วานผู้รู้ช่วยมาวิเคราะห์ทีครับ
ก่อนอื่นต้องขอชมอันโตนืโอ คอนเต้ โค้ชฝั่งทีมชาติอิตาลีว่าเขี้ยวจริง เจ๋งจริง ทั้งการเลือกผู้เล่นและการวางแทคติก สามารถต่อกรกับโค้ชยอดเยี่ยมของโลกอย่างโยกี้ เลิฟ ได้อย่างสนุก เรียกว่ากึ๋นของผจก.ทีมของทั้งคู่ คู่คี่สูสีกันมาก แม้ว่าเลิฟจะเฉือนเอาชนะไปด้วยประสบการณ์และความเขี้ยวที่มากกว่าในบอลทัวร์นาเม้น แต่ไม่แน่ถ้าคอนเต้ได้คุมทีมต่อถึงบอลโลก. อิตาลีจะเจ๋งพอเป็นทีมเขย่าบันลังแชมป์โลกได้เลยผมว่า เอาละ ในฐานะแฟนบอล ผมมองเกมเมื่อคืนอย่างนี้ึครับ และเนื่องจากเป็นแฟนบอลทีมชาติเยอรมันนีก็อาจจะพูดถึงเยอรมันเยอะกว่าอิตาลีหน่อยนะครับ
เริ่มเกมช่วงแรก อิตาลีดันผู้เล่นขึ้นสูงมาก กดดันถึงหน้าปากประตูเยอรมันนี บิ๊กจ๊ะบอกเลยว่าอิตาลีศึกษาเกมเยอรมันมามาก. รู้หมดว่าเยอรมันจะขึ้นเกมยังไง จะจ่ายให้ใคร เทียบความเป็นไปได้แต่ละคนเป็นเปอร์เซ็นๆ แล้วก็ได้ผล เยอรมันนีโดนบีบ และเสียเตะมุมติดๆกันในช่วงแรก มาฝั่งเยอรมันนีบ้าง โึ้ค้ชเลิฟวางผู้เล่นในแนวรับเป็นเซนเตอร์ถึง 3 คน แล้วถอดผู้เล่นริมเส้นฟอร์มโดดเด่นอย่างแดรกซ์เลอร์ออกไป บางคนถึงกับบอกว่าเยอรมันวิตกเกินเหตุ แต่เลิฟคงคิดว่าไม่ประมาทดีที่สุด ตัดมาเป็นจังหวะที่อิตาลีได้เปิดบอลในแดนตัวเองบ้าง นักเตะเยอรมันวิ่งพรึบมากดดันหน้าปากประตูทีมชาติอิตาลีบ้างเหมือนกัน จนบิ๊กจ๊ะบอกว่า เฮ้ย ดูสิครับท่านผู้ชม แทคติกเหมือนก้นเลย แค่เริ่มเกมมาก็สนุกแร่ะ แต่ผมมองว่าเยอรมันจะไม่ประกบสูงเหมือนอิตาลีนะ สังเกตว่าโกเมส(กิงหน้าเยอรมัน) จะปล่อยกองหลังตัวกลางของอิตาลีให้มีอิสระพอสมควร ตัวเองไม่ขึ้นบีบสูงมาก แต่แบคอิตาลีสองข้างนี้โดนประกบเลย
เล่นไปเล่นมาเยอรมันนีก็ครองบอลได้มากกว่าตามมาตรฐาน แสดงให้เห็นถึงการคุมเกมแดนกลางที่เหนือกว่า ซึ่งก็ไม่แปลก เยอรมันน่าจะเป็นเบอร์ 1 ของโลก ณ ปัจจุบันไปแล้วเฉพาะเรื่องนี้ แต่การทำเกมรุกเจาะเข้าไปนี้สิ ว่ากันเฉพาะคู่กองหน้า ผมมองว่าคู่หน้าของอิตาลี เปลเล่ กับ เอแดร์ ประสานงานกันได้ดีกว่าคู่ โกเมส มุลเลอร์ ของเยอรมัน การทำชิ่ง 1-2. การเข้าทำดูอันตรายกว่า แต่การมีเซนเตอร์ถึง 3 ตัวก็พอจะช่วยกันไว้ได้ เกมรุกอิตาลีเลยต้องมาอาศัยแถวสอง แล้วก็ทำได้ดี มีลุ้นระดับนึงด้วย