จากกระทู้
http://ppantip.com/topic/35337813
โดยผมได้ลอง Back Test โดยเริ่มลงทุนด้วยเงินจำนวน 300,000 บาท แบ่งลงทุนในหุ้น 30 อันดับแรกในสัดส่วนเท่าๆกัน
โดยใช้ข้อมูลสิ้นปี 2009 แล้วซื้อหุ้นทั้ง 30ตัว ในราคาเปิดตอนต้นปี 2010 และขายที่ปิดตอนสิ้นปี 2010 แล้วใช้ข้อมูลสิ้นปี 2010
เพื่อกรองหาหุ้นอีก 30ตัว แล้วเข้าซื้อหุ้นที่ราคาเปิดตอนต้นปี 2011 และขายที่ปิดตอนสิ้นปี 2011 แล้วทำซ้ำอย่างนี้ตั้งแต่ปี 2010-2015
ผลปรากฏว่าจากเงินลงทุนเริ่มต้น 3แสนบาท ใช้เวลา 6ปี เพิ่มมูลค่าเป็น 1,341,879 บาท หรือคิดเป็นผลตอบแทนทบต้นที่ 28% และมากกว่าผลตอบแทนทบต้นของ SET50TRI ที่ได้ 12%ต่อปี
แต่ในทุกปีก็จะมีขาดทุนหนักๆบ้าง แต่ด้วยการกระจายความเสี่ยง พอร์ตโดยรวมเลยไม่เสียหายหนักมาก
ตามตารางข้างล่างนี้ครับ
สำหรับการทดสอบนี้ผมทดสอบได้แค่ 2009-2015 เท่านั้น เพราะเนื่องจากข้อมูลงบการเงินที่ผมมี มีถึงแค่ปี 2006 จึงเริ่มต้นทดสอบตั้งแต่ปี 2010เป็นต้นไป และช่วงเวลาที่ทดสอบอยู่ในช่วงของกระทิงครั้งใหญ่และไม่เคยผ่านช่วงตลาดตกต่ำที่สุด เพราะฉะนั้นโปรดใช้วิจารณญาณส่วนตัววิเคราะห์เองด้วยนะครับ
ขอบคุณครับ
Back Test Smart Select
โดยผมได้ลอง Back Test โดยเริ่มลงทุนด้วยเงินจำนวน 300,000 บาท แบ่งลงทุนในหุ้น 30 อันดับแรกในสัดส่วนเท่าๆกัน
โดยใช้ข้อมูลสิ้นปี 2009 แล้วซื้อหุ้นทั้ง 30ตัว ในราคาเปิดตอนต้นปี 2010 และขายที่ปิดตอนสิ้นปี 2010 แล้วใช้ข้อมูลสิ้นปี 2010
เพื่อกรองหาหุ้นอีก 30ตัว แล้วเข้าซื้อหุ้นที่ราคาเปิดตอนต้นปี 2011 และขายที่ปิดตอนสิ้นปี 2011 แล้วทำซ้ำอย่างนี้ตั้งแต่ปี 2010-2015
ผลปรากฏว่าจากเงินลงทุนเริ่มต้น 3แสนบาท ใช้เวลา 6ปี เพิ่มมูลค่าเป็น 1,341,879 บาท หรือคิดเป็นผลตอบแทนทบต้นที่ 28% และมากกว่าผลตอบแทนทบต้นของ SET50TRI ที่ได้ 12%ต่อปี
แต่ในทุกปีก็จะมีขาดทุนหนักๆบ้าง แต่ด้วยการกระจายความเสี่ยง พอร์ตโดยรวมเลยไม่เสียหายหนักมาก
ตามตารางข้างล่างนี้ครับ
สำหรับการทดสอบนี้ผมทดสอบได้แค่ 2009-2015 เท่านั้น เพราะเนื่องจากข้อมูลงบการเงินที่ผมมี มีถึงแค่ปี 2006 จึงเริ่มต้นทดสอบตั้งแต่ปี 2010เป็นต้นไป และช่วงเวลาที่ทดสอบอยู่ในช่วงของกระทิงครั้งใหญ่และไม่เคยผ่านช่วงตลาดตกต่ำที่สุด เพราะฉะนั้นโปรดใช้วิจารณญาณส่วนตัววิเคราะห์เองด้วยนะครับ
ขอบคุณครับ