สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นขอแนะนำตัวก่อนนะคะ เราชื่อมายด์ ไปแลกเปลี่ยน 1 ปี ที่ประเทศ สหรัฐอเมริกา(2013-2014) ทุน YES(Kennedy-Lugar Youth Exchange & Study) ซึ่งเป็นทุนเต็มจำนวน และจัดสอบโดย AFS แต่ YES เป็นผู้ให้ทุน และ AFS จะเป็นผู้ดูแลเราขณะอยู่ในโครงการค่ะ
★ก่อนการเดินทาง★
- ขั้นตอนการทำเอกสารจะยุ่งยากมากค่ะ ต้องสู้และอดทนนะคะ ทั้งการทำเอกสารตรวจร่างกาย การทำวีซ่าต่างๆ จะค่อนข้างซับซ้อน แต่พอเตรียมเสร็จแล้วทุกอย่างก็จะโล่งมาก ด่านต่อไปคือ ก็รอการติดต่อกลับจากAFS เรื่องครอบครัวอุปถัมภ์ ทันทีที่AFSโทรมาบอกให้เช็คเมลล์ที่เราได้โฮสต์ เราตื่นเต้นมาก ลุ้นมากว่าจะได้อยู่รัฐไหน เราอยากไปรัฐที่มีหิมะมากๆ คือก่อนหน้านี้เราก็ตื่นเต้นจนไปหาแผนที่อเมริกามาดูบ่อยมาก จนจำได้ว่ารัฐไหนอยู่ตรงไหน55555 แต่สุดท้ายเราได้ ALASKA ค่ะ ได้เห็นหิมะยาวนานสมใจ!!! ยอมรับเลยว่ารัฐนี้ไม่เคยอยู่ในความคิดเลยค่ะ อาจเป็นเพราะมันเป็นรัฐที่แยกตัวออกไปทางตอนเหนือติดกับ CANADA อาจทำให้มองข้ามกันได้ วินาทีนั้นเรากลัวมากค่ะ กลัวหนาวววววว เรารีบติดต่อโฮสต์ผ่านทางอีเมลล์และเฟสบุค เขาดีใจมากที่เราติดต่อเขาไป จากนั้นเราก็คุยกับโฮสต์บ่อยค่ะ
★วันเดินทาง★
-เราเดินทางพร้อมกันจากสุวรรณภูมิไปถึง Washington D.C. เลย (เรามี Orientation ร่วมกับ YES ทั่วโลกที่นั่น) เรานั่งเครื่องของสายการบินDelta Airlines จาก BKK-NRT-MPS-WAS จนถึงที่หมาย จากนั้นก็มีคนจากองค์กรมารับไปที่โรงแรมเพื่อไปร่วม Orientation เราได้แยกนอนกับเพื่อนประเทศเดียวกันนะคะ เค้าจัดให้เรานอนกับเพื่อนต่างชาติที่จะไปอยู่รัฐเดียวกัน ( ชีวิตต่างแดนเริ่มขึ้นอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว ) เรามีกิจกรรมต่างๆ เขาจะสอนวิธีการปรับตัวใช้ชีวิตในเมืองอุปถัมภ์ ในโรงเรียน และกับโฮสต์เป้นเวลา 3 วัน 2 คืนค่ะ หลังจากนั้น เราก็แยกย้ายกับเพื่อนคนไทยแล้วเดินทางไปยังรัฐที่โฮสต์เราอยู่กับเพื่อนต่างชาติเลย ส่วนตัวเราไปALASKA จึงเดินทางนานกว่าเพื่อน เรานั่งเครื่องบินของสายการบิน United airlines จาก WAS-SEA-ANC ถึงเมือง Anchorage, AK ก็มี AFS volunteer ของที่นั่นมารับเราจากสนามบินและรับเราไปอยู่ด้วย1คืนก่อนบินอีกทีไปยังเมืองที่อยู่ค่ะ ในบ้านของ Welcome Host ก็มีนร.แลกเปลี่ยนจากที่อื่นมาแสตนบายก่อนเราแล้ว รวม4คน มาจาก เยอรมัน คาซัคสถาน เบลเยี่ยมและไทย พวกเราทั้งหมดจะได้อยู่ในเมือง Kenai, Soldotna เป็นเมืองเล็กๆติดกัน เราจึงเดินทางด้วยกันโดยเครื่องบินเล็กของสายการบิน RAVN AIR ใช้เวลาประมาณ25น.ค่ะ คืนแรกที่ได้นอนที่ ALASKA เราตื่นเต้นมาก อากาศสักประมาณ 10C บวกกับฝนตกด้วย เรารู้สึกหนาวมาก และแอบกังวลว่านี่ขนาดยังไม่หน้าหนาวยังหนาวขนาดนี้ แล้วหน้าหนาวเราจะทนไหวไหม เราคิดไปเอง คิดกังวลไปก่อน5555
... ครั้งแรกที่เราเจอโฮสต์นั้น โฮสต์วิ่งเข้ามากอดเราแน่นมากๆพร้อมดอกไม้1ช่อ รู้สึกได้ถึงความอบอุ่นและความเต็มใจของเค้าที่จะรับเรามาเป็นลูกอีกคน สังเกตว่าโฮสต์เราแต่งตัวสบายๆแต่เราใส่เสื้อแขนยาวและยอมรับว่าตอนนั้นก็รู้สึกหนาวมากค่ะ!
