การเดินทางที่รอคอยกันมาเกือบ 9 เดือนหลังจากได้ตั๋วโปร 0 บาทจากแอร์เอเชียร์ ไปกลับ 2450 บาทต่อคน กรุงเทพ - คุนหมิง แชงกรีล่าจากหนังสืนวนิยาย lost horizon ของ James hilton ตั้งแต่ปี 1931 ก็จะอยู่แค่เอื้อม (ตอนแรกไปหาฉบับภาษาไทยแต่หาซื้อไม่ได้ก็ทนอ่านภาษาอังกฤษไป T^T) ขึ้นเครื่องจากดอนเมือง สองชั่วโมงนิดๆ ถึงคุนหมิง ทริปนี้ไปกัน 6 คืน 7 วัน
ถึงที่หมายแอร์น่ารักมาก แนะนำวิธีการเที่ยวให้นิดหน่อย เช่นการนั่งแท็กซี่ ที่นี่รถแท็กซี่นั่งได้ไม่เกินสามคนกระเป๋าไม่เกินคนละใบถ้ากระเป๋าเพิ่มชาร์จเงิน พี่แอร์เลยบอกว่าให้นั่งรถแท็กซี่พี่ไป ให้เหมา เราเลยเรียกจากสนามบินไปยังท่ารถ kunming west bust station ในราคา 200 หยวน ตกคนละ 40 หยวนเพราะมาห้าคน แต่อีกวิธีที่เจอคือออกประตู 3 หรือ 4 มีรถบัสคนละ 25 หยวน แต่ไม่แน่ใจว่าสายไหนเลยไม่อยากเสี่ยงเหมารถเลยดีกว่า
**สิ่งที่ห้ามลืมสำหรับคนที่ไม่สามารถพูดภาษาจีนได้เลยอย่างพวกเรา apps แปลภาษาค่ะ คล้ายๆ วุ้นแปลภาษาของโดเรม่อนเลยค่ะ มีประโชน์มากถึงมากที่สุด app ทุกอย่างในโลกโหลดไปเลย เผื่อๆ ไป waygo และ itranslate คือ app แนะนำ**
ถึงสถานีรถก็จองตั๋วรอบ 1 ทุ่ม และก็ออกไปร่อนๆ กันพอเป็นพิธี แต่บอกตรงๆ เฉยๆ กับคุนหมค่ะ แต่การตามหาซิมมือถือนี่คือยากมากๆ ไม่ได้ดูจากสนามบินมา ลำบากเสียเวลาเพราะระบบ prepaid ของที่นี่ยังไม่ดี เสียใจที่ไม่ได้ตัดสินใจซื้อซิม 2 fly มา เพราะมีเพื่อนคนนึงซื้อมาใช้และใช้งานได้ด้วยโดยไม่ต้องใช้ app ไรเลย อ่อ อย่าลืมโหลด app VPN ด้วยนะคะเพราะจีนบล็อกเยอะมาก ของเราเล่นไรไม่ได้เลยแม้จะมี app ก็ตาม แง้ๆ
มีแวะจอดที่แรกร้านดีงามค่ะ แต่พอตีหนึ่งอยู่ดีๆ รถก็จอดดื้อๆ เลยค่ะ และมีห้องน้ำแบบหาคำบรรยายไม่ได้ข้างทางให้เราเข้า (ต้องทำใจจริงๆ ค่ะเรื่องห้องน้ำประเทศนี้) ร้องไห้อีกแล้วววว #/$=%÷^%@&&#€ เค้าจะจอดนอนประมาณสองชั่วโมงครึ่งและออกรถอีกครั้ง แนะนำพอหกโมงครึ่งให้ตื่นเพราะวิวข้างทางจะทำให้ให้หัวใจเต้นแรงขึ้นค่ะ
ถึงท่ารถเรียกคนขับรถข้างหน้าได้เลยเราเรียกไปโรงแรมเราที่อยู่ใน old town แค่ 20 หยวน ถ้าแพงกว่านี้เรียกคันอื่นเลย
โรงแรมจองจาก booking.com ชื่อโรงแรม เลี้ยวขวาเดินไปหน่อยก็เป็นร้านเต็มไปหมด เลี้ยวออกซ้ายเดินสุดปากซอยเลี้ยวซ้ายอีกทีมีร้านทัวร์ แนะนำให้ใช้บริการเค้าค่ะราคาดีและคุยกับเราด้วย app รู้เรื่อง
