ตามมา...น้องจะพาไปเที่ยวกุ้ยหลิน

สืบเนื่องมาจากกระทู้เก่าที่เคยเกริ่นไว้ก่อนจบว่า “เฮ้ยจริงๆมันยังไม่จบเว่ย แกคิดว่าฉันอยู่จีนเดือนนึง กุ้ยหลินคือเมืองท่องเที่ยว แกคิดว่าฉันจะนั่งพับเพียบเรียบร้อยอยู่ที่หอหรอ กระทู้หน้าพาเที่ยวรัวๆ บอกเลยกุ้ยหลินไม่ได้มีแค่ป่า,เขา,แม่น้ำ”
(http://ppantip.com/topic/34702706 "แชร์ประสบการเรียนภาษาจีนที่กุ้ยหลิน 1 เดือน [กระทู้ช่วยประกอบการตัดสินใจ]")

วันนี้จะมาเล่าในส่วนของการเที่ยวล้วนๆไม่มีเรียนผสม เริ่ม

อธิบายก่อนว่ามหาลัยที่เราเรียนไม่ได้อยู่ในตัวเมือง แต่ก็ไม่ได้ไกลมาก ตั้งอยู่ริมถนนสายท่องเที่ยว คือในระแวกนั้นถ้าจะไปเที่ยวที่นี่ก็ต้องใช้ถนนเส้นนี้ซึ่งจะผ่านมหาลัย ถ้าจะไปที่โน่นก็ต้องใช้ถนนเส้นนี้ซึ่งก็จะผ่านมหาลัย ฉะนั้นในเมื่อฉันเป็นจุดศูนย์กลางของการท่องเที่ยวมีหรือฉันจะไม่เที่ยว
ไปกุ้ยหลินครั้งนี้ไปกับอาจารย์ประจำสาขาท่องเที่ยวและนางเคยไปมาแล้วถึง 3 ครั้ง (ครั้งนี้เป็นครั้งที่4) แน่นอนว่าแน่นมากในเรื่องของความรู้เกี่ยวกับกุ้ยหลินและสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ยังไม่เข้าเรื่องอีก 5555 สักทีเถอะเนอะ



First destination ช็อปปิ้งขำๆท้าลมหนาวที่จงซิน

    จงซินไปอย่างไร ในมอจะมีป้ายรถเมล์ที่มีรถเมล์ขับเข้ามารับถึงที่ และประจวบเหมาะที่ป้ายรถเมล์อยู่หน้าหอเราพอดี นั่งรถเมล์ สาย  5 ก่อนขึ้นต้องถามก่อนด้วยเข้าเมืองไหม เพราะจะมีสายที่ไปอีกทาง ถ้าคุณลุงคนขับสุดหล่อบอกว่าเข้าก็รีบกระโดดขึ้นเลย
Tips ก่อนขึ้นรถเมล์ที่จีนควรเตรียมเงินไว้เลยประมาน 2 หยวน ราคานี้ตลอดสาบ บางสาย แค่ 1 หยวน เคยมีครั้งนึงไม่ได้เตรียมแล้วหยอดแบงค์ 10 หยวนไป นางไม่ทอนจ่ะ เลยบอกว่าจ่ายสำหรับ 5 คน ปรากฏว่าเพื่อนก็ดันหยอดไปแล้ว ถือเป็นค่าที่ไม่เตรียมพร้อม



ขึ้นรถมาแล้วก็นั่งไปเรื่อยๆ เรื่อยๆเลย แต่ส่วนมากไม่เคยได้นั่ง ก็นั่นแหละ ยืน ! ยืนไปเรื่อยๆ เอ่อ ลืมบอกรถเมล์ที่จีนมีแบบสองชั้นด้วยนะ มีเยอะด้วย ยืนไปได้สักพักเริ่มเห็นความเจริญ ก็แปลว่าครึ่งทางแล้ว ยืนไปอีกแปป ถึงสถานีรถไฟ เตรียมมมตัวลงได้ เพราะอีก 2 สถานีก็จะถึงจุดหมายกันแล้ว ถึงแล้วก็เอาเลยค่ะ ตัวใครตัวมัน มีเงินให้ถลุงเท่าไหร่เอาเลยค่ะ เต็มที่





