หลังจากที่เขียนบทความเรื่อง Wingtips Vortices condensation and Condensation Over wings ไปแล้ว พี่น้องท่านไหนยังไม่เคยอ่าน รบกวนอ่านได้ที่กระทู้ด้านล่างนี้เลยครับผม
http://ppantip.com/topic/35306577
เมื่อพิจารณาหาหัวข้อจากวัตถุดิบภาพประกอบที่ผมพอมีอยู่ ให้สามารถรีดสาระเล็กๆน้อยๆให้พี่ๆน้องๆได้อ่านประดับความรู้ก็คงต้องเป็นเรื่องนี้แหละครับ (ใครไม่ชอบน้ำจะอ่านการตั้งค่ากล้องอย่างเดียวเลื่อนไป Comment 2 ได้เลยนะครับเพราะจะบ่น ๆ พึมพัมๆเยอะโชว์พรรณนาโวหารซักหน่อย อิอิ)
วันนี้ผมจะมาตอบคำถามที่หลาย ๆ คนมักพิมพ์ถามช่างภาพหลายๆ ท่านใต้ภาพทางช้างเผือกต่าง ๆ ด้วยคำถามที่คล้าย ๆ กัน รวบรวมจากคอมเม้นที่ผ่าน ๆ มาครับ เช่น
Q : “ทางช้างเผือก มันเห็นด้วยตาเปล่าอย่างนี้เลยเหรอ สวยงามอย่างนี้เลยเหรอ”
Q : “ต้องใช้แฟลชมั้ยเวลาถ่าย”
Q: “เดี๋ยวคืนนี้จะออกไปถ่ายบ้างเลยได้มั้ย”
Q : “มองเห็นโกโบริมั้ย”
Q: “ไม่ทราบว่ากล้องยี่ห้อนี้ รุ่นนี้ บลา บลา บลา ถ่ายภาพทางช้างเผือกได้มั้ย”
คำถามก็คร่าว ๆ ประมาณนี้นะครับ เดี๋ยวจะมาตอบท้ายๆ กระทู้นะครับ
เอ้าเรามาเริ่มกันตามหัวข้อเลยนะครับ ... “ควาญมือใหม่ แบกกล้องไป หัดคล้องช้าง” วันนี้ก็จะมาเล่าประสบการณ์วิธีการตั้งค่ากล้องคร่าว ๆ ตามที่ผมใช้ การเตรียมอุปกรณ์ไปถ่ายภาพทางช้างเผือกกันนะครับ...
เรื่องมันเริ่มมาจาก ปี 2014 กระแสการถ่ายภาพทางช้างเผือกเริ่มมีชื่อเสียง พี่ ๆ ช่างภาพหลาย ๆ ท่านเริ่มลงภาพทางช้างเผือก มันเป็นอะไรที่แปลกและสวยงามมาก ท้าทาย ช่างภาพตัวน้อย ๆ สำหรับผมอย่างมาก ตอนนั้นมีเวป Thaidphoto โดยอาจารย์แดงและพี่เจ้าของเวปมา สอนวิธีการถ่ายทางช้างเผือก Live ทางหน้าเวป... ผมนี่ถึงกับเตรียมกระดาษปากกา จดเลคเชอร์การสอนในวันนั้นกันเลยทีเดียวครับ หลังจากเรียนจาก Thaidphoto เสร็จ ก็เริ่มถามจากรุ่นพี่ท่านนั้น ท่านนี้ Follow เพจถ่ายดาว ดาราศาสตร์ทั้งหลาย เก็บข้อมูลมาเรื่อย ๆ ครับ
จนหลังแต่งงานต้นปี 2015 ... ผมจึงคลานเข่าเข้าไปก้มลงกราบภรรยาป้ายแดง ... (มันพีคตรงนี้แหละฮะ)
ว่าจะขอซื้อกล้องได้มั้ยตัวเอง ผ่อน 0 เดือน 10% .... ภรรยาตบหัวผัวะ พร้อมเสียงในฟิล์มว่า “จะจ่ายเพิ่ม 10% ทำไม” ... ก็เลยกราบเรียนภรรยาใหม่ว่า อ้อ 0% 10 เดือนครับ .... ภรรยาบอกว่า โอเคแล้วไป...เห็นกับที่ตั้งใจซักผ้านะเนี่ย
หลังจากนั้นไม่นานจึงได้ถอยกล้อง DSLR + Lens 24-120 F/4 มาประจำการในการถ่ายทางช้างเผือกครับ หลังจากนั้นก็เริ่มหัดใช้กล้อง... ทำความรู้จักกล้องและตั้งค่าตามที่ Thaidphoto สอนมา เริ่มจากออกไปถ่ายดาวหมุนก่อนครับ...