ส่วนร้านอาหารก็อร่อยมากๆ คือเลยร้านทัวร์ไปประมาณ 20 เมตร ร้านที่สอง คือเราไปกินกันสามมื้อเลย อร่อยและบริการดี
ถึงโรงแรมก็เก็บกระเป๋าเตรียมตัว โรงแรมหาคนขับรถให้และก็ค่าขึ้นเคเบิ้ลคาร์ที่ blue moon valley หรือหุบเขาพระจันทร์สีน้ำเงิน 220 หยวน (ออกเสียงคว่าน) ค่าเข้าวัดโปตาลาน้อยอีก 110 หยวน ค่าคนขับรถ 60 หยวน คือเจอวันแรกก็แอบงิดเพราะแพง แต่เอาวะและกับสิ่งที่จะได้รับคุ้มเกินคุ้ม
สวยงามมากๆ ชอบบรรยากาศเมืองของแชงกรีล่าสุดๆๆๆ สวย เรียบง่าย มีพลัง กลับจากสองที่ก็มาเดินเล่นใน old town แถวๆ นั้นก็จะมีอีกวัดที่เข้าฟรีและควรแวะอย่างมาก
blue moon valley หรือหุบเขาพระจันทร์สีน้ำเงิน
วัดโปตาลาน้อย พูดว่า "โปตาลา" คนที่นี่เค้าก็เข้าใจนะคะ
วันที่สองเราติดต่อรถที่บริษัททัวร์ที่แนะยำไปตอนแรกเพื่อนจะไป tiger leaping George เพราะมันเป็นครึ่งทางของการไปเมืองลี่เจียง แต่ยังถือว่าเป็นส่วนของแชงกรีล่าอยู่ 5 คนเค้าคิด 700 หยวนรวมรถและคนขับไปส่งถึงโรงแรมในลี่เจียง ค่าเข้าคนละ 60 หยวนตะหาก (รถทัวร์อาจจะถูกกว่านิดหน่อยแต่อันนี้สะดวกค่ะเหมาไปเลยมีคนพาเที่ยว)
ออกจากตัวเมืองแชงรู้สึกหัวใจสลายเบาๆ มันดีงามจริงๆ ชอบมาก และความสวยไม่หใดแค่นั้นตลอดทางที่จะไป Tiger leaping คือแบบว่า breath taking ค่ะ แบบต้องนั่งมองนอกหน้าต่างไปเรื่อยๆ ไม่กล้าจะหลับเลย เวลาก็ผ่านไปเร็วแป๊บเดียวถึงละ
ลุงคนขับพาเราไปตรงจุดที่ให้เดินใต้ลงไปด้านล่างเองก่อน ขอย้ำร่างกายและจิตใจไม่พร้อมอย่าเดินลงไปค่ะ วิวสวยจริง แต่ตอนขึ้นมาคือตายสถานเดียว และเวลามีแค่สองชั่วโมงเอง ค่าผ่านทางจ่ายให้คนท้องถิ่นคนละ 15 หยวน พวกเราก็อยากรู้ก็ลงไปค่ะยอมจ่าย ไปได้เกินครึ่งทางนิดเดียวคือไม่ไหวแล้ว กลับขึ้นมาคือแทบตาย หลังจากนั้นก็บอกลุงให้พาไปตรงที่เป็นจุดที่คนไปถ่ายรูปกัน สวยงามสุดๆ ประทับใจที่สุดคือตอนนั่งบนรถ เพราะเราอยู่ระหว่างช่องหุบเขา ดีจริงๆ ประทับใจสุดๆ
นั่งรถต่อสองชั่วโมงนิดๆ ก็เข้าสู่ลี่เจียง ลืมบอกอีกเช่นกันวิวสองของทางก่อนจะถึงลี่เจียงก็สวยไม่แพ้กันเลย อย่าหลับนะคะเดี๋ยวจะพลาดเพราะรูปมันสวยไม่เท่าของจริงเลยจริงๆ
พวกเราแอบช็อกกับลี่เจียงเบาๆ เพราะความห่างแค่สี่ชั่วโมงจากแชงกรีล่ามาที่นี่ไม่ได้ไกลกันแต่รูปแบบเมืองและผู้คนต่างกันลิบลับแบบไม่น่าเชื่อ ลี่เจียงเจริญมาก ผู้คนดูมีความทันสมัย เมืองมีความเป็นระเบียบ ทุกอย่างใหม่และดูดี คือทำให้พวกเราต้องเปลี่ยนความคิดกับประเทศจีนไปเลย