★Host family★
ภาพเรา กับ โฮสต์แด๊ด และมอลลี่ ที่หน้าบ้านตอนช่วงหน้าหนาว
ภาพเรากับซิส
บรรยากาศภายในบ้าน
โฮสต์เรา มี โฮสต์มัม, โฮสต์แด๊ด,โฮสต์ซิส และสุนัขอีก1ตัวค่ะ โฮสต์แด๊ดเป็นครูสอนฟิสิกส์ที่โรงเรียน โฮสต์มัมเป็นครูสอนป.2ที่โรงเรียนประถม ส่วนซิสเราอายุเท่าเราและเรียนชั้นเดียวกันเลย เราถือว่าเราโชคดีมากที่ได้โฮสต์นี้ เค้าใจดี เข้าใจเรามากๆ วันแรกที่ไปถึงเค้าก็ทำอาหารเย็นให้เราทาน อ่อลืมบอกไปว่าโฮสต์เราเป็นมังสวิรัต แต่โฮสต์แด๊ดจะกินเนื้อนิดหน่อย แต่ส่วนมากจะเน้นทานผักกับธัญพืช ถ้าเราอยากกินเนื้อสัตว์เราก็สามารถทำกินเองได้เลย โฮสต์จะพาเราไปซื้อวัตถุดิบค่ะ อาหารส่วนมากที่ทานในบ้าน จะเป็นพวกแป้ง ผัก ชีส ซะมากกว่า พยายามปรับตัวอยู่กับเขาให้ได้ ลองเปิดใจรับสิ่งใหม่ๆดู ทานอาหารแบบใหม่ ก็อร่อยดีนะคะ แรกๆจะทานน้อยมากจนน้ำหนักลดเพราะไม่อร่อยเลย5555555 แต่อยู่ๆไปพอชินกับรสชาติอาหารแล้ว ก็ทานเยอะขึ้นเรื่อยๆจนน้ำหนักขึ้นเลยจ้า
-บ้านโฮสต์เราจะไม่ค่อยใหญ่มากค่ะ มี 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ มีบริเวณนั่งเล่น ครัว และโต๊ะกินข้าว แต่มีบริเวณกว้างมากๆค่ะ มีทะเลสาบอยู่หลังบ้าน รอบๆบ้านจะมีเพื่อนบ้าน 5-6หลัง อยู่กันเงียบสงบมากๆค่ะ มีโรงจอดรถอยู่ด้านนอก มีตู้เย็นเอาไว้เก็บอาหารทะเลที่โฮสต์แด๊ดเราไปตกปลามากับเพื่อนๆ เช่น ปลาแซลม่อน ปลา Halibut เรียกได้ว่าตกปลาครั้งเดียว แล้วน้ำมาแพ็คใส่ตู้เย็น กินได้นานเป็นปีเลยค่ะ ที่สำคัญตู้เย็นนี้จะต้องมีที่ล็อคค่ะ เรานึกว่ากันขโมย แต่เปล่าเลย กันหมีมาเปิดตู้เย็นค่ะ!55555555 อลาสกามักจะมีหมีอาศัยอยู่ทั่วค่ะ วันดีคืนดีอาจมาเปิดตู้เย็นขโมยปลาเราได้
-โฮสต์เราจะมีกิจกรรมทำด้วยกันบ่อยค่ะ ไปงานแฟร์ ทำอาหารเย็นด้วยกัน พาสุนัขไปเดินเล่น ดูหนังทั้งที่บ้านและที่เธียเตอร์หรือ การพายเรือcanoeในทะเลสาบหลังบ้าน ซึ่งเป็นกิจกรรมที่พิเศษมากๆๆๆ วิวสวย อากาศเย็นสบาย น้ำใสมองเห็นปลาเลยค่ะ แถมยังมีตัวBeaverอาศัยอยู่ในทะเลสาบหลังบ้านเราด้วย ในช่วงหน้าหนาวน้ำในทะเลสาบหลังบ้านจะเกาะตัวเป็นน้ำแข็ง เราจึงมีโอกาสไปเล่น ice skate กับเพื่อนๆค่ะ