หลังจากถ่ายดาวหมุนได้แล้ว ขั้นต่อไปก็ออกไปถ่ายทางช้างเผือกครับ คราวนี้นี่สิ... เอิ่ม อันไหนล่ะ ช้าง อันไหนล่ะดาว...มันดูยังไงถ่ายยังไง ถึงมีทฤษฎีอยู่กับตัวแล้วแต่ก็ยังถ่ายไม่ได้ซักทีครับ
ครั้งแรกที่ผมออกไปถ่ายทางช้างเผือกคือที่กระบี่ครับ ตอนนั้นกลางวันปั่นจักรยานหาฉากหน้าเช็คแล้วว่ากลางป่ายางใกล้อ่าวนางซึ่งค่อนข้างจะเปลี่ยวมากเนี่ย... ถ้าตอนกลางคืนหันหน้าไปทางทิศตะวันตกแล้ว มีเขาด้านข้าง ช้างจะต้องมาปรากฏ อยู่ในเบื้องหน้าอย่างแน่นอน...ตามทฤษฎี ที่เราได้ร่ำเรียนมาจากสำนักเขาเหลียงซาน.... คืนนั้นนอนตั้งแต่หัวค่ำครับตีสองตั้งนาฬิกาปลุกขับรถออกมามืด ๆ คนเดียวเปิดแอร์เย็นฉ่ำเมื่อมาถึงจุดที่มาร์คไว้ปัญหาก็เกิดครับ
- มันไม่มืดพอเพราะมีไฟถนน เพราะตรงนั้นเป็นสามแยก เนื่องจากไม่ได้มา Survey ตอนกลางคืนก่อน
- ต้องขยับเข้าป่ายางไป... หยิบกล้องมาวางบนขาตั้ง ---> เลนส์เป็นฝ้า เพราะกระเป๋ากล้องวางไว้ในห้องแอร์ ในรถก็เปิดแอร์อีก... ถ่ายออกมานี่เบลอตั้งแต่ยังไม่เริ่ม
- Focus ไม่ได้ เพราะเลนส์เป็นฝ้าบวกกับ เงาตะคุ่ม ๆ ของภูเขาเบื้องหน้านั้น
- กล้องโฟกัสไม่ได้
เมื่อปัญหาต่าง ๆ ประดังกันเข้ามาตอนตีสอง ณ ถนนกลางป่ายางในพื้นที่ของใครก็ไม่รู้ แหงนหน้ามองฟ้าเห็นดาวก้มหน้าลงพื้นไม่มีใคร มีแต่เงาต้นยาง...ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงรถเครื่อง (มอเตอร์ไซด์นั่นเองครับ ศัพท์ใต้เรียก รถเครื่อง) มาแต่ไกล .... ชิบอันตรธานแล้ว คิดในใจมันจะมาปล้นเรารึปล่าว กระวีกระวาดรีบพับขาตั้งกล้อง โอยย พับไม่ได้ เอ้าถอดกล้องไม่ออก เอ้าเสียงรถใกล้เข้ามาแล้ว เอ้า ชิบอันตรธานครั้งที่สอง พับขากล้องใส่รถแล้วปิดประตูไม่ได้ เอ้า ๆ ซวยแล้ว เสียงรถใกล้เข้ามา ... เฮ้ย ๆ ซวย เฮ้ย เข้าไปดิวะ เฮ้ย ไฟรถมาแล้ว ... โยนกล้อง โยนขาเข้ารถแม่มเลย .... ปิดประตู ล็อครถ แล้ว พี่รถเครื่อง พร้อมชายชุดเรกเก้ ก็ขี่ผ่านรถไป ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ... คือเค้าไม่ได้มาปล้นไง เค้าแค่กลับบ้านตอนตีสาม... ก็กลัวจินตนาการไปซะขนาดนี้
ตอนนั้นก็เลยคิดว่า...ไม่เอาดีกว่า ได้ภาพทางช้างเผือกมา แต่โดนดักปล้นกล้อง ไม่คุ้มกันเลย...