จงซินคือเมืองของกุ้ยหลินค่อนข้างกว้างใหญ่ มีแหล่งช็อปปิ้งมากมาย มากจนเฮ้ยยย เดินที่ไหนดี ก็เดินๆดูร้านนู้นร้านนี้ไปเรื่อยๆ พบได้ว่า ของแพงมากกกกกกกกกก (ตามห้าง,ตามช็อปต่างๆ) อาจารย์บอกว่าเดี่ยวพาไปแหล่งของถูก ค่อยโล่งใจว่าฉันจะได้มีโอกาสซื้อของบ้าง 55555 (อีสามเหลี่ยมข้างหลังคือทางลงไปแหล่งช็อปใต้ดิน)
แหล่งของถูกที่ว่าคือออ เรียกอะไรไม่รู้แต่มันอยู่ใต้ดินก็เลยเรียกใต้ดินนั่นแหละ คือถูกก็ไม่ได้ถูกเลยแบบซื้อได้เลย ต้องมีต่อกันบ้าง แต่อยู่ในระดับที่ซื้อได้แบบไม่หมดตัว บรรดาของปลอมทั้งหลาย เสื้อผ้า จะเน้นไปที่เสื้อหนาๆ กันหนาว คงเพราะเป็นหน้าหนาว จะขายคล้ายๆกัน คือเหมือนกันเลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะเสื้อผ้าผู้ชายของให้เลือกน้อยมาก คือมีหลายร้านนะเสื้อผ้าผู้ชาย แต่ทุกๆร้านจะเหมือนกัน อาจจะต่างกันที่ราคาบ้างนิดหน่อยแต่ต่อๆเอาก็ได้ถ้าขี้เกียจเดิน







เดินไปเดินมา ขึ้นมาอีกทีอ่าว มืดแล้ว เดินต่ออีกหน่อยเจอแบบนี้





อันนี้เมนูสุดฮิตของที่นี่คือใครมาต้องซื้อกิน 6 ไม้ 10 หยวน ถามว่าอร่อยไหม เหนียวติดเหงือกมากค่ะคุณกิตติคะ



หลังจากที่เดินกันจนเมื่อยแล้วนั่น เราทั้งหมดก็หอบของพะลุงพลังขึ้นรถเมล์เล็กสีเขียวกลับมหาลัยกัน
ปล.ค่ารถขากลับจะ 7 หยวน ไม่รู้ทำไมแพงกว่ามาขนาดนั้นทั้งๆที่รถก็เน่ากว่ามาก



Next Destination ช้างๆๆๆๆ น้องเคยเห็นช้างหรือเปล่า น้องอยากเห็นช้างจีนไปดูช้างจีนกันเถอะ

    สถานที่อีกหนึ่งสถานที่อันเลื่องชื่อของกุ้ยหลินคงหนีไม่พ้นเขางวงช้าง อาจารย์สุดเปรี้ยวนางไม่ปล่อยให้พวกเราพลาดกันแน่ๆ โกค่ะ
เขางวงช้างเอาจริงๆก็อยู่ในจงซินนั่นแหละ เหมือนจะอยู่ด้านหลังของจงซิน แต่ไปเขางวงช้างครั้งนี้เราไม่ได้นั่งรถเมล์กันแล้ว อาจารย์เช่ารถที่คล้ายๆพวกฟอร์จูนเนอร์ แต่เก่าๆกว่านั้นนั่งได้ประมาน 7 คนเบียดไม่ได้ โดนจับ เหมาคันมาเลย 3 คัน (รถพวกนี้บางทีรับลูกค้าริมทางด้วย เหมือนเป็นรถตู้บ้านเรา) และก็มาถึงเขางวงช้าง



