ขอเกริ่นคร่าวๆ แต่ถ้ายาวไปข้ามไปที่ย่อหน้า "เรื่องที่กลุ้มใจ" ได้เลยค่ะ
ตอนแรกเราไม่ทราบว่าจะต้องย้ายไปต่างประเทศภายในปีหน้า ช่วงปี2015 เคยคุยกับแฟนว่าสักปี 2019 ค่อยย้ายไป
โดยปรกติแฟนจะบินมาหาทุกเดือน เดือนละ 1 สัปดาห์ (เขาทำงานในทะเลทราย ทำงาน 4 สัปดาห์ พัก 1 สัปดาห์)
แล้วมันมีจุดเปลี่ยนของชีวิต เพราะแฟนซื้อบ้านที่ออสเตรเลีย แล้วมีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มเข้ามา เข้าอยากให้เราไปอยู่ด้วย แต่เรายังไปไม่ได้เพราะติดตรงยังใส่เหล็กจัดฟันอยู่
ใจเราก็อยากจัดฟันที่ Perth ไปเลยแต่ติด 2 อย่าง คือ ค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายเป็นก้อนที่เดียว กับความไม่แน่นอนว่าจะอยู่ที่ Perth นานเท่าไร่ เพราะแฟนมีแนวโน้มอาจต้องเปลี่ยนงาน (งานเหมืองแร่ งานทะเลทราย project จะเปลี่ยน ถ้าไม่มีแร่ให้ขุด ไม่มีน้ำมันให้เจาะ คนงานก็ต้องหาแหล่งใหม่ ซึ่งถ้า site งานเป็นโซนอื่น (Queenslands, NSW เป็นต้น) เขาอาจจะปล่อยบ้านที่ Perth (โซน WA) ให้คนเช่า แล้วเขาไปเช่าอีกทีนึงที่อยู่โซน/ภูมิภาคเดียวกันที่ทำงาน)
คุยกับแฟนทางโทรศัพท์ แล้วได้ข้อสรุปว่า ถ้าทำที่ไทยมันถูกกว่า ก็ให้ทำที่ไทย โดยแฟนจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายค่าตั๋วไปกลับ หากเราต้องบินจาก Perth มาเปลี่ยนยางที่ไทยทุกเดือน เขาให้เหตุผลว่ามันมีค่าเท่ากับเขาบินมาหาเรา แต่เขาไม่ต้องจ่ายเงินค่า taxi ค่าเที่ยว ค่าจิปาถะที่ไทย สู้เก็บเงินส่วนนี้ไปเติมบ้านดีกว่า ส่วนเงินค่าตั๋วเขาตีว่าเป็นค่าใช้จ่ายที่ทำให้เราได้เจอกัน ดังนั้นไม่ซีเรียส ก็คือถ้าเราบินมาไทย เขาจะเสียค่าตั๋ว ส่วนค่าโรงแรม + ค่าดึงยางเรารับผิดชอบเอง แต่เรารู้สึกไม่สบายใจเรื่องจัดฟัน ลำบากใจที่ต้องให้เค้ามาเป็นทุกข์ด้วย เขาบอกไม่ทุกข์เลย ค่อยๆ research ไปแล้วมาปรึกษากัน เขาบอกว่าก็อยากให้ได้อยู่ด้วยกัน เราฟังแล้วน้ำตาจะไหล ที่เค้าอุตส่าห์ช่วยคิดให้
เรื่องที่กลุ้มใจ
มาถึงเรื่องจัดฟัน เราจัดแบบปรกติ ฟันล่างมันคร่อมฟันบน ไม่อยากตัดกราม หมอก็จัดให้ ตอนนี้ใส่ตัว palate ที่ช่วยให้เคี้ยวได้ควบคู่ไปกับการติดเหล็กจัดฟัน เพราะฟันบนและล่างมันกำลังเคลื่อนตัวให้ตรงและไม่สามารถเคี้ยวให้ฟันสบกันได้ เราเคยมีเปรยๆให้หมอฟัง บ้าง หมอบอกว่า ตอนนี้เราใส่ palate อยู่ ไม่มีใครมาจัดต่อได้หรอก เพราะหมอคนอื่นจะไม่เข้าใจว่า plan การจัดของเรามันยังไง เพราะเคสเราเคสยาก ซึ่งเราเข้าใจ หมอแจ้งเพิ่มว่าถ้าจะไปจัดที่อื่นก็ได้ แต่ต้องรอให้สามารถเคี้ยวได้โดยไม่ใช้ palate ถึงตอนนั้นได้แค่ไหนก็แค่นั้น และเพิ่มเติมว่า ถ้าเลิกจัดจากที่นี่แล้วจะมาเริ่มจัดใหม่ในวันข้างหน้า หมอจะไม่รับจัดแล้ว เพราะกว่าจะได้ติดเหล็กเราต้องใส่ palate อีกตัวที่สามารถดันฟันบางซี่ให้มีมุมองศาที่สามารถจัดฟันได้ ตอนนั้นใส่ตัวที่ว่านี้เพื่อใช้ดันฟันออกมาก่อน นาน 7-8 เดือนกว่าจะติดเหล็ก ตอนนี้ก็ติดเหล็กมาได้ 5-6 เดือนแล้วหมอเค้าก็พูดปรกตินะ และเราเข้าใจเค้า เราอยากจะบอกหมอเขาว่าถ้าจะบินมาจัดทุกเดือน แต่ต้องนัดวันดีดี แต่มันมีบางอย่างทำให้เรารู้สึกว่า เราไม่กล้าจะปรึกษาหมอเค้า รู้สึกเหมือนเราโดดเดี่ยว เวลาเขาใส่ยางตัวใหม่จาก O-Ring เป็น C-Chain เขาก็ไม่ได้อธิบายอะไร ว่านี่นะวันนี้เปลี่ยนยางเป็นแบบนี้ มันจะช่วยยังไง จะเจ็บตรงไหน แต่เค้าไม่พูดอะไร แบบใส่ใส่เสร็จก็ให้ออกมา คือเราไม่ต้องการ babysitter นะคะ แต่ถ้าหมอ pay attention ให้นิดนึงเราจะรู้สึกอุ่นใจ รู้สึกเหมือนมีเพื่อนคู่คิด ตรงนี้แฟนเราบอกให้ไปหาหมอฟันคนใหม่ขอ second opinion แต่ปัญหาของเราคือ เราไม่ต้องการ หมอฟันประเภทอื่นที่สามารถจัดฟันได้ แต่เราต้องการหมอฟันแบบ orthodist โดยตรงเลยค่ะ พอมีคำแนะนำไหมคะ เพราะจะต้องย้ายไปออสเตรเลีย กลางปีหน้า May 2017 ค่ะ ซึ่งไม่ว่าจะจัดกับหมอคนเดิม หรือคนใหม่ ถ้า process มันไม่เสร็จเราก็จะบินมาทุก 5 สัปดาห์เพื่อมาพบหมอค่ะ ใจเราก็อยากจัดกับหมอคนเดิม แต่แค่รู้สึกว่า personality แกไม่ค่อยทำให้เรารู้สึกว่าเขาสามารถให้คำปรึกษาได้ รู้สึกอึดอัดใจที่ต้องปรึกษา เราเองก็ไม่ได้อยากจะย้ายไปไหน แต่ plan มันเปลี่ยนไปปุปปับ เราจึงกังวลมากมากค่ะ ขอบคุณค่ะ
ขอบคุณค่ะ
กลุ้มใจเรื่องจัดฟัน แล้วมีเหตุต้องย้ายไปทำงานต่างประเทศค่ะ
ตอนแรกเราไม่ทราบว่าจะต้องย้ายไปต่างประเทศภายในปีหน้า ช่วงปี2015 เคยคุยกับแฟนว่าสักปี 2019 ค่อยย้ายไป
โดยปรกติแฟนจะบินมาหาทุกเดือน เดือนละ 1 สัปดาห์ (เขาทำงานในทะเลทราย ทำงาน 4 สัปดาห์ พัก 1 สัปดาห์)
แล้วมันมีจุดเปลี่ยนของชีวิต เพราะแฟนซื้อบ้านที่ออสเตรเลีย แล้วมีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มเข้ามา เข้าอยากให้เราไปอยู่ด้วย แต่เรายังไปไม่ได้เพราะติดตรงยังใส่เหล็กจัดฟันอยู่
ใจเราก็อยากจัดฟันที่ Perth ไปเลยแต่ติด 2 อย่าง คือ ค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายเป็นก้อนที่เดียว กับความไม่แน่นอนว่าจะอยู่ที่ Perth นานเท่าไร่ เพราะแฟนมีแนวโน้มอาจต้องเปลี่ยนงาน (งานเหมืองแร่ งานทะเลทราย project จะเปลี่ยน ถ้าไม่มีแร่ให้ขุด ไม่มีน้ำมันให้เจาะ คนงานก็ต้องหาแหล่งใหม่ ซึ่งถ้า site งานเป็นโซนอื่น (Queenslands, NSW เป็นต้น) เขาอาจจะปล่อยบ้านที่ Perth (โซน WA) ให้คนเช่า แล้วเขาไปเช่าอีกทีนึงที่อยู่โซน/ภูมิภาคเดียวกันที่ทำงาน)