ต่างกันกับเยอรมันผมดูแล้วแทบไม่มีจังหวะยิงแถวสองเลย แต่การครองเกมมากกว่า ทำให้พวกวิงแบคของเยอรมันมีโอกาสเติมมากกว่า แล้วส่วนมากจะไปขึ้นทางฝั่งขวาน้องโจชัว คิมมิค แต่หลายๆครั้งก็ไม่ผ่านคิเอลลินีซักที ที่พอจะมีประสิทธิภาพบ้างในเกมรุกของเยอรมัน คือการอาศัยความข็งแกร่งของโกเมส through บอลเข้าไป แล้วป้ายต่อมาให้มุลเลอร์ซัด ที่บอลลอยกำลังจะเข้าประตูแล้วฟรอเลนซี่กระโดดเยียดขาสกัดนั้นแหละ
มาว่ากันต่อเรื่องแทคติค จะเป็นแทคติคป่าวไม่รู้นะ โยนาส เฮคเตอร์ แบคซ้ายเยอรมัน นักเตะที่อาจไม่ได้ครองบอลทำเกมหวือหวาเหมือนอีกฝั่ง(ฝั่งขวา-น้องคิมมิค) แต่มีสกิลหายตัวแล้วมาโผล่ถูกที่ถูกเวลาน่าดูชม บางทีเห็นวิ่งมาเปิดบอลริมเส้น ป้อกๆแปกๆ ตัดมาแว่บ กลับมาช่วยเกมรับแล้วซะงั้น เป็นสไตล์แบบขยันวิ่ง แว่บไปแว่บมา คลาสอาจไม่สูงมากแต่มีประโยชน์กับทีม บอลครึ่งแรกนี่บิ๊กจ๊ะบอกเลย เยอรมันไม่ค่อยได้ขึ้นเกมทางซ้าย ไม่ค่อยบอลส่งให้เฺฮคเตอร์ อาจเป็นเพราะไม่ค่อยไว้ใจจะฝากบอลให้เฮคเตอร์ครับ ผมดูก็คิดเหมือนกันว่าเกมรุกฝั่งซ้ายมันก็ง่อยจริงๆ เลิฟจะดรอปแดรกซ์เลอร์ทำไมเนี่ย ขณะที่ฝั่งขวาโดนประกบติดมาก ไปไม่เป็น แต่เป็นไปได้รึเปล่าว่านี้คือแทคติกของเลิฟ ขณะที่ทุกคนคิดว่าเยอรมันเน้นเกมฝั่งขวา เพราะฝั่งซ้ายไม่เชื่อใจเฮคเตอร์ อาจทำให้อิตาลีขาดความระมัดระวังในจุดนี้ เพราะในวินาทีนั้นเอง โกเมสซึ่งเล่นชิงไหวชิงพริบกับเกมรับอิตาลีในแดนกลางมาตลอดทั้งเกมจะฉีกตัวเองออกไปยืนริมเส้นฝั่งซ้าย ในจังหวะที่โจนาส เฮคเตอร์ วิ่งแลบขึ้นไปนั้น ไม่มีใครคิด ไม่มีใครรู้เขามาจากไหน แต่ที่แน่ๆสิ่งที่เยอรมันพยายามทำมาตลอดทั้งเกม คือการเจาะริมเส้นแนวรับอิตาลีสัมฤทธิ์ผลแล้ว และเฮคเตอร์ก็ปาดบอลผ่านหน้าประตู เป็นเออซิลที่อยู่ตรงนั้น รวดเร็ว แม่นยำ เข้าจังหวะ เป๊ะ อย่างนี้เท่านั้นครับ ที่จะเจาะแนวรับอิตาลีได้ บิ๊กจ๊ะบอก
ผมนั่งดูแล้วคิดว่าเกมนี้มีประตูชี้ขาดไปแล้ว เยอรมันเหนือกว่าทั้งคุณภาพผู้เล่นและแทคติก ทั้งยังมองไม่ออกว่าอิตาลีจะกลับมาได้ยังไง แต่ฟุตบอลก็มีสเน่ห์ของมัน. อิตาลีมาได้จุดโทษ และยื้อไปจนต่อเวลา และดวลจุดโทษในที่สุด ผมขอจบความเห็นผมไว้เพียงเท่านี้ ไม่ได้วืเคราะห์ลึกซึ้งอะไรมาก เขียนไปตามประสา รออ่านความเห็นท่านอื่น ๆ ครับ
คู่เยอรมันนี - อิตาลี เมื่อคืน แทคติกใครเหนือกว่ากัน
ก่อนอื่นต้องขอชมอันโตนืโอ คอนเต้ โค้ชฝั่งทีมชาติอิตาลีว่าเขี้ยวจริง เจ๋งจริง ทั้งการเลือกผู้เล่นและการวางแทคติก สามารถต่อกรกับโค้ชยอดเยี่ยมของโลกอย่างโยกี้ เลิฟ ได้อย่างสนุก เรียกว่ากึ๋นของผจก.ทีมของทั้งคู่ คู่คี่สูสีกันมาก แม้ว่าเลิฟจะเฉือนเอาชนะไปด้วยประสบการณ์และความเขี้ยวที่มากกว่าในบอลทัวร์นาเม้น แต่ไม่แน่ถ้าคอนเต้ได้คุมทีมต่อถึงบอลโลก. อิตาลีจะเจ๋งพอเป็นทีมเขย่าบันลังแชมป์โลกได้เลยผมว่า เอาละ ในฐานะแฟนบอล ผมมองเกมเมื่อคืนอย่างนี้ึครับ และเนื่องจากเป็นแฟนบอลทีมชาติเยอรมันนีก็อาจจะพูดถึงเยอรมันเยอะกว่าอิตาลีหน่อยนะครับ
เริ่มเกมช่วงแรก อิตาลีดันผู้เล่นขึ้นสูงมาก กดดันถึงหน้าปากประตูเยอรมันนี บิ๊กจ๊ะบอกเลยว่าอิตาลีศึกษาเกมเยอรมันมามาก. รู้หมดว่าเยอรมันจะขึ้นเกมยังไง จะจ่ายให้ใคร เทียบความเป็นไปได้แต่ละคนเป็นเปอร์เซ็นๆ แล้วก็ได้ผล เยอรมันนีโดนบีบ และเสียเตะมุมติดๆกันในช่วงแรก มาฝั่งเยอรมันนีบ้าง โึ้ค้ชเลิฟวางผู้เล่นในแนวรับเป็นเซนเตอร์ถึง 3 คน แล้วถอดผู้เล่นริมเส้นฟอร์มโดดเด่นอย่างแดรกซ์เลอร์ออกไป บางคนถึงกับบอกว่าเยอรมันวิตกเกินเหตุ แต่เลิฟคงคิดว่าไม่ประมาทดีที่สุด ตัดมาเป็นจังหวะที่อิตาลีได้เปิดบอลในแดนตัวเองบ้าง นักเตะเยอรมันวิ่งพรึบมากดดันหน้าปากประตูทีมชาติอิตาลีบ้างเหมือนกัน จนบิ๊กจ๊ะบอกว่า เฮ้ย ดูสิครับท่านผู้ชม แทคติกเหมือนก้นเลย แค่เริ่มเกมมาก็สนุกแร่ะ แต่ผมมองว่าเยอรมันจะไม่ประกบสูงเหมือนอิตาลีนะ สังเกตว่าโกเมส(กิงหน้าเยอรมัน) จะปล่อยกองหลังตัวกลางของอิตาลีให้มีอิสระพอสมควร ตัวเองไม่ขึ้นบีบสูงมาก แต่แบคอิตาลีสองข้างนี้โดนประกบเลย
เล่นไปเล่นมาเยอรมันนีก็ครองบอลได้มากกว่าตามมาตรฐาน แสดงให้เห็นถึงการคุมเกมแดนกลางที่เหนือกว่า ซึ่งก็ไม่แปลก เยอรมันน่าจะเป็นเบอร์ 1 ของโลก ณ ปัจจุบันไปแล้วเฉพาะเรื่องนี้ แต่การทำเกมรุกเจาะเข้าไปนี้สิ ว่ากันเฉพาะคู่กองหน้า ผมมองว่าคู่หน้าของอิตาลี เปลเล่ กับ เอแดร์ ประสานงานกันได้ดีกว่าคู่ โกเมส มุลเลอร์ ของเยอรมัน การทำชิ่ง 1-2. การเข้าทำดูอันตรายกว่า แต่การมีเซนเตอร์ถึง 3 ตัวก็พอจะช่วยกันไว้ได้ เกมรุกอิตาลีเลยต้องมาอาศัยแถวสอง แล้วก็ทำได้ดี มีลุ้นระดับนึงด้วย