ค่าเข้าชมคนล่ะ 75 หยวน ที่จีนแปลกอยู่อย่างนึงคือถ้าเป็นคนจีนแต่ไม่ได้อยู่ในเมืองของสถานที่ท่องเที่ยวๆ(ที่ต้องเสียค่าเข้า)นั้นๆ ก็จะเสียเงินค่าเข้าราคาปกติ เท่าๆกับเรา “อยู่” นี่คือเกิดที่นี่มีทะเบียนบ้านที่นี่ เช่นเขางวงช้างที่กุ้ยหลิน ถ้าคนจีนที่เกิดเมืองอื่นมาก็ต้องเสียค่าเข้า 75 หยวนเท่ากัน เฮ้ยยย คืองงมาก ทำไมไม่รักกัน คนชาติเดียวกัน ฟรีสิฟรี



พอเข้ามาแล้วก็จะเจอกับจุดถ่ายรูปมากมาย อ่ะ!! เริ่มค่ะ 75 หยวน หรือ ราวๆ 400 บาทไทย ต้องคุ้มที่สุด ข้างในมีสวนดอกไม้ ต้นไม้ใบหญ้า และหินแกะสลัก ที่เป็นรูปช้าง





เมื่อผ่านช่วงนี้ไปก็เป็นช่วงแห่งความยากลำบากคือต้องเดินขึ้นเขาอ้อมไปลงอีกฝั่งนึง ทางเล็ก สูงชัน เป็นบันไดหินมีความชื้นถึงขั้นมีน้ำพอสมควรในบางช่วง ตอนนั้นคิดถึงเดินขึ้นเคาคิชกูดค่ะ ตอนไปคุณแม่ คุณแม่ให้ท่องว่า “ไม่ปวด ไม่เมื่อย ไม่หิว” ประโยคนั้นกลับเข้ามาในหัว ท่องในใจไม่กล้าพูดดัง 5555 จนเดินไปถึงจุดนึงของการชมแวะชมวิว เฮ้ยยยยยย สวยอ่ะ เห็นแม่น้ำ เห็นเมือง เห็นฝายกั้นน้ำ เออๆ เริ่มรู้สึกไม่ค่อยเหนื่อยละ ถ่ายแปปนึง พักเหนื่อยแปปนึง เดินกันต่อ เดินขึ้นไปอีกนิดก็สุดทางเขา เลี้ยวไปอีกฝั่งที่จะเป็นทางลง









พอลงมา ก็จะมีเหมือนเป็นอะไรเก่าๆ ของจีน สถาปัตยกรรม คำนี้ใหญ่ไปไหม แต่เป็นเหมือนของแต่งหรืออะไรไม่แน่ใจ ของจีนอยู่ เอาไว้ถ่ายรูป หวานๆ







พอเดินออก อาจารย์สุดรักอุทานขึ้นเสียงดังว่า “อ๋อออ !! อีที่เราขึ้นกันลืมไปว่ามันไม่มีอะไร ครูลืม ครูขอโทษ 5555555”
คือตอนนั้นที่ขึ้นไปเพราะคิดว่าเขางวงช้างต้องเดินผ่านไปทางนี้เลยขึ้นไป คือบับ ความรู้สึกตอนนั้น เหมือนหมดกำลังจะหายใจ ขามันหมดแรงเดิน ไม่มีเรี่ยวแรงจะทำอะไรต่อ คือแบบเหนื่อยเลย 5555555 แต่คิดอีกทีก็สวยแหละ อื้ม คุ้มแหละ  75 หยวนเดี่ยวไม่คุ้ม 55555555 (ปลอบใจตัวเอง) ลงจากเขาก็เดินไปอีกทางเพื่อไปดูเขางวงช้าง พอไปถึงแล้วก็ตื่นเต้นประมาน 5 นาที ถ่ายรูป ละก็นั่งอาบแดด รอแก๊งเพื่อนสาวที่กรี๊ดกร๊าดกับการใส่เสื้อผ้าท้องถิ่นถ่ายรูปคู่กับเขา(ต้องนั่งรอดูเธอถ่ายรูปคู่กับเขาช้ำใจเหมือนกันนะ (เดี่ยวๆไม่ใช่ๆ 55555)) (เขาที่ขึ้นไปตอนแรกเนี้ยแหละ คือเขางวงช้าง เห้อออ)