โปรเจคเก็บภาพทางช้างเผือกโดนเบรคไปพักใหญ่...จนกระโถน เฮ้ยยยย!!! จนกระทะ เฮ้ยยยย ... จนกระทั่ง เฮ้ยยยย!!! ...... ถูกแล้ว
เดือน พฤศจิกายน 2015 ได้ไปถ่ายภาพต้นตาลที่เพชรบุรี ถ่ายต้นตาลเสร็จ กะว่าจะขับรถกลับบ้าน พี่รินและพี่แขกเจ้าบ้านเมืองเพชรก็ชวน ไปถ่ายทางช้างเผือกกันต่อไอ้ผมมันคนใจง่ายซะด้วยก็เลยขับรถตามพี่รินไปครับ... พี่รินขับรถข้ามเขาของเพชรบุรีลัดไปเลาะมา มืดแล้วมืดอีกจนผมนึกว่าจะไปโผล่พม่ารึปล่าวผ่านไปประมาณ 45 นาที เราก็มาถึงเขื่อนแม่ประจันต์ ...
(ครั้งแรกที่ถ่ายทางช้างเผือกที่เขื่อนแม่ประจันต์ได้ครับ)
ภาพที่เห็นดาวตอนนั้น มันละลานตามากเลยครับ มืดมาก มืดจนยืดมือออกไปแล้วแล้วมองแขนตัวเองไม่เห็นด้วยความตื่นเต้นก็เริ่มถ่ายทันทีครับ เปิด Application Star walk 2 ที่โหลดมาเพื่อดูตำแหน่งทางช้างเผือกอย่างว่องไว....สุดท้าย แป่วววว!!!! ไม่มี Internet ครับ ดูไม่ได้... คราวนี้ควาญมือใหม่จะทำไง มองไปตรงไหนก็มีแต่ดาวละลานตาไปหมด ทางช้างเผือกอยู่ตรงไหนดูไม่ออกหรอกครับ เห็นดาวเป็นล้าน ๆ ดวงตรงไหนก็หันกล้องไป ผมเริ่มจาก auto focus ไปที่ไฟริมเขื่อน กะให้ระยะเป็น infinity ตามที่ร่ำเรียนมา (ซึ่งวิธีโฟกัสนี้เป็นวิธีที่ผิดนะครับ ไว้จะบอกวิธี Focus ที่ถูกต้องแม่นยำต่อไปครับ) หลังจากเปิด Speed shutter 30 วินาที ,ปรับรูรับแสงให้กว้างสุดที่ F/2.8 , ISO1600 , White balance 3700 เคลวิน เมื่อปรับตามนี้ปั๊บก็กด Remote ....
....
รอ....
...
รอ.... ไป 30 วินาที
ผ่างงงง.... ออกมาแล้วช้างเชือกแรกของผมขาดครึ่งตัว 555
ก็เพราะว่าดูไม่เป็นครับไม่รู้ว่า กึ่งกลางช้างอยู่ตรงไหน ไม่เป็นไรครับ ขาดตรงไหนหลุดตรงไหนก็หันกล้องไป ... สุดท้ายคืนนั้นก็ฟินอย่างบอกไม่ถูกจับช้างได้ครั้งแรกถึงจะเป็นช้างไม่คมขุ่นๆมัวๆก็เถอะ
(ครั้งแรกที่ถ่ายทางช้างเผือกที่เขื่อนแม่ประจันต์ได้ครับ)
ขอบคุณพี่น้องทุกท่านที่ทนอ่านน้ำมาถึงตรงนี้ครับ.... เนื้อก้อนแรกมาแล้วครับ 555