ต่างกันกับเยอรมันผมดูแล้วแทบไม่มีจังหวะยิงแถวสองเลย แต่การครองเกมมากกว่า ทำให้พวกวิงแบคของเยอรมันมีโอกาสเติมมากกว่า แล้วส่วนมากจะไปขึ้นทางฝั่งขวาน้องโจชัว คิมมิค แต่หลายๆครั้งก็ไม่ผ่านคิเอลลินีซักที ที่พอจะมีประสิทธิภาพบ้างในเกมรุกของเยอรมัน คือการอาศัยความข็งแกร่งของโกเมส through บอลเข้าไป แล้วป้ายต่อมาให้มุลเลอร์ซัด ที่บอลลอยกำลังจะเข้าประตูแล้วฟรอเลนซี่กระโดดเยียดขาสกัดนั้นแหละ
มาว่ากันต่อเรื่องแทคติค จะเป็นแทคติคป่าวไม่รู้นะ โยนาส เฮคเตอร์ แบคซ้ายเยอรมัน นักเตะที่อาจไม่ได้ครองบอลทำเกมหวือหวาเหมือนอีกฝั่ง(ฝั่งขวา-น้องคิมมิค) แต่มีสกิลหายตัวแล้วมาโผล่ถูกที่ถูกเวลาน่าดูชม บางทีเห็นวิ่งมาเปิดบอลริมเส้น ป้อกๆแปกๆ ตัดมาแว่บ กลับมาช่วยเกมรับแล้วซะงั้น เป็นสไตล์แบบขยันวิ่ง แว่บไปแว่บมา คลาสอาจไม่สูงมากแต่มีประโยชน์กับทีม บอลครึ่งแรกนี่บิ๊กจ๊ะบอกเลย เยอรมันไม่ค่อยได้ขึ้นเกมทางซ้าย ไม่ค่อยบอลส่งให้เฺฮคเตอร์ อาจเป็นเพราะไม่ค่อยไว้ใจจะฝากบอลให้เฮคเตอร์ครับ ผมดูก็คิดเหมือนกันว่าเกมรุกฝั่งซ้ายมันก็ง่อยจริงๆ เลิฟจะดรอปแดรกซ์เลอร์ทำไมเนี่ย ขณะที่ฝั่งขวาโดนประกบติดมาก ไปไม่เป็น แต่เป็นไปได้รึเปล่าว่านี้คือแทคติกของเลิฟ ขณะที่ทุกคนคิดว่าเยอรมันเน้นเกมฝั่งขวา เพราะฝั่งซ้ายไม่เชื่อใจเฮคเตอร์ อาจทำให้อิตาลีขาดความระมัดระวังในจุดนี้ เพราะในวินาทีนั้นเอง โกเมสซึ่งเล่นชิงไหวชิงพริบกับเกมรับอิตาลีในแดนกลางมาตลอดทั้งเกมจะฉีกตัวเองออกไปยืนริมเส้นฝั่งซ้าย ในจังหวะที่โจนาส เฮคเตอร์ วิ่งแลบขึ้นไปนั้น ไม่มีใครคิด ไม่มีใครรู้เขามาจากไหน แต่ที่แน่ๆสิ่งที่เยอรมันพยายามทำมาตลอดทั้งเกม คือการเจาะริมเส้นแนวรับอิตาลีสัมฤทธิ์ผลแล้ว และเฮคเตอร์ก็ปาดบอลผ่านหน้าประตู เป็นเออซิลที่อยู่ตรงนั้น รวดเร็ว แม่นยำ เข้าจังหวะ เป๊ะ อย่างนี้เท่านั้นครับ ที่จะเจาะแนวรับอิตาลีได้ บิ๊กจ๊ะบอก
ผมนั่งดูแล้วคิดว่าเกมนี้มีประตูชี้ขาดไปแล้ว เยอรมันเหนือกว่าทั้งคุณภาพผู้เล่นและแทคติก ทั้งยังมองไม่ออกว่าอิตาลีจะกลับมาได้ยังไง แต่ฟุตบอลก็มีสเน่ห์ของมัน. อิตาลีมาได้จุดโทษ และยื้อไปจนต่อเวลา และดวลจุดโทษในที่สุด ผมขอจบความเห็นผมไว้เพียงเท่านี้ ไม่ได้วืเคราะห์ลึกซึ้งอะไรมาก เขียนไปตามประสา รออ่านความเห็นท่านอื่น ๆ ครับ