ที่พักเราถูกมากเป็นฮอสเทลแต่ยู่บนเขาแอบเดินเหนื่อย แต่ลงมาก็เจอ old town เลย แนะนำให้หาที่พักบนถนน North gate ค่ะ ใกล้ทุกอย่าง เดินได้จะไปขึ้นรถไปภูเขามังกรหยกก็ไม่ไกลเดินไปได้ เย็นนั้นเราลองไปเดินใน old town เพื่อจะหาตั๋วไปภูเขามังกรหยกแต่หลงค่ะ คือ old town ที่นี่ใหญ่มากกกกกก แบบเดินได้สองสามคืนเลย เป็นเหมือนศูนย์กลางของที่นี่เลย เนื่องจากเวลามีน้อย เราตัดสินใจที่จะไปแค่ภูเขามังกรหยกและสระมรกต ที่อยู่ในส่วนของภูเขามังกรหยก ค่าใช้จ่าย 200 และ 130 หยวน เราตัดการดูโชว์ Impression of lijiang ออก เพราะแพงและอาจจะไม่อินเท่าไหร่ถึงแม้จะมีภาษาอังกฤษ
จากโรงแรมเดินไปตรงที่เรียกว่า "เหมาเจ๋อตุง" ทุกคนรู้จักค่ะ ฝั่งตรงข้ามจะมีรถแวนจอดรอมีป้ายเลข 7 ถ้าไปกันหลายคนแบบพวกเรา จ่ายคนละ 20 หยวน รถก็ออกเลย ระหว่างทางมีให้ซื้อตั๋วเคเบิ้ลคาร์ค่ะ และไปซื้อตั๋วเข้า คนละ 130 ข้างหน้า เอาพาสปอร์ต** ไปด้วยนะ
แอบเสียดายเบาๆ ขึ้นมาข้างบนได้แล้วแตอากาศไม่หนาวเลย พกเสื้อผ้ากันมาจัดเต็มมากๆ เตรียมตัวกันมาอย่างดี มาถึงร้อนและหิมะตกทับทางเลยเดินขึ้นไปอีกไม่ได้ เศร้างิ TvT แต่ก็คุ้มแหละเพราะวิวรอบๆ เราคือไม่ได้หาดูกันได้ง่ายๆ เลย บวกกับการได้มีประสบการณ์กับทัวร์จีนนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เช่นกัน ฮาๆ
ลงมาตรงที่เข้าแถวขึ้นเคเบิ้ลก็ไปรอรถเพื่อไป blue moon valley (สระมรกต ชื่อแอบเหมือนหุบเขาที่แชง) ไปถึงกรี๊ดค่ะ คือสวยมาก วิวดี บรรยากาศดี มากๆ เค้ามีให้จ่ายค่าโค้ชเพิ่ม แก๊งเรามีรึจะจ่าย งกขนาดนี้ เดินค่ะเดิน เราเดินตรงถนนแป๊บนึงมองไปทางขวามือจะมีทางเล็กๆ เหมือนมีคนเดินและทำทางให้เดินไว้ เดินเข้าไปเลยต่ะ จะได้อารมณ์เดินป่าเล่นอีก เก๋ไปอีก เดินๆ เลาะไปก็เจอทางลงที่มีบันไดลง แนะนำให้ถ่ายรูปสระจากด้านบนก่อนเพราะมันจะสวยมากแบบในรูปค่ะ
อะไรจะขนาดนั่นพ่อคุ๊นนน ด้านหน้าเป็นสระสีเขียวมรกตด้านหลังเป็นภูเขาหิมะมังกรหยก เก็บไว้ดีๆ เลยค่ะ หาซื้อไม่ได้จริงๆ คุ้มค่าที่มา เสร็จเรียกรถเบอร์ 7 กลับ ไม่ต้องลงไปข้างล่างต่อรองกันนางเรียก 120 หยวน ก็ไม่แพงเลยตัดสินใจเหมารถกลับ สองข้างทางก็สวยมโหฬารเหมือนเดิม
เข้าเมืองก็ค่ำพอดี เข้าไปเดิน old town ต่อ ที่นี่มีทุกสิ่งจริงๆ ร้านอาหาร ร้านขายของต่างๆ ร้านเสื้อผ้า ผับ บาร์ ร้านเหล้าเพียบ แถมเมืองสวยอีกบ้านแต่ละหลังจะเป็นสไตน์จีนโบราณแต่จะตกแต่งแบบโมเดิร์นแล้ว ใครชอบอะไรแบบนี้น่าจะประทับใจไม่น้อย เราก็เดินกินวนไปค่ะ ของแปลกๆ ก็ขอชิมไปค่ะ ของไม่แพงอย่างที่คิดด้วย
