3 หลักการคัดกรองหุ้น

3 หลักการคัดกรองหุ้น

บางคนบอกการดูงบเสียเวลา มันแค่บอกอดีต ลองเทียบดูนะ
สมมติมีเพื่อนเอาร้านอาหารมาขายต่อให้เรา แต่ร้านเพื่อนทำขาดทุนทุกวัน มีน้อยวันได้กำไร หนี้ก็เยอะ เงินทุนที่เพื่อนลงทุนไปจมหายไปเรื่อยๆกับร้านต้องเอาเงินเข้าไปเพิ่มตลอด เพื่อนเอามาขาย เราจะซื้อไหม?

หุ้นในตลาดมีตั้งเยอะ ก็ไม่ได้จำเป็นต้องดูละเอียดทุกตัวซะหน่อย การ SCAN หุ้นคร่าวๆก็เหมือนการใช้ตะแกรงกรองก่อน เพื่อที่จะเหลือไม่กี่ตัวที่เราต้องเข้าไปดูอย่างละเอียด

มาลองดูกันว่า 3 หลักการคัดกรองหุ้น มีไรบ้าง
1. ดูหุ้นให้ดูเป็นกลุ่มอุตสาหกรรม เมื่อเปรียบหุ้นที่อยู่ในกลุ่มเดียวกัน เราจะเห็นภาพชัดเจนขึ้นว่า บริษัทที่เราสานใจจะซื้อนั้นดีจริงรึป่าวเมื่อเทียบกับหุ้นอื่น เช่น หุ้นที่เราดู ROE ก็มากกว่า 10% พอไปดูตัวอื่นในอุตสาหกรรมเดียวกัน หุ้นอื่นเข้า ROE > 15% ตลอด อันนี้ของเราก็จะน่าสนใจน้อยลง

2. SCAN หุ้นด้วยตารางงบย่อ ถ้าเราดูตารางงบย่อจะเห็นว่าตารางแบ่งเป็น 2 คือ ส่วนที่ 1 คืองบดุลและงบกำไรขาดทุน ส่วนที่ 2 จะเป็นมูลค่าหุ้นทั้งที่ตลาดให้ราคาและที่เป็นมูลค่าจริงของหุ้นนั้น รวมถึงอัตราส่วนเงินปันผล

    เวลาดูงบย่อ ส่วนที่ 1 ที่ต้องดูคือ

       - หนี้/ทุน  ถ้าดีคือ หนี้ < ทุน

       - มูลค่าหุ้นที่เรียกชำระแล้ว  ควรจะคงที่ตลอด เพราะแสดงว่าไม่มีการขอเพิ่มทุน บริษัทโตได้เองจากกำไรในแต่ละปี เอาไปขยายกิจการ

       - ROE(return on equity) คือ กำไร/ทุน เป็นอัตราส่วนสำคัญเพื่อดูว่ากำไรที่ได้คุ้มค่ากับเงินลงทุนเรารึป่าว ถ้าดีคือ ROE> 10% อย่างสม่ำเสมอ ขอเน้นว่าต้องสม่ำเสมอนะ ถ้าปีอื่นแย่ตลอด แต่มีบางปี ROE สูงโดดขึ้นมา ต้องระวังว่าจะมีเงินพิเศษเข้ามา เช่น ขายตึก ขายกิจการบางส่วน เงินประกัน

      ถ้า SCAN หุ้นด้วยตารางงบย่อส่วนที่ 1 ก็ตัดทิ้งได้ไม่จำเป็นต้องไปดูต่ออย่างละเอียด

3. พอได้หุ้นที่เราสนใจ จากข้อ 1 และ 2 เราก็มาดู 56-1 และดูมูลค่าของกิจการ ซึ่งการจะประเมินว่าเราจะซื้อกิจการที่เท่าไหร่นั้น เราต้องเข้าใจถึงกิจการนั้นก่อน การอ่าน 56-1 ที่สำคัญคืออ่านในส่วนที่เป็น business และ finance

ข้อควรระวัง ถึงเราประเมินแล้วกิจการที่เราจะซื้อนั้นดี แต่ถ้าซื้อมาแพงเกินก็ถือว่าไม่ดี ดังนั้นเราไม่ควรซื้อที่ค่า P/E หรือ P/BV ที่สูงเกินไป ไม่ควรวาดฝันคาดหวังการเติบโตของกิจการที่มากเกินไปนั่นเอง

เพื่อนๆมีเทคนิคยังไงบ้าง มา comment and share กันเลย

FBpage: หมอยุ่งอยากมีเวลา
www.facebook.com/DoctorWantTime
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่