คุยกับแฟนทางโทรศัพท์ แล้วได้ข้อสรุปว่า ถ้าทำที่ไทยมันถูกกว่า ก็ให้ทำที่ไทย โดยแฟนจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายค่าตั๋วไปกลับ หากเราต้องบินจาก Perth มาเปลี่ยนยางที่ไทยทุกเดือน เขาให้เหตุผลว่ามันมีค่าเท่ากับเขาบินมาหาเรา แต่เขาไม่ต้องจ่ายเงินค่า taxi ค่าเที่ยว ค่าจิปาถะที่ไทย สู้เก็บเงินส่วนนี้ไปเติมบ้านดีกว่า ส่วนเงินค่าตั๋วเขาตีว่าเป็นค่าใช้จ่ายที่ทำให้เราได้เจอกัน ดังนั้นไม่ซีเรียส ก็คือถ้าเราบินมาไทย เขาจะเสียค่าตั๋ว ส่วนค่าโรงแรม + ค่าดึงยางเรารับผิดชอบเอง แต่เรารู้สึกไม่สบายใจเรื่องจัดฟัน ลำบากใจที่ต้องให้เค้ามาเป็นทุกข์ด้วย เขาบอกไม่ทุกข์เลย ค่อยๆ research ไปแล้วมาปรึกษากัน เขาบอกว่าก็อยากให้ได้อยู่ด้วยกัน เราฟังแล้วน้ำตาจะไหล ที่เค้าอุตส่าห์ช่วยคิดให้
เรื่องที่กลุ้มใจ
มาถึงเรื่องจัดฟัน เราจัดแบบปรกติ ฟันล่างมันคร่อมฟันบน ไม่อยากตัดกราม หมอก็จัดให้ ตอนนี้ใส่ตัว palate ที่ช่วยให้เคี้ยวได้ควบคู่ไปกับการติดเหล็กจัดฟัน เพราะฟันบนและล่างมันกำลังเคลื่อนตัวให้ตรงและไม่สามารถเคี้ยวให้ฟันสบกันได้ เราเคยมีเปรยๆให้หมอฟัง บ้าง หมอบอกว่า ตอนนี้เราใส่ palate อยู่ ไม่มีใครมาจัดต่อได้หรอก เพราะหมอคนอื่นจะไม่เข้าใจว่า plan การจัดของเรามันยังไง เพราะเคสเราเคสยาก ซึ่งเราเข้าใจ หมอแจ้งเพิ่มว่าถ้าจะไปจัดที่อื่นก็ได้ แต่ต้องรอให้สามารถเคี้ยวได้โดยไม่ใช้ palate ถึงตอนนั้นได้แค่ไหนก็แค่นั้น และเพิ่มเติมว่า ถ้าเลิกจัดจากที่นี่แล้วจะมาเริ่มจัดใหม่ในวันข้างหน้า หมอจะไม่รับจัดแล้ว เพราะกว่าจะได้ติดเหล็กเราต้องใส่ palate อีกตัวที่สามารถดันฟันบางซี่ให้มีมุมองศาที่สามารถจัดฟันได้ ตอนนั้นใส่ตัวที่ว่านี้เพื่อใช้ดันฟันออกมาก่อน นาน 7-8 เดือนกว่าจะติดเหล็ก ตอนนี้ก็ติดเหล็กมาได้ 5-6 เดือนแล้วหมอเค้าก็พูดปรกตินะ และเราเข้าใจเค้า เราอยากจะบอกหมอเขาว่าถ้าจะบินมาจัดทุกเดือน แต่ต้องนัดวันดีดี แต่มันมีบางอย่างทำให้เรารู้สึกว่า เราไม่กล้าจะปรึกษาหมอเค้า รู้สึกเหมือนเราโดดเดี่ยว เวลาเขาใส่ยางตัวใหม่จาก O-Ring เป็น C-Chain เขาก็ไม่ได้อธิบายอะไร ว่านี่นะวันนี้เปลี่ยนยางเป็นแบบนี้ มันจะช่วยยังไง จะเจ็บตรงไหน แต่เค้าไม่พูดอะไร แบบใส่ใส่เสร็จก็ให้ออกมา คือเราไม่ต้องการ babysitter นะคะ แต่ถ้าหมอ pay attention ให้นิดนึงเราจะรู้สึกอุ่นใจ รู้สึกเหมือนมีเพื่อนคู่คิด ตรงนี้แฟนเราบอกให้ไปหาหมอฟันคนใหม่ขอ second opinion แต่ปัญหาของเราคือ เราไม่ต้องการ หมอฟันประเภทอื่นที่สามารถจัดฟันได้ แต่เราต้องการหมอฟันแบบ orthodist โดยตรงเลยค่ะ พอมีคำแนะนำไหมคะ เพราะจะต้องย้ายไปออสเตรเลีย กลางปีหน้า May 2017 ค่ะ ซึ่งไม่ว่าจะจัดกับหมอคนเดิม หรือคนใหม่ ถ้า process มันไม่เสร็จเราก็จะบินมาทุก 5 สัปดาห์เพื่อมาพบหมอค่ะ ใจเราก็อยากจัดกับหมอคนเดิม แต่แค่รู้สึกว่า personality แกไม่ค่อยทำให้เรารู้สึกว่าเขาสามารถให้คำปรึกษาได้ รู้สึกอึดอัดใจที่ต้องปรึกษา เราเองก็ไม่ได้อยากจะย้ายไปไหน แต่ plan มันเปลี่ยนไปปุปปับ เราจึงกังวลมากมากค่ะ ขอบคุณค่ะ
ขอบคุณค่ะ