แชงกรีล่า ลี่เจียง ต้าลี่ ดินแดนสวรรค์บนดินที่ไปถึงได้ด้วยราคาไม่แพง
ถึงที่หมายแอร์น่ารักมาก แนะนำวิธีการเที่ยวให้นิดหน่อย เช่นการนั่งแท็กซี่ ที่นี่รถแท็กซี่นั่งได้ไม่เกินสามคนกระเป๋าไม่เกินคนละใบถ้ากระเป๋าเพิ่มชาร์จเงิน พี่แอร์เลยบอกว่าให้นั่งรถแท็กซี่พี่ไป ให้เหมา เราเลยเรียกจากสนามบินไปยังท่ารถ kunming west bust station ในราคา 200 หยวน ตกคนละ 40 หยวนเพราะมาห้าคน แต่อีกวิธีที่เจอคือออกประตู 3 หรือ 4 มีรถบัสคนละ 25 หยวน แต่ไม่แน่ใจว่าสายไหนเลยไม่อยากเสี่ยงเหมารถเลยดีกว่า
**สิ่งที่ห้ามลืมสำหรับคนที่ไม่สามารถพูดภาษาจีนได้เลยอย่างพวกเรา apps แปลภาษาค่ะ คล้ายๆ วุ้นแปลภาษาของโดเรม่อนเลยค่ะ มีประโชน์มากถึงมากที่สุด app ทุกอย่างในโลกโหลดไปเลย เผื่อๆ ไป waygo และ itranslate คือ app แนะนำ**
ถึงสถานีรถก็จองตั๋วรอบ 1 ทุ่ม และก็ออกไปร่อนๆ กันพอเป็นพิธี แต่บอกตรงๆ เฉยๆ กับคุนหมค่ะ แต่การตามหาซิมมือถือนี่คือยากมากๆ ไม่ได้ดูจากสนามบินมา ลำบากเสียเวลาเพราะระบบ prepaid ของที่นี่ยังไม่ดี เสียใจที่ไม่ได้ตัดสินใจซื้อซิม 2 fly มา เพราะมีเพื่อนคนนึงซื้อมาใช้และใช้งานได้ด้วยโดยไม่ต้องใช้ app ไรเลย อ่อ อย่าลืมโหลด app VPN ด้วยนะคะเพราะจีนบล็อกเยอะมาก ของเราเล่นไรไม่ได้เลยแม้จะมี app ก็ตาม แง้ๆ
มีแวะจอดที่แรกร้านดีงามค่ะ แต่พอตีหนึ่งอยู่ดีๆ รถก็จอดดื้อๆ เลยค่ะ และมีห้องน้ำแบบหาคำบรรยายไม่ได้ข้างทางให้เราเข้า (ต้องทำใจจริงๆ ค่ะเรื่องห้องน้ำประเทศนี้) ร้องไห้อีกแล้วววว #/$=%÷^%@&&#€ เค้าจะจอดนอนประมาณสองชั่วโมงครึ่งและออกรถอีกครั้ง แนะนำพอหกโมงครึ่งให้ตื่นเพราะวิวข้างทางจะทำให้ให้หัวใจเต้นแรงขึ้นค่ะ
ถึงท่ารถเรียกคนขับรถข้างหน้าได้เลยเราเรียกไปโรงแรมเราที่อยู่ใน old town แค่ 20 หยวน ถ้าแพงกว่านี้เรียกคันอื่นเลย
โรงแรมจองจาก booking.com ชื่อโรงแรม เลี้ยวขวาเดินไปหน่อยก็เป็นร้านเต็มไปหมด เลี้ยวออกซ้ายเดินสุดปากซอยเลี้ยวซ้ายอีกทีมีร้านทัวร์ แนะนำให้ใช้บริการเค้าค่ะราคาดีและคุยกับเราด้วย app รู้เรื่อง
ส่วนร้านอาหารก็อร่อยมากๆ คือเลยร้านทัวร์ไปประมาณ 20 เมตร ร้านที่สอง คือเราไปกินกันสามมื้อเลย อร่อยและบริการดี
