เราว่ายังไม่ต้องเสียเวลาไปคิดคำตอบของคำถามพวกนี้หรอก แต่ควรเริ่มจากการตั้งคำถามว่าโลกตอนนี้มันเปลี่ยนไปยังไง ทำไมวิธีการเดิมๆ ระบบกฎแบบเดิมๆ ที่เคยทำงานได้ดี เค้าอยู่มากันหลายสิบปีก็ไม่มีปัญหา เพิ่งมีปัญหาเยอะขึ้นเรื่อยๆกันตอนนี้ // เพราะโลกมันไม่เหมือนเดิมยังไงล่ะ แล้วโลกมันก็หมุนเปลี่ยนของมันไปทุกวัน มันไม่สนใจว่าคุณจะเห็นด้วย จะชอบการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้รึเปล่า ก็เหมือนกับที่โลกไม่สนใจการสูญพันธ์ของไดโนเสาร์นั่นแหละ // เราว่าความต่างหลักๆ ของ Gen X และ Gen Y ที่มันนำไปสู่ปัญหาการลาออกของ Gen Y มีดังนี้
1 Choices
จะพูดว่า Gen Y เป็นเด็กสปอยก็คงไม่ผิดนัก แต่ก็เพราะเค้าเกิดมาพร้อมกับ choice ที่เยอะมากในทุกๆด้านของชีวิตและหลั่งไหลมาให้เลือกตลอดเวลา มีร้านอาหารมีขนมเป็นพันเป็นหมื่นอย่างให้เลือกกิน มีหนังมีการ์ตูนหลายพันเรื่องให้เลือกดู มีกิจกรรมมากมายมีเพื่อนมากมายให้เลือก
เรียกว่า Gen Y ไม่ได้ต้องเสียเวลามากมายในการเสาะแสวงหาสิ่งต่างๆแบบ Gen X แต่กลับต้องใช้เวลามากกว่าในการเลือกว่าสิ่งไหนคือสิ่งที่ดีที่สุด เรื่องความรักเราก็มี Tinder และสารพัดแอปสารพัดช่องทาง เรื่องงานเราก็มี linkedin ซึ่งแค่สร้าง account แปะ profile ไว้ มันก็พร้อมจะนำเสนอ option งานใหม่ๆให้เราตลอดเวลาดโดยที่ไม่ต้องตั้งใจหา ยิ่งเป็น professional ที่มี specific skills ที่ตลาดต้องการ HR, headhunter รุมเข้าหาก่อนด้วยซ้ำ
สิ่งนี้ก็ทำให้เกิด attitude ที่ไม่เหมือนกันของสองเจน นำไปสู่ความคิดที่ว่าทำไม Gen Y ถึงไม่อดทนและเรียกร้องสูง เหตุผลก็เพราะ Gen Y รู้ว่ามี choices มากมายอยู่ในตลาด ถ้าเคยเลือกอะไรแล้วมันเปลี่ยนไปมันไม่เหมาะไม่ดีเหมือนเก่าไม่เหมือนภาพที่เห็น ก็เททิ้งเลือกของใหม่ที่ดีกว่าได้ตลอด
การโวยวายว่าทำไมลูกค้าไม่เลือกเราไม่อาจแก้ปัญหายอดขายตกได้ฉันใด การโวยวายว่าทำไมเด็กถึงไม่อดทนอยู่กับเราก็ไม่อาจแก้ปัญหาturnoverสูงได้ฉันนั้น // ก็เห็นใจคน Gen X ที่ก็คงคิดว่าทำไมต้องมาสนใจเอาใจเด็ก สมัยก่อนไม่เห็นต้องวุ่นวายก็อยู่กันได้ เป็นเด็กก็อดทนไปก่อนสิ ก็ตอบว่าโลกมันเปลี่ยนไปแล้ว อำนาจการต่อรองของสองฝ่ายมันเปลี่ยนไป
แต่ทำไมบริษัทไม่คิดแง่บวกล่ะว่าถ้าตัวเองเป็น choice ที่ดีจริงๆ จะดึงดูดเด็กเก่งๆในยุคนี้ได้ง่ายกว่าในยุคก่อนมาก แล้วก็เอามาช่วยทำงานทำกำไรได้มากมาย
ทำไม Gen Y ถึงเปลี่ยนงานบ่อย? เรามีคำตอบ
1 Choices
จะพูดว่า Gen Y เป็นเด็กสปอยก็คงไม่ผิดนัก แต่ก็เพราะเค้าเกิดมาพร้อมกับ choice ที่เยอะมากในทุกๆด้านของชีวิตและหลั่งไหลมาให้เลือกตลอดเวลา มีร้านอาหารมีขนมเป็นพันเป็นหมื่นอย่างให้เลือกกิน มีหนังมีการ์ตูนหลายพันเรื่องให้เลือกดู มีกิจกรรมมากมายมีเพื่อนมากมายให้เลือก
เรียกว่า Gen Y ไม่ได้ต้องเสียเวลามากมายในการเสาะแสวงหาสิ่งต่างๆแบบ Gen X แต่กลับต้องใช้เวลามากกว่าในการเลือกว่าสิ่งไหนคือสิ่งที่ดีที่สุด เรื่องความรักเราก็มี Tinder และสารพัดแอปสารพัดช่องทาง เรื่องงานเราก็มี linkedin ซึ่งแค่สร้าง account แปะ profile ไว้ มันก็พร้อมจะนำเสนอ option งานใหม่ๆให้เราตลอดเวลาดโดยที่ไม่ต้องตั้งใจหา ยิ่งเป็น professional ที่มี specific skills ที่ตลาดต้องการ HR, headhunter รุมเข้าหาก่อนด้วยซ้ำ
สิ่งนี้ก็ทำให้เกิด attitude ที่ไม่เหมือนกันของสองเจน นำไปสู่ความคิดที่ว่าทำไม Gen Y ถึงไม่อดทนและเรียกร้องสูง เหตุผลก็เพราะ Gen Y รู้ว่ามี choices มากมายอยู่ในตลาด ถ้าเคยเลือกอะไรแล้วมันเปลี่ยนไปมันไม่เหมาะไม่ดีเหมือนเก่าไม่เหมือนภาพที่เห็น ก็เททิ้งเลือกของใหม่ที่ดีกว่าได้ตลอด
การโวยวายว่าทำไมลูกค้าไม่เลือกเราไม่อาจแก้ปัญหายอดขายตกได้ฉันใด การโวยวายว่าทำไมเด็กถึงไม่อดทนอยู่กับเราก็ไม่อาจแก้ปัญหาturnoverสูงได้ฉันนั้น // ก็เห็นใจคน Gen X ที่ก็คงคิดว่าทำไมต้องมาสนใจเอาใจเด็ก สมัยก่อนไม่เห็นต้องวุ่นวายก็อยู่กันได้ เป็นเด็กก็อดทนไปก่อนสิ ก็ตอบว่าโลกมันเปลี่ยนไปแล้ว อำนาจการต่อรองของสองฝ่ายมันเปลี่ยนไป
แต่ทำไมบริษัทไม่คิดแง่บวกล่ะว่าถ้าตัวเองเป็น choice ที่ดีจริงๆ จะดึงดูดเด็กเก่งๆในยุคนี้ได้ง่ายกว่าในยุคก่อนมาก แล้วก็เอามาช่วยทำงานทำกำไรได้มากมาย