู้ชายอยู่คนนึง แต่ผู้ชายคนนั้นมีเมียแล้ว แต่ผู้ชายก็ยังมาหาตลอดแต่จะไม่มาที่หอ คือไปจอดรถไว้นางไปรับ เยกันเสดก็ไปส่ง (คือลงทุนขนาดนั้น) ที่รู้มาคือ มาหาทุกเช้า(น่าจะหลังจากส่งเราทำงาน) เรารู้ค่ะ เพราะสังเกตจากพฤติกรรมสามี มันมีคนอื่นแน่ๆ แต่ช๊อตเด็ดคือ นางเล่าให้กลุ่มนั้นฟังว่า เคยไปส่งผู้ชายละเจอเมียเขาอยู่ที่รถ เลยต้องไปส่งที่ร้านก๋วยเตี๋ยวใกล้ๆ อึ้งเลยค่าาาา คือมันตูนี่หว่า เริ่มชัดเจนละ
ขอแทรกนะคะ ช่วงนี้สามีเราติดเฟสบุ๊คหนักคือดึกดื่นไม่ยอมเข้านอนค่ะ ตี1ตี2 ยังคุยกับใครไม่รู้ เราเลยแอบเข้าหน้าจอ แต่หลังจากเกิดเรื่องแล้วนะคะ รู้ว่าสามีเราสร้างเฟสมาใหม่เพื่อคุยกับนางคนนั้น ที่รู้เพราะอีเมลล์เป็นของสามีค่ะ (จริงๆนางไม่ค่อยเก่งเรื่องโซเชียลเท่าไรเลยไม่เนียน) บางโพสต์เลยเป็นสาธารณะ มีหยอดคำหวาน คิดถึงเป็นห่วงสารพัด มีหรอคะคนอย่างเมียจะไม่รู้
ต่อมา ก็เริ่มมีข่าวหนาหูมาก เพราะนางเที่ยวไปบอกใครต่อใครว่าต้องแย่งผู้ชายคนนี้มาให้ได้ แม่เจ้าอกอิแป้นจะแตก ไม่เคยเห็นผู้หญิงคนไหนหน้าด้านขนาดนี้มาก่อน สุดทนค่ะ ไปถามเลยตรงๆ จริงๆมีหลายเหตุการณ์ที่รู้ว่านางอยากประกาศตัวเต็มที่แล้ว พอถามไปก็เหมือนเดิมกับที่เคยถามสามี คำตอบคือไม่ได้คิดอะไรเลย แค่พี่น้อง แค่เพื่อนร่วมงาน สารพัดจะแถค่ะคุณผู้ชม ทุกเหตุการณ์ที่เจอ ที่ฟังมา นางโกหกและไม่ยอมรับความจริงเลยสักเรื่อง แถมท้ายด้วยการบอกเราว่า นางมีแฟนแล้ว และไม่คิดจะเอาสามีเราด้วย ข่าาาาา เชื่อมาก แต่ก็ทำไรมากไม่ได้ เพราะหลักฐานไม่แน่น (นี่ขนาดมีพยานมาพูดต่อหน้า นางยังไม่รับเลย แหลไม่มีชิ้นดี) เราก็โอเค จะพยายามไม่ทำอะไร ดูแลสามีเช่นเคย โดยตกลงว่าขอให้มันจบ ไม่ว่ามันจะมีหรือไม่มีเหตุการณ์อะไรที่ผ่านมา เราจะ"พยายาม"ไม่คิดอะไรอีก
แต่...มันยังไม่จบง่ายๆนี่สิคะ เมื่อผู้หญิงยังมีความพยายามอย่างไม่หยุดหย่อน ทั้งโทร ทั้งแชทคุยกันทุกคืน(แอบไปหากันเวลามีงานที่ต่างจังหวัด อันนี้คนในที่ทำงานนางเป็นคนเล่าเอง ทุกคนรู้ค่ะ พยายามบอกให้นางหยุดแต่นางไม่หยุด) แต่เราจับไม่ได้คาหนังคาเขาเลยทำอะไรไม่ได้ ล่าสุดนางโทรมากลางดึกค่ะ ครั้งนี้เรารับสาย นางไม่พูดและตัดสายไป