ถึงโรงแรมก็เก็บกระเป๋าเตรียมตัว โรงแรมหาคนขับรถให้และก็ค่าขึ้นเคเบิ้ลคาร์ที่ blue moon valley หรือหุบเขาพระจันทร์สีน้ำเงิน 220 หยวน (ออกเสียงคว่าน) ค่าเข้าวัดโปตาลาน้อยอีก 110 หยวน ค่าคนขับรถ 60 หยวน คือเจอวันแรกก็แอบงิดเพราะแพง แต่เอาวะและกับสิ่งที่จะได้รับคุ้มเกินคุ้ม
สวยงามมากๆ ชอบบรรยากาศเมืองของแชงกรีล่าสุดๆๆๆ สวย เรียบง่าย มีพลัง กลับจากสองที่ก็มาเดินเล่นใน old town แถวๆ นั้นก็จะมีอีกวัดที่เข้าฟรีและควรแวะอย่างมาก
blue moon valley หรือหุบเขาพระจันทร์สีน้ำเงิน
วัดโปตาลาน้อย พูดว่า "โปตาลา" คนที่นี่เค้าก็เข้าใจนะคะ
วันที่สองเราติดต่อรถที่บริษัททัวร์ที่แนะยำไปตอนแรกเพื่อนจะไป tiger leaping George เพราะมันเป็นครึ่งทางของการไปเมืองลี่เจียง แต่ยังถือว่าเป็นส่วนของแชงกรีล่าอยู่ 5 คนเค้าคิด 700 หยวนรวมรถและคนขับไปส่งถึงโรงแรมในลี่เจียง ค่าเข้าคนละ 60 หยวนตะหาก (รถทัวร์อาจจะถูกกว่านิดหน่อยแต่อันนี้สะดวกค่ะเหมาไปเลยมีคนพาเที่ยว)
ออกจากตัวเมืองแชงรู้สึกหัวใจสลายเบาๆ มันดีงามจริงๆ ชอบมาก และความสวยไม่หใดแค่นั้นตลอดทางที่จะไป Tiger leaping คือแบบว่า breath taking ค่ะ แบบต้องนั่งมองนอกหน้าต่างไปเรื่อยๆ ไม่กล้าจะหลับเลย เวลาก็ผ่านไปเร็วแป๊บเดียวถึงละ
ลุงคนขับพาเราไปตรงจุดที่ให้เดินใต้ลงไปด้านล่างเองก่อน ขอย้ำร่างกายและจิตใจไม่พร้อมอย่าเดินลงไปค่ะ วิวสวยจริง แต่ตอนขึ้นมาคือตายสถานเดียว และเวลามีแค่สองชั่วโมงเอง ค่าผ่านทางจ่ายให้คนท้องถิ่นคนละ 15 หยวน พวกเราก็อยากรู้ก็ลงไปค่ะยอมจ่าย ไปได้เกินครึ่งทางนิดเดียวคือไม่ไหวแล้ว กลับขึ้นมาคือแทบตาย หลังจากนั้นก็บอกลุงให้พาไปตรงที่เป็นจุดที่คนไปถ่ายรูปกัน สวยงามสุดๆ ประทับใจที่สุดคือตอนนั่งบนรถ เพราะเราอยู่ระหว่างช่องหุบเขา ดีจริงๆ ประทับใจสุดๆ
นั่งรถต่อสองชั่วโมงนิดๆ ก็เข้าสู่ลี่เจียง ลืมบอกอีกเช่นกันวิวสองของทางก่อนจะถึงลี่เจียงก็สวยไม่แพ้กันเลย อย่าหลับนะคะเดี๋ยวจะพลาดเพราะรูปมันสวยไม่เท่าของจริงเลยจริงๆ
พวกเราแอบช็อกกับลี่เจียงเบาๆ เพราะความห่างแค่สี่ชั่วโมงจากแชงกรีล่ามาที่นี่ไม่ได้ไกลกันแต่รูปแบบเมืองและผู้คนต่างกันลิบลับแบบไม่น่าเชื่อ ลี่เจียงเจริญมาก ผู้คนดูมีความทันสมัย เมืองมีความเป็นระเบียบ ทุกอย่างใหม่และดูดี คือทำให้พวกเราต้องเปลี่ยนความคิดกับประเทศจีนไปเลย
