ศีลไม่เอา อริยสัจไม่ต้องเห็น ฉันใจปราศจากความตระหนี่อย่างเดียว แต่พระพุทธพระธรรมพระสงฆ์ต้องมั่นคงเป๊ะ อ่ะ "โสดาบัน" ?!?!

ได้ฟังคลิป บรรยายจากพระคึกฤทธิ์ อธิบายคุณสมบัติการเป็นพระโสดาบัน ว่า แม้ศีลไม่ครบ ก็สามารถเจริญคุณธรรมประการอื่นทดแทนได้ ตามคลิปที่แนบมานี้
รบกวนถามเพื่อนสมาชิก ว่า นี่คือคำสอนพระพุทธเจ้าใช่หรือไม่?
จขกท ได้ถอดคลิปการบรรยาย (ในความเห็นที่ ๑)  แต่ไม่ทราบว่าจะขีดเส้น ข้อความที่มีปัญหาตรงไหนดี  รบกวนท่านผู้รู้ ถ้าจะกรุณาช่วยแยกเป็นข้อๆ ได้ก็จะขอบพระคุณ ถือว่าเป็นการช่วยแสดงพระธรรมของพระผู้มีพระภาคเจ้า แก้ไขจากผิดเป็นถูก เพื่อให้ สาธุชนผู้สนใจได้เข้าใจพระธรรมที่จริงแท้ ถูกต้องตามพุทธวจนะในพระไตรปิฏกด้วย

พุทธวจน-โสดาบันเป็นไม่ยาก มี 50 กว่านัยยะ ทางไหนที่ง่ายกับเรา ทำเลย
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

พุทธวจน-โสดาบันเป็นไม่ยาก มี 50 กว่านัยยะ ทางไหนที่ง่ายกับเรา ทำเลย
https://www.youtube.com/watch?v=A95SDmgBv-M
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
สนทนาธรรมเช้าวันพฤหัส ที่ ๒๓ มิย ๒๕๕๙

อ่านพระสูตรไปเรื่อยๆ เลยโยมเดี๋ยวเข้าใจแตกฉานเองน่ะ อ่านซ้ำๆ อ่านทวน อ่านซ้ำ มันอยู่นั่นแหละ แค่เล่มเล็ก ๑๔ เล่ม เหลือเฟือต่อการเข้าวิมุตติ จะทำเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ  ทีมหมู่คณะอาสาสมัครก็เก็บประเด็นขึ้นมาเรื่อยๆ  จะทำประเด็นอะไรดี

(0:55) อาตมาก็เป็นประเด็นสำคัญต่างๆ เรื่องของโสดาบัน อริยบุคคล กับปุถุชนเนี่ย มีเกณฑ์วัดกันที่ไหน ต้องชัด มรรควิธี อะไร อานาปา อานาปาทำยังไงบ้าง รวมมา ๓๐ กว่าพระสูตร ทั้งชีวิตพระพุทธเจ้าพูดแค่นี้น่ะ จบละ วนอ่านมันอยู่ในนี้ ไม่เกินนี้แน่นอน โสดาบันก็วนอ่านอยู่นี้ ๕๐ กว่านัยยะ โยมจำได้หมดนี่ก็สบายละ มีข้อเดียวก็ได้ละ นัยยะเดียว โยมอ่านเลย ๕๐ กว่านัยยะ อันไหนง่ายสำหรับฉันน่ะ เอาเลย  อันนี้ง่าย ฉันขอฟันธงอันนี้ อันอื่นไม่เอา  ใช่มะ


(1:40) มั่นคงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ นะ มีใจปราศจากตระหนี่อันเป็นมลทิน อันนี้ง่ายมะ ก็ง่ายเหมือนกันนะ ศีลไม่เอา อริยสัจไม่ต้องเห็น ฉันใจปราศจากความตระหนี่อย่างเดียว แต่พระพุทธพระธรรมพระสงฆ์ต้องมั่นคงเป๊ะ อ่ะ โสดาบัน ใช่มั้ย ถ้าใจปราศจากความตระหนี่ไม่มี ต้องอะไร ศีล ๕ บริบูรณ์ ถ้าศีล ๕ ไม่บริบูรณ์ใจยังไม่ปราศจากความตระหนี่ ต้องอะไร ต้องเห็นอริยสัจ เห็นการเกิดการดับ สมุทัยกับนิโรธ บวกกับ มั่นคงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ อย่างไม่หวั่นไหว  โสดาบัน เห็นมั้ย