-อยู่กับโฮสต์เรามีห้องส่วนตัว บ้านเราถือว่าไม่เข้มงวดเท่าไร ไม่จำกัดเวลาเล่นเน็ตหรือเวลานอน เราแบ่งเวลาจัดสรรเวลาเอาเองค่ะ แต่ต้องทำการบ้านให้ครบตามที่ครูสั่ง เพราะโฮสต์ค่อนข้างเข้มงวดเรื่องการเรียน แต่เราก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรมาก เพราะเราไม่ได้ใช้เกรดอยู่แล้ว บางงานเราก็ไม่ทำค่ะเพราะมันเยอะเกินไป และไมไ่ด้บอกโฮสต์ด้วย5555
-มาพูดถึงสุนัขบ้างนะคะ ชื่อ Molly เป็นพันธุ์ Goldendoodle และยังเป็น therapy dog อีกด้วย นั่นหมายความว่า สามารถนำสุนัขตัวนี้เข้าไปในอาคารได้ เช่น ในโรงพยาบาล ในห้าง หรือในร้านอาหาร อย่างถูกต้องตามกฎหมายค่ะ เพราะปกติแล้วสุนัขจะไม่สามารถเข้าอาคารได้ Molly เป็นสุนัขที่เชื่องมาก รู้เรื่องและฉลาดมาก เชื่อฟังคนทุกอย่างเลยค่า เราตอนแรกเป็นคนที่กลัวสุนัข แต่พอมาเจอ Molly แล้วเราก็เปลี่ยนไปเลย กลายเป็นคนรักสุนัขมาก ยิ่งตอนหน้าหนาว มือจะเย็นเราเลยไปกอด Molly เพื่อความอบอุ่นค่ะ <3
กิจกรรมวัน Easterกับโฮสต์
★HIGH SCHOOL★
-เราไป Kenai Central High school เป็นโรงเรียนที่ใหญ่ที่สุดในเมืองแล้วค่ะ มีนร.ประมาณ 500 คน ประกอบไปด้วยชั้น Freshmen, Sophomore, Junior และ Senior ซึ่งป็นชั้น ม.3-ม.6 ค่ะ ถือว่าเป็นโรงเรียนขนาดเล็กตามาตรฐานของอเมริกา โรงเรียนเข้าตั้งแต่ 7.45 และเลิก 14.15 ถือว่าเช้ามาก เพื่อนๆที่นี่ดีมากเลยค่ะ คอยช่วยเราทุกอย่าง คอยพาเราทำกิจกรรม เสาอาทิตย์ก็พาเราไปเที่ยว ส่วนมากคนที่ร.ร.จะรู้จักกันหมด เพราะเป็นเมืองเล็กจึงทำให้คนสนิทกันง่ายค่ะ