โทรกลับไปก็ไม่รับ เราแน่ใจว่าใช่นางแน่ๆ เลยเก็บเบอร์ไว้ก่อน ไม่กี่วันต่อมา สามีเราจะไปธุระต่างจังหวัดเกี่ยวกับที่ทำงาน เราคิดในใจนางต้องตามไปอีกตามเคย แอบสืบจากที่ทำงานนาง นางลาค่ะ เราก็ไม่รอช้าถามสามีว่าไปกะใครบ้าง สามีก็บลาๆๆ ส่วนเราขอไปด้วย คำตอบคือไม่ได้ไม่ดี วนลูปค่ะ รู้เลยมันนัดกันแน่ ไม่รอช้า โทรหาแม่นางเลยค่ะ เล่าทุกอย่าง แล้วก็เอาเบอร์ที่นางเคยใช้โทรมาถามแม่นางว่าเป็นเบอร์ใคร แม่นางคุยดีนะคะ บอกใช่ เป็นเบอร์ของญาต พร้อมกับรับไม่ได้กับพฤติกรรมลูกสาว เพราะเป็นเด็กดีมาตลอด (ข่าาา ในสายตาคุณแม่ก็ดีอยู่หรอกค่ะ จริงๆอยุ่ข้างนอกเละเทะจนไม่เหลือแล้ว) แม่นางบอก จะคุยกับลูกสาวเอง และยืนยันว่าไม่มีทางยอมให้ลูกสาวมายุ่งกับสามีเราอีก (ก็ได้แค่รับฟัง นางไม่ทำตามหรอกคร้า) ที่เราโทรแค่อยากให้แม่นางรู้พฤติกรรมชั่วๆของนางบ้าง ไม่ได้คาดหวังว่าแม่นางจะทำอะไรได้หรอกค่ะ
พอวางสายจากแม่นางได้สักพัก นางไม่รอช้า พยายามโทรหาเราอย่างยิ่งยวด เพื่อไรคะ ในเมื่อเราคุยแล้วนางไม่หยุด เราไม่รับสายค่ะ ตอนนั้นมีความคิดว่า ต้องไปย่ำที่ทำงานของนาง ให้นางรู้สึกบ้างว่าที่ทำอยู่เนี่ย มันเลวว
สรุปแล้ว เราได้ไปเคลียร์ที่สาขาที่นางทำงานอยู่นะคะ โดยมีผู้ใหญ่ในที่ทำงาน พร้อมกับเราและแม่สามี (อันนี้แม่สามีอยากไปเอง เพราะทนไม่ไหวเหมือนกัน) แล้วเป็นไปตามคาดค่ะ คราวนี้นางเงียบค่ะ เพราะเรามีพยานบุคคล (ที่เห็นว่านางแอบไปหากันตอนมีงานที่ต่างจังหวัด) หลายเหตุการณ์ที่นางยังเถียง แต่ก็โดนตอกด้วยหลักฐานกลับไปทุกครั้ง เลยเถียงไม่ออก พูดแค่ว่า คิดกับสามีเราแค่พี่น้อง (พี่น้องแต่มีอะไรกัน เพลียค่ะ) ตอนหลังมาสามีเราตามมาค่ะ แต่ไม่พูดอะไรเลย เราก็โอเคไม่เป็นไร ผู้ใหญ่ของที่สาขาเป็นผู้ไกล่เกลี่ย โดยสรุปว่าขอให้เรื่องนี้จบ ให้นางหยุดและเลิกติดต่อกับสามีเราโดยเด็ดขาด นางรับปาก จะเลิกยุ่งเลิกติดต่อ ไม่ว่าจะสถานะไหนค่ะ ตอนนั้นบอกตรงๆ ยิ่งทำให้เราเกลียด เพราะนางไม่ได้มีสีหน้าสลดเลยแม้แต่น้อย ส่วนเราปล่อยผ่านค่ะ คิดว่าคงจะพอแล้ว ใจก็อยากให้มันจบสักที แต่ ... ไม่จบค่ะ สามีไม่พอใจเราอย่างรุนแรง ที่เรื่องมันต้องถึงที่ทำงานแบบนี้ (เรารู้ค่ะว่าเขาอาย แต่นาทีนั้นไม่คิดหรอกค่ะ เราเองก็ทนไม่ไหว เจ็บสุดๆเหมือนกัน) ถึงวันที่สามีต้องไปต่างจังหวัด มีคนมาบอกค่ะ ว่านางลาตรงกับเวลาที่สามีเราไปพอดีเหมือนกัน เราไปส่งสามีที่สนามบิน ช่วงนั้นอึมครึมมากค่ะ เราก็เฉยๆไปก่อน คิดว่าเดี๋ยวต้องดีขึ้นมาบ้าง แต่ไม่เลยค่ะ เราพยายามไม่โทรไม่ถาม พยายามทำเป็นปกติทุกอย่าง แต่ก็รู้มาอีกว่าสามีไม่ได้นอนโรงแรมเดียวกับคนที่ทำงานอื่นๆที่ไปด้วยกัน สามีหายไปอีกแล้วค่ะ ในใจเราสับสนมาก คือทั้งคู่ไม่จบง่ายแน่ๆ เราพยายามไม่คิดอะไร รอให้เขากลับมาค่อยว่ากัน แต่ระหว่างนั้นได้คุยโทรศัพท์กันบ้างค่ะ สามีพูดออกมาว่า กลับมาจะให้ไปหย่ากัน (ด้วยคำพูดหยาบคาย เราไม่คิดว่าเขาจะพูดกับเราแบบนี้เลย) เราได้แต่ทำใจค่ะ รอเขามาค่อยคุยกัน ...
พอเขากลับมา เราพยายามนิ่งค่ะ ทำหน้าที่ของเราไปคิดว่านิ่งไว้ดีที่สุด เด๋วทุกอย่างจะดี กลับไม่ใช่แบบนั้นค่ะ เราคิดว่าถ้าเขาอยากไปจากเรา หรืออยากมีผู้หญิงคนนั้นเพิ่มเข้ามาในชีวิตอีกคน เราถอยดีกว่าค่ะ สิ้นคำพูดของเขากับการทิ้งประโยคเจ็บไว้ เรายอมรับค่ะตอนนั้นเสียใจมาก ไม่อยากทำร้ายจิตใจตัวเองอีก เลยออกมาจากตรงนั้นค่ะ ได้แต่ทำใจ ระหว่างที่ออกมามีแต่ข่าวของเขากับผู้หญิงคนนั้น คือยังติดต่อยังไปมาหากันตลอด ส่วนตัวเขานิสัยก็เปลี่ยนไปมากค่ะ จากคำบอกเล่าของพ่อแม่เขา คือไม่กลับบ้าน ออกเที่ยวอย่างหนักทุกคืน และมีคนเจอเขาไปกับผู้หญิงคนนั้นตลอดค่ะ เหตุการณ์ล่าสุดคือหายออกจากบ้านไปไม่มีใครติดต่อได้ คือเขาไม่เคยเป็นแบบนี้ค่ะ จนพ่อกับแม่เป็นห่วงมากกลัวจะเกิดเรื่องไม่ดีกับเขา เพื่อนๆก็ติดต่อไม่ได้เลย สุดท้ายพ่อกับแม่เขาขอร้องให้เราช่วยตามหา เราก็พยายามติดต่อเพื่อนๆของเขาค่ะ ทุกคนเป็นห่วงเพราะเขาเปลี่ยนไปมากจริงๆ (ขอนอกเรื่องนิดนึงนะคะ แม่เขาไปดูดวงมาบอกว่าเขาโดนของ ไปมาหลายทีบอกเหมือนกันหมดเลย แรกๆเราก็ไม่อยากจะเชื่อ แต่ตอนนี้เริ่มไม่แน่ใจแล้ว สับสนหนักเลย) พอเราตามก็เลยรู้ว่าเขาไปต่างจังหวัด เรามีหลักฐานทุกอย่างค่ะ ทั้งภาพและกล้องวงจรปิด เราเลยพยายามติดต่อเขาให้ได้และบอกว่าเราไม่โอเคแล้วกับสถานการณ์ตอนนี้ เราขอหย่าค่ะ แต่เขาก็ไม่ยอมพยายามบ่ายเบี่ยง สุดท้ายเราก็ยังค้างคาค่ะ ไม่รู้จะทำยังไงต่อ ส่วนน้องผู้หญิงคนนั้นก็ยังลอยหน้าค่ะ จริงๆนอกเหนือจากสามีเรา นางก็ยังมีคนอื่นอีกหลายคน ผู้ชายที่นางไปมีอะไรด้วยมีทั้งมีครอบครัวแล้วและไม่มี บางครอบครัวถึงขั้นเลิกกันไม่ต่างจากครอบครัวเราที่มันพังไปแล้วค่ะ ซึ่งระหว่างที่แอบคบกับสามีเราก็ยังมีสามีคนอื่น แฟนคนอื่น ที่นางไปยุ่งกับเขาทั้งที่รู้ว่าเขามีเจ้าของ ที่รู้ๆมานางเป็นแบบนี้มานานแล้วค่ะ ขออนุญาตใช้คำว่า"มั่ว" เพื่อนๆนางก็รู้คนในมหาลัยเดียวกับนางคนรอบตัวนางก็รู้ถึงความเละเทะ จนตอนนี้เราขยะแขยงสามีเราไปเลย ส่วนเรากับสามีตอนนี้ทำอะไรไม่ได้นอกจากขอหย่า เขาก็ไม่ยอมหย่า แล้วก็ไม่ยอมรับเรื่องผู้หญิงคนนั้น (ตอนนี้เราแยกกันอยู่แล้วค่ะ) ทั้งที่เรามีหลักฐานหมดทุกอย่าง จะฟ้องหย่าดีมั้ยหรือรอให้เขามาหย่าเอง เราสับสนค่ะไม่รู้จะไปทางไหนต่อดี .........
*ส่วนที่ตั้งคำถามว่าองค์กรปล่อยให้คนแบบนี้ทำงานอยู่ได้หรอ คือกลัวว่าจะไปทำครอบครัวใครเขาพังอีก ที่โดนมามันมากกว่านี้แต่เล่าได้ไม่หมดค่ะ
**ใครอยากเม้นท์อะไรได้เลยนะคะ ทั้งด้านบวกด้านลบ ตอนนี้เราเลยจุดแย่ที่สุดของความรู้สึกมาแล้ว ตอนนี้จิตใจดึขึ้นมากแล้วค่ะ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ
ธนาคารสีชมพู คุณปล่อยให้คนแบบนี้ทำงานอยู่ในองค์กรของคุณได้ยังไงคะ???
ตอนที่นาง(ขอเรียกผู้หญิงคนนี้ว่านางนะคะ) มาอยู่แรกๆ สามีเราขอออกไปเที่ยวกลางคืนบ่อยมาก ซึ่งเราก็ไม่เคยว่าอะไร เพราะปกติสามีเป็นคนชอบออกสังคมอยู่แล้ว เราก็โอเคให้ไปตลอด (ทุกครั้งเราจะเป็นคนไปรับ) และเราก็ไม่เคยรู้เลยว่านางไปด้วยเกือบทุกครั้งจน...
ครั้งนึงเราเคยไปรับสามีตอนไปเที่ยว(ครั้งนี้ไปกันหลายคน) ก็ไปเห็นภาพที่นางคนนี้ นั่งติดสามีเราไม่พอ มีการซบไหล่เล่นกันหยอกล้อมุ้งมิ้ง ด้วยสันชาตญานของความเป็นเมีย ใจเย็นและกลับไปคุยที่บ้าน แต่สามีเราเป็นคนปากแข็งค่ะ ไม่มีทางยอมรับเด็ดขาด บอกว่าไม่มีอะไรอย่างเดียว ด้วยความที่ไม่อยากมีปัญหา เราก็โอเคค่ะ แต่หลังจากนั้นก็เริ่มมีไลน์แปลกๆเข้ามา คือเป็นนางคนนี้ค่าาาา เราอ่านดูก็รู้ว่าหยอด (คือเจอมาเยอะแล้ว) สามีรู้ค่ะ ว่าเราเช็คไลน์เขาบ่อยๆ คำโต้ตอบของสามีเลยดูจะวางตัวนิดนึง แต่นางนี่ อ่อยสุดๆ เราไม่ถามสามีค่ะ เพราะรู้ว่าไม่ได้คำตอบแน่ๆ ทีนี้เริ่มปฏิบัติการสืบค่ะ