*** ข้อควรปฏิบัติข้อแรกสำหรับการไปถ่ายทางช้างเผือกคือ ไปกับคนที่เคยไปถ่ายแล้ว โปรกว่า หรือหาเพื่อนไปด้วยครับ อันดับแรกเลยคือความปลอดภัยครับ อันที่ต่อมาคือเค้าก็จะช่วยชี้ทางสว่างให้เราได้ว่า มองตรงไหน ดาวดวงไหนคือใจกลาง ชี้กันหน้างาน Workshop นี่ดีสุดแล้วครับ อ่านข้อมูลในเนตสิบครั้งไม่เท่าออกไปครั้งเดียวครับ***
หลังจากที่คล้องช้างเชือกแรกได้แล้ว...ก็มีคราวต่อๆ ไป เริ่มรู้จักพี่ๆน้องๆ ที่ชอบถ่ายตามจังหวัดใกล้เคียงมากขึ้นครับ เวลาไปถ่ายช้างต่างถิ่นหาเจ้าถิ่นพาไปเถอะครับ เค้าจะรู้ทั้งมุมฉากหน้าช่วงเวลา มีไกด์ดีเราไม่ต้องเสียเวลาที่อุตส่าห์เดินทางมาด้วย
ต่อมาครับเรามาดูอุปกรณ์พื้นฐานกันเลยดีกว่า ผมขอพูดถึงอุปกรณ์ของผมเองเท่านั้นดีกว่านะครับ เพราะ สมัยนี้อุปกรณ์มีหลากหลายมากครับ พี่ที่ไปด้วยกันเอามือถือ SS ก็ถ่ายติด แต่คุณภาพไม่ดี รีวิวมือถือสัญชาติจีนที่ใส่เลนส์เยอรมันคู่ก็ถ่ายได้ครับ ในรีวิวสวยเลยทีเดียว แต่ผมไม่เคยลองเอง ถ้ากราบขอภรรยาซื้อได้มีโอกาสจะลองให้ดูนะครับ
อุปกรณ์ของผมก็มี
- กล้อง DSLR แบบ Fullframe
- Lens ที่ใช้บ่อย ๆ จะเป็น 16-28mm F/2.8 แต่เลนส์ 85mm F/1.8 ก็ใช้ถ่ายใจกลางทางช้างเผือกได้ดีเช่นกันครับ
- ขาตั้งกล้อง
- ฝาปิด eye cap หรือช่องมองภาพ : อันนี้หลายคนอาจจะสงสัยว่าจำเป็นด้วยหรือ ส่วนตัวผมคิดว่าถ้ามีนี่ดีงามเลยครับ เพราะว่าเวลาถ่ายทางช้างเผือกต้องเปิด Speed shutter 20-30 วินาทีขึ้นไป แสงที่ลอดเข้ามาจากช่องมองภาพนี่จะทำให้ภาพสว่างขึ้นครึ่งถึง 1 สต๊อปเลยครับ
- ไฟฉายแบบคาดศีรษะ : ไว้สำหรับส่องที่กล้องเวลาตั้งค่า เพราะเวลาออกไปถ่ายจะมองไม่เห็นปุ่มบนกล้องเลย
***ระมัดระวังเวลาเปิดไฟด้วยนะครับกรณีไปถ่ายกับคนอื่น เดี๋ยวเพื่อนถ่ายอยู่เราดันไปเปิดไฟ...เพื่อนจะด่าอาเหล่าม่าได้นะครับ
- ไฟฉายกำลังสูง : ไว้สำหรับฉายเปิด ฉากหน้า หรือ ฉายเพื่อ Focus ฉากหน้านะครับ
- App Star walk 2 ใน Iphone : ไว้สำหรับดูทิศทาง ช่วงเวลา และลักษณะการวางตัวของทางช้างเผือกครับ
- App Moon seeker : เอาไว้เช็คเวลาพระจันทร์ขึ้น พระจันทร์ตกให้สอดคล้องกับ App star walk ครับ เพราะถ้าพระจันทร์ยังไม่ตก ถ่ายทางช้างเผือกออกมาก็จะเห็นไม่ชัดครับ
- App Tides planner : เอาไว้ดูน้ำขึ้น น้ำลง กรณีต้องไปถ่าย Foreground ที่อยู่ริมทะเลครับ
- ชุดควรใส่แขนยาวขายาวสีดำ รองเท้าผ้าใบนะครับ เพราะตอนออกไปถ่ายเราจะมองไม่เห็นกิ่งไม้ อาจจะโดนเกี่ยวเอาได้ ชุดสีดำเวลาไปถ่ายกับคนอื่นจะได้ไม่ไปรบกวนกล้องคนอื่นครับ หมวกไหมพรหมติดไว้ก็ดีนะครับช่วงหัวค่ำน้ำค้างแรงครับ
เมื่ออุปกรณ์ครบแล้วเราก็ออกไปล่าช้างกัน...