-วันแรกที่ไปโรงเรียนนั้นบอกเลยว่า ไม่สนุกเลย!! ทุกคนรู้จักกันมีกลุ่มเป็นของตัวเองอยู่แล้ว แต่เรายังดีที่มีซิสช่วยพาเราแนะนำเพื่อนๆ ห้องเรียน สภาพแวดล้อมภายในโรงเรียน อยู่ๆไปก็ชินค่ะ โดยเราได้เข้าชมรมกีฬา SKI เป็นเวลา 4 เดือน และ Track&Field เป็นเวลา 2 เดือนค่ะ การซ้อมกีฬาและเข้าคลับก็จะเริ่มตั้งแต่ 15.00 น. เป็นต้นไป ระยะเวลาซ้อมต่อวันแล้วแต่ประเภทกีฬาและสภาพอากาศค่ะ อย่างเช่น สกี บางวันถ้าหิมะตกหนักมากๆก็จะงด outdoor practice ไป จะเปลี่ยนเป็น Indoor practice แทนค่ะ ซี่งจะเป็นการซ้อมใน weight room เป็น workout ที่หนักมาก ช่วงแรกๆเราถึงกับปวดเมื่อยไปทั้งตัว เดินขึ้นลงบันไดยากมากเลย พอนานๆไปก็ชินค่ะ กีฬาสนุกดี ทำให้เราได้มีเพื่อนเพิ่ม เพื่อนๆแต่ละคนก็จะคอยเทคแคร์เราอย่างดี จะมีออกทริปไปแข่งต่างเมืองเป็นระยะๆทำให้เราได้ไปเที่ยวต่างเมือง ไปนอนค้างที่อื่นกับเพื่อนๆ เป็นอะไรที่สนุกสุดๆเลยละค่ะ
-ส่วนตัวเราชอบไปโรงเรียนเจอเพื่อนๆมากค่ะ ตอนเลิกเรียนถ้าไม่มีซ้อมกีฬาเราจะไปชายหาดกับเพื่อน ไปร้านอาหารไทย ไปช้อปปิ้งบ้าง หรือบางทีก็ไปแฮงเอ๊าท์ที่บ้านเพื่อนค่ะ เราไปนอนบ้านเพื่อนบ่อยมากๆๆ เคยไปนอนค้าง11คืนติดกับเพื่อน3-4บ้านค่ะ เป็นกิจกรรมปาร์ตีที่จัดติดๆกัน เราค่อนข้างรู้จักเพื่อนเยอะ และบวกกับโฮสต์เราก็ไม่ว่าอะไร เราเลยลุยค่ะ ไปทุกงานที่เพื่อนชวนเลย!
วิวข้างทางตอนนั่งรถโรงเรียนไปแข่งกีฬาที่เมือง Anchorage
--มีต่อในคอมเม้นท์นะคะ--
1ปีในดินแดนสุดขอบโลก ALASKA!!!
★ก่อนการเดินทาง★
- ขั้นตอนการทำเอกสารจะยุ่งยากมากค่ะ ต้องสู้และอดทนนะคะ ทั้งการทำเอกสารตรวจร่างกาย การทำวีซ่าต่างๆ จะค่อนข้างซับซ้อน แต่พอเตรียมเสร็จแล้วทุกอย่างก็จะโล่งมาก ด่านต่อไปคือ ก็รอการติดต่อกลับจากAFS เรื่องครอบครัวอุปถัมภ์ ทันทีที่AFSโทรมาบอกให้เช็คเมลล์ที่เราได้โฮสต์ เราตื่นเต้นมาก ลุ้นมากว่าจะได้อยู่รัฐไหน เราอยากไปรัฐที่มีหิมะมากๆ คือก่อนหน้านี้เราก็ตื่นเต้นจนไปหาแผนที่อเมริกามาดูบ่อยมาก จนจำได้ว่ารัฐไหนอยู่ตรงไหน55555 แต่สุดท้ายเราได้ ALASKA ค่ะ ได้เห็นหิมะยาวนานสมใจ!!! ยอมรับเลยว่ารัฐนี้ไม่เคยอยู่ในความคิดเลยค่ะ อาจเป็นเพราะมันเป็นรัฐที่แยกตัวออกไปทางตอนเหนือติดกับ CANADA อาจทำให้มองข้ามกันได้ วินาทีนั้นเรากลัวมากค่ะ กลัวหนาวววววว เรารีบติดต่อโฮสต์ผ่านทางอีเมลล์และเฟสบุค เขาดีใจมากที่เราติดต่อเขาไป จากนั้นเราก็คุยกับโฮสต์บ่อยค่ะ