เลยพอรู้มาว่า นางมาทำงานที่นี้ตัวคนเดียวพักอยู่อพาร์ตเม้นท์ (ซึ่งเป็นโรงแรมในตัว) นางชอบเที่ยว คือเที่ยวทุกคืน ก็จะมีเพื่อนคือพวกที่เที่ยวๆด้วยกัน เวลาเมานางก็ชอบเล่าค่ะ ให้เพื่อนๆที่ไปเที่ยวกลางคืนด้วยกันนี่ละค่ะ เราเลยรู้ว่ามันต้องมีซัมติงกะสามีเราแน่ๆตามนี้ค่ะ
มีครั้งนึงสามีเราเลิกงานแต่ไม่มารับเราตามเวลา โทรหาก็ไม่ติดปิดเครื่อง เราก็ตามหาเพราะเริ่มจะดึกละชักสงสัย ไปเจอรถจอดอยู่ แถวอพาร์ทเม้นท์นางคือไม่ได้ใกล้มาก แต่ก็อยู่ในระยะที่เดินไปได้ เราโทรๆๆๆ จนสามีเราเดินกลับมาพร้อมก๋วยเตี๋ยวถุงนึง ทำหน้าตาดี๊ด๊าแล้วถามว่า ตัวเองมาทำไรตรงนี้เนี่ย กะลังจะไปรับเลย ดูมัน (เราติดต่อมันไม่ได้ชั่วโมงกว่าค่ะ) ช๊อตนี้ขอข้ามนะคะ เพราะจริงๆมันแถเรายาวกว่านี้
หลังจากนั้นสักสองอาทิตย์ เราก็ไปนั่งคุยเล่นกับน้องๆที่รู้จัก ซึ่งน้องๆกลุ่มนี้ก็รู้จักกับนาง ในฐานะที่ชอบเที่ยวด้วยกันแต่ไม่สนิทค่ะ เราสนิทกว่าแต่นางไม่รู้ (จริงๆเรากำลังสืบค่ะ) เราแกล้งถามว่า น้องคนนี้เป็นยังไงอะไรงี้ คือแกล้งๆถามไปแต่ไม่คิดว่าจะได้เรื่องสำคัญยาวมาเป็นขบวน
นางไปเล่าให้คนอื่นฟัง (ตอนเมา) ว่านางชอบผู้ชายอยู่คนนึง แต่ผู้ชายคนนั้นมีเมียแล้ว แต่ผู้ชายก็ยังมาหาตลอดแต่จะไม่มาที่หอ คือไปจอดรถไว้นางไปรับ เยกันเสดก็ไปส่ง (คือลงทุนขนาดนั้น) ที่รู้มาคือ มาหาทุกเช้า(น่าจะหลังจากส่งเราทำงาน) เรารู้ค่ะ เพราะสังเกตจากพฤติกรรมสามี มันมีคนอื่นแน่ๆ แต่ช๊อตเด็ดคือ นางเล่าให้กลุ่มนั้นฟังว่า เคยไปส่งผู้ชายละเจอเมียเขาอยู่ที่รถ เลยต้องไปส่งที่ร้านก๋วยเตี๋ยวใกล้ๆ อึ้งเลยค่าาาา คือมันตูนี่หว่า เริ่มชัดเจนละ
ขอแทรกนะคะ ช่วงนี้สามีเราติดเฟสบุ๊คหนักคือดึกดื่นไม่ยอมเข้านอนค่ะ ตี1ตี2 ยังคุยกับใครไม่รู้ เราเลยแอบเข้าหน้าจอ แต่หลังจากเกิดเรื่องแล้วนะคะ รู้ว่าสามีเราสร้างเฟสมาใหม่เพื่อคุยกับนางคนนั้น ที่รู้เพราะอีเมลล์เป็นของสามีค่ะ (จริงๆนางไม่ค่อยเก่งเรื่องโซเชียลเท่าไรเลยไม่เนียน) บางโพสต์เลยเป็นสาธารณะ มีหยอดคำหวาน คิดถึงเป็นห่วงสารพัด มีหรอคะคนอย่างเมียจะไม่รู้
