ใบปัดน้ำฝนฝืดหรือกระโดดมีหลายสาเหตุ อาจจะมาจากยางปัดที่เสื่อมสภาพ สปริงก้านปัดล้า หรือกระจกฝืดเกินไป เราสามารถตรวจสอบดูง่ายๆได้ว่ากระจกหน้ารถเราฝืดแค่ไหน อันดับแรกล้างกระจกให้สะอาดและเช็ดให้แห้งสนิท ย้ำว่าต้องแห้งสนิทจริงๆ จากนั้นหาผ้านุ่มๆซักผืนไปวางหน้ากระจก ถ้าผ้าไม่ไหลลงมาแสดงว่าผิวหน้าของกระจกเริ่มมีความฝืด

อาการของกระจกฝืดสามารถสังเกตได้เวลาใช้งานที่ปัดน้ำฝน ขณะขับรถตอนฝนเริ่มตกและเราเปิดที่ปัดน้ำฝนครั้งแรกจะไม่มีอาการใบปัดฝืดหรือกระโดด พอปัดไปซักพักถึงจะเริ่มฝืดและกระโดด ถึงแม้ฝนจะตกหนักและมีน้ำหล่ออยู่หน้ากระจกมากแค่ไหน พอฝนหยุดตกและกระจกเริ่มแห้งใบปัดก็จะไม่กระโดด อธิบายง่ายๆคือยิ่งกระจกเปียกน้ำมากเท่าไหร่มันก็จะยิ่งฝืด ซึ่งสวนทางกับความเป็นจริงที่ว่ากระจกยิ่งเปียกมันควรจะลื่นมากกว่ากระจกแห้ง

วิธีการแก้ไขก็ง่ายๆครับ ใช้ยาขัดสีรถแบบหยาบขัดกระจกเหมือนกับการขัดสีรถ (ยาขัดกับยาเคลือบไม่เหมือนกันนะครับอย่าสับสน) จากนั้นใช้ยาขัดละเอียดขัดตามอีกรอบ มีข้อแนะนำในการขัดคือไม่ควรใช้เครื่องขัดครับถ้าไม่ชำนาญพอ ให้ใช้ผ้านุ่มๆเช็ด ซึ่งการขัดจะใช้แรงมากกว่าการขัดสีทั่วไป ขัดเสร็จแล้วอาจจะมีเหงื่อออกกันบ้าง พอเรียบร้อยเราก็ทดลองแบบเดิมครับ  

หลายคนอาจจะแย้งว่าวิธีการแบบนี้จะทำให้สารที่เคลือบกระจกมันถูกขัดออกไปด้วย จริงๆแล้วสิ่งที่เคลือบกระจกมันก็เสื่อมไปตามอายุอยู่แล้วครับ การใช้ที่ปัดน้ำฝนบ่อยๆ ขับรถผ่านฝุ่นผงหรือทราย เศษดินโคลนที่มากับน้ำตอนหน้าฝน ความร้อนและแสงยูวี ขอดีอีกอย่างของการขัดกระจกคือเสียงดังครืดคราดเวลาปัดน้ำฝนมันจะหายไปด้วย และยังช่วยยืดอายุยางปัดน้ำฝนด้วยครับ