★วันเดินทาง★
-เราเดินทางพร้อมกันจากสุวรรณภูมิไปถึง Washington D.C. เลย (เรามี Orientation ร่วมกับ YES ทั่วโลกที่นั่น) เรานั่งเครื่องของสายการบินDelta Airlines จาก BKK-NRT-MPS-WAS จนถึงที่หมาย จากนั้นก็มีคนจากองค์กรมารับไปที่โรงแรมเพื่อไปร่วม Orientation เราได้แยกนอนกับเพื่อนประเทศเดียวกันนะคะ เค้าจัดให้เรานอนกับเพื่อนต่างชาติที่จะไปอยู่รัฐเดียวกัน ( ชีวิตต่างแดนเริ่มขึ้นอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว ) เรามีกิจกรรมต่างๆ เขาจะสอนวิธีการปรับตัวใช้ชีวิตในเมืองอุปถัมภ์ ในโรงเรียน และกับโฮสต์เป้นเวลา 3 วัน 2 คืนค่ะ หลังจากนั้น เราก็แยกย้ายกับเพื่อนคนไทยแล้วเดินทางไปยังรัฐที่โฮสต์เราอยู่กับเพื่อนต่างชาติเลย ส่วนตัวเราไปALASKA จึงเดินทางนานกว่าเพื่อน เรานั่งเครื่องบินของสายการบิน United airlines จาก WAS-SEA-ANC ถึงเมือง Anchorage, AK ก็มี AFS volunteer ของที่นั่นมารับเราจากสนามบินและรับเราไปอยู่ด้วย1คืนก่อนบินอีกทีไปยังเมืองที่อยู่ค่ะ ในบ้านของ Welcome Host ก็มีนร.แลกเปลี่ยนจากที่อื่นมาแสตนบายก่อนเราแล้ว รวม4คน มาจาก เยอรมัน คาซัคสถาน เบลเยี่ยมและไทย พวกเราทั้งหมดจะได้อยู่ในเมือง Kenai, Soldotna เป็นเมืองเล็กๆติดกัน เราจึงเดินทางด้วยกันโดยเครื่องบินเล็กของสายการบิน RAVN AIR ใช้เวลาประมาณ25น.ค่ะ คืนแรกที่ได้นอนที่ ALASKA เราตื่นเต้นมาก อากาศสักประมาณ 10C บวกกับฝนตกด้วย เรารู้สึกหนาวมาก และแอบกังวลว่านี่ขนาดยังไม่หน้าหนาวยังหนาวขนาดนี้ แล้วหน้าหนาวเราจะทนไหวไหม เราคิดไปเอง คิดกังวลไปก่อน5555
... ครั้งแรกที่เราเจอโฮสต์นั้น โฮสต์วิ่งเข้ามากอดเราแน่นมากๆพร้อมดอกไม้1ช่อ รู้สึกได้ถึงความอบอุ่นและความเต็มใจของเค้าที่จะรับเรามาเป็นลูกอีกคน สังเกตว่าโฮสต์เราแต่งตัวสบายๆแต่เราใส่เสื้อแขนยาวและยอมรับว่าตอนนั้นก็รู้สึกหนาวมากค่ะ!