ต่อมา ก็เริ่มมีข่าวหนาหูมาก เพราะนางเที่ยวไปบอกใครต่อใครว่าต้องแย่งผู้ชายคนนี้มาให้ได้ แม่เจ้าอกอิแป้นจะแตก ไม่เคยเห็นผู้หญิงคนไหนหน้าด้านขนาดนี้มาก่อน สุดทนค่ะ ไปถามเลยตรงๆ จริงๆมีหลายเหตุการณ์ที่รู้ว่านางอยากประกาศตัวเต็มที่แล้ว พอถามไปก็เหมือนเดิมกับที่เคยถามสามี คำตอบคือไม่ได้คิดอะไรเลย แค่พี่น้อง แค่เพื่อนร่วมงาน สารพัดจะแถค่ะคุณผู้ชม ทุกเหตุการณ์ที่เจอ ที่ฟังมา นางโกหกและไม่ยอมรับความจริงเลยสักเรื่อง แถมท้ายด้วยการบอกเราว่า นางมีแฟนแล้ว และไม่คิดจะเอาสามีเราด้วย ข่าาาาา เชื่อมาก แต่ก็ทำไรมากไม่ได้ เพราะหลักฐานไม่แน่น (นี่ขนาดมีพยานมาพูดต่อหน้า นางยังไม่รับเลย แหลไม่มีชิ้นดี) เราก็โอเค จะพยายามไม่ทำอะไร ดูแลสามีเช่นเคย โดยตกลงว่าขอให้มันจบ ไม่ว่ามันจะมีหรือไม่มีเหตุการณ์อะไรที่ผ่านมา เราจะ"พยายาม"ไม่คิดอะไรอีก
แต่...มันยังไม่จบง่ายๆนี่สิคะ เมื่อผู้หญิงยังมีความพยายามอย่างไม่หยุดหย่อน ทั้งโทร ทั้งแชทคุยกันทุกคืน(แอบไปหากันเวลามีงานที่ต่างจังหวัด อันนี้คนในที่ทำงานนางเป็นคนเล่าเอง ทุกคนรู้ค่ะ พยายามบอกให้นางหยุดแต่นางไม่หยุด) แต่เราจับไม่ได้คาหนังคาเขาเลยทำอะไรไม่ได้ ล่าสุดนางโทรมากลางดึกค่ะ ครั้งนี้เรารับสาย นางไม่พูดและตัดสายไป โทรกลับไปก็ไม่รับ เราแน่ใจว่าใช่นางแน่ๆ เลยเก็บเบอร์ไว้ก่อน ไม่กี่วันต่อมา สามีเราจะไปธุระต่างจังหวัดเกี่ยวกับที่ทำงาน เราคิดในใจนางต้องตามไปอีกตามเคย แอบสืบจากที่ทำงานนาง นางลาค่ะ เราก็ไม่รอช้าถามสามีว่าไปกะใครบ้าง สามีก็บลาๆๆ ส่วนเราขอไปด้วย คำตอบคือไม่ได้ไม่ดี วนลูปค่ะ รู้เลยมันนัดกันแน่ ไม่รอช้า โทรหาแม่นางเลยค่ะ เล่าทุกอย่าง แล้วก็เอาเบอร์ที่นางเคยใช้โทรมาถามแม่นางว่าเป็นเบอร์ใคร แม่นางคุยดีนะคะ บอกใช่ เป็นเบอร์ของญาต พร้อมกับรับไม่ได้กับพฤติกรรมลูกสาว เพราะเป็นเด็กดีมาตลอด (ข่าาา ในสายตาคุณแม่ก็ดีอยู่หรอกค่ะ จริงๆอยุ่ข้างนอกเละเทะจนไม่เหลือแล้ว) แม่นางบอก จะคุยกับลูกสาวเอง และยืนยันว่าไม่มีทางยอมให้ลูกสาวมายุ่งกับสามีเราอีก (ก็ได้แค่รับฟัง นางไม่ทำตามหรอกคร้า) ที่เราโทรแค่อยากให้แม่นางรู้พฤติกรรมชั่วๆของนางบ้าง ไม่ได้คาดหวังว่าแม่นางจะทำอะไรได้หรอกค่ะ