ต่อด้านล่างครับ
V
V
v
v
v
ควาญมือใหม่ แบกกล้องไป หัดคล้องช้าง
http://ppantip.com/topic/35306577
เมื่อพิจารณาหาหัวข้อจากวัตถุดิบภาพประกอบที่ผมพอมีอยู่ ให้สามารถรีดสาระเล็กๆน้อยๆให้พี่ๆน้องๆได้อ่านประดับความรู้ก็คงต้องเป็นเรื่องนี้แหละครับ (ใครไม่ชอบน้ำจะอ่านการตั้งค่ากล้องอย่างเดียวเลื่อนไป Comment 2 ได้เลยนะครับเพราะจะบ่น ๆ พึมพัมๆเยอะโชว์พรรณนาโวหารซักหน่อย อิอิ)
วันนี้ผมจะมาตอบคำถามที่หลาย ๆ คนมักพิมพ์ถามช่างภาพหลายๆ ท่านใต้ภาพทางช้างเผือกต่าง ๆ ด้วยคำถามที่คล้าย ๆ กัน รวบรวมจากคอมเม้นที่ผ่าน ๆ มาครับ เช่น
Q : “ทางช้างเผือก มันเห็นด้วยตาเปล่าอย่างนี้เลยเหรอ สวยงามอย่างนี้เลยเหรอ”
Q : “ต้องใช้แฟลชมั้ยเวลาถ่าย”
Q: “เดี๋ยวคืนนี้จะออกไปถ่ายบ้างเลยได้มั้ย”
Q : “มองเห็นโกโบริมั้ย”
Q: “ไม่ทราบว่ากล้องยี่ห้อนี้ รุ่นนี้ บลา บลา บลา ถ่ายภาพทางช้างเผือกได้มั้ย”
คำถามก็คร่าว ๆ ประมาณนี้นะครับ เดี๋ยวจะมาตอบท้ายๆ กระทู้นะครับ
เอ้าเรามาเริ่มกันตามหัวข้อเลยนะครับ ... “ควาญมือใหม่ แบกกล้องไป หัดคล้องช้าง” วันนี้ก็จะมาเล่าประสบการณ์วิธีการตั้งค่ากล้องคร่าว ๆ ตามที่ผมใช้ การเตรียมอุปกรณ์ไปถ่ายภาพทางช้างเผือกกันนะครับ... เรื่องมันเริ่มมาจาก ปี 2014 กระแสการถ่ายภาพทางช้างเผือกเริ่มมีชื่อเสียง พี่ ๆ ช่างภาพหลาย ๆ ท่านเริ่มลงภาพทางช้างเผือก มันเป็นอะไรที่แปลกและสวยงามมาก ท้าทาย ช่างภาพตัวน้อย ๆ สำหรับผมอย่างมาก ตอนนั้นมีเวป Thaidphoto โดยอาจารย์แดงและพี่เจ้าของเวปมา สอนวิธีการถ่ายทางช้างเผือก Live ทางหน้าเวป... ผมนี่ถึงกับเตรียมกระดาษปากกา จดเลคเชอร์การสอนในวันนั้นกันเลยทีเดียวครับ หลังจากเรียนจาก Thaidphoto เสร็จ ก็เริ่มถามจากรุ่นพี่ท่านนั้น ท่านนี้ Follow เพจถ่ายดาว ดาราศาสตร์ทั้งหลาย เก็บข้อมูลมาเรื่อย ๆ ครับ
จนหลังแต่งงานต้นปี 2015 ... ผมจึงคลานเข่าเข้าไปก้มลงกราบภรรยาป้ายแดง ... (มันพีคตรงนี้แหละฮะ)
ว่าจะขอซื้อกล้องได้มั้ยตัวเอง ผ่อน 0 เดือน 10% .... ภรรยาตบหัวผัวะ พร้อมเสียงในฟิล์มว่า “จะจ่ายเพิ่ม 10% ทำไม” ... ก็เลยกราบเรียนภรรยาใหม่ว่า อ้อ 0% 10 เดือนครับ .... ภรรยาบอกว่า โอเคแล้วไป...เห็นกับที่ตั้งใจซักผ้านะเนี่ย หลังจากนั้นไม่นานจึงได้ถอยกล้อง DSLR + Lens 24-120 F/4 มาประจำการในการถ่ายทางช้างเผือกครับ หลังจากนั้นก็เริ่มหัดใช้กล้อง... ทำความรู้จักกล้องและตั้งค่าตามที่ Thaidphoto สอนมา เริ่มจากออกไปถ่ายดาวหมุนก่อนครับ...