ที่พักเราถูกมากเป็นฮอสเทลแต่ยู่บนเขาแอบเดินเหนื่อย แต่ลงมาก็เจอ old town เลย แนะนำให้หาที่พักบนถนน North gate ค่ะ ใกล้ทุกอย่าง เดินได้จะไปขึ้นรถไปภูเขามังกรหยกก็ไม่ไกลเดินไปได้ เย็นนั้นเราลองไปเดินใน old town เพื่อจะหาตั๋วไปภูเขามังกรหยกแต่หลงค่ะ คือ old town ที่นี่ใหญ่มากกกกกก แบบเดินได้สองสามคืนเลย เป็นเหมือนศูนย์กลางของที่นี่เลย เนื่องจากเวลามีน้อย เราตัดสินใจที่จะไปแค่ภูเขามังกรหยกและสระมรกต ที่อยู่ในส่วนของภูเขามังกรหยก ค่าใช้จ่าย 200 และ 130 หยวน เราตัดการดูโชว์ Impression of lijiang ออก เพราะแพงและอาจจะไม่อินเท่าไหร่ถึงแม้จะมีภาษาอังกฤษ
จากโรงแรมเดินไปตรงที่เรียกว่า "เหมาเจ๋อตุง" ทุกคนรู้จักค่ะ ฝั่งตรงข้ามจะมีรถแวนจอดรอมีป้ายเลข 7 ถ้าไปกันหลายคนแบบพวกเรา จ่ายคนละ 20 หยวน รถก็ออกเลย ระหว่างทางมีให้ซื้อตั๋วเคเบิ้ลคาร์ค่ะ และไปซื้อตั๋วเข้า คนละ 130 ข้างหน้า เอาพาสปอร์ต** ไปด้วยนะ
แอบเสียดายเบาๆ ขึ้นมาข้างบนได้แล้วแตอากาศไม่หนาวเลย พกเสื้อผ้ากันมาจัดเต็มมากๆ เตรียมตัวกันมาอย่างดี มาถึงร้อนและหิมะตกทับทางเลยเดินขึ้นไปอีกไม่ได้ เศร้างิ TvT แต่ก็คุ้มแหละเพราะวิวรอบๆ เราคือไม่ได้หาดูกันได้ง่ายๆ เลย บวกกับการได้มีประสบการณ์กับทัวร์จีนนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เช่นกัน ฮาๆ
ลงมาตรงที่เข้าแถวขึ้นเคเบิ้ลก็ไปรอรถเพื่อไป blue moon valley (สระมรกต ชื่อแอบเหมือนหุบเขาที่แชง) ไปถึงกรี๊ดค่ะ คือสวยมาก วิวดี บรรยากาศดี มากๆ เค้ามีให้จ่ายค่าโค้ชเพิ่ม แก๊งเรามีรึจะจ่าย งกขนาดนี้ เดินค่ะเดิน เราเดินตรงถนนแป๊บนึงมองไปทางขวามือจะมีทางเล็กๆ เหมือนมีคนเดินและทำทางให้เดินไว้ เดินเข้าไปเลยต่ะ จะได้อารมณ์เดินป่าเล่นอีก เก๋ไปอีก เดินๆ เลาะไปก็เจอทางลงที่มีบันไดลง แนะนำให้ถ่ายรูปสระจากด้านบนก่อนเพราะมันจะสวยมากแบบในรูปค่ะ
อะไรจะขนาดนั่นพ่อคุ๊นนน ด้านหน้าเป็นสระสีเขียวมรกตด้านหลังเป็นภูเขาหิมะมังกรหยก เก็บไว้ดีๆ เลยค่ะ หาซื้อไม่ได้จริงๆ คุ้มค่าที่มา เสร็จเรียกรถเบอร์ 7 กลับ ไม่ต้องลงไปข้างล่างต่อรองกันนางเรียก 120 หยวน ก็ไม่แพงเลยตัดสินใจเหมารถกลับ สองข้างทางก็สวยมโหฬารเหมือนเดิม
เข้าเมืองก็ค่ำพอดี เข้าไปเดิน old town ต่อ ที่นี่มีทุกสิ่งจริงๆ ร้านอาหาร ร้านขายของต่างๆ ร้านเสื้อผ้า ผับ บาร์ ร้านเหล้าเพียบ แถมเมืองสวยอีกบ้านแต่ละหลังจะเป็นสไตน์จีนโบราณแต่จะตกแต่งแบบโมเดิร์นแล้ว ใครชอบอะไรแบบนี้น่าจะประทับใจไม่น้อย เราก็เดินกินวนไปค่ะ ของแปลกๆ ก็ขอชิมไปค่ะ ของไม่แพงอย่างที่คิดด้วย