พอวางสายจากแม่นางได้สักพัก นางไม่รอช้า พยายามโทรหาเราอย่างยิ่งยวด เพื่อไรคะ ในเมื่อเราคุยแล้วนางไม่หยุด เราไม่รับสายค่ะ ตอนนั้นมีความคิดว่า ต้องไปย่ำที่ทำงานของนาง ให้นางรู้สึกบ้างว่าที่ทำอยู่เนี่ย มันเลวว
สรุปแล้ว เราได้ไปเคลียร์ที่สาขาที่นางทำงานอยู่นะคะ โดยมีผู้ใหญ่ในที่ทำงาน พร้อมกับเราและแม่สามี (อันนี้แม่สามีอยากไปเอง เพราะทนไม่ไหวเหมือนกัน) แล้วเป็นไปตามคาดค่ะ คราวนี้นางเงียบค่ะ เพราะเรามีพยานบุคคล (ที่เห็นว่านางแอบไปหากันตอนมีงานที่ต่างจังหวัด) หลายเหตุการณ์ที่นางยังเถียง แต่ก็โดนตอกด้วยหลักฐานกลับไปทุกครั้ง เลยเถียงไม่ออก พูดแค่ว่า คิดกับสามีเราแค่พี่น้อง (พี่น้องแต่มีอะไรกัน เพลียค่ะ) ตอนหลังมาสามีเราตามมาค่ะ แต่ไม่พูดอะไรเลย เราก็โอเคไม่เป็นไร ผู้ใหญ่ของที่สาขาเป็นผู้ไกล่เกลี่ย โดยสรุปว่าขอให้เรื่องนี้จบ ให้นางหยุดและเลิกติดต่อกับสามีเราโดยเด็ดขาด นางรับปาก จะเลิกยุ่งเลิกติดต่อ ไม่ว่าจะสถานะไหนค่ะ ตอนนั้นบอกตรงๆ ยิ่งทำให้เราเกลียด เพราะนางไม่ได้มีสีหน้าสลดเลยแม้แต่น้อย ส่วนเราปล่อยผ่านค่ะ คิดว่าคงจะพอแล้ว ใจก็อยากให้มันจบสักที แต่ ... ไม่จบค่ะ สามีไม่พอใจเราอย่างรุนแรง ที่เรื่องมันต้องถึงที่ทำงานแบบนี้ (เรารู้ค่ะว่าเขาอาย แต่นาทีนั้นไม่คิดหรอกค่ะ เราเองก็ทนไม่ไหว เจ็บสุดๆเหมือนกัน) ถึงวันที่สามีต้องไปต่างจังหวัด มีคนมาบอกค่ะ ว่านางลาตรงกับเวลาที่สามีเราไปพอดีเหมือนกัน เราไปส่งสามีที่สนามบิน ช่วงนั้นอึมครึมมากค่ะ เราก็เฉยๆไปก่อน คิดว่าเดี๋ยวต้องดีขึ้นมาบ้าง แต่ไม่เลยค่ะ เราพยายามไม่โทรไม่ถาม พยายามทำเป็นปกติทุกอย่าง แต่ก็รู้มาอีกว่าสามีไม่ได้นอนโรงแรมเดียวกับคนที่ทำงานอื่นๆที่ไปด้วยกัน สามีหายไปอีกแล้วค่ะ ในใจเราสับสนมาก คือทั้งคู่ไม่จบง่ายแน่ๆ เราพยายามไม่คิดอะไร รอให้เขากลับมาค่อยว่ากัน แต่ระหว่างนั้นได้คุยโทรศัพท์กันบ้างค่ะ สามีพูดออกมาว่า กลับมาจะให้ไปหย่ากัน (ด้วยคำพูดหยาบคาย เราไม่คิดว่าเขาจะพูดกับเราแบบนี้เลย) เราได้แต่ทำใจค่ะ รอเขามาค่อยคุยกัน ...