(2:25) ดูนะพระพุทธเจ้าคงอะไรไว้ ดึงอะไรออก แล้วหยิบอะไรมาใส่แทน งั้นถ้าท่านจะคงตัวนี้ไว้ มั่นคงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์นี้ คงไว้ ที่เป็นพื้นฐานที่โยมพลาดไม่ได้ ถึงแม้โยมจะมีศีล ๕ บริบูรณ์นะ แต่ไม่มั่นคงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์นะ ไม่ไช่โสดาบันนะ โยมยังไปนรกได้ นะ  นี่เข้าใจตรงนี้ดีๆ ทีนี้ โยมมั่นคงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ปั๊วะ เนี่ย เหลืออีกข้อเดียว ข้อนั้นมีอะไร คือ ศีล ๕ บริบูรณ์ ได้ไปละ ศีล ๕ ยังพร่อง ใจปราศจากความตระหนี่อันเป็นมลทิล มีจาคะ อันปล่อยแล้ว มีฝ่ามือชุ่มด้วยการให้ เป็นผู้ควรแก่การขอ ยินดีในการเสียสละ จำแนกทานอยู่ครองเรือน อ่ะ ได้ไปละ โสดาบัน ถ้าตรงนี้ไม่มี ตรงนั้นไม่มี ต้องเห็นอริยสัจ เห็นเกิดดับ  เรียกว่าเป็นธรรมญาณ  ญาณในธรรม ที่ทำให้ปุถุชน ก้าวขึ้นมาเป็นอริยะ  


(3:30) สรรพสิ่งในโลกเนี่ย รูปนามทั้งหลาย เกิดดับหมด ไม่มีอะไรเที่ยงแท้ถาวร มีความเชื่อ น้อมจิตไป เชื่อมั่นมั่นคง อย่างนี้ โสดาบัน อึม  หรือศีล ๕ ยังไม่ดีเป็นบางข้อ ก็เอาอย่างอื่นไปทดแทน เช่น ข้อ ๕ ยังไม่ดี สุรา พระศาสดาก็บอก ถ้างั้น ทำ๓ ข้อแรกให้ดี แล้วเอาสัมมาวาจา ๔ ข้อไปทำ และมั่นคงในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ คนนั้น คือ โสดาบัน เห็นมั้ย  โยมขาด คุณธรรมข้อนี้ เอาคุณธรรมอีกข้อไปแทน ขาดคุณธรรมข้อนี้ เอาคุณธรรมข้อนี้ไปแทน เดินไปตามเส้นทางนี่ ทางนี้ตัน เลี้ยว ทางนี้ตัน เลี้ยว พระพุทธเจ้ามีบอกไว้หมดเลยว่าโยมจะเลี้ยวไปทางไหน จะทำยังไง ดังนั้นการจะเลี้ยวจะหลีก เลี้ยวลดหย่อนต้องเป็นไปตามแบบพระศาสดา บางทีโยมบอก สัมมาวาจาแทนสุราง่าย  ลองปฏิบัติดูสิ  ไม่ง่าย   ไม่พูดโกหก ไม่พูดยุยงให้เค้าแตกกัน ไม่พูดคำหยาบ ไม่พูดเพ้อเจ้อ มาแทนการกินเหล้านะ ไม่ง่ายนะ เพราะขนาดไม่กินก็ยังเพ้อเจ้อ พูดเล่น พูดอะไร แล้วกินเหล้าจะเหลือมั้ยเนี่ย  ดังนั้น สัมมาวาจานี้ตัวยาก องค์คุณที่พระพุทธเจ้ามาแทนนี้ เราคิดว่าง่าย ไม่ง่าย  ก็ต้องไปลองดู แต่เวลาเราได้เกณฑ์พระพุทธเจ้าบัญญัติปุ๊บ  เราจะภูมิใจว่า เอ๊ เรามีข้อปฏิบัติไม่ผิด  ใครจะพูดว่าไงไม่สนใจ ฉันจะฟังพระพุทธเจ้าคนเดียว เพราะคุณไม่ใช่คนบัญญัติ คุณรู้ได้ไง โสดาบันเป็นยังไง เอาตัวคุณให้รอดก่อนเหอะ ใช่มะ  พระพุทธเจ้านี่รอดแล้ว บัญญัติออกมาหมดเลย โสดาบันเป็นยังไง สกทาคามีเป็นยังไง อนาคามี อรหันต์ เป็นยังไง คุณรู้เหรอ มาเที่ยวบัญญัติ ไม่รู้  งั้นเราเอาหูไปฟังทำไม ปุถุชน อย่าฟัง พระพุทธเจ้าจึงบอก เอาหูฟังเฉพาะตถาคต สุตตันตะที่เป็นคำของตถาคตนี่ ต้องฟัง ด้วยดี ต้องเงี่ยหูฟัง ต้องตั้งจิตเพื่อจะรู้ทั่วถึง ต้องสำคัญว่าเป็นสิ่งที่ตนควรศึกษาเล่าเรียนนะ อึม