★Host family★
ภาพเรา กับ โฮสต์แด๊ด และมอลลี่ ที่หน้าบ้านตอนช่วงหน้าหนาว
ภาพเรากับซิส
บรรยากาศภายในบ้าน
โฮสต์เรา มี โฮสต์มัม, โฮสต์แด๊ด,โฮสต์ซิส และสุนัขอีก1ตัวค่ะ โฮสต์แด๊ดเป็นครูสอนฟิสิกส์ที่โรงเรียน โฮสต์มัมเป็นครูสอนป.2ที่โรงเรียนประถม ส่วนซิสเราอายุเท่าเราและเรียนชั้นเดียวกันเลย เราถือว่าเราโชคดีมากที่ได้โฮสต์นี้ เค้าใจดี เข้าใจเรามากๆ วันแรกที่ไปถึงเค้าก็ทำอาหารเย็นให้เราทาน อ่อลืมบอกไปว่าโฮสต์เราเป็นมังสวิรัต แต่โฮสต์แด๊ดจะกินเนื้อนิดหน่อย แต่ส่วนมากจะเน้นทานผักกับธัญพืช ถ้าเราอยากกินเนื้อสัตว์เราก็สามารถทำกินเองได้เลย โฮสต์จะพาเราไปซื้อวัตถุดิบค่ะ อาหารส่วนมากที่ทานในบ้าน จะเป็นพวกแป้ง ผัก ชีส ซะมากกว่า พยายามปรับตัวอยู่กับเขาให้ได้ ลองเปิดใจรับสิ่งใหม่ๆดู ทานอาหารแบบใหม่ ก็อร่อยดีนะคะ แรกๆจะทานน้อยมากจนน้ำหนักลดเพราะไม่อร่อยเลย5555555 แต่อยู่ๆไปพอชินกับรสชาติอาหารแล้ว ก็ทานเยอะขึ้นเรื่อยๆจนน้ำหนักขึ้นเลยจ้า
-บ้านโฮสต์เราจะไม่ค่อยใหญ่มากค่ะ มี 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ มีบริเวณนั่งเล่น ครัว และโต๊ะกินข้าว แต่มีบริเวณกว้างมากๆค่ะ มีทะเลสาบอยู่หลังบ้าน รอบๆบ้านจะมีเพื่อนบ้าน 5-6หลัง อยู่กันเงียบสงบมากๆค่ะ มีโรงจอดรถอยู่ด้านนอก มีตู้เย็นเอาไว้เก็บอาหารทะเลที่โฮสต์แด๊ดเราไปตกปลามากับเพื่อนๆ เช่น ปลาแซลม่อน ปลา Halibut เรียกได้ว่าตกปลาครั้งเดียว แล้วน้ำมาแพ็คใส่ตู้เย็น กินได้นานเป็นปีเลยค่ะ ที่สำคัญตู้เย็นนี้จะต้องมีที่ล็อคค่ะ เรานึกว่ากันขโมย แต่เปล่าเลย กันหมีมาเปิดตู้เย็นค่ะ!55555555 อลาสกามักจะมีหมีอาศัยอยู่ทั่วค่ะ วันดีคืนดีอาจมาเปิดตู้เย็นขโมยปลาเราได้
-โฮสต์เราจะมีกิจกรรมทำด้วยกันบ่อยค่ะ ไปงานแฟร์ ทำอาหารเย็นด้วยกัน พาสุนัขไปเดินเล่น ดูหนังทั้งที่บ้านและที่เธียเตอร์หรือ การพายเรือcanoeในทะเลสาบหลังบ้าน ซึ่งเป็นกิจกรรมที่พิเศษมากๆๆๆ วิวสวย อากาศเย็นสบาย น้ำใสมองเห็นปลาเลยค่ะ แถมยังมีตัวBeaverอาศัยอยู่ในทะเลสาบหลังบ้านเราด้วย ในช่วงหน้าหนาวน้ำในทะเลสาบหลังบ้านจะเกาะตัวเป็นน้ำแข็ง เราจึงมีโอกาสไปเล่น ice skate กับเพื่อนๆค่ะ
-อยู่กับโฮสต์เรามีห้องส่วนตัว บ้านเราถือว่าไม่เข้มงวดเท่าไร ไม่จำกัดเวลาเล่นเน็ตหรือเวลานอน เราแบ่งเวลาจัดสรรเวลาเอาเองค่ะ แต่ต้องทำการบ้านให้ครบตามที่ครูสั่ง เพราะโฮสต์ค่อนข้างเข้มงวดเรื่องการเรียน แต่เราก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรมาก เพราะเราไม่ได้ใช้เกรดอยู่แล้ว บางงานเราก็ไม่ทำค่ะเพราะมันเยอะเกินไป และไมไ่ด้บอกโฮสต์ด้วย5555