พอเขากลับมา เราพยายามนิ่งค่ะ ทำหน้าที่ของเราไปคิดว่านิ่งไว้ดีที่สุด เด๋วทุกอย่างจะดี กลับไม่ใช่แบบนั้นค่ะ เราคิดว่าถ้าเขาอยากไปจากเรา หรืออยากมีผู้หญิงคนนั้นเพิ่มเข้ามาในชีวิตอีกคน เราถอยดีกว่าค่ะ สิ้นคำพูดของเขากับการทิ้งประโยคเจ็บไว้ เรายอมรับค่ะตอนนั้นเสียใจมาก ไม่อยากทำร้ายจิตใจตัวเองอีก เลยออกมาจากตรงนั้นค่ะ ได้แต่ทำใจ ระหว่างที่ออกมามีแต่ข่าวของเขากับผู้หญิงคนนั้น คือยังติดต่อยังไปมาหากันตลอด ส่วนตัวเขานิสัยก็เปลี่ยนไปมากค่ะ จากคำบอกเล่าของพ่อแม่เขา คือไม่กลับบ้าน ออกเที่ยวอย่างหนักทุกคืน และมีคนเจอเขาไปกับผู้หญิงคนนั้นตลอดค่ะ เหตุการณ์ล่าสุดคือหายออกจากบ้านไปไม่มีใครติดต่อได้ คือเขาไม่เคยเป็นแบบนี้ค่ะ จนพ่อกับแม่เป็นห่วงมากกลัวจะเกิดเรื่องไม่ดีกับเขา เพื่อนๆก็ติดต่อไม่ได้เลย สุดท้ายพ่อกับแม่เขาขอร้องให้เราช่วยตามหา เราก็พยายามติดต่อเพื่อนๆของเขาค่ะ ทุกคนเป็นห่วงเพราะเขาเปลี่ยนไปมากจริงๆ (ขอนอกเรื่องนิดนึงนะคะ แม่เขาไปดูดวงมาบอกว่าเขาโดนของ ไปมาหลายทีบอกเหมือนกันหมดเลย แรกๆเราก็ไม่อยากจะเชื่อ แต่ตอนนี้เริ่มไม่แน่ใจแล้ว สับสนหนักเลย) พอเราตามก็เลยรู้ว่าเขาไปต่างจังหวัด เรามีหลักฐานทุกอย่างค่ะ ทั้งภาพและกล้องวงจรปิด เราเลยพยายามติดต่อเขาให้ได้และบอกว่าเราไม่โอเคแล้วกับสถานการณ์ตอนนี้ เราขอหย่าค่ะ แต่เขาก็ไม่ยอมพยายามบ่ายเบี่ยง สุดท้ายเราก็ยังค้างคาค่ะ ไม่รู้จะทำยังไงต่อ ส่วนน้องผู้หญิงคนนั้นก็ยังลอยหน้าค่ะ จริงๆนอกเหนือจากสามีเรา นางก็ยังมีคนอื่นอีกหลายคน ผู้ชายที่นางไปมีอะไรด้วยมีทั้งมีครอบครัวแล้วและไม่มี บางครอบครัวถึงขั้นเลิกกันไม่ต่างจากครอบครัวเราที่มันพังไปแล้วค่ะ ซึ่งระหว่างที่แอบคบกับสามีเราก็ยังมีสามีคนอื่น แฟนคนอื่น ที่นางไปยุ่งกับเขาทั้งที่รู้ว่าเขามีเจ้าของ ที่รู้ๆมานางเป็นแบบนี้มานานแล้วค่ะ ขออนุญาตใช้คำว่า"มั่ว" เพื่อนๆนางก็รู้คนในมหาลัยเดียวกับนางคนรอบตัวนางก็รู้ถึงความเละเทะ จนตอนนี้เราขยะแขยงสามีเราไปเลย ส่วนเรากับสามีตอนนี้ทำอะไรไม่ได้นอกจากขอหย่า เขาก็ไม่ยอมหย่า แล้วก็ไม่ยอมรับเรื่องผู้หญิงคนนั้น (ตอนนี้เราแยกกันอยู่แล้วค่ะ) ทั้งที่เรามีหลักฐานหมดทุกอย่าง จะฟ้องหย่าดีมั้ยหรือรอให้เขามาหย่าเอง เราสับสนค่ะไม่รู้จะไปทางไหนต่อดี .........
*ส่วนที่ตั้งคำถามว่าองค์กรปล่อยให้คนแบบนี้ทำงานอยู่ได้หรอ คือกลัวว่าจะไปทำครอบครัวใครเขาพังอีก ที่โดนมามันมากกว่านี้แต่เล่าได้ไม่หมดค่ะ
**ใครอยากเม้นท์อะไรได้เลยนะคะ ทั้งด้านบวกด้านลบ ตอนนี้เราเลยจุดแย่ที่สุดของความรู้สึกมาแล้ว ตอนนี้จิตใจดึขึ้นมากแล้วค่ะ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