อาจารย์ก็มีเรียกถ่ายรูปรวมเป็นระยะๆ เราก็ถ่ายเอง เดินดูนู่นนี่นั่นไป แล้วก็ ออก !!! (เฮ้ยยย แค่นี้หรอ แอบเสียดายเงิน) จากนั้นก็นั่งรถเมล์ต่อไป ไปหาไรกินที่ห้างค่ะ

มาถึงห้างที่ชื่อ Walmart เป็นห้างที่คล้ายๆ Big C ,Lotus บ้านเรา คือจะขายประมานั้น เดินดูของเล่นๆบางอยากถูก บางอย่างแพง อันไหนแพงก็ไม่ซื้อ เจอ     ZA True white Essence Lotion ที่ไทยซื้อ Eve And Boy ราคา 315 บาท ซื้อที่จีน เกือบ 1000 บาท ปลอมหรือเปล่าก็ไม่รู้ ช็อคมาก กลัว
Walmart นี่ไม่มีรูปนะ โซ ซอรี่ มัวแต่หิว มัวแต่เลือกของก็เลยลืมสนิดเลย แหะๆ

เสร็จจาก Walmart วันนั้นด้วยความที่เราและเพื่อนๆกลุ่มหนึ่งอยากไปเที่ยวผับจีนมากกกกกกกกกก ก็เลยบอกให้อาจารย์พาไป อาจารย์ก็ตกลงพาไปโดยที่บอกกับเพื่อนอาจารย์ที่เป็นคนจีนไว้ให้จองโต๊ะอะไรให้เรียบร้อย (คือสำหรับบางคนอาจจะรู้สึกแปลกๆอาจารย์พานักศึกษาไปเที่ยวกลางคืนคือทุกคนที่ไปอายุผ่านเกณฑ์กันหมดแล้ว และพวกเราเป็นคนขอร้องอ้อนวอนให้อาจารย์พาไปเอง) สำหรับบางคนที่ไม่ได้ไปก็นั่งรถกลับหอพักผ่อน แล้วก็ฝากของที่ซื้อมาไปกับพวกนั้นจะได้เต้นสบายๆ
ผับวันนั้นที่ไปค่อนข้างหรู ดูแพง และก็มีแต่ผู้ใหญ่ (ก็ให้ผู้ใหญ่จอง) เปิดเพลง จีน สลับ เพลงสากล มีแดนซ์ฟอลตรงกลาง(ที่ไม่มีใครเต้นเลยยยยยยยย(อ.ฝรั่งบอกว่าคนจีนขี้อายถ้ายูอยากเต้นที่แดนซ์ฟอลเดินไปเปิดได้เลย))





จากนั้นก็ on the floor บ้าง ขึ้นโซฟาบ้าง ขึ้นโต๊ะบ้าง ในส่วนของค่าใช้จ่าย อันนี้ไม่แน่ใจว่าถ้าไปโต๊ะเล็กๆเสียเท่าไหร่ แต่วันนั้นเสียไปกันคนละ 100 หยวน ได้เบียร์เยอะพอสมควร ผลไม้ ขนม กับค็อคเทล ถือว่าไม่แพงมากเมื่อดูจากสถานที่และการบริการ ลืมบอกว่าผับนี้อยู่ที่จงซิน

ตัวหนังสือเกินต่อข้างล่าง

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่