หลังจากถ่ายดาวหมุนได้แล้ว ขั้นต่อไปก็ออกไปถ่ายทางช้างเผือกครับ คราวนี้นี่สิ... เอิ่ม อันไหนล่ะ ช้าง อันไหนล่ะดาว...มันดูยังไงถ่ายยังไง ถึงมีทฤษฎีอยู่กับตัวแล้วแต่ก็ยังถ่ายไม่ได้ซักทีครับ
ครั้งแรกที่ผมออกไปถ่ายทางช้างเผือกคือที่กระบี่ครับ ตอนนั้นกลางวันปั่นจักรยานหาฉากหน้าเช็คแล้วว่ากลางป่ายางใกล้อ่าวนางซึ่งค่อนข้างจะเปลี่ยวมากเนี่ย... ถ้าตอนกลางคืนหันหน้าไปทางทิศตะวันตกแล้ว มีเขาด้านข้าง ช้างจะต้องมาปรากฏ อยู่ในเบื้องหน้าอย่างแน่นอน...ตามทฤษฎี ที่เราได้ร่ำเรียนมาจากสำนักเขาเหลียงซาน.... คืนนั้นนอนตั้งแต่หัวค่ำครับตีสองตั้งนาฬิกาปลุกขับรถออกมามืด ๆ คนเดียวเปิดแอร์เย็นฉ่ำเมื่อมาถึงจุดที่มาร์คไว้ปัญหาก็เกิดครับ
- มันไม่มืดพอเพราะมีไฟถนน เพราะตรงนั้นเป็นสามแยก เนื่องจากไม่ได้มา Survey ตอนกลางคืนก่อน
- ต้องขยับเข้าป่ายางไป... หยิบกล้องมาวางบนขาตั้ง ---> เลนส์เป็นฝ้า เพราะกระเป๋ากล้องวางไว้ในห้องแอร์ ในรถก็เปิดแอร์อีก... ถ่ายออกมานี่เบลอตั้งแต่ยังไม่เริ่ม - Focus ไม่ได้ เพราะเลนส์เป็นฝ้าบวกกับ เงาตะคุ่ม ๆ ของภูเขาเบื้องหน้านั้น
- กล้องโฟกัสไม่ได้
เมื่อปัญหาต่าง ๆ ประดังกันเข้ามาตอนตีสอง ณ ถนนกลางป่ายางในพื้นที่ของใครก็ไม่รู้ แหงนหน้ามองฟ้าเห็นดาวก้มหน้าลงพื้นไม่มีใคร มีแต่เงาต้นยาง...ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงรถเครื่อง (มอเตอร์ไซด์นั่นเองครับ ศัพท์ใต้เรียก รถเครื่อง) มาแต่ไกล .... ชิบอันตรธานแล้ว คิดในใจมันจะมาปล้นเรารึปล่าว กระวีกระวาดรีบพับขาตั้งกล้อง โอยย พับไม่ได้ เอ้าถอดกล้องไม่ออก เอ้าเสียงรถใกล้เข้ามาแล้ว เอ้า ชิบอันตรธานครั้งที่สอง พับขากล้องใส่รถแล้วปิดประตูไม่ได้ เอ้า ๆ ซวยแล้ว เสียงรถใกล้เข้ามา ... เฮ้ย ๆ ซวย เฮ้ย เข้าไปดิวะ เฮ้ย ไฟรถมาแล้ว ... โยนกล้อง โยนขาเข้ารถแม่มเลย .... ปิดประตู ล็อครถ แล้ว พี่รถเครื่อง พร้อมชายชุดเรกเก้ ก็ขี่ผ่านรถไป ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ... คือเค้าไม่ได้มาปล้นไง เค้าแค่กลับบ้านตอนตีสาม... ก็กลัวจินตนาการไปซะขนาดนี้ ตอนนั้นก็เลยคิดว่า...ไม่เอาดีกว่า ได้ภาพทางช้างเผือกมา แต่โดนดักปล้นกล้อง ไม่คุ้มกันเลย...