-มาพูดถึงสุนัขบ้างนะคะ ชื่อ Molly เป็นพันธุ์ Goldendoodle และยังเป็น therapy dog อีกด้วย นั่นหมายความว่า สามารถนำสุนัขตัวนี้เข้าไปในอาคารได้ เช่น ในโรงพยาบาล ในห้าง หรือในร้านอาหาร อย่างถูกต้องตามกฎหมายค่ะ เพราะปกติแล้วสุนัขจะไม่สามารถเข้าอาคารได้ Molly เป็นสุนัขที่เชื่องมาก รู้เรื่องและฉลาดมาก เชื่อฟังคนทุกอย่างเลยค่า เราตอนแรกเป็นคนที่กลัวสุนัข แต่พอมาเจอ Molly แล้วเราก็เปลี่ยนไปเลย กลายเป็นคนรักสุนัขมาก ยิ่งตอนหน้าหนาว มือจะเย็นเราเลยไปกอด Molly เพื่อความอบอุ่นค่ะ <3
กิจกรรมวัน Easterกับโฮสต์
★HIGH SCHOOL★
-เราไป Kenai Central High school เป็นโรงเรียนที่ใหญ่ที่สุดในเมืองแล้วค่ะ มีนร.ประมาณ 500 คน ประกอบไปด้วยชั้น Freshmen, Sophomore, Junior และ Senior ซึ่งป็นชั้น ม.3-ม.6 ค่ะ ถือว่าเป็นโรงเรียนขนาดเล็กตามาตรฐานของอเมริกา โรงเรียนเข้าตั้งแต่ 7.45 และเลิก 14.15 ถือว่าเช้ามาก เพื่อนๆที่นี่ดีมากเลยค่ะ คอยช่วยเราทุกอย่าง คอยพาเราทำกิจกรรม เสาอาทิตย์ก็พาเราไปเที่ยว ส่วนมากคนที่ร.ร.จะรู้จักกันหมด เพราะเป็นเมืองเล็กจึงทำให้คนสนิทกันง่ายค่ะ
-วันแรกที่ไปโรงเรียนนั้นบอกเลยว่า ไม่สนุกเลย!! ทุกคนรู้จักกันมีกลุ่มเป็นของตัวเองอยู่แล้ว แต่เรายังดีที่มีซิสช่วยพาเราแนะนำเพื่อนๆ ห้องเรียน สภาพแวดล้อมภายในโรงเรียน อยู่ๆไปก็ชินค่ะ โดยเราได้เข้าชมรมกีฬา SKI เป็นเวลา 4 เดือน และ Track&Field เป็นเวลา 2 เดือนค่ะ การซ้อมกีฬาและเข้าคลับก็จะเริ่มตั้งแต่ 15.00 น. เป็นต้นไป ระยะเวลาซ้อมต่อวันแล้วแต่ประเภทกีฬาและสภาพอากาศค่ะ อย่างเช่น สกี บางวันถ้าหิมะตกหนักมากๆก็จะงด outdoor practice ไป จะเปลี่ยนเป็น Indoor practice แทนค่ะ ซี่งจะเป็นการซ้อมใน weight room เป็น workout ที่หนักมาก ช่วงแรกๆเราถึงกับปวดเมื่อยไปทั้งตัว เดินขึ้นลงบันไดยากมากเลย พอนานๆไปก็ชินค่ะ กีฬาสนุกดี ทำให้เราได้มีเพื่อนเพิ่ม เพื่อนๆแต่ละคนก็จะคอยเทคแคร์เราอย่างดี จะมีออกทริปไปแข่งต่างเมืองเป็นระยะๆทำให้เราได้ไปเที่ยวต่างเมือง ไปนอนค้างที่อื่นกับเพื่อนๆ เป็นอะไรที่สนุกสุดๆเลยละค่ะ
-ส่วนตัวเราชอบไปโรงเรียนเจอเพื่อนๆมากค่ะ ตอนเลิกเรียนถ้าไม่มีซ้อมกีฬาเราจะไปชายหาดกับเพื่อน ไปร้านอาหารไทย ไปช้อปปิ้งบ้าง หรือบางทีก็ไปแฮงเอ๊าท์ที่บ้านเพื่อนค่ะ เราไปนอนบ้านเพื่อนบ่อยมากๆๆ เคยไปนอนค้าง11คืนติดกับเพื่อน3-4บ้านค่ะ เป็นกิจกรรมปาร์ตีที่จัดติดๆกัน เราค่อนข้างรู้จักเพื่อนเยอะ และบวกกับโฮสต์เราก็ไม่ว่าอะไร เราเลยลุยค่ะ ไปทุกงานที่เพื่อนชวนเลย!
วิวข้างทางตอนนั่งรถโรงเรียนไปแข่งกีฬาที่เมือง Anchorage
--มีต่อในคอมเม้นท์นะคะ--