(6:00) มีพระสูตรอีก  พระพุทธเจ้าบอก ใครจะศึกษา หรือไม่ศึกษาก็ตาม แต่เราจะศึกษา เหตุในการได้ปัญญา นี่ พระพุทธเจ้าตรัสไว้ ภิกขุเหล่าอื่นจะศึกษาหรือไม่ศึกษาก็ตาม แต่เราจะศึกษา อย่างนี้ เพราะการศึกษาไม่จำเป็นต้องเยอะนี่ ไม่เหมือนเราเรียน จนจบตรี จบเอก อย่างนี้ ตำราเยอะแยะ  พระพุทธเจ้าขอพระสูตรเดียว อิทัปปจยตาก็ได้ ตั้งแจกไว้ตรงนี้ กระดาษ A4  แผ่นเดียว โยมแม่นเปี๊ยะ หน้าเดียว เหลือเฟือ รับรองว่าตายแล้วศพสวยผิวผ่องแน่นอน นะ  (หัวเราะ)


(6:55)บอกญาติ ถ่ายรูปไว้เลย  รับรองว่าสีคนละผิวแน่ (หัวเราะ) ไม่น่าเชื่อนะ ไม่น่าเชื่อ  สงบ ตายเมื่อไร ญาติไม่รู้เลย  เพราะนิ่งมาก นิ่งสนิทเลย ต้องดูจากเครื่องน่ะ เครื่องมันหยุดวัดละ เส้นมันตรงหมดละ  แล้วศพเมื่อไม่กี่อาทิตย์เห็นมะ ขนาด ท่องพระสูตร  อ่านพระสูตร ไปเรื่อยๆ นะ  ตายแล้วนะ เครื่องหยุดทำงานหมดแล้วนะ พ่อก็สงสารลูกอ่านพระสูตรให้ลูกฟังอีกชั่วโมงนึง ลูกน้ำตาไหล  อึม.. ตายไปแล้วหนึ่งชั่วโมงยังน้ำตาไหลได้นะ  เค้ายังนึกว่าลูกเค้าจะฟื้น ไปเรียกหมอมา หมอบอกไม่ฟื้นละ  แต่นั่นคือเรียกชีวิตยังไม่แตกทำลาย กายฟัง ชีวิตยังไม่พัง ยังฟังได้ ช่วงนี้ ภาษาอะไรก็ฟังเข้าใจหมด  เพราะว่า ที่ลองมาแล้วจากชาวเยอรมัน ชาวเยอรมันไม่รู้ภาษาไทยหรอก ฟังแผ่นอานาปา ภาษาไทย  ศพผิวผ่องเหมือนกัน  ได้ผลอีก  


(8:25) พระพุทธเจ้าเนี่ย สุดยอดอยู่ละ รู้เลยช่วงคนตายเราจะรู้ได้ไงว่า ภาษาอะไรก็ได้ มันรู้หมดน่ะ เหมือนเทวดา มีมั้ยละ ภาษาไทย ภาษาเยอรมัน ไม่มีหรอก เทวดาคุยรู้เรื่องหมดล่ะ ภาษาใจรู้เรื่องหมดล่ะ ถึงจังหวะนึงมันเข้าถึงหมด นะ เข้าถึงระบบภาษาหมด ไม่ต้องสนใจ ดังนั้น พระพุทธเจ้าบอกให้ฟัง ก็ฟังไปเถอะ ก่อนตาย อย่าไปปิดกั้นคนจะตาย โยมต้องวัดตรรกะให้เป็น ถ้าคำพระพุทธเจ้าไม่ได้ประโยชน์ อย่างน้อยก็เท่าทุน ไม่เป็นไรนี่ไม่เสียหาย แต่ถ้าคำพระพุทธเจ้าให้ผลจริงล่ะ ใช่ม้า  ถ้าเค้าได้ฟังเค้าก็ละสังโยชน์ ๕ ได้ ปรินิพพานในอนาคต แต่ถ้าเค้าไม่ได้ฟัง เค้าไปนรก กำเนิดเดรัจฉาน เปรตวิสัย ผลเสียเกิดทันทีเลย แล้วโยมมาเอาใจตัวเอง ความเห็นตัวเองตัดสิน ว่าเอ๊ย ไม่ได้ผลหรอกคำพระพุทธเจ้า โอ้โห มันเห็นแก่ตัวเกินไปนะ อึม ใจร้ายกับผู้จะตายเกินไปนิดนึง เพราะเค้าไม่ได้เสียประโยชน์อะไร การฟังคำพระพุทธเจ้าไม่เสียประโยชน์อะไร คนเจ็บสมองตายก็อย่าคิดว่าเค้าจะไม่รู้เรื่อง เปิดไป  แพทย์จะบอกสมองตาย เป็นอัลไซเมอร์  ไม่รู้เรื่องแล้ว หยุดการทำงานแล้ว ไม่ต้องสนใจ เปิดไป แล้วโยมมาดูผลตอนศพ แล้วกัน จะไม่เหมือนศพทั่วไป  เห็นมั้ย นั่นล่ะ มันจะเป็นเครื่องวัดว่าได้ผล

จบการบรรยาย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่