โปรเจคเก็บภาพทางช้างเผือกโดนเบรคไปพักใหญ่...จนกระโถน เฮ้ยยยย!!! จนกระทะ เฮ้ยยยย ... จนกระทั่ง เฮ้ยยยย!!! ...... ถูกแล้ว เดือน พฤศจิกายน 2015 ได้ไปถ่ายภาพต้นตาลที่เพชรบุรี ถ่ายต้นตาลเสร็จ กะว่าจะขับรถกลับบ้าน พี่รินและพี่แขกเจ้าบ้านเมืองเพชรก็ชวน ไปถ่ายทางช้างเผือกกันต่อไอ้ผมมันคนใจง่ายซะด้วยก็เลยขับรถตามพี่รินไปครับ... พี่รินขับรถข้ามเขาของเพชรบุรีลัดไปเลาะมา มืดแล้วมืดอีกจนผมนึกว่าจะไปโผล่พม่ารึปล่าวผ่านไปประมาณ 45 นาที เราก็มาถึงเขื่อนแม่ประจันต์ ...
(ครั้งแรกที่ถ่ายทางช้างเผือกที่เขื่อนแม่ประจันต์ได้ครับ)
ภาพที่เห็นดาวตอนนั้น มันละลานตามากเลยครับ มืดมาก มืดจนยืดมือออกไปแล้วแล้วมองแขนตัวเองไม่เห็นด้วยความตื่นเต้นก็เริ่มถ่ายทันทีครับ เปิด Application Star walk 2 ที่โหลดมาเพื่อดูตำแหน่งทางช้างเผือกอย่างว่องไว....สุดท้าย แป่วววว!!!! ไม่มี Internet ครับ ดูไม่ได้... คราวนี้ควาญมือใหม่จะทำไง มองไปตรงไหนก็มีแต่ดาวละลานตาไปหมด ทางช้างเผือกอยู่ตรงไหนดูไม่ออกหรอกครับ เห็นดาวเป็นล้าน ๆ ดวงตรงไหนก็หันกล้องไป ผมเริ่มจาก auto focus ไปที่ไฟริมเขื่อน กะให้ระยะเป็น infinity ตามที่ร่ำเรียนมา (ซึ่งวิธีโฟกัสนี้เป็นวิธีที่ผิดนะครับ ไว้จะบอกวิธี Focus ที่ถูกต้องแม่นยำต่อไปครับ) หลังจากเปิด Speed shutter 30 วินาที ,ปรับรูรับแสงให้กว้างสุดที่ F/2.8 , ISO1600 , White balance 3700 เคลวิน เมื่อปรับตามนี้ปั๊บก็กด Remote .... .... รอ.... ... รอ.... ไป 30 วินาที ผ่างงงง.... ออกมาแล้วช้างเชือกแรกของผมขาดครึ่งตัว 555 ก็เพราะว่าดูไม่เป็นครับไม่รู้ว่า กึ่งกลางช้างอยู่ตรงไหน ไม่เป็นไรครับ ขาดตรงไหนหลุดตรงไหนก็หันกล้องไป ... สุดท้ายคืนนั้นก็ฟินอย่างบอกไม่ถูกจับช้างได้ครั้งแรกถึงจะเป็นช้างไม่คมขุ่นๆมัวๆก็เถอะ
(ครั้งแรกที่ถ่ายทางช้างเผือกที่เขื่อนแม่ประจันต์ได้ครับ)
ขอบคุณพี่น้องทุกท่านที่ทนอ่านน้ำมาถึงตรงนี้ครับ.... เนื้อก้อนแรกมาแล้วครับ 555 *** ข้อควรปฏิบัติข้อแรกสำหรับการไปถ่ายทางช้างเผือกคือ ไปกับคนที่เคยไปถ่ายแล้ว โปรกว่า หรือหาเพื่อนไปด้วยครับ อันดับแรกเลยคือความปลอดภัยครับ อันที่ต่อมาคือเค้าก็จะช่วยชี้ทางสว่างให้เราได้ว่า มองตรงไหน ดาวดวงไหนคือใจกลาง ชี้กันหน้างาน Workshop นี่ดีสุดแล้วครับ อ่านข้อมูลในเนตสิบครั้งไม่เท่าออกไปครั้งเดียวครับ***
หลังจากที่คล้องช้างเชือกแรกได้แล้ว...ก็มีคราวต่อๆ ไป เริ่มรู้จักพี่ๆน้องๆ ที่ชอบถ่ายตามจังหวัดใกล้เคียงมากขึ้นครับ เวลาไปถ่ายช้างต่างถิ่นหาเจ้าถิ่นพาไปเถอะครับ เค้าจะรู้ทั้งมุมฉากหน้าช่วงเวลา มีไกด์ดีเราไม่ต้องเสียเวลาที่อุตส่าห์เดินทางมาด้วย
ต่อมาครับเรามาดูอุปกรณ์พื้นฐานกันเลยดีกว่า ผมขอพูดถึงอุปกรณ์ของผมเองเท่านั้นดีกว่านะครับ เพราะ สมัยนี้อุปกรณ์มีหลากหลายมากครับ พี่ที่ไปด้วยกันเอามือถือ SS ก็ถ่ายติด แต่คุณภาพไม่ดี รีวิวมือถือสัญชาติจีนที่ใส่เลนส์เยอรมันคู่ก็ถ่ายได้ครับ ในรีวิวสวยเลยทีเดียว แต่ผมไม่เคยลองเอง ถ้ากราบขอภรรยาซื้อได้มีโอกาสจะลองให้ดูนะครับ
อุปกรณ์ของผมก็มี
- กล้อง DSLR แบบ Fullframe
- Lens ที่ใช้บ่อย ๆ จะเป็น 16-28mm F/2.8 แต่เลนส์ 85mm F/1.8 ก็ใช้ถ่ายใจกลางทางช้างเผือกได้ดีเช่นกันครับ
- ขาตั้งกล้อง
- ฝาปิด eye cap หรือช่องมองภาพ : อันนี้หลายคนอาจจะสงสัยว่าจำเป็นด้วยหรือ ส่วนตัวผมคิดว่าถ้ามีนี่ดีงามเลยครับ เพราะว่าเวลาถ่ายทางช้างเผือกต้องเปิด Speed shutter 20-30 วินาทีขึ้นไป แสงที่ลอดเข้ามาจากช่องมองภาพนี่จะทำให้ภาพสว่างขึ้นครึ่งถึง 1 สต๊อปเลยครับ
- ไฟฉายแบบคาดศีรษะ : ไว้สำหรับส่องที่กล้องเวลาตั้งค่า เพราะเวลาออกไปถ่ายจะมองไม่เห็นปุ่มบนกล้องเลย ***ระมัดระวังเวลาเปิดไฟด้วยนะครับกรณีไปถ่ายกับคนอื่น เดี๋ยวเพื่อนถ่ายอยู่เราดันไปเปิดไฟ...เพื่อนจะด่าอาเหล่าม่าได้นะครับ
- ไฟฉายกำลังสูง : ไว้สำหรับฉายเปิด ฉากหน้า หรือ ฉายเพื่อ Focus ฉากหน้านะครับ
- App Star walk 2 ใน Iphone : ไว้สำหรับดูทิศทาง ช่วงเวลา และลักษณะการวางตัวของทางช้างเผือกครับ
- App Moon seeker : เอาไว้เช็คเวลาพระจันทร์ขึ้น พระจันทร์ตกให้สอดคล้องกับ App star walk ครับ เพราะถ้าพระจันทร์ยังไม่ตก ถ่ายทางช้างเผือกออกมาก็จะเห็นไม่ชัดครับ
- App Tides planner : เอาไว้ดูน้ำขึ้น น้ำลง กรณีต้องไปถ่าย Foreground ที่อยู่ริมทะเลครับ
- ชุดควรใส่แขนยาวขายาวสีดำ รองเท้าผ้าใบนะครับ เพราะตอนออกไปถ่ายเราจะมองไม่เห็นกิ่งไม้ อาจจะโดนเกี่ยวเอาได้ ชุดสีดำเวลาไปถ่ายกับคนอื่นจะได้ไม่ไปรบกวนกล้องคนอื่นครับ หมวกไหมพรหมติดไว้ก็ดีนะครับช่วงหัวค่ำน้ำค้างแรงครับ
เมื่ออุปกรณ์ครบแล้วเราก็ออกไปล่าช้างกัน...
ต่อด้านล่างครับ
V
V
v
v
v